ประสบการณ์ยุติการตั้งครรภ์ในวัย 23 ปี ( ท้องไม่พร้อม )

เราอยากมาเล่าประสบการณ์ชีวิตที่เกิดขึ้นและเหตุผลที่ทำให้เราตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์
   * ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่เราเด็ก เหตุเกิดจากพ่อเราเป็นคนชอบเที่ยวมากๆ และไปเจอกับแม่ที่ร้านคาราโอเกะ ทั้งคู่ได้มีความสัมพันธ์และมีเรามา จนเราโตมาเรื่อยๆ แม่ก็ทิ้งไปตอน 2 ขวบ โดยเอามาไว้ที่หน้าบ้านให้เราเดินไปหาพ่อเอง ( พ่อเล่าให้ฟัง ) และหลังจากนั้นแม่ก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย พ่อเราเป็นคนทำงานต่างจังหวัด เดินทางบ่อย บวกกับมีแฟนใหม่ที่ไม่ค่อยจะถูกกับทางบ้านเรา ในครอบครัวเราจะเหลือแค่ปู่ พ่อ ส่วนย่าเสียชีวิตตั้งแต่เรายังไม่เกิด ช่วงประถมปู่เราก็เสียไป ทั้งชีวิตเลยเหลือพ่อแค่คนเดียวแต่เราโตมาโดยที่ไม่ได้อยู่กับพ่อเพราะพ่อให้เหตุผลว่ามันลำบากที่จะอยู่กับเขาแต่ความจริงแล้วเขาเลือกแฟนเขามากกว่าเรามาตลอด พ่อมักจะให้เราไปอยู่กับคนที่ไม่ใช่ญาติ ( แค่คนรู้จัก ) ไปฝากเลี้ยง เราเปลี่ยนที่อยู่มาหลายที่มากๆ 3-4 ที่ได้ แต่ละที่ก็เลี้ยงดูเราแตกต่างกันไป มีทั้งลำบากมากกับที่ที่อยู่แล้วสบายใจ ซึ่งคนพวกนั้นก็เป็นผู้มีพระคุณกับเราเป็นเพราะเขาเอ็นดูและสงสาร ตั้งแต่จำความได้พ่อไม่เคยส่งเสียหรือเลี้ยงดูเราจากเงินที่เป็นเงินของเขาจริงๆ ไม่ว่าจะเสื้อผ้านักเรียน รองเท้า ค่าเทอม ค่ากิน เงินล้วนมาจากคนรอบข้างที่เขาสงสารและเห็นใจ เราโตมาเรื่อยๆยิ่งโตมากก็ยิ่งเจ็บปวด เวลาที่พ่อบอกว่าถ้าจบ ป.6 แล้วจะให้ไปอยู่ด้วย จบม.3 จะให้อยู่ด้วยแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เราได้ไปอยู่กับพ่อ พ่อเลี้ยงเราทางโทรศัพท์ โทรมาถามแต่ละครั้งแค่ว่าทำอะไรอยู่ กินอะไรหรือยัง แต่ไม่เคยถามว่าเรามีเงินใช้ไหม เป็นยังไงบ้าง แต่ถึงเราจะเจ็บปวดแต่เราก็ไม่เคยเอาตรงนี้มาเป็นปมในชีวิต เรายังตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน พยายามจะเติบโตให้ดีที่สุด จนโตขึ้นมาได้ช่วงมหาลัย เราลองตามหาแม่โดยเสิร์ชชื่อจริงใน Facebook ก็เจอแม่จริงๆ เราทักติดต่อไปหลายข้อความกว่าเขาจะตอบกลับมา พอได้คุยเราก็ดีใจมากที่แม่ยังจำได้ว่าคือเราแต่คือคุยกันได้ไม่กี่ประโยคแม่ก็อ่านไม่ตอบทั้งๆที่เราถามว่าเขาสบายดีไหม ตอนนั้นก็คิดว่าไม่เป็นไร แต่ก็แอบคิดว่าแม่ไม่ดีใจเลยหรอที่เราติดต่อมาทั้งที่มันก็ผ่านมาจนเราอายุ 20 กว่าปีแล้ว แต่เราก็พยายามคิดว่าอย่างน้อยก็ยังได้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เราเลยมาเล่าให้พ่อฟัง เราเลยรู้ความจริงว่าพ่อกับแม่ไม่ได้อยากมีเราตั้งแต่แรกมันเกิดจากความผิดพลาด และแม่ไม่อยากมีเราขนาดที่ว่าตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ก็ไม่กินบำรุงไม่ดูแลเรา ตอนนั้นเราเลยเข้าใจว่าทำไมแม่ถึงไม่ปฏิกิริยาอะไรตอนที่คุยกัน พอรู้เรื่องนี้มันเลยทำให้เกิดปมในใจขึ้นไปอีก มันมีหลายแว๊บมากๆที่เราพูดกับตัวเองว่าเราไม่อยากเกิดมาเลย ถึงเราจะเข้มแข็งแต่เราก็ไม่อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ แบบที่ถูกทิ้งขว้างและไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตัวเอง

  * พอเราเรียนใกล้จบ พ่อกับแฟนใหม่เขาก็มักจะชอบถามเราว่า เรียนจบแล้วจะได้รับราชการเลยไหม เป็นราชการก็จะเบิกให้พ่อได้เวลาเจ็บป่วย แต่เราก็คิดมาตลอดว่าพ่ออาจจะทำให้เราเกิดมาก็จริง แต่พ่อไม่เคยส่งเสียทั้งค่ากินและเรียน แต่พอเราจะเรียนจบพ่อก็คิดเรื่องนี้แล้ว คนที่เราควรตอบแทนจริงๆคือพวกคนที่เขาเลี้ยงเรามา

* แต่ประเด็นมันเกิดตรงนี้ เราอายุได้ 23 มีแฟนคบกันมาได้ 1 ปีกว่าๆ แต่ก็เลิกกัน โดยที่ยังติดต่อกันเพราะมันตัดกันไม่ขาดสักที เรามีพสพ.เหมือนคู่รักปกติทั่วไปที่ป้องกัน โดยใส่ถุงยางและกินยาคุมตลอด จนมีช่วงนึงที่ประจำเดือนเราหายไป ตอนนั้นเราก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะเรากินยาคุมเยอะ กินทุกเดือนทำให้ระบบร่างกายพัง บวกกับไม่มีอาการ และเราเป็นคนผอมมากไม่แข็งแรงเลยไม่ได้เอะใจว่าเราท้อง จนผ่านมาเรื่อยๆ เราลองไปซื้อที่ตรวจตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรแค่อยากลองตรวจเฉยๆ แต่ถึงกับตาค้างเพราะมันขึ้น 2 ขีดไวมาก เราตรวจ 2 รอบขึ้น 2 รอบ ตอนนั้นเรารู้แล้วว่าเราคงท้องจริงๆ แต่มันไม่มีเวลาให้เราช็อค หรือร้องไห้ ปัญหามันอยู่ตรงหน้าแล้วเราต้องรีบแก้มัน เลยรีบไปหาหมอเพื่อจะยุติการตั้งครรภ์ทันที ตอนแรกเราคิดว่าเราคงท้องแค่ 2-3 เดือนเพราะเราลองนับช่วงที่ประจำเดือนหายไปมันประมาณนั้น แต่ถึงกับช็อคกว่าเดิมเพราะหมอบอกเราท้อง 5 เดือนได้แล้ว ตอนนั้นเราก็ปรึกษากับฝ่ายชายว่าเราคงไม่ได้เก็บไว้ เพราะเราไม่พร้อมด้วยกันทั้งคู่ และสถานะตอนนั้นเราก็ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว จากพื้นฐานครอบครัวที่เราเล่ามันทำให้เราไม่พร้อมเลี้ยงเขาจริงๆ เราไม่รู้ว่าเขาเกิดมาแล้วชีวิตจะเป็นยังไง เรายังไม่มีเงินที่จะซับพอร์ตเด็กคนๆนึง ยังไม่มีเวลา และเราไม่อยากให้ลูกเกิดมาลำบากแบบเรา แม้เราจะคิดว่าเราอาจจะทนลำบากเลี้ยงเขาได้ แต่เรามองว่าเลี้ยงได้กับเลี้ยงให้ดีมันต่างกัน สุดท้ายเราก็ไปปรึกษาหมอยุติการตั้งครรภ์ บอกเลยว่าเป็นความทรมาณและบทเรียนใหญ่ที่สุดในชีวิตของเรา จำทุกวินาทีที่อยู่ในโรงพยาบาลได้ว่ามันทรมาณแค่ไหน แต่ถึงเราจะไม่ได้เอาเขาไว้แต่เราก็รู้สึกว่าเรารักเขา แต่แค่เราไม่พร้อมจริงๆที่จะให้เกิดมาในสถานะที่เรายังเป็นแบบนี้ เรายังต้องเก็บเงินเพื่อที่จะออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ( ปัจจุบันเรายังอยู่กับคนที่พ่อฝากเลี้ยงอยู่ ) ตอนนี้เรายังอยู่กับรู้สึกผิดที่เราปล่อยให้เขาเกิดมาและอยู่นานขนาดนี้ โดยที่เราไม่รู้จริงๆว่ามีเขา ท้องมา 5 เดือนแต่เรายังท้องไม่โตไม่เหมือนคนที่ท้อง 5 เดือนเลย เรายังใช้ชีวิตวัยรุ่นปกติผ่านมาหลายเหตุการณ์มากๆ  ถือว่าลูกเราสู้ชีวิตที่ไม่แท้งไปซะก่อน ตอนนี้เรายุติการตั้งครรภ์เรียบร้อยแล้วแบบถูกกฎหมายและปลอดภัย เราตั้งใจว่าจะทำบุญให้เขาบ่อยๆ และหวังให้เขาเข้าใจเรามากที่สุดว่าเรารักนะ แต่คำว่ารักมันไม่พอที่จะเลี้ยงเด็กคนๆนึงให้เติบโต ถึงแม้เราจะเสียใจที่ทำแบบนี้แต่เราคิดว่ามันคงดีที่สุดถ้าให้เขาเกิดมาแล้วต้องเจ็บปวดในอนาคต

 * สุดท้ายเราแค่อยากมาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง อยากให้ทุกคนเคารพในการตัดสินใจของเรา และอยากเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่ท้องไม่พร้อม ไม่ต้องกังวลว่ามันจะแย่ไหม ตัวเรารู้ดีที่สุดว่าเราควรเลือกทางไหน ขอเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนที่ท้องไม่พร้อม เด็กควรได้เกิดมาในที่ที่สมบูรณ์ทุกคน ลูกเลือกเกิดไม่ได้แต่เราเลือกได้ว่าเขาควรมีคุณภาพชีวิตแบบไหน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่