ผมรู้สึกซัพพอตแฟนมากเกินไป

ผมรู้สึกซัพพอตแฟนมากเกินไป คือเรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนก็แยกกระเป๋า​ตังค์ใช้ตั้งแต่แรก แต่พอ4-5เดือน แม่แฟนเริ่มโทรมายืมตังค์ผม ครั้งละ 2-3 หมื่น ประมาณ 4 ครั้ง แต่ผมก็ไม่ได้บอกแฟน และไม่ยังไม่ได้คืนจักบาท พอเดือนเมื่อกี้แฟนผมก็ยืมตังค์ผมไปจ่ายค่าโรงพยาบาลให้พ่อ 4 หมื่นบาท(พ่อแม่ของแฟนแยกกันอยู่ครับ)​แต่พ่อก็มีตังค์จ่ายเองได้แต่แฟนผมอยากช่วยพ่อ ก็บอกว่าเงินเดือนออกเดือนนี้จะคืนให้ จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้คืน ผมเลยรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ซัพพอตแฟนฝ่ายเดียว ตอนเรียนหนังสือผมก็ส่งแฟนเรียนเพราะผมได้ทำงานก่อนเขา จนกระทั่ง​ตอนนี้ผมก็มีเงินเดือนที่สูงกว่าเขาเกือบ 3 เท่าของเงินเดือนแฟนผม ผมเป็นคนไม่ค่อยใช้ตังค์​เท่าไรแต่ถ้าใช้จะคิดให้ดีก่อน และตอนนี้แม่แฟนก็ขอให้ใช้เงินช่วยเพราะเอาที่ดินไปเข้าธนาคารเพื่อมาสร้างบ้าน แต่ผมกับแฟนออกมาอยู่ข้างนอกผ่อนบ้านด้วยกันแต่ส่วนใหญ่​ก็เป็นผมจ่ายแหละ แต่ที่ผ่านมาผมก็ไม่รู้สึกอะไรเท่าไร แต่หลังๆมาผมรู้สึกว่าผมซัพพอตครอบครัว​เขามากเกินไป จนผมกลับมาคิดว่าและนั่งคุยกับตัวเองว่าทำไมมันไม่สมดุล ทำไมมันหนักฝั่งนั้นมากเกินไป ส่วนครอบครัว​ผมท่านไม่ได้ต้องการอะไรเพราะท่านเป็นข้าราชการบำนาญ ค่อนข้างได้เงินบำนาญ​เยอะอยู่ แต่ความเป็นลูกเนาะ บางครั้งผมก็เก็บตังค์ว่าจะซื้อสมาร์ท​ทีวีให้ท่าน แต่ก็ต้องมีเหตุการณ์​ต้องใช้ตังค์​ฝั่งแฟน  แฟนผมก็เก็บตังค์ไม่ค่อยได้เพราะต้องส่งน้องชายเรียนมหาลัย ผ่อนรถตัวเองอีก ผมรู้สึกลำบากใจมากๆที่จะคุยเรื่องกับแฟนนี้ จนผมเริ่มจะชอบออยู่ที่ทำงานมากกว่าบ้าน ตื่นเช้าเข้าก่อนเวลากลับบ้านมืด เพราะถ้ากลับบ้านก็รู้สึกหลอนๆว่าวันนี้แฟนจะขอเงินไปให้ใครอีก ผมควรทำไงดีครับ ผมไม่กล้าปรึกษา​ใครเลยแม้กระทั่ง​ครอบครัว​ตัวเองกลัวท่านมองฝั่งแฟนผมเป็นภาระผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่