9 สัญญาณเตือนว่าแฟนของคุณกำลังนอกใจ

หากคุณกำลังสงสัยว่าพฤติกรรมของแฟนหรือคู่รักเปลี่ยนไป แต่ยังไม่แน่ใจว่าเขากำลัง “นอกใจ” อยู่หรือเปล่า สามารถเช็กลิสต์วิธี จับผิด แฟนนอกใจ อย่าง มือ อาชีพได้ดังนี้

1. ไม่ค่อยกลับบ้านหรือไม่ค่อยมาเจอหน้า

สังเกตไหมว่าช่วงที่จีบกันใหม่ ๆ แฟนหรือคนรักมักจะมาหาคุณบ่อยมาก ต่อให้ไม่ว่างก็สามารถเจียดเวลามาหาได้เสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป “ความถี่” ดังกล่าวก็เริ่มห่างออกไปเรื่อย ๆ จากมาหาทุกวันก็กลายเป็นสัปดาห์ละครั้ง, เดือนละ 2-3 ครั้ง หรือมากสุดก็คือ 2-3 เดือนมาหาที แถมยังมีข้ออ้างทุกครั้งที่คุณถามว่าจะมาเจอกันเมื่อไหร่ ในบางครั้งแค่คำถามเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กลายเป็นชนวนที่ทำให้ทะเลาะกันแบบงง ๆ

2. มี “ข้ออ้าง” ทุกครั้ง ที่ขอให้ทำอะไรให้ หรือให้พาไปไหน

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณวานให้เขาทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ หรือให้พาไปไหนก็ตาม เขามักจะมีข้ออ้างตลอด ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ เช่น ติดงาน ติดประชุม มีนัดแล้ว และสารพัดข้ออ้างที่จะหยิบยกขึ้นมา หรือในบางครั้งอาจมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขา “ไม่เห็นความสำคัญ” ของคุณ และไม่ใส่ใจคุณเหมือนเดิม ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่าแฟนกำลังนอกใจ หรือมีใครอีกคนอยู่

3. ขัดขวางทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องในอนาคต

เมื่อคบกันไปนาน ๆ แน่นอนว่า “การแต่งงาน” คือจุดมุ่งหมายสำคัญ ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ให้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังรวมถึง “การมีลูก” หากคุณเอ่ยปากถามไถ่ในเรื่องดังกล่าวเพียงแค่นิดเดียว เขาก็จะบอกปัด ขัดขวาง เช่น ตอบไม่เต็มเสียง บอกว่ายังไม่พร้อม นานาจิตตัง ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การบอกว่าแฟนกำลังนอกใจได้อย่างเดียว แต่ยังหมายถึงว่าเขายังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคุณ และไม่ได้มองเห็นคุณในอนาคตของเขาแม้แต่นิดเดียว

4. ไม่กล้าสบตาเวลาพูดคุยกัน

หากคุณค่อนข้างมั่นใจว่าแฟนนอกใจ และต้องการหยั่งเชิงด้วยจิตวิทยา แฟนนอกใจ เช่น การถามออกไปตรง ๆ หรือการทำเป็นตำหนิถึงการกระทำที่ไม่ดีของคนอื่นที่สมมติขึ้นมา แล้วเขาเกิดไม่กล้าสบตาหรือไม่กล้าแม้แต่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แสดงความเขากำลังโกหกหรือมีเรื่องที่ปิดบังคุณอยู่แน่นอน

5. แอบตอบแชตในขณะที่เราเผลอ

ช่วงแรก ๆ ที่คบกันเขามักจะจับมือคุณมากกว่าจับมือถือใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าหากวันเวลาผ่านไปเขาเลือกที่จะจับมือถือมากกว่า ไม่ว่าจะตอบแชต หรือขอตัวออกไปรับสายแล้วอ้างว่า “สายสำคัญ” อยู่บ่อย ๆ หรือแม้กระทั่งเล่นโทรศัพท์ดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่ยอมหลับยอมนอน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปกับหน้าจอเล็ก ๆ การกระทำแบบนี้ชัดเจนมาก ๆ เลยว่าแฟนของคุณ “กำลังมีคนอื่น”

6. ประวัติการโทรล่าสุดมักถูกเคลียร์อยู่เสมอ

หากคุณมีโอกาสได้เช็กโทรศัพท์ของแฟน และพบว่าประวัติการโทรล่าสุดหายไป หรือในบางครั้งก็หายไปทั้งหมด บอกเลยว่าพฤติกรรมนี้น่าสงสัยเป็นที่สุด เพราะคนปกติทั่วไป “น้อยมาก” ที่จะเคลียร์ประวัติการโทร รวมถึงพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนในตอนที่คุณจับโทรศัพท์ของเขา หรือแม้กระทั่งแค่เอ่ยปากขอยืมโทรศัพท์ก็ตาม

7. เข้าถึงยาก และไม่ค่อยพูดคุยกันเหมือนเมื่อก่อน

ไม่ว่าคุณจะชวนคุยเรื่องไหน ประเด็นใด เขามักจะเงียบและไม่แสดงความคิดเห็นแบบเมื่อก่อน หรือเขามีพฤติกรรมที่แสดงออกชัดเจนว่ารำคาญ เดินหนีไปแบบดื้อ ๆ หากไม่ได้มีเรื่องราวให้ต้องง้องอนกัน ก็อาจเป็นเพราะว่าเขาเบื่อ และมีสิ่งที่เขากำลังให้ความสนใจมากกว่าคุณอยู่ยังไงล่ะ

8. ค่อนข้าง “หวงพื้นที่ส่วนตัว”

พื้นที่ส่วนตัวในที่นี้หมายถึงโทรศัพท์มือถือของเขานั่นเอง หากเมื่อก่อนสามารถจับโทรศัพท์ของเขาได้ตลอดเวลา มีแม้กระทั่งรหัสผ่านหรือเพิ่มลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ แต่ในตอนนี้กลับไม่ให้ยุ่งแม้แต่ปลายเล็บ เมื่อเผลอไปโดนแม้แต่นิดเดียวก็จะมีท่าทีลน ๆ บ้างก็โวยวาย บ้างก็โกรธ พฤติกรรมแบบนี้บอกเลยว่ามีโอกาสนอกใจสูงถึง 70% เลยล่ะ

9. อารมณ์แปรปรวนง่าย โดยเฉพาะในตอนที่อยู่กับคุณ

เมื่อความรักที่ว่าหวานกลายเป็นขม อยู่ดี ๆ สิ่งที่เคยทำก็กลายเป็นความน่ารำคาญ ขยับตัวนิดหน่อยก็ทำให้เขาหงุดหงิดแบบไม่รู้สาเหตุ หรือการเผลอทำอะไรที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็กลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นเหตุให้ทะเลาะจนถึงขั้นเลิกราได้ง่าย ๆ บอกเลยว่าเตรียมใจให้ดี เพราะคุณกำลังเป็น “ของตาย” เข้าแล้ว

วิธีรับมือเมื่อโดนคนรักนอกใจ

หลายคนที่จับได้ว่าแฟนนอกใจ แต่ยังรักอยู่ ไม่อยากเลิก แต่ก็เจ็บปวดเหลือเกิน หรือจับได้ว่าแฟนนอกใจ แต่ไม่ยอมเลิกรับเรา เรามี “วิธีรับมือ” มาฝาก แนวทางดังต่อไปนี้อาจจะช่วยให้คุณข้ามผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายได้ไม่มากก็น้อย

รักษาระยะห่าง: ในช่วงแรกที่จับได้ว่าแฟนนอกใจ แนะนำให้คุณ “ให้เวลาตัวเอง” หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ ถ้าหากสามารถประคับประคองสติ และพูดคุยได้อย่างมีเหตุผลก็จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีความคิดอยากทำร้ายตัวเองหรือคนอื่น แนะนำให้พบแพทย์เพื่อเข้ารับคำปรึกษาอย่างเร่งด่วน
ใช้เวลากับตัวเองให้มาก ๆ: หากคุณยังไม่พร้อมที่จะเลิกรา หรือยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แนะนำให้ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวดังกล่าวมากจนเกินไป แต่ถ้าหากพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันร้ายแรงเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียว ก็ให้อยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว เพราะความรักในส่วนนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน

พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ: ในกรณีที่คุณไม่สบายใจหรือไม่สะดวกใจจะคุยกับคนรอบข้าง สามารถเข้ารับคำปรึกษาหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อบรรเทาความเครียดของคุณได้ โดยเฉพาะการเข้าพบจิตวิทยาครอบครัว เพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การนอกใจนับเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ๆ ในความสัมพันธ์ แต่คงจะดีไม่ใช่น้อยหากคุณสามารถสังเกตพฤติกรรมของคนรัก และมีวิธีรับมือที่ดี หากยังรักอยู่ ไม่อยากเลิกรา หรือมองว่าเป็นเรื่องที่สามารถให้อภัยกันได้ แนะนำให้ปรับความเข้าใจกันอย่างมีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์และไม่ใช่ความรุนแรง แต่ถ้าหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการที่จะกลับมารักกันดังเดิม โดยเฉพาะในกรณีที่คุณต้องกลายเป็นฝ่ายเสียใจ แนะนำให้ใช้เวลากับตัวเองให้มาก ๆ เมื่อความรู้สึกโอเคเมื่อไหร่ก็ค่อยลุกขึ้นยืนใหม่ช้า ๆ
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่