คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากจริงไหม ?

กระทู้คำถาม
. . .. ในวันที่มีทุกอย่างแล้วแต่กลับไม่มีความสุข
ลึกๆ แล้วแอบคิดว่าเป็นเพราะอะไรกันนะ 
ถ้าวันนึงเราตัดสินใจผิด ชีวิตเราจะเปลี่ยนไป
ตลอดกาลเรยรึป่าวว .. เรากับแฟนคบกันมา
เข้าปีที่ 5 แล้ว อายุห่างกัน 8 ปี ก่อนหน้านี้คบกันก็เช่าห้องอยู่ด้วยกันปกติ  ต่างคนต่างทำงาน เราก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยไม่เคยขอเงินเขาสักบาท อยู่ห้องเช่าเล็กๆแต่เราก็แฮปปี้มีความสุขกันมาก วันหยุดก็กลับมากินข้าวที่บ้านแฟนบ้างจนแฟนตัดสินใจจะพาเรากลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่เพราะว่าจะได้ลดค่าใช้จ่ายในการเช่าห้อง แต่วันนึงแฟนทะเลาะกับที่บ้านเพราะเค้าพาเรากลับบ้านแล้วที่บ้านเห็นเราเรียนอยู่คงคิดว่าเราไม่มั่นคงอาจจะกลัวว่าเราจะมาสร้างความเดือดร้อนให้แฟน  เลยพาเราออกไปเช่าห้องอยู่เหมือนเดิม เราเลยตัดสินใจไว้ว่าเราสองคนจะตั้งใจเก็บเงินเพื่อมาทำบ้านอยู่ที่บ้านแฟนเพื่อพิสูจน์ให้พ่อแม่แฟนเห็นว่าเราทำได้เราพาเค้าไปข้างหน้าได้เราพาเค้าดีขึ้นได้ชีวิตเราทั้งคู่หลังจากนั้นก็ดีขึ้นมาเรื่อยเรื่อยเรื่อย คบกันได้เข้าปีที่สามเราก็เก็บเงินช่วยกันสร้างบ้านจนเสร็จบ้านเป็นชื่อแฟนสร้างในที่รั้วเดียวกันกับครอบครัวแฟนจากนั้นก็ออกรถคันนึงเป็นชื่อเรา  ที่บ้านเค้าเริ่มยอมรับในตัวเรามากขึ้นเวลาผ่านไป ครอบครัวแฟนเค้าดีกับเรามาก 
แต่ไม่รู้ทำไมเราถึงรู้สึกอึดอัดใจจัง  แม้จะรักแฟนมากแค่ไหนแต่ความรู้สึกนี้มันคงเป็นคนละส่วน
กับความรักมั้ง จะว่าอย่างงั้นก้ได้  ในหัวเต็มไปด้วยคำถามมากมายไปหมด มันเป็นเรื่องที่พูดยากมากบอกใครไม่ได้เก็บไว้ก็หนักใจอยู่คนเดียวจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าควรทำยังไงความสุขค่อยค่อยหายไปทีละนิด ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็แทบไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยถึงแม้ว่าจะมีบ้านเป็นของเป็นของตัวเองแล้ว  คิดว่าเราจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันสองคนแต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย  ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน ของที่ต้องซื้อมาทำกิน เวลานอน เวลาตื่น เวลาออกไปไหนหรือว่าทำอะไร ออกไปกินข้าวข้างนอกส่วนใหญ่ที่บ้านแฟนก็จะไปด้วยแฟนก็ต้องเป็นคนจ่ายทั้งหมด ถ้าช่วยออกก็คงจะเป็นส่วนน้อยเพราะน้องแฟนอีกสองคนก็ยังไม่ได้ทำงานเราก็สงสารแฟนบางทีเราก็จ่ายบ้างช่วยได้เท่าที่ช่วย บ้านที่เราอยู่ก็มีน้องที่ยังเรียนมาอยู่ด้วย กินแล้วเก็บบ้างไม่เก็บบ้าง เพื่อนมาบ้านบ้าง ถ้าเราทำงานตอนกลางคืนนอนกลางวันแล้วมีคนอยู่บ้านเค้าอาจจะเสียงดังหรือตะโกนคุยกันมันก้คงเป็นปกติโดยไม่รู้ตัวเราก็ไม่สามารถจะคอนโทรลทุกคนได้ อยากไปไหนกับแฟนสองคนเค้าก็จะชวนที่บ้านเค้าไปด้วยตลอดเพราะบ้านเค้าอยู่กันแบบนี้ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันหมดกว่าจะได้ออกก็ต้องรอคนโน้นคนนี้คนนี้ ใช้ห้องน้ำบ้านเราแฟนกับเราก็เป็นคนทำความสะอาดกันแค่สองคน ถ้าแฟนบอกน้องก็ทำบ้างไม่ทำบ้างแม่เค้าก้ไม่ได้ว่าอะไร พูดๆง่ายก้ตามใจนั้นแหละ งานบ้านก็ไม่ได้แบ่งหน้าที่กันชัดเจนว่าใครทำอะไรไม่ทำอะไรประมาณว่าต้องรอให้บอกถึงจะทำ  มาแรกแรกคือกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาไม่หิวก็คือต้องกิน  แฟนก็จะบอกว่าทำไมถึงไม่ออกมากินข้าวทั้งทั้งที่บางทีเราเลิกงานเราเลิกเรียนมันเหนื่อยเราก็อยากพักในพื้นที่ของเรา อยากนอนดูทีวีที่โซฟาแต่มันก็ไม่เป็นแบบที่คิดไม่เป็นระเบียบที่นอนหมอนผ้าห่มกระจัดกระจาย เพราะน้องแฟนก็จะใช้ชีวิตอยู่โซฟาตลอด มีบ้านสามหลังในรั้วเดียวกันแต่ส่วนใหญ่ทุกคนก็อยากมาใช้ห้องน้ำบ้านเราเพราะว่าเพิ่งสร้างใหม่ส่วนบ้านพ่อก็มีแค่แม่ที่ใช้ ตื่นไปทำงานเข้าห้องน้ำแต่งตัว ก็ต้องรอกันต่อคิวกันไปหมด  จะไปไหนจะทำอะไรก้มีคนเดินเข้าออกบ้านเราตลอดเวลา จะเลิกงานหรืออยู่บ้านเราก็ชอบอยู่แต่ในห้อง เพราะเหมือนเป็นเซฟโซนของเราจริงๆ จะชวนแฟนไปไหนก็ไม่กล้าบอกล่วงหน้าถ้าบอกไปเค้าก็จะบอกเราว่าชวนน้องมาด้วยสิชวนแม่มาด้วยสิเราก็ไม่กล้าปฏิเสธ เค้าคุ้นชินกับการอยู่หลายหลายคนรวมรวมกันโดยที่ใครอยากทำอะไรก็ทำเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้แต่เราเลือกมาอยู่กับเขาเพียงเพราะว่าอยากลองใช้ชีวิตกับเขาแค่สองคนมันกลับไม่เป็นแบบที่คิด วันไหนที่เราตัดสินใจที่จะพูดกับเขาตรงตรงว่าเราจะออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกนะ เค้าก็คิดตัดพ้อไปว่าพอห่างกันคนที่อยู่ที่เดิมคือเค้า ส่วนเราก็ออกไปใช้ชีวิตใหม่ แล้วมองในมุมที่ปัญหาที่เราทั้งคู่เจอในปีนี้พ่อแฟนเราเสียซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวต่อไปก็คงจะเหลือแค่แฟนเราที่เป็นที่พึ่งให้กับทุกคนได้ ทุกคนช่วยเหลือตัวเองได้นะ แต่เค้าไม่ทำต้องรอแฟนเราติดสินใจทั้งๆที่บ้างทีก้เป้นปัญหาของตัวเอง แรกๆก้คิดว่าคงเป็นแค่ช่วงเวลานึง ผ่านไป 3-5 ปี ทุกคนก้ยังเป็นเหมือนเดิม ยิ่งแย่กว่าเดิมยิ่งสนิทยิ่งพูดยาก ทำอะไรก้ไม่ค่อยจะเกรงใจกัน เรากับแฟนก็เหมือนคนคนเดียวกัน อยู่ข้างข้างกันให้กำลังใจกันผ่านทุกๆอย่างมาด้วยกันเรารักเขามากนะแต่ความสุขล่ะ เราแทบไม่มีเลย สิ่งที่แฟนเราต้องแบกรับตอนนี้เพิ่มขึ้นมาคูณสองชีวิตคู่เราก็ยากขึ้น  เราเคยรักเขามากๆเพราะเขาเป็นคนรักครอบครัวเขาดูแลที่บ้านเขาและบ้านเราดีมาก แต่แม่เราพูดเสมอว่าถ้ามีครอบครัวแล้วต้องแยกออกมาอยู่กันสองคนเพื่อจะได้ลองใช้ชีวิตคู่แค่เรา 
แต่ทุกๆอย่างที่แฟนเราตัดสินใจมันไม่ได้มีแค่เรามันคือครอบครัวเขาซะส่วนใหญ่เราแทบไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอะไรเลยเพียงเพราะว่าแค่ความเห็นก็ต่างแล้วอาจจะเป็นเพราะเราโตมาต่างกันถูกเลี้ยงดูมาคนละแบบมั้ง ไม่แน่ใจเหมือนกัน  ลังเลกับชีวิตตอนนี้มากทั้งทั้งที่โคตรรักเค้าเลย  รักมากจริงๆ แต่ก็แอบคิดว่าแค่รักมันคงไม่พอจริงๆใช่ไหมกับสิ่งที่เราเจอตอนนี้ทำไมมันทำให้อึดอัดและหน่วงไปหมด ไม่รู้จะต้องทำยังไงไม่รู้ว่าถอยตอนนี้ยังทันไหมหรือถ้าก้าวต่อไปความสุขเราจะหายไปตลอดกาลเลยหรือเปล่า …
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่