รีวิว ผู้หญิงคนเดียวเที่ยวไต้หวัน 2024 - ปีนเขา Bitoujiao & จิ่วเฟิ่น

สวัสดีค่าทู๊กกกคน ฮาโหล ต้าเจียห่าว ^^
สำหรับกระทู้นี้เราจะมารีวิวการไปเที่ยวไต้หวันคนเดียวนะคะ 
เราคือเจ้าของเดียวกับรีวิวนี้ ฮอกไกโด...นั้นโก้จริงๆ 2023 >> https://ppantip.com/topic/41891004

ทริปนี้บินเดี่ยวเที่ยวไต้หวัน 7วัน 6 คืนค่ะ 
เราเคยไปไต้หวันแล้ว ครั้งที่1 ตอนปี 2015 สมัยนั้นต้องขอวีซ่าเข้าไต้หวันอยู่เลย
รอบนั้นอยู่ในไต้หวันแค่ 3 วันค่ะ แค่ในไทเป ไม่มีเวลาออกนอกเมืองเลย
ปี 2024 นี้เลยจัดหนักจัดเต็ม ฮ่าๆ

กระทู้นี้จะมาแบ่งปันประสบการณ์การไปเที่ยว Bitoujiao กับจิ่วเฟิ่น 
เที่ยวสองที่ในหนึ่งวัน 
เราเป็นสายธรรมชาติ แอดเวนเจอร์ค่ะ เห็นรูปเขา ปี่โถวเจี่ยว (Bitoujiao)
สวยมากกกก อยากไปเดิน แถมไม่ไกลจากจิ่วเฟิ่น (หมู่บ้านโบราณบนภูเขา ทางตอนเหนือของไทเป)
ก็เลยจัดเป็นวันเดย์ทริปซะเลย 
แล้วก็ไม่ค่อยมีคนไทยไป เผื่อมีใครสนใจ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ 


การเดินทางในทริปนี้ จะเป็นแบบฉบับของเรานะคะ 
เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางแแบบใหม่ แบบสับ (สับสนค่ะ ฮ่าๆๆ)
 
พร้อมแย้ว ไปกันเลยค่า..
เช้าวันที่ 4 ของการเดินทางค่ะ วันนี้วันจันทร์ก็หวังว่าคนจะไม่เยอะ เราไม่ชอบคนเยอะ มันวุ่นวายค่ะ 
เดินออกจากโฮสเทล ไปที่ MRT Ximen Exit 2 เพื่อที่จะไปขึ้นรถบัส ไปสถานีรถไฟ Ruifang 
จากสถานีรถไฟ ต้องต่อรถบัสไปอีกค่ะ 

เราพักที่ Taipei Main นะคะ หลังคาที่เห็นคือตัวสถานี Taipei Main ค่ะ
อากาศดีค่ะ 17 องศา ชิคๆคูลๆค่ะ 

นั่งมาลง สถานี Ximen แค่สถานีเดียว เดินโผล่ออกมา exit 2 
ยังไม่เจอป้ายรถเมล์ 965 นะคะ ถามคนไต้หวันที่รอรถเมล์แถวนั้น 
เค้าบอกว่า ต้องข้ามถนนไปอีก 1 ไฟแดง ป้ายรถเมล์จะอยู่ซ้ายมือ แบบนี้ค่ะ

รอรถ 965 ที่ป้ายนี้ค่ะ มีจอบอกว่าอีกกี่นาทีรถจะมา 
ระหว่างรอเราก็กินซาลาเปารอค่ะ ซื้อมาจาก MRT Taipei Main
พอรถใกล้จะมา เราเห็นคนไปยืนต่อแถวค่ะ 
เราก็เลยไปต่อมั่ง 

พอรถมาจอด คนขับบอกว่านั่งได้อีกแค่ 8 คน
1..2...3..4...5...6..7....8 เฮ้ย!!! 
เดชะบุญค่ะ คุณผู้ชม  เราคนที่ 8 พอดี ฮ่า  ก็เลยได้ขึ้นรอบนี้ ^^

ตอนขึ้นก็เอา easy card แตะบัตรขึ้น แล้วก็เลือกที่นั่งได้เลยค่ะ ตามใจชอบ 
ค่ารถไปสถานีรถไฟ Ruifang ประมาณ 75 NT ถ้าจำไม่ผิดนะคะ 

(อ้อ เราไม่ได้ Lucky draw 5000 NT นะคะ ..แง T^T)

นั่งออกมาเรื่อยจะเจอวิวประมาณนี้ ใครได้นั่งฝั่งขวา ก็จะได้เห็นวิวตึกไทเป 101 ด้วยค่ะ

นั่งมาประมาณ 45 นาที มาถึงป้ายสถานีรถไฟ Ruifang 
แต่!! สถานีรถไฟอยู่ไหนก่อน ฮ่าๆๆๆ แถมป้ายรถบัสที่เราลง ก็ไม่มีบัส เบอร์ 856 ผ่านด้วยค่ะ
จะไป Bitoujiao ต้องนั่ง 856 ไปค่ะ แต่หาป้ายรถบัสไม่เจอ 
เห็นสาวหมวยๆ แถวนั้นก็เลยถามเค้าว่า
หนี่ชื่อเปิ่นตี้เหรินมา?  (คุณเป็นคนท้องถิ่นมั้ยคะ?)
ปู๋ชื่อ  (บ่แม่นจ้า) 

ผ่าง!!! เค้าเป็นคนสิงคโปร์ค่ะ มาเที่ยวเหมือนกัน เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่า
จากนั้นเราเลยลองถามคนแถวๆนั้นดู 
เห็นน้องผญ ใส่หมวกกันน็อค ยืนซื้อซาลาเปาอยู่ น่าจะเป็นคนที่นี่ชัวร์ๆ
เลยถาม น้องบอกว่าลองเดินไปที่สถานีรถไฟดู มันมีป้ายรถเมล์อยู่ 
แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีรถ 856 มั้ย

ตอนนี้เราก็เลยเดินย้อนกลับไปจากจุดที่ลงรถค่ะ 
จุดที่ลงยังไม่ใช่สถานีรถไฟค่ะ ต้องเดินย้อนกลับไปอีก 
เดิน 3 นาที 
 
บอกแล้วว่าเป็นการเดินทางแบบใหม่ แบบสับ (สับสน ฮ่าๆ)
เจอสถานีรถไฟ Ruifang แล้วค่ะ 
ใครไม่นั่งบัสมาแบบเรา ก็สามารถนั่งรถไฟมาลงที่นี่ได้เหมือนกัน
 
จากนั้นก็เดินไปข้างในค่ะ
เจอเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วรถไฟ ก็เลยถามเข้าว่าจะไป Bitoujiao แต่หาป้ายรถบัสไม่เจอ
เค้าบอกว่า ลองไปถามเจ้าหน้าที่ใน Visitor center ดู เค้าน่าจะให้ข้อมูลได้

เราก็เพิ่งเห็นว่ามี Visitor center ข้างในตัวสถานีด้วย
จากนั้นเราก็เดินมาถามเจ้าหน้าที่ 
บอกว่าจะไป Bitoujiao ตอนนี้เวลา 10:40
รถ 856 รอบถัดไปคือ 12:00 โหหหหห นานมากกก แล้ววันนี้จะถึงกี่โมงก่อน ฮ่า

แต่มีอีกคันนึง คือ 866 มีอีกทีรอบ 11:35  เค้าก็แนะนำให้เรานั่งอันนี้
แล้วก็บอกให้เราถ่ายรูปตารางรถไว้ แล้วก็อธิบายว่ามันมีรอบไหน วันไหนไม่มีรอบไหน
ตอนนี้เราเริ่มสับแล้วค่ะ.... สับสน ฮ่าๆๆ
เพราะเจ้าหน้าที่ แร็บจีนใส่เรา และเราก็อ่านจีนตัวเต็ม ไม่ออก ฮ่าๆๆ  

(ใครอ่านจีนตัวเต็มได้ แนะนำแปลให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้หน่อยนะคะ *ขอบคุณค่ะ*  ^__^ )

หลังจากยืนงงอยู่ ทันใดนั้นก็มีคนมาถามทางกับเจ้าหน้าที่
คนนี้เป็นคนไต้หวันค่ะ เค้าก็จะไป ปี่โถวเจี่ยวเหมือนกัน 
สวรรค์มาโปรดแล้วค่ะ 
เดชะบุญ ส่งคนที่จะไปปี่โถวมาให้เรา ฮี่ๆๆ 

ก็เลยบอกคุณน้าคนไต้หวันที่เป็นเจ้าหน้าที่ว่า 
"พอดีเลย งั้นหนูไปกะคนนี้ค่ะ ฮ่าๆๆ"

คุณน้าเจ้าหน้าที่บอกนักท่องเที่ยวคนไต้หวันว่า
งั้นฝากเขาด้วยนะ คนนี้เป็น ไว่กั๋วเหริน (คนต่างชาติ) 

อีกตั้งครึ่งชั่วโมง กว่ารถจะมา 
ก็เลยไปนั่งเล่นหน้าสถานีรถไฟค่ะ ระหว่างนั้น
คนไต้หวันคนนี้เค้าก็บอกเราว่า เขาจะไปเดินเล่นรอบๆนี้ 
ส่วนเราก็ไปหาซื้อเสบียง ที่ Family mart ข้างๆสถานีค่ะ 

พอเดินกลับมาเห็นเขาเดินถือแก้วชาไข่มุก วนไปวนมาอยู่ในสถานี 
พอเดินออกมา เค้ามาเจอเรากลับมานั่งที่ม้านั่ง หน้าสถานี 
เค้าก็เอาชานมให้เราค่ะ 

"ดีใจยิ่งแล้ว...แขกแก้วมาเยือน"
Welcome drink จากคนไต้หวันค่า คุณผู้โช้มมม แก้วใหญ่ด้วยนะคะ
โอ้วววว เซี่ยเซี่ยหนี่ ^^ คนไต้หวันน่ารัก เฟรนด์ลี่มว้ากกก



ประมาณ 11:30 ก็มารอรถที่ป้ายรถเมล์ค่ะ 
รถ 866 ที่จะไปปี๋โถวเจี่ยว อยู่หน้าสถานีรถไฟ Ruifang เลยค่ะ
ก่อนขึ้น ลุงคนขับก็จะถามว่าไปไหน เพื่อเมคชัวร์ 
เรามั่นใจ ไม่กลัวค่ะ เพราะเรามีไกด์ ฮ่าๆ 

ถามเค้าว่าชื่ออะไร เค้าพูดชื่อจีนมา เราจำไม่ได้ 
เลยถามว่ามีชื่อภาษาอังกฤษมั้ย
เค้าบอกว่าชื่อ โซอี้ค่ะ ^^

รถ866 เล็กค่ะ มินิแวน จากนั้นก็ไปโลด Let's go ค่า
แตะบัตร easy card ขึ้นรถเหมือนเดิมค่ะ

นั่งมาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงทางขึ้น Trail Bitoujiao ค่ะ
ระหว่างทางก็คุยกัน 
เราถามว่าเคยมีนักท่องเที่ยว มาถามทางมั้ย? ขอความช่วยเหลือมั้ย?
เค้าบอกว่ามีบ้าง เป็นคนญี่ปุ่นกับฝรั่ง 
แล้วก็บอกว่าเราเป็นคนไทยคนแรก ฮ่าๆๆ
แล้วก็บอกว่า เธอเก่งจังมาเที่ยวคนเดียว ฮ่าๆ

ลงรถมาแล้ว เอาล่ะค่ะ เริ่มเลอ!!  สตาร์ทตอน 12:05 นะคะ ไปค่ะคุณผู้โช้มมมม


เดินขึ้นมานิดนึง ก็จะเจออุโมงค็ในตำนานค่ะ 
คิดว่าทุกคนที่เดินผ่านต้องถ่ายรูปอุโมงค์นี้ 


แล้วก็เดินขึ้นมาตามทางเรื่อยๆค่ะ 
ช่วงนี้หน้าหนาว และวันนี้ไม่มีแดด อากาศดีมากค่า 
ตรงนี้ลมแรง ใครผมยาว อย่าลืมยางมัดผม 
ของเรามีหมวกไหมพรมค่ะ ไว้ใส่กันลมกันหนาวชิคๆ ฮี่ๆ

เดินขึ้นมาเรื่อยๆจะเจอโรงเรียนค่ะ 
โรงเรียนวิวดีมาก ข้างหน้าเป็นภูเขา
ข้างหลังเป็นทะเล

เดินไปตามทางเลยค่ะ วันนี้วันจันทร์คนน้อย 
เมื่อกี๊เดินสวนกับกลุ่มคุณลุงคุณป้าไต้หวัน มากัน 4-5 คน

โซอี้ก็แนะนำว่า เราคือ ไท่กั๋วเหริน ฮ่าๆๆ (คนไทย 1เดียว บนเขาปี่โถวนี้ ฮ่า)
ทางเดินทำมาดีมาก เดินง่าย สบายๆค่ะ 


แล้วก็มาถึงจุดชมวิว จุดแรก จะเป็นศาลาเล็กๆค่ะ  มองไปเป็นวิวทะเล แล้วก็ข้างล่างมีคนมาตกปลาด้วยค่ะ

เดินไปกันต่อค่ะ  ข้างหน้าซ้ายมือเป็นห้องน้ำค่ะ 
สามารถแวะทำธุระ ล้างมือก่อนได้ 
โซอี้ ก็ไม่เคยมาเหมือนกันค่ะ  เค้ามาครั้งแรกเหมือนกัน 


ทางขึ้นเขาของจริงมาแล้วค่ะ
โอเค เริ่มเลอ! 


ทางเริ่มชันแล้วค่า คุณผู้โช้มมมม

เดินขึ้นมาเรื่อยๆ แอบหอบเล็กน้อย เพราะทางชันค่ะ 
แต่วิวสวยเรื่อยๆตามลำดับ 
แล้วก็มาเจอวิวนี้ 
ข้างล่างเป็นคาเฟ่นะคะ  แต่ทางลงชันมากกกก ไม่อยากคิดสภาพตอนเดินขึ้น ฮ่าาา
แล้วก็อีกอย่างเพิ่งกินชานมไข่มุกมาค่ะ 
เราสองคนก็เลยไม่ได้เดินลงไป 

วิวสวยงามตามท้องเรื่องค่า 

เดินต่อไปอีกนิด ก็จะเป็นศาลาพักชมวิวค่ะ 


เดินตามทางไปเลยค่ะ 
โซอี้บอกว่า ที่นี่เค้าเรียกอีกชื่อนึงว่า กำแพงเมืองจีน มินิ 
เราก็ว่าใช่ เพราะคล้ายกับกำแพงเมืองจีน และวิวสวย เราก็เลยคิดว่า
ถ้ามาไต้หวันรอบนี้ ต้องมาที่นี่ให้ได้ มาไม่เป็นก็จะมาให้ได้  ฮ่าๆ

ไปค่ะ ยาวไป ยาวไป

วันนี้วันจันทร์ค่ะ คนมาเดินน้อยมาก
ที่เราเจอเป็นคนไต้หวันล้วนค่ะ 

มีเราหนึ่งเดียวที่เป็น ไท่กั๋วเหรินค่า ฮ่าา
และนี่คือ วิวในตำนาน จุดที่ทุกคนต้องถ่ายรูป ฮี่ๆ 
สถานที่จริงสวยมาก วิวดีมาก ลมดีมาก ฟินสุดค่า
และเราโชคดีมาก ไป 7 วัน ไม่เจอฝนเลยค่า ^^
 
แล้วก็เดินไปถึงจุดชมวิว จุดสุดท้าย 
จากตรงนี้คือเป็นบันไดเดินลงแล้วค่ะ 

ไปนั่งพัก ชมวิวอยู่พักใหญ่ๆ 
ตอนแรกนึกว่าจะต้องเดินนานกว่านี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินเสร็จแล้วค่ะ 
ใครไม่ชอบเดินป่า ปีนเขาหรือเหนื่อยง่าย ก็สามารถมาได้นะคะ 
ทางเดินไม่โหด ไม่เหนื่อยขนาดนั้นค่ะ เดินชิวๆ ออกกำลัง พอเห็นวิวก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ ^^

*รูปถ่ายมาเยอะมากค่ะ  ลงไม่หมด กลัวกระทู้จะยาวเกิน แฮ่

นั่งดูวิวจนฉ่ำแล้ว เราจะไปจิ่วเฟิ่นต่อ 
แต่โซอี้เคยไปแล้ว ก็เลยจะนั่งรถไฟกลับบ้านเลย 
เค้าก็เลยจะไปส่งเราขึ้นรถไปจิ่วเฟิ่นค่ะ

คนไต้หวัน น่ารักมากกกก กลัวเราหลง ฮ่าาา
ก็เลยพากันเดินลงค่ะ บันไดทางลงก็ติดกับศาลานี้เลยค่ะ

ขาลงเร็วมากค่ะ
เดินต่อเนื่อง 10 นาทีก็มาถึงบ้านคนข้างล่างแล้ว 

เดินออกมาก็จะเป็น หมู่บ้านแบบนี้ค่า ลงมาถึงตรงนี้ประมาณ 13:50 ค่ะ 
มีห้องน้ำด้วยนะคะ 
แล้วก็หน้าบ้านของคนที่นี่ บางบ้านเค้าก็ขายอาหารกับน้ำดื่ม เล็กๆน้อยๆค่ะ
ส่วนเราก็จะไปกินข้าวที่จิ่วเฟิ่นค่ะ

แวะเข้าห้องน้ำ เดินตามทางมาเรื่อยๆมาถึงถนนใหญ่ที่เดิมกับที่ลงรถ
ก็ยืนรถรถเมล์ค่ะ
ตรงป้ายรถเมล์มีคุณลุงคุณป้าคนไต้หวัน จะไปจิ่วเฟิ่นเหมือนกัน 
โซอี้เลยฝากเราให้ไปกับคุณลุงคุณป้าค่ะ 

เดี๋ยวอ่านต่อคอมเม้นท์ถัดไปนะคะ ข้อความเต็มค่า ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่