[CR] นั่งรถไฟเที่ยว จากด่านปาดังเบซาร์ฝั่งไทยไปปีนัง (ไม่มีรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว แต่เน้นวิธีการเดินทาง)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. ขอเกริ่นนำก่อนว่าปกติแล้วจะมีรถไฟจากหาดใหญ่ไปลงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเล) ได้เลย คนละ 50 บาทต่อเที่ยว ไป 2 รอบ กลับ 2 รอบต่อวัน พอมาถึง รถไฟจะจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) แต่เราไม่ต้องลง ให้นั่งต่อไป รถไฟจะไปจอดส่งที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเล) จากนั้นเราจะทำการ  Job Passport ที่สถานีรถไฟได้เลย เดินไปตามทางที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ทั้งขาเข้า-ขาออกไทย-มาเล จะมีจุดบริการอยู่ที่นี่เลย  
 
 

2. กรณีมาไม่ทันรอบรถไฟ ปกติจากหาดใหญ่ก็จะมีรถตู้สายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ จาก บขส. หาดใหญ่ มาส่งเราที่หน้าด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) ได้ ค่าโดยสาร 60 บาทต่อเที่ยว ขากลับเราสามารถโทรให้รถตู้มารับเราที่หน้าด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) ไปส่งที่หาดใหญ่ได้ รถออกจากหาดใหญ่ 06:00 – 18:00, ออกจากปาดังเบซาร์ 06:00 – 17:00 
ด่านชายแดนปาดังเบซาร์ เปิดทำการ 05:00-21:00 ตามเวลาไทย 


3. สำหรับผม เนื่องจากรอบรถไฟมีจำกัด ไม่ค่อยสะดวก จึงขับรถยนต์ไปเอง ไปจอดแถวๆหน้าด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) แล้วเดินเข้าไปแทน
ปัญหาคือต้องหาที่จอดรถไว้ ขอแนะนำที่จอดดังนี้
1. มีร้านรับฝากรถแถวๆหน้าด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) ชื่อ เอ ประกันภัย&รับฝากรถรายวัน โทร 0935839586 รถยนต์วันละ 80 บาท (24hr)
2. แถวหน้าด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) จะมีที่จอดรถกลางแจ้งของเจ้าหน้าที่ ตม.   เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถจอดรถทิ้งไว้ได้ ให้จอดทำธุระได้ชั่วคราวเท่านั้น
3. ของผมจะเข้าไปเที่ยว One Day Trip และไม่อยากเสียค่าจอดรถ เลยหาที่จอดริมถนนแถวๆนั้น พอจะมีที่จอดใต้ร่มต้นไม้ให้จอด บริเวณนั้นจะมีรถพ่วงจอดอยู่เยอะ แต่ก็พอมีที่ว่างให้จอดได้ ตามวงสีเขียว


4. การที่จะเดินจากด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) เพื่อไปขึ้นรถไฟมันไกลมาก ไม่แนะนำให้เดิน เนื่องจากผมไม่ทราบว่า ทางขึ้นรถไฟตรงหน้าด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเล) ปิดมานานแล้วตั้งแต่ปี 2020 และยังไม่มีแพลนเปิด เลยลองเดินดู สรุปเดินไกลมากประมาณ 3 กิโล เพิ่งมาทราบตอนจะกลับว่ามีวินบริการ ขากลับเลยใช้วินแทน ในข้อที่ 5
ถ้าดูจาก map สีแดง คือทางเชื่อมปิด อนาคตถ้ากลับมาเปิดเหมือนเเดิม จะสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวมาก เราสามารถเดินจากด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) ผ่าน ตม. ทั้ง 2 ประเทศ และเดินขึ้นทางเชื่อมไปขึ้นรถไฟไปได้เลย ถ้าแบบนี้คือไม่ไกล เดินได้สบายๆ
แต่ปัจจุบัน ถ้าจะเดินต้องเดินตามสีเขียว ประมาณ 3 กิโล เพราะต้องไปอ้อมเพื่อไปขึ้นอีกฝั่งของสถานี คุณสามารถไปดูวิธีการเดินจากคลิป บอลยอดเที่ยวปีนังประกอบได้ สภาพเดียวกับผมเลย ต้องเดินลอดทางรถไฟต่างๆ เหนื่อยมากๆ



5. ขอแนะนำวิธีการเข้าไป โดยใช้วินมอเตอร์ไซด์ชาวบ้านแถวๆนั้น เขาจะยืนรอตามกรอบสีเขียว แต่งกายปกติ ไม่ได้ใส่เสื้อวิน 
ค่าโดยสารมอเตอร์ไซด์ 100 บาทต่อคน จากด่านปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) เขาจะขับพาเราไป Job Passport ทั้งออกฝั่งไทย และเข้าฝั่งมาเล เพราะพี่ๆวินเขาจะต้อง Job Passport เหมือนกัน ส่วนรถเขาจะลงทะเบียนกับ ตม. ไว้แล้ว จากนั้นจะพาเราไปส่งถึงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเล) เลย บอกเลยราคานี้คุ้มค่าแล้ว ขากลับก็จะมีพี่วินจอดรอบริการหน้าสถานีรถไฟ จนรถไฟปิดให้บริการ พี่ๆวินจะมีทั้งคนไทยและคนมาเลมาบริการ เราเลือกใช้บริการอันไหนก็ได้ ราคาเท่ากัน ส่วนเงินจะรับได้ทั้งบาทและริงกิต
กรณีไปหลายคนจะมีเป็นรถแท๊กซี่ เหมือนรถยนต์ปกติทั่วไป เขาจะขับพาเราไป Job Passport เหมือนรถมอเตอร์ไซด์ คันละ 300 บาท นั่งได้ 4-6 คน 
สามารถถามใช้บริการได้จากพี่วิน เพราะเขาเป็นทีมงานเดียวกัน


6. ตารางรถไฟอัพเดตปัจจุบัน จากสถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเล) - Butterworth
ค่าโดยสาร 80-90 บาทต่อเที่ยว(ขึ้นอยู่กับค่าเงิน)
ตั๋วโดยสารซื้อจากตู้ สามารถใช้บัตรเครดิตได้, ซื้อจากพนักงาน ต้องใช้เงินสดริงกิต
 

7. และสามารถนั่งรถไฟ จากสถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเล) ไป KL ได้เช่นกัน


8. สำหรับสัญญาณมือถือ บริเวณที่วงไว้ สามารถใช้สัญญาณไทยได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นไม่ได้รีบเปลี่ยนซิม ค่อยไปเปลี่ยนที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเล) ก็ได้ (ผมใช้ของทรู) ผมสมัครแพ็กเกจ TRAVEL NEIGHBORING COUNTRIES 2 GB ใช้ได้ 15 วัน ราคา 99 บาท เนื่องจากเป็นการเที่ยว One Day Trip
หรือถ้ายังไม่มีซิม ให้พี่วินช่วยแวะจอดเซเว่นให้ก็ได้ แวะซื้อซิม ร้านอยู่ใกล้ๆกับร้านแลกเงิน



9. มีร้านแลกเงิน Chop Soon Sheng Sdn. Bhd. (Money Changer) อยู่ตรงหน้าด่านฝั่งมาเลเซีย สามารถให้พี่วินจอดแวะ ขอแลกเงินได้
หรือเสริจชื่อร้านจาก Google Map  สำหรับเหรียญให้ใช้ให้หมดที่มาเลเซีย เพราะร้านแลกเงินฝั่งไทยจะไม่รับแลกคืน  แต่ถ้าขากลับแวะร้านนี้สามารถแลกเหรียญคืนได้ เพราะเป็นร้านอยู่ในฝั่งมาเลเซีย


10. เมื่อไปถึงสถานีรถไฟ Butterworth แล้ว พอออกมาจากจุดสแกนตั๋วให้เลี้ยวซ้ายตามลูกศรสีเขียว จะเร็วกว่า สะดวกกว่า จะไปเจอร้านขายของชำ ก็ให้เดินไปตามทางเรื่อยๆ จนไปถึงจุดขึ้นเรือ เป็นทางเดินไปขึ้นเรือโดยเฉพาะ 
ถ้าเลี้ยวขวาก็ไปได้เหมือนกัน จะไปบรรจับกับลูกศรสีเขียวทางขึ้นเรือ แต่ทางเดินจะไกลกว่า ซับซ้อนกว่า พอเลี้ยวขวาไปแล้ว ต้องลงลิฟต์ไปข้างล่าง ออกจากตัวสถานีเลี้ยวซ้าย ไปตามทาง ข้ามถนน ไปขึ้นลิฟต์ เพื่อขึ้นไปในห้าง แล้วไปทางเข้าเรือ 


11. ค่าเรือ Ferry คนละ 2RM ต่อเที่ยว ใช้บัตรเครดิตเท่านั้น ไม่รับเงินสด เพื่อข้ามไปเมืองปีนัง
--- จบการรีวิวครับ ---
 
ชื่อสินค้า:   เที่ยวปีนังด้วยตัวเอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่