ต้องการคำแนะนำจากผู้มากประสบการ์ณในการใช้ชีวิต ผ่านน้ำร้อน ผ่านหนาวมาก่อน มาให้คำแนะนำคนอย่างผมที่พึ่งเริ่มต้นชีวิตครับ รบกวนช่วยผมด้วยนะครับ ผมพิมเยอะหน่อย ไม่รู้จะปรึกษาใครระบายกับใครได้ก็ต้องเป็นบนอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีใครรู้ตัวตนผม
ผมเรียบเรียงและเล่าไม่เก่ง ต้องขออภัยไว้ก่อนนะครับ จะพยายามให้ดีที่สุดครับ
สวัสดีครับผมอายุ 22 จบ.ปตรี ธรุกิจการบิน พึ่งเรียนจบมาได้ 6เดือน ทำงานได้ 2 เดือน เคยฝึกงานกับสายการบินสีม่วง เป็นกราวด์ทั่วๆไป แล้วค้นพบว่าตัวเองไม่ใช่แนว
ผมทำงานอยู่ในพัทยา เป็นAgent ขายอสังหาในบริษัทเอกชนเล็กๆ เงินเดือน16,xxx ไม่รวมค่าคอม(แต่ค่าคอมผมไม่ค่อยได้ เพราะผมขายไม่ได้เลย ได้แต่ช่วยประสานงาน)
รายละเอียดงานที่ผมทำ
ถึงตำแหน่งจะเรียกว่า Sale แต่ส่วนตัวผมคิดว่าก็ทำเหมือนเป็น Admin ไปด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-คอยตอบลูกค้าใน Line offial
-หาลูกค้าในเฟสบุคที่ต้องการเช่าหรือซื้อ
-ทำ Marketing(ก็แค่แชร์โพสต์ลงไปในเฟสบุคหลายๆกลุ่มประมาณ60+กลุ่ม) ไม่เคยยิง ADs ไม่มีคนยิงให้ด้วย จะมียิงบ้างเป็นบางครั้ง(มีคนทำให้)
-ก็ลองทักคนที่อยากซื้อหรือเช่าคอนโดอยากได้ประมาณไหน งบเท่าไหร่ พื้นที่แถวไหนก็เสนอๆ
-เก็บข้อมูลคนที่ขายคอนโดเอาไปเข้าในลิสต์ของเราจะได้ไว้มีเสนอลูกค้าคนที่ต้องการซื้อ
-ทำสัญญาเช่าในบางครั้งกรณีที่มีคนเช่า
-บางครั้งเวลามีลูกค้านัดดูห้องผมก็จะไปกับเซลล์รุ่นพี่ ไปฟังเขาดูวิธีการเสนอคอนโด ( 2 เดือนที่ผ่านมา ไปดูทั้งหมด 2 ครั้ง)
-โทรหาลูกค้าบ้างครับ เวลาต้องการข้อมูลว่าห้องนี้ปล่อยเช่าปล่อยขายไปแล้วหรือยัง แต่ไม่โทรคุยกับคนที่ต้องการซื้อเลยครับ
เวลาส่วนใหญ่ทั้งวันโดยเฉลี่ยๆจะอยู่ไปกับการ แชร์โพสต์ลงเฟสบุคแล้วก็หาลูกค้าที่ต้องเช่าหรือว่าซื้อ
มีเพื่อนร่วมงานเป็นคนต่างชาติ ผมสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ก็เลยได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย
ตอนนี้ผมรู้สึกว่างานที่ผมทำอยู่ผมไม่ค่อยชอบเลย ซึ่ง ความรู้สึกที่ไม่ชอบ ผมไม่เข้าใจตัวเองว่าเป็นเพราะงานมันไม่ดี หรือว่าตัวผมนั้นไม่ดีกันแน่ แต่คิดว่าน่าจะทั้งคู่เพราะตัวผมเองก็รู้สึกว่าไม่ได้ดีเหมือนกันครับ
สาเหตุที่ผมไม่ชอบงานที่ทำอยู่คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-รู้สึกว่าไม่ได้ประสบการณ์อะไร(ยกเว้นภาษาอังกฤษ) ผ่านมา 2 เดือนแล้ว รู้สึกว่าตอนฝึกงานยังได้ประสบการ์ณมากกว่าเสียอีก ในเวลา 2 เดือน
-งานที่ทำรู้สึกว่าไม่มี value **สำหรับตัวผมเท่านั้น**
-สังคมการทำงานก็ดีครับ แต่รู้สึกว่าคนน้อยแล้วมันก็เหงาๆ แล้วทำงานกันช้าด้วย Slow life เป็นส่วนมาก แต่ถ้ามีลูกค้าจะซื้อ ก็จะวุ่นหน่อยๆ
-รู้สึกว่า มันไต่เต้าอะไรไม่ได้ ไม่มีตำแหน่ง ไม่เห็นภาพที่ชัดเจนในอนาคต ว่าจะเติบโตสายนี้อย่างไร ส่วนตัวผมชอบอะไรที่มีเป็นขั้น มีเป็นระดับ เป็นระบบ มีหลักประกันๆ เหมือน Level ในราชการละมั้งครับ หรืออาจจะเป็นเพราะมันเป็นบริษัทเล็กๆไม่ใช่บริษัทใหญ่ๆที่เขาทำงานกันเป็นระบบ ซึ่งมารู้ตัวว่าชอบอะไรแบบนี้ก็หลักจากได้ทำงานแล้วละครับ
-ทัศนคติที่ผมมีต่องานนี้ ผมว่าเป็นเพราะผมอาจจะคิดแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งมันอาจจะไม่ดีที่ตัวผมเองอคติ? ผมมองว่างานขายคอนโด เป็นนายหน้าอิสระ มันใช้ความสามารถของเราประมาณ30% 70% ดวงล้วนๆ ดวงในที่นี้หมายถึงตัวลูกค้าหรือผู้จะซื้อนะครับ เราต้องพูดยังไงก็ได้ต้องโน้มนาวให้คนอยากซื้อ แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าคนซื้อไม่จริงจังก็ปิดการขายไม่ได้ หรือเขาไม่ถูกใจห้อง ห้องไม่ตรงสเปคเขาทั้งหมด ถ้าบางคนเขาจริงจังๆ แล้วเรามีความรู้ในสินค้านั้นจริงๆ แล้วเสนอได้ โน้มมาวเป็นก็มีชัยเกินครึ่งแล้วครับ ไม่อยากทำงานใช้ดวงหรือขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นอย่างคนซื้อเยอะๆเลย แล้วนายหน้าคอนโดคือทรัพย์คอนโดเป็นเงินก้อนใหญ่ มันต้องมีการตัดสินใจที่ยากลำบาก
-ลูกค้าก็ไม่ค่อยมีเข้ามาเลย ผมคิดว่าปัญหาที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาคือไม่มีการยิง Adsครับ ไม่มีคนทำการตลาด แล้วก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่ด้วย
-วันหยุดเป็นวันศุกร์วันเดียว คือผมขอเล่าคร่าวๆละกันว่า ผมเคยได้งานในกรุงเทพ เป็น QC video, Content mederator, เงินเดือน 18,xxx ไม่รวมค่ากะ 4000 ในเดือนที่เป็นกะดึก ทำงาน 5 วันหยุด 2 วัน แต่ผมไม่ได้เลือก มีหลายเหตุผล เพราะแฟนผมทำงานอยู่แถวชลบุรี + กับเป็นงานของบริษัทญาติ ขาดคน แล้วตอนนั้นผมมาด้วยเงื่อนไข หยุดวันอาทิตย์ เงินเดือนตามที่แจ้ง16,xxx ผ่านโปรปรับขึ้น ไม่รวมค่าคอม ผมลองคิดๆดูแล้วมาทำงานที่พัทยาก็ไม่เลวเลยใกล้แฟน เงินเดือนใกล้เคียงหวังคอม แถมเป็นนายหน้าอสังหาก็น่าจะเติบโตได้กว่างานที่กรุงเทพ +ที่บ้านบอกว่างาน QC video, Content mederator ไม่มีความก้าวหน้าแค่ทำงานง่ายๆบลาๆ ซึ่งมันก็จริงเท่าที่ผมถามเพื่อนที่ทำอยู่ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะอยู่นานอยู่แล้ว เพราะตั้งใจจะสอบราชการ
ซึ่งในตอนแรกที่บริษัทบอกว่าหยุดวันอาทิตย์ ผมก็วางแผนว่า วันอาทิตย์ผมจะได้พักผ่อนไปหาแฟนได้ แต่สรุปสุดท้ายกลายเป็นหยุดวันศุกร์เฉย ผมค่อนข้างไม่พอใจเล็กน้อย ผิดแผน แต่ทำไงได้ละครับ ก็ต้องทนทำไป แล้วงานที่กรุงเทพผมปฏิเสธเขาไป ผมก็คงโดน black list ไปแล้วละครับ เพราะสัมภาษณ์ผ่านไปแล้ว แต่มาปฏิเสธตอนหลัง
ซึ่งสาเหตุทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ ทั้งเหตุผลที่ผมไม่ชอบงานนี้และเนื้องาน ทำให้ผมอยากจะหางานใหม่ แต่ก่อนอื่น ผมต้องบอกเป้าหมายก่อน
จริงๆในตอนแรกก่อนหางาน ผมตั้งใจจะสอบราชการกรมศุลกากร เลยจะหางานที่พอจะมีเวลาไม่กดดัน เผื่อให้ผมได้เตรียมตัวอ่านหนังสือครับ
จริงๆตอนนี้ผมก็อ่านหนังสือเตรียมสอบวันละ 1 ชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงครึ่งครับ วันหยุด ก็อ่านทั้งวันเลย ต้องสอบผ่าน ภาค ก ด้วยครับ แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะผมตั้งใจจริง
แต่ที่ผมกลุ้มใจคือ ผมจะทำงานอะไรใหม่ดีนี่สินะครับ แล้วมันไม่ใช่แค่นั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-งานใหม่ที่ทำมันก็ควรเป็นงานที่เผื่อไว้ว่า ถ้าเราสอบไม่ติด เรายังเอางานนี้หากินได้ในอนาคตแล้วมีอนาคตที่ดีและเติบโตได้ แล้วสอบใหม่ๆจนกว่าจะติด
เพราะผมก็กังวลว่าจะสอบไม่ติดเหมือนกันจึงต้องวางแผนดีๆ ถ้าอายุผม 30 แล้วแต่ยังไม่ติดก็ต้องคิดแล้วละครับ แต่ว่าคือผมคิดเผื่อไว้เฉยๆครับ
ย้ายงานใหม่ก็ควรหางานทำดีๆไปเลย มันดูเหมือนผมจับปลาสองมือใหมครบ งานราชการดีๆก็อยากได้ งานใหม่ก็อยากได้งานดีๆเหมือนกัน
-ที่อยู่ของงานใหม่ ผมไม่รู้ว่าควรไปหางานในกรุงเทพ หรือหาในพัทยาดีครับ พัทยามีแต่งานบริการ ไมก็งานขาย ส่วนกรุงเทพ งานเยอะดีครับ
ผมยังคิดถึงเรื่องการไปหาแฟนด้วย มันเป็น Condition นึงของผมนะ คนอื่นอาจจะแนะนำให้ผมอย่าพึ่งสนใจความรักมากนักให้เก็บเงินก่อน แต่ผมของลองแบบนี้ก่อนละกันนะครับ อยากได้เงื่อนไขนี้ครับ
-สายงานของงานใหม่ ควรจะเป็นงานแบบไหนอันนี้ก็เป็นอีกอย่างนึงที่ผมค่อนข้างกลุ้มใจ เพราะถ้าสุดแล้วแต่จะจนปัญญา ก็คงต้องกลับไปทำงานสายการบินครับ แฟนผมก็จบการบินเหมือนกัน เคยคุยกันไว้ว่า กลับไปทำงานกรุงเทพเหมือนตอนฝึกงานที่สนามบินดีไหม แต่ตอนนี้ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้สักอย่างมันทำให้ผมลำบากที่จะหางานใหม่
-ผมสนใจงานนึงคือเป็นงานในฟิตเนสในพัทยา(เป็นแนว Sale อีกแล้ว) ชื่อต่ำแหน่งคือ Exercise consultant ผมเป็นคนนึงที่เล่นฟิตเนสค่อนข้างหนัก เล่นวันละ 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน แล้วผมก็ค่อนข้างกินดี ไม่ดูดบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน เกมเล่นบ้างแนวออโต้ กินข้าวโอ้ตเป็นข้าวหลัก โปรตีนอกไก่ ผักโขม,บล็อคโครี่ ผลไม้ นมจืด อาหารเสริมนิดหน่อย เน้นกินคลีน ผมจะกินปกติเหมือนชาวบ้านทั่วไปก็ตอนไปหาแฟนแค่นั้นแหละครับ ความรู้การเล่นยิมก็ทั่วๆไปครับ ไม่ได้รู้ลึกเพราะไม่ได้เรียนมาเหมือนคนที่เรียนวิทย์สุขภาพครับ แต่ที่ผมไม่กล้าไปสมัครทำ กลัวที่บ้านไม่อยากให้ทำ เพราะถ้าผมออกจากงานนี้ ก็กลัวว่าเขาจะบอกว่า มันเป็นงานที่แบบว่าไม่ได้ดีกว่างานที่ผมเป็นนายหน้าอสังหาประมาณนี้อ่ะครับ แต่ผมคิดว่า ผมอาจจะมีความสุขนะ ถ้าได้ทำ เพราะตอนเรียนมหาลัยก็เล่นยิมมาตลอดครับ แล้วผมก็ตั้งใจจะเป็นราชการอยู่แล้วไม่ได้อยากเป็นงานเอกชนตลอดไป
วันนึงผมแบ่งเวลายังไงนะหรอ
ผมแบ่งเวลาเป็น
วันนึงผมอยู่ทำงาน 8 ชั่วโมง
นอน 7 ชั่วโมง ถึง 7ชั่วโมงครึ่ง ออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงครึ่ง ให้เวลาส่วนตัวกันแฟน 2 ชั่วโมง ดีหน่อยว่าข้าวโอ้ตหรืออะไรมันไม่เสียเวลา กับ ที่ทำงานผมเดินไป 1-2 นาทีก็ถึงแล้ว ตอนพักเที่ยงผมขึ้นห้องไป ทำความสะอาด อ่านหนังสือนิดหน่อย เตรียมกับข้าวสำหรับตอนเย็น ผมกินข้าวที่ออฟฟิศตอนเช้า เขาไม่ค่อยเคร่งมาก อ่านหนังสือตอนเช้าครับ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ
**หลักๆคือไม่รู้ว่าลาออกแล้วจะทำงานอะไร ทำงานที่ไหน ทำงานสายไหน ไม่กล้าตัดสินใจอะไร ต้องวางแผนอ่านหนังสือให้ดีด้วยครับเพราะเวลามีน้อย
แล้วก็วางแผนชีวิตในอนาคตอีกครับ ตอนเรียนมหาลัย ตอน มปลาย ไม่คิดจะอยากเป็นราชการเลย จนเรีบนจบไปหาข้อมูลมาหลายๆที่เยอะมาก อ่านในพันทิปก็ด้วยส่วนหนึ่ง แล้วด้วยวุฒิผม ผมว่าผมต้องทำงานกรมศุล ถึงจะดีที่สุดครับ
ตอนวัยรุ่นผมไม่เข้าใจทำไมพ่อผมอยากให้เป็นวิศวะหรืออาชีพที่ใช้วิทย์-คณิตซึ่งมีแต่เด็กเก่งหัวกะทิเป็นกัน หรือเรียนมหาลัยรามพร้อม ตอนม.ปลาย ได้วุฒิเร็วกว่าคนอื่นเขา ทำไมต้องฟิลเหมือนพูดกรอกหูอยากให้ทำ
พอโตมาผมถึงเข้าใจแล้วว่า ถ้าเราเริ่มเร็วกว่าคนอื่น ก็ได้เปรียบ วางแผนชีวิตได้ง่ายกว่า ตอน ม.ปลายผมดันติดดนตรีเป็นนักดนตรี แต่ทำไงได้ มันผ่านมาแล้ว สิ่งที่พ่อผมแนะนำคือมันดีต่อตัวผมเองทั้งนั้นเลย
เคยคิดอยากเป็น Influencer สายกล้าม หรือ สตรีม์เมอร์เหมือนกัน ผมเล่นเกมเก่ง เคยติดท็อบเซิฟ ของเกมยอดฮิตอย่าง ROV ผู้เล่น active คิดว่าอย่างน้อย 1 ล้านคนนะครับ ผมเคยติดท็อบ 100 อยู่ช่วงนึง ก็ช่วงเรียนมหาลัยนั้นแหละครับ ซึ่งก็เคยดูพวกสตรีมเมอร์เขาก็อยู่กันระดับประมาณนี้ ผมก็น่าจะทำได้บ้างสิ แต่ผมอยากมีงานทำที่มั่นคงเป็นหลักเป็นแหล่ง แล้วค่อยทำเรื่องพวกนี้รองตามมาครับ ไม่อยากเสี่ยง
กลับมาที่ประเด็น
**หลักๆคือไม่รู้ว่าลาออกแล้วจะทำงานอะไร ทำงานที่ไหน ทำงานสายไหน ไม่กล้าตัดสินใจอะไรครับ ด้วยความรู้ที่ผมมี ผมไม่ใช่ Spacialist ผมก็แค่วุฒิทั่วไป ถ้าให้ผมขายตัวเองว่าผมมีอะไรดี เอาแบบไม่จกตาสร้างภาพเหมือนสร้าง Resume
-ภาษาอังกฤษดี สื่อสารได้ระดับดี ตั้งใจว่าจะอัพเพิ่มขึ้นอีก และสอบ Ielts เผื่อเรียนต่อนอก
-งานอดิเรก เล่นดนตรีได้ เล่นกล้าม ชอบอ่านติดตามข่าวสารต่างประเทศ สนใจวงการสื่อบันเทิงอย่าง อนิเมะ
-เรื่องเวลาผมค่อนข้าง Fix ผมไม่ชอบทำอะไรเกินเวลา ทุกอย่างมีlimit ในแต่ละกรอบช่วงเวลา ยืดหยุ่นได้ แต่ห้ามเกินตามที่กำหนด ผมจะมีแพลน To do list ตลอด มีแอพคอยช่วยเตือน วันนี้ควรทำอะไร ให้เป็นกิจวัตรประจำวันครับ
-ไม่ติด Social ครับไม่รู้นับเป็นว่ามีอะไรดีไหม เพราะผมไม่ชอบ ลงสตอรี่หรือโพสต์หรือประกาศอะไรให้คนอื่นรู้ในพื้นที่ส่วนตัวผมเหมือนวัยรุ่นคนGen z แบบผม แต่ผมชอบแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนหรือถามหรืออ่านมากกว่าครับ แต่ข่าวอะไรๆตามตลอดนะครับแค่ไม่สนใจสื่อบันเทิงแบบพวกดาราอะไรพวกนี้อ่ะครับ
-เนื้องานมีอะไรมาผมทำได้หมด ผมว่าเป็นคนทุกคนนะที่ต้องทำเต็มที่กับงานหน้าที่ตัวเอง งานนี้ผมก็ทำเต็มที่ในหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด แต่มันไม่ชอบจริงๆ
เหมือนกับว่าผมพึ่งมาวางแผนจริงๆจังหลายๆอย่างตอนเรียนจบแล้วเลยรู้สึกแย่กับและสมเพชกับตัวเองที่ควรวางแผนตั้งนานแล้วครับ
ช่วยผมด้วย ว่าควรเลือกทำงานอะไรแบบไหนดี หรือสอนการใช้ชีวิตก็ได้ หรือแนะนำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผมเอามาถาม หรือเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต ผมรู้ว่าผมไม่ได้เจอทางตัน แต่ผมแค่กลุ้มใจ แล้วอยากได้คนชี้ทางให้ครับ บางทีเรื่องพวกนี้ผมก็อยากเล่าให้ใครฟังสักคน ที่ไม่ได้รู้จักผม เรื่องบางเรื่องก็เล่าให้คนที่เรารักฟังหมดไม่ได้
เอายังไงกับชีวิตต่อไปดีครับ ต้องการคำแนะนำ หน้าที่การทำงาน และอนาคต
ผมเรียบเรียงและเล่าไม่เก่ง ต้องขออภัยไว้ก่อนนะครับ จะพยายามให้ดีที่สุดครับ
สวัสดีครับผมอายุ 22 จบ.ปตรี ธรุกิจการบิน พึ่งเรียนจบมาได้ 6เดือน ทำงานได้ 2 เดือน เคยฝึกงานกับสายการบินสีม่วง เป็นกราวด์ทั่วๆไป แล้วค้นพบว่าตัวเองไม่ใช่แนว
ผมทำงานอยู่ในพัทยา เป็นAgent ขายอสังหาในบริษัทเอกชนเล็กๆ เงินเดือน16,xxx ไม่รวมค่าคอม(แต่ค่าคอมผมไม่ค่อยได้ เพราะผมขายไม่ได้เลย ได้แต่ช่วยประสานงาน)
รายละเอียดงานที่ผมทำ
ถึงตำแหน่งจะเรียกว่า Sale แต่ส่วนตัวผมคิดว่าก็ทำเหมือนเป็น Admin ไปด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนี้ผมรู้สึกว่างานที่ผมทำอยู่ผมไม่ค่อยชอบเลย ซึ่ง ความรู้สึกที่ไม่ชอบ ผมไม่เข้าใจตัวเองว่าเป็นเพราะงานมันไม่ดี หรือว่าตัวผมนั้นไม่ดีกันแน่ แต่คิดว่าน่าจะทั้งคู่เพราะตัวผมเองก็รู้สึกว่าไม่ได้ดีเหมือนกันครับ
สาเหตุที่ผมไม่ชอบงานที่ทำอยู่คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งสาเหตุทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ ทั้งเหตุผลที่ผมไม่ชอบงานนี้และเนื้องาน ทำให้ผมอยากจะหางานใหม่ แต่ก่อนอื่น ผมต้องบอกเป้าหมายก่อน
จริงๆในตอนแรกก่อนหางาน ผมตั้งใจจะสอบราชการกรมศุลกากร เลยจะหางานที่พอจะมีเวลาไม่กดดัน เผื่อให้ผมได้เตรียมตัวอ่านหนังสือครับ
จริงๆตอนนี้ผมก็อ่านหนังสือเตรียมสอบวันละ 1 ชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงครึ่งครับ วันหยุด ก็อ่านทั้งวันเลย ต้องสอบผ่าน ภาค ก ด้วยครับ แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะผมตั้งใจจริง
แต่ที่ผมกลุ้มใจคือ ผมจะทำงานอะไรใหม่ดีนี่สินะครับ แล้วมันไม่ใช่แค่นั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันนึงผมแบ่งเวลายังไงนะหรอ
ผมแบ่งเวลาเป็น
วันนึงผมอยู่ทำงาน 8 ชั่วโมง
นอน 7 ชั่วโมง ถึง 7ชั่วโมงครึ่ง ออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงครึ่ง ให้เวลาส่วนตัวกันแฟน 2 ชั่วโมง ดีหน่อยว่าข้าวโอ้ตหรืออะไรมันไม่เสียเวลา กับ ที่ทำงานผมเดินไป 1-2 นาทีก็ถึงแล้ว ตอนพักเที่ยงผมขึ้นห้องไป ทำความสะอาด อ่านหนังสือนิดหน่อย เตรียมกับข้าวสำหรับตอนเย็น ผมกินข้าวที่ออฟฟิศตอนเช้า เขาไม่ค่อยเคร่งมาก อ่านหนังสือตอนเช้าครับ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ
**หลักๆคือไม่รู้ว่าลาออกแล้วจะทำงานอะไร ทำงานที่ไหน ทำงานสายไหน ไม่กล้าตัดสินใจอะไร ต้องวางแผนอ่านหนังสือให้ดีด้วยครับเพราะเวลามีน้อย
แล้วก็วางแผนชีวิตในอนาคตอีกครับ ตอนเรียนมหาลัย ตอน มปลาย ไม่คิดจะอยากเป็นราชการเลย จนเรีบนจบไปหาข้อมูลมาหลายๆที่เยอะมาก อ่านในพันทิปก็ด้วยส่วนหนึ่ง แล้วด้วยวุฒิผม ผมว่าผมต้องทำงานกรมศุล ถึงจะดีที่สุดครับ
ตอนวัยรุ่นผมไม่เข้าใจทำไมพ่อผมอยากให้เป็นวิศวะหรืออาชีพที่ใช้วิทย์-คณิตซึ่งมีแต่เด็กเก่งหัวกะทิเป็นกัน หรือเรียนมหาลัยรามพร้อม ตอนม.ปลาย ได้วุฒิเร็วกว่าคนอื่นเขา ทำไมต้องฟิลเหมือนพูดกรอกหูอยากให้ทำ
พอโตมาผมถึงเข้าใจแล้วว่า ถ้าเราเริ่มเร็วกว่าคนอื่น ก็ได้เปรียบ วางแผนชีวิตได้ง่ายกว่า ตอน ม.ปลายผมดันติดดนตรีเป็นนักดนตรี แต่ทำไงได้ มันผ่านมาแล้ว สิ่งที่พ่อผมแนะนำคือมันดีต่อตัวผมเองทั้งนั้นเลย
เคยคิดอยากเป็น Influencer สายกล้าม หรือ สตรีม์เมอร์เหมือนกัน ผมเล่นเกมเก่ง เคยติดท็อบเซิฟ ของเกมยอดฮิตอย่าง ROV ผู้เล่น active คิดว่าอย่างน้อย 1 ล้านคนนะครับ ผมเคยติดท็อบ 100 อยู่ช่วงนึง ก็ช่วงเรียนมหาลัยนั้นแหละครับ ซึ่งก็เคยดูพวกสตรีมเมอร์เขาก็อยู่กันระดับประมาณนี้ ผมก็น่าจะทำได้บ้างสิ แต่ผมอยากมีงานทำที่มั่นคงเป็นหลักเป็นแหล่ง แล้วค่อยทำเรื่องพวกนี้รองตามมาครับ ไม่อยากเสี่ยง
กลับมาที่ประเด็น
**หลักๆคือไม่รู้ว่าลาออกแล้วจะทำงานอะไร ทำงานที่ไหน ทำงานสายไหน ไม่กล้าตัดสินใจอะไรครับ ด้วยความรู้ที่ผมมี ผมไม่ใช่ Spacialist ผมก็แค่วุฒิทั่วไป ถ้าให้ผมขายตัวเองว่าผมมีอะไรดี เอาแบบไม่จกตาสร้างภาพเหมือนสร้าง Resume
-ภาษาอังกฤษดี สื่อสารได้ระดับดี ตั้งใจว่าจะอัพเพิ่มขึ้นอีก และสอบ Ielts เผื่อเรียนต่อนอก
-งานอดิเรก เล่นดนตรีได้ เล่นกล้าม ชอบอ่านติดตามข่าวสารต่างประเทศ สนใจวงการสื่อบันเทิงอย่าง อนิเมะ
-เรื่องเวลาผมค่อนข้าง Fix ผมไม่ชอบทำอะไรเกินเวลา ทุกอย่างมีlimit ในแต่ละกรอบช่วงเวลา ยืดหยุ่นได้ แต่ห้ามเกินตามที่กำหนด ผมจะมีแพลน To do list ตลอด มีแอพคอยช่วยเตือน วันนี้ควรทำอะไร ให้เป็นกิจวัตรประจำวันครับ
-ไม่ติด Social ครับไม่รู้นับเป็นว่ามีอะไรดีไหม เพราะผมไม่ชอบ ลงสตอรี่หรือโพสต์หรือประกาศอะไรให้คนอื่นรู้ในพื้นที่ส่วนตัวผมเหมือนวัยรุ่นคนGen z แบบผม แต่ผมชอบแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนหรือถามหรืออ่านมากกว่าครับ แต่ข่าวอะไรๆตามตลอดนะครับแค่ไม่สนใจสื่อบันเทิงแบบพวกดาราอะไรพวกนี้อ่ะครับ
-เนื้องานมีอะไรมาผมทำได้หมด ผมว่าเป็นคนทุกคนนะที่ต้องทำเต็มที่กับงานหน้าที่ตัวเอง งานนี้ผมก็ทำเต็มที่ในหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด แต่มันไม่ชอบจริงๆ
เหมือนกับว่าผมพึ่งมาวางแผนจริงๆจังหลายๆอย่างตอนเรียนจบแล้วเลยรู้สึกแย่กับและสมเพชกับตัวเองที่ควรวางแผนตั้งนานแล้วครับ
ช่วยผมด้วย ว่าควรเลือกทำงานอะไรแบบไหนดี หรือสอนการใช้ชีวิตก็ได้ หรือแนะนำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผมเอามาถาม หรือเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต ผมรู้ว่าผมไม่ได้เจอทางตัน แต่ผมแค่กลุ้มใจ แล้วอยากได้คนชี้ทางให้ครับ บางทีเรื่องพวกนี้ผมก็อยากเล่าให้ใครฟังสักคน ที่ไม่ได้รู้จักผม เรื่องบางเรื่องก็เล่าให้คนที่เรารักฟังหมดไม่ได้