ถ้าเราจะใช้เหตุผลนี้ในการขออนุญาตพกพาอาวุธปืนอย่างถูกกฎหมาย ผมแจ้ง 191 ไป 24 ครั้งแล้ว แจ้ง สภ. ชลบุรี 4 ครั้ง มีใบแจ้งความ 3 ใบ มีครั้งนึกพูดแค่ 2-3 ประโยค ร้อยเวรบอกว่าผมว่าพี่ใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า เด๋วลุมพินีเค้าจะฟ้องเอาได้ พี่เอานามบัตรผมไปก็แล้วกัน
ขอบคุณที่ประเทศนี้ยังมีตำรวจดีๆ อยู่อีกเยอะ (แต่นามบัตรดังกล่าวโดนช่างแอร์แอบหยิบติดมือไปแล้ว แกล้งวางไว้บนโต๊ะกินข้าว หันหลังทำงานสักพัก หันกลับมา อ้าว หายซะแล้ว 5555 ของเค้าดีจริงๆ!!! ผมนี่แอบนั่งอมยิ้มไม่หุบเลย)
ตำรวจเลวที่คอยรับใช้พวกนี้ก็ดูเหมือนจะมีไม่น้อยเช่นกัน อยู่แถวๆ นี่แหละ น่าจะอยู่ในคอนโดเลย แต่ไม่รู้คนไหน พวกนี้ใช้ยามของคอนโดเป็นเครื่องมือ คอยสอดแนม คอยคุกคาม คอยเฝ้าเพื่อบอกเวลาเข้าออกของผม เพื่อให้คนกลุ่มนี้ตามคุกคาม มีการใช้รถหลายสิบค้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา ใช้ทั้งไรเดอร์ ทั้งเทศกิจ ทั้งตำรวจเนื้อร้ายบางคน (ปัจจุบันได้รับการอวยยศจากหมวดเป็นสารวัตรแล้ว แต่ดูเหมือนจะถอนตัวไปแล้ว คงเริ่มรู้ว่าถูกหลอกใช้ ปัจจุบันอยู่ สภ.ระยอง) และรถยนต์ มีการเปลี่ยนทะเบียนไปมาตลอด ล่าสุดหัวหน้ายามขึ้นไปดักผมบนลานจอดรถชั้น 8 ซึ่งมันค่อนข้างเปลี่ยว โดยเฉพาะตอนดึกๆ
นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ผมต้องการพกปืนอย่างถูกกฎหมาย
ในรถผมมีติดจีพีเอสติดตาม แต่ผมหาไม่เจอ คิดว่าคงโดนฝังไว้ในเครื่องเลย
ในห้องผมมีเครื่องดักฟัง ทำให้พวกเขารู้เวลาที่ผมจะออกจากห้อง วันไหนออก วันไหนไม่ออก เขาจะรู้ แต่จะแสดงออกว่ารู้นานๆ ครั้ง โดยมักจะเป็นช่วงที่ผมแจ้งตำรวจหรือแจ้งนิติ ผมยังหาไม่เจอ เพราะนับดูมีอุปกรณ์ 20 กว่าชิ้นที่มันอาจจะอยู่ในนั้น ผมขี้เกียจหา เพราะถึงหาเจอก็จับมือใครดมไม่ได้ วันไหนอารมณ์ดีๆ ก็นั่งด่ามันแก้ท้องผูก เพราะรู้ว่าพวกมันฟังอยู่
กลับมาที่เรื่องปืนนะครับ เข้าใจว่าคนจะมีปืนแบบพกพาได้ต้องมีทรัพย์สินที่ต้องปกป้อง เช่น ต้องไปเบิกเงินจำนวนมาก เป็นต้น แต่ผมเป็นนักแปลภาษา ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก คอนโดยที่อยู่ก็ยังผ่อนอยู่เลย แต่เมื่อวานพวกนี้ส่งคนมาจ้องหน้าผม (ใส่แว่นปรอท) ตอนผมซื้อชาเขียว จ้องแบบเอาเป็นเอาตาย กะจะหาเรื่องให้ได้ จนผมทนไม่ได้ เลยถามไปว่ามีอะไรนักหนาเหรอครับ เขาตอบกลับมาว่า "ผมมองอะไรคุณ" ซึ่งมันโกหก มันอยู่ห่างแค่สองเมตร มองตรงมาที่ผมนานมาก มันถอดแว่นออก ผมก็เลยออก อ๋อ ขอโทษครับ คงเข้าใจผิด
"สักพักก็มีพยาบาลแฟนมันเดินข้ามถนนมา" (แต่แปลกดี ตรงที่แทนจะถามว่ามีอะไรกันเหรอ กลับทำเฉยๆ แล้วก็ขึ้นซ้อนท้ายแล้วก็ไป)
ที่ใส่เครื่องหมายคำพูดแบบนั้น ก็เพราะมันเป็นมุขหาแดกของคนกลุ่มนี้ คือส่งคนมาจ้องหน้า พอเราจ้องกลับแบบไม่กลับ สักพักก็จะมีเด็ก ผู้หญิง หรือคนแก่ เดินมาจากมุมไหนสักแห่ง แล้วก็พากันเดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ราว 10-20 ครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งนี่คือหนึ่งในพฤติกรรมคุกคามที่พวกเขาจัดให้ผม
ผมเข้าใจว่าทหารพวกนี้ทำเรื่องเหล่านี้ (คุกคามสุจริตชน) เพื่อจะได้ไม่ต้องทำภารกิจอย่างอื่นที่เสียงกว่านี้ (เช่น ลงใต้ เป็นต้น) ก็เลยพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเข้าใจผมผิด เพื่อจะได้ทำงานง่ายๆ แถมรายได้น่าจะดีด้วยล่ะมั้ง เพราะเข้าใจว่าคงเป็นงบลับ
คือผมไม่ได้มีอคติกับทหารนะ เพราะตอนเด็กๆ ผมก็อยากเป็นนักบินจนถึงกับไปเรียนลูกเสืออากาศ ซึ่งทั้งห้องจาก 48 คน มีคนเรียนแค่สองคนเท่านั้น แต่ตอนหลังมาตรวจเจอสายตาสั้นก็เลยอด คิดว่าเป็นเรื่องเฉพาะคนจริงๆ แถมที่โผล่ๆ มานี่เข้าใจว่าถูกหลอกมาด้วยข้อมูลอะไรบางอย่างด้วย จะเรียกว่า bad tip แบบตั้งใจก็ได้มั้ง
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเลย 4-5 ก่อนไปเดินออกกำลังกายชายหาด ก็มีเด็กช่างกลประมาณ 7-8 คนเดินมาล้อมผมไว้ แต่บังเอิญเด็กมันคงแค่อยากได้ค่าขนมนั่นแหละ คงไม่ได้อยากมีเรื่อง มันก็เลยแหยๆ สักพักก็เผ่นกันหมด เป็นแบบนี้มา 5-10 ครั้งแล้วในรอบหลายปี และนี่ก็คืออีกหนึ่งพฤติกรรมคุกคามที่พวกเขาจัดให้ผม
ยังมีอีกมาก เล่า 3 วันไม่จบ (เคยเล่าให้เพื่อนฟังแล้ว สามชั่วโมงได้แค่น้ำจิ๋ม แถมมันยังให้ผมไปเช็กประสาทอีก นั่นเป็นเหตุผลที่มีเงียบ แทบไม่พูดเรื่องนี้กับใครอีกมาประมาณ 5-6 ปีได้แล้ว)
ปืนนะครับปืน โปรดตอบคำถามเกี่ยวกับปืนด้วยครับ
ผมโดนคุกคามจากทหารชั่วบางกลุ่มหนักมาก ล่าสุดมีรถมีตรากงจักรมาอยู่ตึกเดียวกับผมเลย คิดว่าคงต้องพกปืนแล้ว จะเป็นไปได้ไหม
ขอบคุณที่ประเทศนี้ยังมีตำรวจดีๆ อยู่อีกเยอะ (แต่นามบัตรดังกล่าวโดนช่างแอร์แอบหยิบติดมือไปแล้ว แกล้งวางไว้บนโต๊ะกินข้าว หันหลังทำงานสักพัก หันกลับมา อ้าว หายซะแล้ว 5555 ของเค้าดีจริงๆ!!! ผมนี่แอบนั่งอมยิ้มไม่หุบเลย)
ตำรวจเลวที่คอยรับใช้พวกนี้ก็ดูเหมือนจะมีไม่น้อยเช่นกัน อยู่แถวๆ นี่แหละ น่าจะอยู่ในคอนโดเลย แต่ไม่รู้คนไหน พวกนี้ใช้ยามของคอนโดเป็นเครื่องมือ คอยสอดแนม คอยคุกคาม คอยเฝ้าเพื่อบอกเวลาเข้าออกของผม เพื่อให้คนกลุ่มนี้ตามคุกคาม มีการใช้รถหลายสิบค้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา ใช้ทั้งไรเดอร์ ทั้งเทศกิจ ทั้งตำรวจเนื้อร้ายบางคน (ปัจจุบันได้รับการอวยยศจากหมวดเป็นสารวัตรแล้ว แต่ดูเหมือนจะถอนตัวไปแล้ว คงเริ่มรู้ว่าถูกหลอกใช้ ปัจจุบันอยู่ สภ.ระยอง) และรถยนต์ มีการเปลี่ยนทะเบียนไปมาตลอด ล่าสุดหัวหน้ายามขึ้นไปดักผมบนลานจอดรถชั้น 8 ซึ่งมันค่อนข้างเปลี่ยว โดยเฉพาะตอนดึกๆ
นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ผมต้องการพกปืนอย่างถูกกฎหมาย
ในรถผมมีติดจีพีเอสติดตาม แต่ผมหาไม่เจอ คิดว่าคงโดนฝังไว้ในเครื่องเลย
ในห้องผมมีเครื่องดักฟัง ทำให้พวกเขารู้เวลาที่ผมจะออกจากห้อง วันไหนออก วันไหนไม่ออก เขาจะรู้ แต่จะแสดงออกว่ารู้นานๆ ครั้ง โดยมักจะเป็นช่วงที่ผมแจ้งตำรวจหรือแจ้งนิติ ผมยังหาไม่เจอ เพราะนับดูมีอุปกรณ์ 20 กว่าชิ้นที่มันอาจจะอยู่ในนั้น ผมขี้เกียจหา เพราะถึงหาเจอก็จับมือใครดมไม่ได้ วันไหนอารมณ์ดีๆ ก็นั่งด่ามันแก้ท้องผูก เพราะรู้ว่าพวกมันฟังอยู่
กลับมาที่เรื่องปืนนะครับ เข้าใจว่าคนจะมีปืนแบบพกพาได้ต้องมีทรัพย์สินที่ต้องปกป้อง เช่น ต้องไปเบิกเงินจำนวนมาก เป็นต้น แต่ผมเป็นนักแปลภาษา ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก คอนโดยที่อยู่ก็ยังผ่อนอยู่เลย แต่เมื่อวานพวกนี้ส่งคนมาจ้องหน้าผม (ใส่แว่นปรอท) ตอนผมซื้อชาเขียว จ้องแบบเอาเป็นเอาตาย กะจะหาเรื่องให้ได้ จนผมทนไม่ได้ เลยถามไปว่ามีอะไรนักหนาเหรอครับ เขาตอบกลับมาว่า "ผมมองอะไรคุณ" ซึ่งมันโกหก มันอยู่ห่างแค่สองเมตร มองตรงมาที่ผมนานมาก มันถอดแว่นออก ผมก็เลยออก อ๋อ ขอโทษครับ คงเข้าใจผิด
"สักพักก็มีพยาบาลแฟนมันเดินข้ามถนนมา" (แต่แปลกดี ตรงที่แทนจะถามว่ามีอะไรกันเหรอ กลับทำเฉยๆ แล้วก็ขึ้นซ้อนท้ายแล้วก็ไป)
ที่ใส่เครื่องหมายคำพูดแบบนั้น ก็เพราะมันเป็นมุขหาแดกของคนกลุ่มนี้ คือส่งคนมาจ้องหน้า พอเราจ้องกลับแบบไม่กลับ สักพักก็จะมีเด็ก ผู้หญิง หรือคนแก่ เดินมาจากมุมไหนสักแห่ง แล้วก็พากันเดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ราว 10-20 ครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งนี่คือหนึ่งในพฤติกรรมคุกคามที่พวกเขาจัดให้ผม
ผมเข้าใจว่าทหารพวกนี้ทำเรื่องเหล่านี้ (คุกคามสุจริตชน) เพื่อจะได้ไม่ต้องทำภารกิจอย่างอื่นที่เสียงกว่านี้ (เช่น ลงใต้ เป็นต้น) ก็เลยพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเข้าใจผมผิด เพื่อจะได้ทำงานง่ายๆ แถมรายได้น่าจะดีด้วยล่ะมั้ง เพราะเข้าใจว่าคงเป็นงบลับ
คือผมไม่ได้มีอคติกับทหารนะ เพราะตอนเด็กๆ ผมก็อยากเป็นนักบินจนถึงกับไปเรียนลูกเสืออากาศ ซึ่งทั้งห้องจาก 48 คน มีคนเรียนแค่สองคนเท่านั้น แต่ตอนหลังมาตรวจเจอสายตาสั้นก็เลยอด คิดว่าเป็นเรื่องเฉพาะคนจริงๆ แถมที่โผล่ๆ มานี่เข้าใจว่าถูกหลอกมาด้วยข้อมูลอะไรบางอย่างด้วย จะเรียกว่า bad tip แบบตั้งใจก็ได้มั้ง
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเลย 4-5 ก่อนไปเดินออกกำลังกายชายหาด ก็มีเด็กช่างกลประมาณ 7-8 คนเดินมาล้อมผมไว้ แต่บังเอิญเด็กมันคงแค่อยากได้ค่าขนมนั่นแหละ คงไม่ได้อยากมีเรื่อง มันก็เลยแหยๆ สักพักก็เผ่นกันหมด เป็นแบบนี้มา 5-10 ครั้งแล้วในรอบหลายปี และนี่ก็คืออีกหนึ่งพฤติกรรมคุกคามที่พวกเขาจัดให้ผม
ยังมีอีกมาก เล่า 3 วันไม่จบ (เคยเล่าให้เพื่อนฟังแล้ว สามชั่วโมงได้แค่น้ำจิ๋ม แถมมันยังให้ผมไปเช็กประสาทอีก นั่นเป็นเหตุผลที่มีเงียบ แทบไม่พูดเรื่องนี้กับใครอีกมาประมาณ 5-6 ปีได้แล้ว)
ปืนนะครับปืน โปรดตอบคำถามเกี่ยวกับปืนด้วยครับ