- ค่าบ้าน 40,000 ต่อเดือน
- ค่ารถ 13,000 ต่อเดือน
- ค่าเงินเดือนภรรยา 30,000 ต่อเดือน (เราตั้งใจให้เลย เพราะงานดูแลลูก+บ้าน เราคิดว่าเหนื่อยมาก)
- ค่าประกันลูก+รถ+ชีวิต 20,000 ต่อเดือน
- ค่าลดหย่อนภาษี 30,000 ต่อเดือน
- ค่าเทอมลูกในอนาคต 25,000 ต่อเดือน (แพลน english program ร.ร.เอกชน)
- ค่าใช้จ่ายกองกลางในบ้าน 20,000 ต่อเดือน
- เงินใช้จ่ายส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
- เงินออมส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
4 ม.ค. 67 หมอหนุ่มไม่ระบุตัวตน โพสต์ระบายในกลุ่ม "โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย" ซึ่งเป็นกลุ่มคนไทยที่อยากย้ายประเทศ โดยระบุ เป็นหมอเฉพาะทาง เงินเดือน 2.2 แสนบาท แต่ก็ยังไม่พอใช้ เพราะมีค่าใช้จ่ายยุบยิบ จวก สวัสดิการรัฐไม่หนุน อยากย้ายประเทศหนี
.
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบายความในใจ พร้อมเหตุผลที่อยากย้ายประเทศ เพราะทำงานเท่าไหร่ ก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย แม้จะมีรายได้เดือน 2.2 แสน ก็ตาม โดยระบุว่า
.
"เราอยากย้ายประเทศมากๆ อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองดู ที่ไหนก็ได้ที่อาจไปได้ ติดอย่างเดียวคือภรรยาไม่เอาด้วยเลย เขาไม่อยากไป เราเลือกเขาแล้ว ก็ต้องอยู่ด้วยกันไป แต่เรามองชีวิตทุกวันนี้แล้วเราซึมๆ ยังไงไม่รู้
.
รู้สึกแค่ว่าทำงานเท่าไหร่ ก็ไม่เพียงพอที่จะได้คุณภาพชีวิตที่ดี เราเป็นแพทย์เฉพาะทาง รายได้ประมาณ 220K ต่อเดือน มีลูก 1 คน ภรรยาที่ลาออกมาดูลูก fulltime แต่พอแจกแจงรายละเอียดต่อเดือนแล้ว เราแทบไม่เหลือเงินพอต่อเดือนที่จะทำตามฝันตัวเองได้
.
- ค่าบ้าน 40,000 ต่อเดือน
- ค่ารถ 13,000 ต่อเดือน
- ค่าเงินเดือนภรรยา 30,000 ต่อเดือน (เราตั้งใจให้เลย เพราะงานดูแลลูก+บ้าน เราคิดว่าเหนื่อยมาก)
- ค่าประกันลูก+รถ+ชีวิต 20,000 ต่อเดือน
- ค่าลดหย่อนภาษี 30,000 ต่อเดือน
- ค่าเทอมลูกในอนาคต 25,000 ต่อเดือน (แพลน english program ร.ร.เอกชน)
- ค่าใช้จ่ายกองกลางในบ้าน 20,000 ต่อเดือน
- เงินใช้จ่ายส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
- เงินออมส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
.
อันนี้ยังไม่รวมภาษีที่ต้องจ่ายต่อปีอีกประมาณ 60,000 บาท เราโชคดีที่พ่อแม่ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย ท่านดูแลตัวเองได้ เราประหยัด ใช้รถไม่แพง ไม่มีของแบรนเนม เลิกคิดเรื่องไปเที่ยวไกล ๆ เพราะว่าต้องดูแลครอบครัวก่อน
.
เราเชื่อว่านี่เป็น ค่าใช้จ่ายที่ทุกคนจะต้องเจอ เรารู้สึกว่าประเทศเราไม่มีสวัสดิการใด ๆ จะมา support ช่วยเราให้ชีวิตง่ายขึ้นคุ้มกับภาษีที่เสียไปเลย
.
– เราต้องเสียเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวไปบนท้องถนนมากเท่าไหร่ต่อวัน
– การมีลูกที่เราต้องดูแลลูกเองทุกอย่าง การเจ็บป่วย ที่ใครมีลูกเล็กจะรู้เลยว่าการไปรอคิวนานๆ ไม่สามารถทำได้จริง วัคซีนที่ดี ๆ ที่เราต้องจ่ายเองเพิ่ม รวมถึงการศึกษาของลูกซึ่ง ร.ร.รัฐที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงไม่เพียงพอต่ออนาคตลูก การลาคลอดของแม่ที่ได้เพียงแค่สามเดือน แล้วหลังจากนั้นต้องโดนกึ่งบังคับกลับไปทำงานต่อ ทั้ง ๆ ที่นมแม่ควรจะให้ลูกถึง 6 เดือน
– ค่าบ้านในกรุงเทพซึ่งเป็นปัจจัย 4 ซึ่งแพงจนเราคิดว่า มันไม่สมดุลกับรายได้คนส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก แพงโดยไร้การควบคุมใด ๆ
– ภาษีที่ต้องจ่ายไป ต้องหารายได้มาลดหย่อนให้มากที่สุด เพราะรู้สึกไม่คุ้มที่จะจ่าย ข่าวโกงกินเยอะมาก ข่าวกู้เงินมาแจก คนที่ไม่เคยคิดจะเสียภาษี แล้วเราต้องเป็นหนี้โดนเงินที่จ่ายไป จะไม่ได้นำมาทำให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้
– เราว่าขนาดเราหารายได้ได้เยอะระดับนึง ยังคิดว่าเราเหนื่อยเลย ที่ต้องดูแลครอบครัวแบบนี้ แบบที่เราตั้งใจจะทำให้ได้ แล้วคนอีกตั้งเยอะที่เขาได้ไม่เยอะเท่าเรา เขาจะลำบากอีกแค่ไหน
.
เห็นกระทู้คนย้ายสำเร็จทุกครั้ง ก็ได้แต่ดีใจด้วย ยิ่งได้อ่านสวัสดิการของประเทศอื่นที่ดี ๆ ก็ได้ยิ่งดีใจกับคนนั้นไปใหญ่ ว่าเค้าจะได้เบาแรงลง หาเงินได้ ดูแลครอบครัวได้ มีเงินเก็บมากขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ยินดีกับทุกคนที่ย้ายได้สำเร็จจริง ๆ ครับ........"
.
ภายหลังจากที่มีการแชร์เรื่องนี้ออกไปยังโลกโซเชียลนอกกลุ่ม ชาวเน็ตได้พากันวิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อน รวมถึงมีการเทียบกับผู้ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันของไทย อาทิ "เมื่อหมอบ่น อยากย้ายประเทศ เพราะไทยค่าใช้จ่ายสูงว่าแต่ หมอ รู้หรือยัง ว่าใบประกอบโรคศิลป แต่ละประเทศใช้แทนกันไม่ได้" , "ประเทศไทยคือประเทศที่แย่ที่สุดในโลก
https://www.nationtv.tv/news/social/378938385
https://www.facebook.com/100072192645056/posts/pfbid02u5VFb5V4qLGi3d4h5hCoBctgDsA5c79qhghrDe6DbjDDxHVKwRzg2B6aEe9eothvl/?mibextid=NOb6eG
มีใครได้มากกว่านี้มั้ย! หมอหนุ่ม เงินเดือน 2.2 แสน ไม่พอใช้ บ่น อยากย้ายประเทศ
- ค่ารถ 13,000 ต่อเดือน
- ค่าเงินเดือนภรรยา 30,000 ต่อเดือน (เราตั้งใจให้เลย เพราะงานดูแลลูก+บ้าน เราคิดว่าเหนื่อยมาก)
- ค่าประกันลูก+รถ+ชีวิต 20,000 ต่อเดือน
- ค่าลดหย่อนภาษี 30,000 ต่อเดือน
- ค่าเทอมลูกในอนาคต 25,000 ต่อเดือน (แพลน english program ร.ร.เอกชน)
- ค่าใช้จ่ายกองกลางในบ้าน 20,000 ต่อเดือน
- เงินใช้จ่ายส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
- เงินออมส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
4 ม.ค. 67 หมอหนุ่มไม่ระบุตัวตน โพสต์ระบายในกลุ่ม "โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย" ซึ่งเป็นกลุ่มคนไทยที่อยากย้ายประเทศ โดยระบุ เป็นหมอเฉพาะทาง เงินเดือน 2.2 แสนบาท แต่ก็ยังไม่พอใช้ เพราะมีค่าใช้จ่ายยุบยิบ จวก สวัสดิการรัฐไม่หนุน อยากย้ายประเทศหนี
.
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบายความในใจ พร้อมเหตุผลที่อยากย้ายประเทศ เพราะทำงานเท่าไหร่ ก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย แม้จะมีรายได้เดือน 2.2 แสน ก็ตาม โดยระบุว่า
.
"เราอยากย้ายประเทศมากๆ อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองดู ที่ไหนก็ได้ที่อาจไปได้ ติดอย่างเดียวคือภรรยาไม่เอาด้วยเลย เขาไม่อยากไป เราเลือกเขาแล้ว ก็ต้องอยู่ด้วยกันไป แต่เรามองชีวิตทุกวันนี้แล้วเราซึมๆ ยังไงไม่รู้
.
รู้สึกแค่ว่าทำงานเท่าไหร่ ก็ไม่เพียงพอที่จะได้คุณภาพชีวิตที่ดี เราเป็นแพทย์เฉพาะทาง รายได้ประมาณ 220K ต่อเดือน มีลูก 1 คน ภรรยาที่ลาออกมาดูลูก fulltime แต่พอแจกแจงรายละเอียดต่อเดือนแล้ว เราแทบไม่เหลือเงินพอต่อเดือนที่จะทำตามฝันตัวเองได้
.
- ค่าบ้าน 40,000 ต่อเดือน
- ค่ารถ 13,000 ต่อเดือน
- ค่าเงินเดือนภรรยา 30,000 ต่อเดือน (เราตั้งใจให้เลย เพราะงานดูแลลูก+บ้าน เราคิดว่าเหนื่อยมาก)
- ค่าประกันลูก+รถ+ชีวิต 20,000 ต่อเดือน
- ค่าลดหย่อนภาษี 30,000 ต่อเดือน
- ค่าเทอมลูกในอนาคต 25,000 ต่อเดือน (แพลน english program ร.ร.เอกชน)
- ค่าใช้จ่ายกองกลางในบ้าน 20,000 ต่อเดือน
- เงินใช้จ่ายส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
- เงินออมส่วนตัว 15,000 ต่อเดือน
.
อันนี้ยังไม่รวมภาษีที่ต้องจ่ายต่อปีอีกประมาณ 60,000 บาท เราโชคดีที่พ่อแม่ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย ท่านดูแลตัวเองได้ เราประหยัด ใช้รถไม่แพง ไม่มีของแบรนเนม เลิกคิดเรื่องไปเที่ยวไกล ๆ เพราะว่าต้องดูแลครอบครัวก่อน
.
เราเชื่อว่านี่เป็น ค่าใช้จ่ายที่ทุกคนจะต้องเจอ เรารู้สึกว่าประเทศเราไม่มีสวัสดิการใด ๆ จะมา support ช่วยเราให้ชีวิตง่ายขึ้นคุ้มกับภาษีที่เสียไปเลย
.
– เราต้องเสียเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวไปบนท้องถนนมากเท่าไหร่ต่อวัน
– การมีลูกที่เราต้องดูแลลูกเองทุกอย่าง การเจ็บป่วย ที่ใครมีลูกเล็กจะรู้เลยว่าการไปรอคิวนานๆ ไม่สามารถทำได้จริง วัคซีนที่ดี ๆ ที่เราต้องจ่ายเองเพิ่ม รวมถึงการศึกษาของลูกซึ่ง ร.ร.รัฐที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงไม่เพียงพอต่ออนาคตลูก การลาคลอดของแม่ที่ได้เพียงแค่สามเดือน แล้วหลังจากนั้นต้องโดนกึ่งบังคับกลับไปทำงานต่อ ทั้ง ๆ ที่นมแม่ควรจะให้ลูกถึง 6 เดือน
– ค่าบ้านในกรุงเทพซึ่งเป็นปัจจัย 4 ซึ่งแพงจนเราคิดว่า มันไม่สมดุลกับรายได้คนส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก แพงโดยไร้การควบคุมใด ๆ
– ภาษีที่ต้องจ่ายไป ต้องหารายได้มาลดหย่อนให้มากที่สุด เพราะรู้สึกไม่คุ้มที่จะจ่าย ข่าวโกงกินเยอะมาก ข่าวกู้เงินมาแจก คนที่ไม่เคยคิดจะเสียภาษี แล้วเราต้องเป็นหนี้โดนเงินที่จ่ายไป จะไม่ได้นำมาทำให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้
– เราว่าขนาดเราหารายได้ได้เยอะระดับนึง ยังคิดว่าเราเหนื่อยเลย ที่ต้องดูแลครอบครัวแบบนี้ แบบที่เราตั้งใจจะทำให้ได้ แล้วคนอีกตั้งเยอะที่เขาได้ไม่เยอะเท่าเรา เขาจะลำบากอีกแค่ไหน
.
เห็นกระทู้คนย้ายสำเร็จทุกครั้ง ก็ได้แต่ดีใจด้วย ยิ่งได้อ่านสวัสดิการของประเทศอื่นที่ดี ๆ ก็ได้ยิ่งดีใจกับคนนั้นไปใหญ่ ว่าเค้าจะได้เบาแรงลง หาเงินได้ ดูแลครอบครัวได้ มีเงินเก็บมากขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ยินดีกับทุกคนที่ย้ายได้สำเร็จจริง ๆ ครับ........"
.
ภายหลังจากที่มีการแชร์เรื่องนี้ออกไปยังโลกโซเชียลนอกกลุ่ม ชาวเน็ตได้พากันวิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อน รวมถึงมีการเทียบกับผู้ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันของไทย อาทิ "เมื่อหมอบ่น อยากย้ายประเทศ เพราะไทยค่าใช้จ่ายสูงว่าแต่ หมอ รู้หรือยัง ว่าใบประกอบโรคศิลป แต่ละประเทศใช้แทนกันไม่ได้" , "ประเทศไทยคือประเทศที่แย่ที่สุดในโลก
https://www.nationtv.tv/news/social/378938385
https://www.facebook.com/100072192645056/posts/pfbid02u5VFb5V4qLGi3d4h5hCoBctgDsA5c79qhghrDe6DbjDDxHVKwRzg2B6aEe9eothvl/?mibextid=NOb6eG