รร.นึงในเมืองพิษณุโลก บังคับซื้อของ ขอยกตัวอย่างเป็นเสื้อ เขาให้เราจ่ายคนละ300บาท ซึ่งเสื้อตัวเนี่ยเค้าทำมาเพื่อเฉลิมฉลองอะไรซักอย่างเนี่ยแหละแล้วจะมีการจัดแข่งวิ่งออกกำลังกายที่เราบอกว่าเค้าบังคับจ่ายเนี่ยเราสงสัยเฉยเฉยว่าเค้าหวังอะไรกันแน่เพราะเราไปได้ยินรับหลังมาว่าราคาเสื้อ กับราคาเหรียญที่เค้าจะให้เป็นที่ระลึกเนี่ยราคาประมาณสองในสามของราคาที่เราจ่ายทั้งหมดโดยเค้าระบุไว้ในเอกสารว่าหนึ่งอยากให้เด็กนักเรียนและบุคลากรออกกำลังกายและจะนำเงินส่วนที่เหลือไปไว้บำรุงโรงเรียนซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่ว่างที่พร้อมอยากจะเข้าร่วมกิจกรรมนี้เท่าไหร่เพราะมันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นและนี่มันก็ค่อนข้างจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยมากๆในขณะเดียวกันเนี่ยเราใกล้จะจบแล้วซึ่งมัน ยังมีค่าใช้จ่ายอีกหลายอย่าง ขอบอกนะการเงินบ้านเราไม่ได้ร่ำรวยร่ำรวยขนาดนั้นไหนจะฆ่าจบหลักสูตรไหนจะค่ากิจกรรมเข้าค่าย ซึ่งมันก็ สี่หลักอยู่แล้วแถมนี่ยังจะมากดบีบให้นักเรียนจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยอีกซึ่งเรามองว่ามันไม่จำเป็นด้วยซ้ำและมันน่าเกลียดมากการที่เรามาบังคับใครซื้อของที่เค้าไม่ได้อยากซื้ออ่ะอีกอย่างหนึ่งคือโรงเรียนยังไม่ได้คืนค่าอุปกรณ์การเรียนของทุกคน เค้าเลยบอกว่าเด็กคนไหนที่ไม่ยอมจ่ายจะหักเงินจากส่วนนี้ไปและไม่คืนเงินค่าอุปกรณ์การเรียนเราได้ยินครูพูดกันว่าของครู โดนหักจากเงินเดือนเลยแบบไม่มีข้อแม้ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่ามันทุเรศเกินไปหรือเปล่าถ้าอยากได้เงินบำรุงจริงๆก็ควรจะบอกมาเลยไม่ใช่มาเอาสินค้ามาบังตา เราไม่ใช่เด็กหัวล้านหัวดื้อหรือคิดนอกกรอบแต่เราแค่คิดว่ารอบนี้มันหนักทุเรศเกินไปหรือเปล่าเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรงเรียนเราเคยทำแบบนี้เคยมีอีกกรณีนึงคือเค้าสั่งทำพวงกุญแจที่ระลึกซึ่งสั่งทำจากโรงงานแต่พอไม่ค่อยมีเด็กซื้อเค้าก็มาบังคับซื้อ แบบให้เอาค่าห้องของเด็กที่เด็กเก็บทุกสัปดาห์มาจ่ายจ่ายจ่ายเรางงว่าเค้าไม่มีการคิดคำนวณหรือคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะนำมาวางขายไม่ใช่สั่งผลิตมาจำนวนนี้เราคิดว่าจะขายออกหมดหรือว่าถ้ามันไม่ได้จริงๆก็ควรจะหาสมัครรายชื่อคนที่อยากได้แล้วค่อยสั่งทำเพราะสินค้ามันมันเหลืองเงี้ยคนที่ลำบากก็คือนักเรียนที่จะต้องมานั่งรับผิดชอบจ่าย อยากได้มั้ยก็อยากได้ได้ซึ่งรอบนี้ก็เป็นเรื่องเสื้อนี่แหละ ทุกคนคิดยังไงกันบ้างครับ (ผมใช้เสียงพิมพ์มันอาจจะมีเขียนผิดบ้างนะครับ)