สวัสดีทุกๆคนครับ ผมเป็นข้าราชการในพื้นที่ใกล้เคียงกรุงเทพมหานคร แต่ไม่ใช่ปริมณฑล
ผมมีเรื่องอยากจะออกมา
เตือนภัย และ
หาผู้เสียหายที่อาจจะเจอเหตุการณ์เดียวกันนี้มาแชร์ประสบการณ์ร่วมกันครับ
ขอแบ่งเป็นช่วงเหตุการณ์นะครับ
ช่วงเริ่มรู้จัก
เมื่อวันที่
28 สิงหาคม 2565 ผมได้พาครอบครัวผม มีภรรยา ลูกอายุเกือบ 1 ขวบ แม่ และน้องสาว ไปเดินเที่ยวที่
ห้างไอคอนสยาม ขณะที่กำลังเดินอยู่บริเวณส่วนที่ติดแม่น้ำ บังเอิญมีผู้ชายคนหนึ่ง (ขอแทนคนๆนี้ว่าคุณ น.) เข้ามาทักทายผม ภรรยา และลูก พร้อมแนะนำตัว และกล่าวว่าเป็นผู้จัดการอดีตดาราดังท่านหนึ่ง กล่าวชมว่าลูกน่ารักมาก เขากำลังมาดูพื้นที่ในการจัดอีเวนต์วันลอยกระทง พอดีหันมาเห็นลูกเราน่ารัก และอยากทาบทามให้ลูกเราได้ออกเวที ในช่วงวันลอยกระทงหรือวันคริสต์มาส แต่พอดีในวันลอยกระทงตรงกับวันธรรมดาซึ่งผมทำงาน และไม่สะดวกมาที่กรุงเทพ เขาจึงชวนไว้เป็นวันคริสต์มาสซึ่งตรงกับวันหยุด และขอแลกคอนแทกต์ไลน์ไว้ ก่อนแยกย้ายกัน
หลังจากนั้นคุณ น.ก็คอยส่งสวัสดี ส่งข้อมูลเกร็ดความรู้ต่างๆมาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้คุยกันจริงจัง พอถึงช่วงวันลอยกระทง หลังจากจัดงานแล้ว คุณ น.ก็ส่งภาพบรรยากาศอีเวนต์และงานประกวดนางนพมาศที่จัดมาให้เราดู เราก็เชื่อใจว่ามีการจัดงานและเขาเป็นผู้จัดจริง หลังจากถึงช่วงต้น
เดือนธันวาคม 2565 ผมก็ถามคุณ น.ไปเรื่องอีเวนต์วันคริสต์มาส เขาก็บอกว่าพอดีที่ CW มีการเปลี่ยนแปลงค่าเช่าสถานที่ ทำให้ทีมเขาจัดอีเวนต์ไม่ไหว จึงไม่ได้จัด เราก็รับทราบข่าวไว้
ช่วงเริ่มลงทุน
วันที่ 26 มกราคม 2566 คุณ น. ได้โทรทางไลน์มาคุยกับผม โดยได้พูดคุยกับผมถึงเรื่องโปรเจคต์การทำละครเรื่องหนึ่งซึ่งเคยวางแผนการสร้างกับอดีตดาราดังไว้ แต่ยังไม่ได้สร้าง โดยเขาติดขัดตรงที่สปอนเซอร์ใหญ่เขาอยู่ตปท. และเขาต้องรีบใช้เงินภายใน 19.00 น.วันนั้นเพื่อคอนเฟิร์มว่าจ้างผู้เขียนบทละครที่จะปรับงานเขียนของเขาให้เป็นบทละคร เป็นเงิน 2x,xxx บาท จึงขอยืมเงินเรา แล้วเขาจะหาหนทางเข้าสู่วงการให้กับลูกเรา พร้อมกับแลกเบอร์โทรสัพท์ของเราไว้เพิ่มเติม จากเดิมที่มีแต่คอนแทกต์ไลน์ ทางเราก็ไปปรึกษากับภรรยาดู ซึ่งปรึกษากันแล้วก็เลือกที่จะให้คุณ น. ยืมเงินก้อนนี้ไป โดยตกลงว่าเขาจะคืนเงินประมาณ
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 และนัดเราไปพบที่ห้างไอคอนสยาม ช่วงวันหยุด เป็นวันที่
28 มกราคม 2566 เพื่อพูดคุยเรื่องงานละครนี้ ทำให้เราเชื่อถือว่าจะมีโปรเจคต์เกิดขึ้นจริง ตอนที่ไปคุยเขาก็นัดคุยที่ร้านกาแฟชั้น 4 ของห้างไอคอนสยาม มีการให้ดูบทที่เขาเขียนไว้ก่อนนำไปจ้างผู้เขียนบทละครปรับบท และมีถามความเห็นเราในด้านรายละเอียด่างๆของละครซึ่งมีกลิ่นอายเชิงประวัติศาสตร์ล้านนา และคุณ น. ทราบว่าเรามีความรู้ในส่วนนี้ หลังจากเราให้คอมเมนต์ไป เขาก็รับฟังและจะนำไปหารือกับทีมงานต่อ พร้อมเอ่ยชมว่าเป็นไอเดียที่ดีมากและสามารถนำไปใช้จริงได้
ต่อมาเมื่อถึงช่วง
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ผมได้ติดต่อคุณ น. ไปเพื่อทวงถามถึงเงินที่ให้ยืมไปรอบแรก คุณ น. ได้ตอบกลับว่า พอดีเกิดปัญหาเรื่องบทละคร สปอนเซอร์เขายังไม่ค่อยถูกใจกับบทละครของผู้เขียนยทเจ้านี้ จึงต้องมีการไปจ้างผู้เขียนบทละครคนใหม่ (รอบนี้กล่าวชื่อคนดังคือคุณ พ.) เพื่อปรับบทละครใหม่ ตอนนี้จึงยังคืนเงินเราไม่ได้ และจะขอเชิญเราร่วมลงทุนกับละครเรื่องนี้ ซึ่งจะมีค่าตอบแทนให้เรา อยู่ที่ประมาณ 1xx,xxx - 2xx,xxx บาท ต่อละครหนึ่งเรื่อง โดยจะใส่ชื่อเราเป็หนึ่งในทีมประสานงาน เป็นผู้ช่วยของคุณ น. โดยเงื่อนไขตอนนี้คือ คุณ น. จะขอผัดผ่อนการคืนเงินก้อนแรกไปก่อน และขอให้เราลงทุนให้เขาสำหรับจ้างคุณ พ. มาปรับแก้บทละคร เป็นเงิน 2x,xxx บาท เราได้ยินอย่างนี้จึงรีบไปคุยกับภรรยา ภรรยาก็เตือนแล้วว่าควรทำหนังสือสัญญาลงทุน หรือสัญญายืมเงินไว้นะ แต่ความที่เราเชื่อใจเขา ว่าเขาเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคนดังน่าเชื่อถือเราจึงบอกภรรยาไปว่าไม่เป็นไรหรอก พร้อมกับโอนเงินให้เขาไป คุณ น.กล่าวขอบคุณเรามา พร้อมกับนัดหมายพูดคุยเรื่องงานกันอีกครั้ง
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ร้านกาแฟชั้น 5 ห้างไอคอนสยาม เมื่อถึงเวลานัด วันนี้คุณ น. พาทีมงานมาร่วมพูดคุยด้วย โดยเขากล่าวอ้างว่าเป็นหนึ่งในทีมช่างกล้องที่จะถ่ายทำละคร และมาพูดคุยโปรเจคต์ดังกล่าวกัน หลังจากคุยโปรเจต์ละครเดิมเสร็จ คุณ น. เริ่มพูดคุยถึงโปรเจคต์ภาพยนตร์อีกเรื่อง และส่งบทให้เราดูพร้อมขอความเห็น เราก็รับคำกลับไปอ่านและคอมเมนต์สิ่งต่างๆให้เขาไป
ผ่านไป 1 เดือน
วันที่ 17 มีนาคม 2566 คุณ น. ติดต่อเราเข้ามาพร้อมน้ำเสียงที่ตื่นเต้นว่า สปอนเซอร์อนุมัติให้สร้างละครแล้ว ส่วนภาพยนตร์ที่เคยคุยกันก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้เริ่มโปรเจคต์ด้วย เราก็ดีใจไปกับเขา และคุณ น. ก็ได้พูดคุยเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เขาก็เลยมีค่าใช้จ่ายของทีมงานเขา ซึ่งปกติเขาจะมีเงินหมุนสำหรับให้ทีมงานก่อน แต่หลังจากโควิด เขาก็ยังไม่ฟื้นตัว เงินจมกับหลายโปรเจคต์ และเขาก็ถูกโกงเงินหลายล้านบาท จึงไม่มีเงินมาหมุนจ่ายให้กับทีมงานซึ่งคุณ น.ค้างเงินทีมงานมาระยะหนึ่งแล้ว คุณ น. จึงขอเงินจากเรา 3x,xxx บาท และจะให้เรามีบทบาทเล็กๆในภาพยนตร์โปรเจคต์ใหม่ของเขาด้วย เราก็ดีใจรีบโอนให้เขาและโทรไปคุยกับภรรยา ภรรยาก็เตือนอีกรอบเรื่องว่าควรมีสัญญาแล้วนะ เราก็ยังโง่เชื่อใจคุณ น. อีกว่าไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเริ่มทำงานด้วยกันแล้วก็ได้เงินมาเอง
ถึงต้นเดือนเมษายน เรามีงานที่ต้องเข้ากรุงเทพฯ วันที่
5 เมษายน 2566 จึงโทรคุยกับคุณ น. ว่า พอดีเราจะเข้ากรุงเทพฯ มาคุยเรื่องความคืบหน้าโปรเจคต์กันหน่อยมั้ย เป็นวันที่
6 เมษายน 2566 ก็นัดเป้นที่ห้างไอคอนสยามเช่นเดิม ร้านกาแฟชั้น 4 เมื่อถึงวันนัดก็พูดคุยเรื่องโปรเจคต์กัน มีถามความเห็นทั้งเรื่องชื่อภาพยนตร์ การวางตัวละครของละครโปรเจคต์แรก ถามความเห็นเรื่องฉากที่จะประกอบในเรื่อง จนแยกย้ายกัน และเมื่อ
วันที่ 10 เมษายน 2566 คุณ น. ได้ติดต่อเรามาอีกครั้ง โดยบอกว่าเขามีค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ฝึกสอนการแสดงให้กับดาราใหม่ที่จะม่ารับบทในโปรเจคต์ภาพยนตร์ แต่สปอนเซอร์ยังติดปัญหาอยู่ตปท. แต่ในครั้งนี้เราเริ่มมีปัญหาการเินแล้ว ตอนแรกคุณ น. จะขอเราประมาณ 5x,xxx บาท แต่เราบอกเขาว่า ผมเองก็เอาเงินหมุนในครอบครัวมาลงทุนกับคุณไปเยอะแล้วนะ และยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ผลตอบแทนกลับมาสักเล็กน้อยเลย ผมลงทุนให้คุณเพิ่มไม่ได้แล้วนะ คุณ น. ก็พยายามหว่านล้อมผม จนผมใจอ่อนอีก ผมจะโอนให้เขา 1x,xxx บาท เขาก็ต่อรองเป็น 2x,xxx บาทจนได้ เราก็โอนไปให้ รวมแล้วมูลค่าที่โอนไปให้คุณ น. กว่า 1xx,xxx บาท ครั้งนี้ผมยืนยันกับคุณ น. ว่าจะให้เขาโอนเงินก้อนแรกสุดซึ่งเป็นการยืมกลับมาก่อนในช่วง
เดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งเขาก็รับปากไว้
ช่วงเริ่มตีตัวออกห่าง
หลังจากเข้าเดือนพฤษภาคม 2566 ผมก็ยังติดต่อพูดคุยเรื่องงานกับคุณ น. อยู่ แต่พอเริ่มเข้าสิ้นเดือนผมก็ได้ทวงถามเรื่องการคืนเงินจากคุณ น. เขาก็จะหาเหตุผลต่างๆมาอ้าง แม้ผมพยายามพูดถึงความจำเป็นต่างๆ ที่ต้องใช้เงินก้อนนั้น แต่จนแล้วที่สุดผ่านเดือนพฤษภาคม 2566 ไป จนผมต้องพูดถึงการแจ้งความขึ้นมา เขาจึงรีบกล่าวว่า สปอนเซอร์ของละครเขาจะมีกำหนดกลับมาช่วง
วันที่ 10 มิถุนายน 2566 แล้ว ถ้าเขากลับมาจะมีเงินมาหมุนใช้แล้ว และจะนำมาคืนให้ผม ผมยังหลงเชื่อจึงรอต่อไป แต่ทีนี้ผมจะมีการแชทไปถามถึงความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ จนล่วงเข้าถึงช่วง
ปลายเดือนมิถุนายน 2566 เขาก็บอกว่าทางสปอนเซอร์ติดขัดปัญหาเรื่องทีมแสงในกองถ่ายจึงยังไม่ลงตัวเรื่องเงิน ผมเห็นว่าไม่ใช่ละ จึงยื่นคำขาดว่า ถ้าผมยังไม่ได้คืน ใน
วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ผมจะไปแจ้งความ คุณน.จึงรับปากว่าวันนั้นเขาจะได้ค่าเช่าจากคอนโดที่เขาปล่อยเช่าและจะคืนให้เรา 2x,xxx บาทก่อน
เมื่อถึง
วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ผมก็ทิ้งเลขบช.ให้เขาโอนเงินเข้ามาที่เรา แต่หลังจากเราเลิกงานแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววโอนเงินเข้ามา ผมจึงโทรไปหาเขา เขาก็อ้างติดงานอยู่ ผมพยายามติดต่อเขาไปหลายคร้งจนถึงช่วง 3 ทุ่ม ผมติดต่อเขาได้ แต่เขาทำเป็นสัญญาณโทรศัพท์ไม่ชัดก่อนตัดสายไป และส่ง sms ให้ผมโทรกลับ แต่หลังจากนั้นไม่ว่าผมจะโทรไปอย่างไร คอลไลน์ไปอย่างไร ก็ติดต่อเขาไม่ได้เลย
เมื่อผมไปปรึกษาตำรวจเขาบอกว่าคดีแนวนี้ต้องฟ้องแพ่งจ้างทนายเอา ยกเว้นกรณีที่มีผู้เสียหายเพิ่มเติมรวมกันฟ้องจะสามารถแจ้งอาญาเรื่องฉ้อโกงได้ แต่ที่ผมออกมาลงเรื่องนี้ช้า เพราะผมนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับสื่อในท้องที่ผมอยู่ เขากับรับทำเรื่องให้ แต่ยังติดขัดหลายๆอย่างจนมาถึงตอนนี้
สรุปผล
ที่ผมตัดสินใจมาลงเรื่อง ผมต้องการหาแนวร่วม เพราะช่วงที่คุยกับคุณ น. อยู่เหมือนเขาเคยหลุดปากว่าเขาก็มีไปขอสนับสนุนจากรายย่อยหลายคน เพื่อมาช่วยเขาแบบของผมเช่นกัน ผมจึงคิดว่าน่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นเช่นกัน จึงอยากที่จะให้มาร่วมกันสู้คดีนี้ครับ เงินที่ผมนำไปลงทุนนั้นจำนวนค่อนข้างมากหากพูดถึงในอาชีพผม เป็นก้อนที่ตั้งใจเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวไว้เลี้ยงลูก หลังจากที่เกิดปัญหานี้ ผมกับภรรยาก็มีปัญหาระหองระแหงกันตลอด ผมยอมรับว่าเป็นผู้นำครอบครัวที่แย่ ทำให้เกิดความลำบากในครอบครัว จึงอยากให้เกิดความเคลื่อนไหวในคดีความนี้ครับ
หากใครที่คิดว่าคุณถูกหลอกจากคุณ น. เช่นเดียวกันกับผม สามารถ DM เข้ามาได้นะครับ ผมจะคอยเข้ามาตอบครับ
ขอบคุณครับ
ถูกหลอกให้ลงทุนในวงการบันเทิง จากอดีตผจก.ดาราดัง
ผมมีเรื่องอยากจะออกมาเตือนภัย และหาผู้เสียหายที่อาจจะเจอเหตุการณ์เดียวกันนี้มาแชร์ประสบการณ์ร่วมกันครับ
ขอแบ่งเป็นช่วงเหตุการณ์นะครับ
ช่วงเริ่มรู้จัก
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 ผมได้พาครอบครัวผม มีภรรยา ลูกอายุเกือบ 1 ขวบ แม่ และน้องสาว ไปเดินเที่ยวที่ห้างไอคอนสยาม ขณะที่กำลังเดินอยู่บริเวณส่วนที่ติดแม่น้ำ บังเอิญมีผู้ชายคนหนึ่ง (ขอแทนคนๆนี้ว่าคุณ น.) เข้ามาทักทายผม ภรรยา และลูก พร้อมแนะนำตัว และกล่าวว่าเป็นผู้จัดการอดีตดาราดังท่านหนึ่ง กล่าวชมว่าลูกน่ารักมาก เขากำลังมาดูพื้นที่ในการจัดอีเวนต์วันลอยกระทง พอดีหันมาเห็นลูกเราน่ารัก และอยากทาบทามให้ลูกเราได้ออกเวที ในช่วงวันลอยกระทงหรือวันคริสต์มาส แต่พอดีในวันลอยกระทงตรงกับวันธรรมดาซึ่งผมทำงาน และไม่สะดวกมาที่กรุงเทพ เขาจึงชวนไว้เป็นวันคริสต์มาสซึ่งตรงกับวันหยุด และขอแลกคอนแทกต์ไลน์ไว้ ก่อนแยกย้ายกัน
หลังจากนั้นคุณ น.ก็คอยส่งสวัสดี ส่งข้อมูลเกร็ดความรู้ต่างๆมาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้คุยกันจริงจัง พอถึงช่วงวันลอยกระทง หลังจากจัดงานแล้ว คุณ น.ก็ส่งภาพบรรยากาศอีเวนต์และงานประกวดนางนพมาศที่จัดมาให้เราดู เราก็เชื่อใจว่ามีการจัดงานและเขาเป็นผู้จัดจริง หลังจากถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 ผมก็ถามคุณ น.ไปเรื่องอีเวนต์วันคริสต์มาส เขาก็บอกว่าพอดีที่ CW มีการเปลี่ยนแปลงค่าเช่าสถานที่ ทำให้ทีมเขาจัดอีเวนต์ไม่ไหว จึงไม่ได้จัด เราก็รับทราบข่าวไว้
ช่วงเริ่มลงทุน
วันที่ 26 มกราคม 2566 คุณ น. ได้โทรทางไลน์มาคุยกับผม โดยได้พูดคุยกับผมถึงเรื่องโปรเจคต์การทำละครเรื่องหนึ่งซึ่งเคยวางแผนการสร้างกับอดีตดาราดังไว้ แต่ยังไม่ได้สร้าง โดยเขาติดขัดตรงที่สปอนเซอร์ใหญ่เขาอยู่ตปท. และเขาต้องรีบใช้เงินภายใน 19.00 น.วันนั้นเพื่อคอนเฟิร์มว่าจ้างผู้เขียนบทละครที่จะปรับงานเขียนของเขาให้เป็นบทละคร เป็นเงิน 2x,xxx บาท จึงขอยืมเงินเรา แล้วเขาจะหาหนทางเข้าสู่วงการให้กับลูกเรา พร้อมกับแลกเบอร์โทรสัพท์ของเราไว้เพิ่มเติม จากเดิมที่มีแต่คอนแทกต์ไลน์ ทางเราก็ไปปรึกษากับภรรยาดู ซึ่งปรึกษากันแล้วก็เลือกที่จะให้คุณ น. ยืมเงินก้อนนี้ไป โดยตกลงว่าเขาจะคืนเงินประมาณวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 และนัดเราไปพบที่ห้างไอคอนสยาม ช่วงวันหยุด เป็นวันที่ 28 มกราคม 2566 เพื่อพูดคุยเรื่องงานละครนี้ ทำให้เราเชื่อถือว่าจะมีโปรเจคต์เกิดขึ้นจริง ตอนที่ไปคุยเขาก็นัดคุยที่ร้านกาแฟชั้น 4 ของห้างไอคอนสยาม มีการให้ดูบทที่เขาเขียนไว้ก่อนนำไปจ้างผู้เขียนบทละครปรับบท และมีถามความเห็นเราในด้านรายละเอียด่างๆของละครซึ่งมีกลิ่นอายเชิงประวัติศาสตร์ล้านนา และคุณ น. ทราบว่าเรามีความรู้ในส่วนนี้ หลังจากเราให้คอมเมนต์ไป เขาก็รับฟังและจะนำไปหารือกับทีมงานต่อ พร้อมเอ่ยชมว่าเป็นไอเดียที่ดีมากและสามารถนำไปใช้จริงได้
ต่อมาเมื่อถึงช่วงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ผมได้ติดต่อคุณ น. ไปเพื่อทวงถามถึงเงินที่ให้ยืมไปรอบแรก คุณ น. ได้ตอบกลับว่า พอดีเกิดปัญหาเรื่องบทละคร สปอนเซอร์เขายังไม่ค่อยถูกใจกับบทละครของผู้เขียนยทเจ้านี้ จึงต้องมีการไปจ้างผู้เขียนบทละครคนใหม่ (รอบนี้กล่าวชื่อคนดังคือคุณ พ.) เพื่อปรับบทละครใหม่ ตอนนี้จึงยังคืนเงินเราไม่ได้ และจะขอเชิญเราร่วมลงทุนกับละครเรื่องนี้ ซึ่งจะมีค่าตอบแทนให้เรา อยู่ที่ประมาณ 1xx,xxx - 2xx,xxx บาท ต่อละครหนึ่งเรื่อง โดยจะใส่ชื่อเราเป็หนึ่งในทีมประสานงาน เป็นผู้ช่วยของคุณ น. โดยเงื่อนไขตอนนี้คือ คุณ น. จะขอผัดผ่อนการคืนเงินก้อนแรกไปก่อน และขอให้เราลงทุนให้เขาสำหรับจ้างคุณ พ. มาปรับแก้บทละคร เป็นเงิน 2x,xxx บาท เราได้ยินอย่างนี้จึงรีบไปคุยกับภรรยา ภรรยาก็เตือนแล้วว่าควรทำหนังสือสัญญาลงทุน หรือสัญญายืมเงินไว้นะ แต่ความที่เราเชื่อใจเขา ว่าเขาเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคนดังน่าเชื่อถือเราจึงบอกภรรยาไปว่าไม่เป็นไรหรอก พร้อมกับโอนเงินให้เขาไป คุณ น.กล่าวขอบคุณเรามา พร้อมกับนัดหมายพูดคุยเรื่องงานกันอีกครั้งวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ร้านกาแฟชั้น 5 ห้างไอคอนสยาม เมื่อถึงเวลานัด วันนี้คุณ น. พาทีมงานมาร่วมพูดคุยด้วย โดยเขากล่าวอ้างว่าเป็นหนึ่งในทีมช่างกล้องที่จะถ่ายทำละคร และมาพูดคุยโปรเจคต์ดังกล่าวกัน หลังจากคุยโปรเจต์ละครเดิมเสร็จ คุณ น. เริ่มพูดคุยถึงโปรเจคต์ภาพยนตร์อีกเรื่อง และส่งบทให้เราดูพร้อมขอความเห็น เราก็รับคำกลับไปอ่านและคอมเมนต์สิ่งต่างๆให้เขาไป
ผ่านไป 1 เดือน วันที่ 17 มีนาคม 2566 คุณ น. ติดต่อเราเข้ามาพร้อมน้ำเสียงที่ตื่นเต้นว่า สปอนเซอร์อนุมัติให้สร้างละครแล้ว ส่วนภาพยนตร์ที่เคยคุยกันก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้เริ่มโปรเจคต์ด้วย เราก็ดีใจไปกับเขา และคุณ น. ก็ได้พูดคุยเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เขาก็เลยมีค่าใช้จ่ายของทีมงานเขา ซึ่งปกติเขาจะมีเงินหมุนสำหรับให้ทีมงานก่อน แต่หลังจากโควิด เขาก็ยังไม่ฟื้นตัว เงินจมกับหลายโปรเจคต์ และเขาก็ถูกโกงเงินหลายล้านบาท จึงไม่มีเงินมาหมุนจ่ายให้กับทีมงานซึ่งคุณ น.ค้างเงินทีมงานมาระยะหนึ่งแล้ว คุณ น. จึงขอเงินจากเรา 3x,xxx บาท และจะให้เรามีบทบาทเล็กๆในภาพยนตร์โปรเจคต์ใหม่ของเขาด้วย เราก็ดีใจรีบโอนให้เขาและโทรไปคุยกับภรรยา ภรรยาก็เตือนอีกรอบเรื่องว่าควรมีสัญญาแล้วนะ เราก็ยังโง่เชื่อใจคุณ น. อีกว่าไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเริ่มทำงานด้วยกันแล้วก็ได้เงินมาเอง
ถึงต้นเดือนเมษายน เรามีงานที่ต้องเข้ากรุงเทพฯ วันที่ 5 เมษายน 2566 จึงโทรคุยกับคุณ น. ว่า พอดีเราจะเข้ากรุงเทพฯ มาคุยเรื่องความคืบหน้าโปรเจคต์กันหน่อยมั้ย เป็นวันที่ 6 เมษายน 2566 ก็นัดเป้นที่ห้างไอคอนสยามเช่นเดิม ร้านกาแฟชั้น 4 เมื่อถึงวันนัดก็พูดคุยเรื่องโปรเจคต์กัน มีถามความเห็นทั้งเรื่องชื่อภาพยนตร์ การวางตัวละครของละครโปรเจคต์แรก ถามความเห็นเรื่องฉากที่จะประกอบในเรื่อง จนแยกย้ายกัน และเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 คุณ น. ได้ติดต่อเรามาอีกครั้ง โดยบอกว่าเขามีค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ฝึกสอนการแสดงให้กับดาราใหม่ที่จะม่ารับบทในโปรเจคต์ภาพยนตร์ แต่สปอนเซอร์ยังติดปัญหาอยู่ตปท. แต่ในครั้งนี้เราเริ่มมีปัญหาการเินแล้ว ตอนแรกคุณ น. จะขอเราประมาณ 5x,xxx บาท แต่เราบอกเขาว่า ผมเองก็เอาเงินหมุนในครอบครัวมาลงทุนกับคุณไปเยอะแล้วนะ และยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ผลตอบแทนกลับมาสักเล็กน้อยเลย ผมลงทุนให้คุณเพิ่มไม่ได้แล้วนะ คุณ น. ก็พยายามหว่านล้อมผม จนผมใจอ่อนอีก ผมจะโอนให้เขา 1x,xxx บาท เขาก็ต่อรองเป็น 2x,xxx บาทจนได้ เราก็โอนไปให้ รวมแล้วมูลค่าที่โอนไปให้คุณ น. กว่า 1xx,xxx บาท ครั้งนี้ผมยืนยันกับคุณ น. ว่าจะให้เขาโอนเงินก้อนแรกสุดซึ่งเป็นการยืมกลับมาก่อนในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งเขาก็รับปากไว้
ช่วงเริ่มตีตัวออกห่าง
หลังจากเข้าเดือนพฤษภาคม 2566 ผมก็ยังติดต่อพูดคุยเรื่องงานกับคุณ น. อยู่ แต่พอเริ่มเข้าสิ้นเดือนผมก็ได้ทวงถามเรื่องการคืนเงินจากคุณ น. เขาก็จะหาเหตุผลต่างๆมาอ้าง แม้ผมพยายามพูดถึงความจำเป็นต่างๆ ที่ต้องใช้เงินก้อนนั้น แต่จนแล้วที่สุดผ่านเดือนพฤษภาคม 2566 ไป จนผมต้องพูดถึงการแจ้งความขึ้นมา เขาจึงรีบกล่าวว่า สปอนเซอร์ของละครเขาจะมีกำหนดกลับมาช่วงวันที่ 10 มิถุนายน 2566 แล้ว ถ้าเขากลับมาจะมีเงินมาหมุนใช้แล้ว และจะนำมาคืนให้ผม ผมยังหลงเชื่อจึงรอต่อไป แต่ทีนี้ผมจะมีการแชทไปถามถึงความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ จนล่วงเข้าถึงช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 เขาก็บอกว่าทางสปอนเซอร์ติดขัดปัญหาเรื่องทีมแสงในกองถ่ายจึงยังไม่ลงตัวเรื่องเงิน ผมเห็นว่าไม่ใช่ละ จึงยื่นคำขาดว่า ถ้าผมยังไม่ได้คืน ในวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ผมจะไปแจ้งความ คุณน.จึงรับปากว่าวันนั้นเขาจะได้ค่าเช่าจากคอนโดที่เขาปล่อยเช่าและจะคืนให้เรา 2x,xxx บาทก่อน
เมื่อถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ผมก็ทิ้งเลขบช.ให้เขาโอนเงินเข้ามาที่เรา แต่หลังจากเราเลิกงานแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววโอนเงินเข้ามา ผมจึงโทรไปหาเขา เขาก็อ้างติดงานอยู่ ผมพยายามติดต่อเขาไปหลายคร้งจนถึงช่วง 3 ทุ่ม ผมติดต่อเขาได้ แต่เขาทำเป็นสัญญาณโทรศัพท์ไม่ชัดก่อนตัดสายไป และส่ง sms ให้ผมโทรกลับ แต่หลังจากนั้นไม่ว่าผมจะโทรไปอย่างไร คอลไลน์ไปอย่างไร ก็ติดต่อเขาไม่ได้เลย
เมื่อผมไปปรึกษาตำรวจเขาบอกว่าคดีแนวนี้ต้องฟ้องแพ่งจ้างทนายเอา ยกเว้นกรณีที่มีผู้เสียหายเพิ่มเติมรวมกันฟ้องจะสามารถแจ้งอาญาเรื่องฉ้อโกงได้ แต่ที่ผมออกมาลงเรื่องนี้ช้า เพราะผมนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับสื่อในท้องที่ผมอยู่ เขากับรับทำเรื่องให้ แต่ยังติดขัดหลายๆอย่างจนมาถึงตอนนี้
สรุปผล
ที่ผมตัดสินใจมาลงเรื่อง ผมต้องการหาแนวร่วม เพราะช่วงที่คุยกับคุณ น. อยู่เหมือนเขาเคยหลุดปากว่าเขาก็มีไปขอสนับสนุนจากรายย่อยหลายคน เพื่อมาช่วยเขาแบบของผมเช่นกัน ผมจึงคิดว่าน่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นเช่นกัน จึงอยากที่จะให้มาร่วมกันสู้คดีนี้ครับ เงินที่ผมนำไปลงทุนนั้นจำนวนค่อนข้างมากหากพูดถึงในอาชีพผม เป็นก้อนที่ตั้งใจเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวไว้เลี้ยงลูก หลังจากที่เกิดปัญหานี้ ผมกับภรรยาก็มีปัญหาระหองระแหงกันตลอด ผมยอมรับว่าเป็นผู้นำครอบครัวที่แย่ ทำให้เกิดความลำบากในครอบครัว จึงอยากให้เกิดความเคลื่อนไหวในคดีความนี้ครับ
หากใครที่คิดว่าคุณถูกหลอกจากคุณ น. เช่นเดียวกันกับผม สามารถ DM เข้ามาได้นะครับ ผมจะคอยเข้ามาตอบครับ
ขอบคุณครับ