แบกต้นทุนไม่ไหว บริษัทรถเช่ายักษ์ใหญ่ Hertz ขายทิ้งรถ EV กลับไปใช้รถน้ำมัน

แบกต้นทุนไม่ไหว
บริษัทรถเช่ายักษ์ใหญ่ Hertz
ขายทิ้งรถ EV กลับไปใช้รถน้ำมัน
.
ดูเหมือนว่ารถยนต์ไฟฟ้ากับธุรกิจให้บริการเช่ารถ กำลังเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงว่าคุ้มค่าหรือไม่ถึงโมเดลธุรกิจรถให้เช่า ที่เป็นรถ EV เพราะแม้จะได้รถประหยัดพลังงาน แต่ยังไม่ประหยัดค่าซ่อมบำรุงและค่าใช้จ่ายอื่นๆ จนส่งผลให้บริษัทรถเช่ายักษ์ใหญ่ต้องพิจารณาสร้างสมดุลทางรายได้อีกครั้ง
.
บริษัทให้เช่ารถยนต์ Hertz Global Holdings บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดนที่มีการลงทุนไปหลายประเทศทั่วโลก แจ้งว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 20,000 คัน ออกจากสต๊อกยานพาหนะของตัวเองในสหรัฐ คิดเป็น 1 ใน 3 ของรถเช่าที่บริษัทมีให้บริการในสหรัฐ เนื่องจากต้องแบกค่าใช้จ่ายสูงของรถ EV จากค่าซ่อมบำรุงโดยเฉพาะจากอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน และจะนำรายได้จากการขายรถ EV กลับมาซื้อรถน้ำมันแทน
.
หลังจาก Hertz ออกมาประกาศแผนการขายออกรถ EV ส่งผลให้หุ้นร่วงทันที 4.3 % (วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา)
.
การตัดสินใจของ Hertz ทำให้มองว่ารถ EV คุ้มค่าในธุรกิจรถเช่าหรือไม่ และยังตอกย้ำให้เห็นว่าความต้องการใช้รถ EV ในสหรัฐอเมริกาลดลง
.
โดยบริษัทบอกว่า จะมอนิเตอร์ความต้องการ EV อย่างใกล้ชิดเพื่อตัดสินใจว่าบริษัทควรจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาหรือไม่ ประเด็นนี้ทำให้ประเมินกันว่าที่บริษัทเคยมีข้อตกลงจะซื้อรถ EV 175,000 คัน จาก General Motors และอีกหลายหมื่นคันจาก Polestar ก็อาจจะใช้เวลานานกว่านั้น
.
ก่อนนี้ Hertz ตั้งเป้าหมายว่ารถให้เช่าของบริษัทจะใช้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าให้ได้ 25 % ภายในสิ้นปี 2567
.
Morgan Stanley ระบุว่า ในขณะที่ผู้บริโภคกำลังเพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าและการประหยัดพลังงาน แต่ก็ยังมีต้นทุนซ่อนเร้นอื่นๆ สำหรับการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า
.
Cox Automotive ผู้นำในธุรกิจซื้อขายรถยนต์ในสหรัฐ ฯ ออกมาบอกว่าราคาขายต่อมือสองของรถ EV ในสหรัฐลดลงเกือบตลอดปีที่ผ่านมา เพราะตอนนี้ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ออกใหม่มีการปรับราคาลดลง ทั้งยังคาดการณ์ต่อว่า รถ EV มือสองจะมีราคาลดลงมากกว่าราคารถยนต์มือสองโดยรวมในปีนี้
.
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงข่าวสุสานรถ EV ในจีน ที่มีการรายงานภาพข่าวให้เห็นการจอดทิ้งรถ EV จำนวนมาก ซึ่งสาเหตุมาจากบริษัทรถเช่าในจีนล้มละลาย โดยก่อนหน้านี้บริษัทรถเช่าในจีนแห่กันซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในบริษัทเกินความจำเป็น จนช่วงที่มีโควิดทำให้การเดินทางหยุดชะงัก เพราะมีการล็อคดาวน์ สุดท้ายกระทบกับธุรกิจให้เช่ารถยนต์ ส่งผลให้บริษัทรถเช่าหลายแห่งในจีนประสบปัญหาทางธุรกิจและยื่นล้มละลาย ทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทเลยถูกนำมาจอดไว้เพื่อรอการพิจารณาคดีของศาล
.
ขณะที่พอพ้นจากโควิดรถยนต์ไฟฟ้าที่จอดทิ้งจนเป็นสุสานรถก็กลายเป็นรถตกรุ่นด้วย เพราะบริษัทรถเช่าก็ไปดำเนินการจัดซื้อรถ EV รุ่นใหม่แทนนั่นเอง
.
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครบอกได้ชัดว่าธุรกิจให้เช่ารถยนต์คุ้มแค่ไหนกับการใช้รถ EV มาให้บริการ เพราะสถานการณ์ในจีนก็คนละสาเหตุกับกรณีของบริษัท Hertz เรื่องนี้ต้องดูกันต่อไปว่าธุรกิจรถยนต์ให้เช่ากับรถ EV จะมีจุดคุ้มทุนกันอย่างไร
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่