สำนักข่าว eDaily ทำข่าวถึงภาพรวมวงการอุตสาหกรรมเพลง K-POP ปี 2023 โดยกล่าวว่าปี 2023 เป็นปีที่แสดงถึงมูลค่าผลลัพธ์ของ K-POP ของจริง เนื่องจาก BTS ได้เข้าสู่ช่วงพักงานเพื่อเข้ากรม ทำให้มีหลายเสียงคาดการณ์ว่า K-POP จะเกิดวิกฤติตกต่ำ แต่ศิลปินอย่าง Seventeen , NewJeans , Ateez , Fifty Fifty , Zerobaseone และ Riize ต่างทำผลงานเติบโตสำหรับ K-POP และทำให้วงการเพลงเข้าสู่ยุคยอดขาย 100 ล้านอัลบั้มได้ แต่ในอีกด้านก็มีข่าวน่าเสียดายในวงการ เช่น วง Fifty Fifty ที่ติดอันดับ Billboard Hot 100 ด้วยระยะเวลาที่เร็วที่สุดหลังจากเดบิวต์ของวงการ K-POP กลับต้องเกือบจะยุบวงเนื่องจากปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงยังมีกรณี ยู จุนวอน อันดับ 1 ในรายการ MBC Fantasy Boys ที่ถูกฟ้องจากต้นสังกัดหลังจากยกเลิกสัญญาออกจากวงอีกด้วย

หากพูดว่าปี 2023 คือนิวจีนส์ก็คงไม่เกินจริง ทุกเพลงที่ปล่อยออกมาต่างติดอันดับสูงสุดบนชาร์ตเพลง ทำให้ปีนี้ NewJeans ได้รับรางวัลแดซังในงานปลายปีทั้งสาขา 'Song Of The Year' และ 'Artist Of The Year'

ในไตรมาสแรกของปี เพลง NewJeans ได้แก่ Ditto OMG HypeBoy ทำสถิติติดอันดับ 1-3 ในชาร์ตเพลงหลักในประเทศ และในช่วงครึ่งปีหลัง SuperShy และ ETA ก็ทำสถิติติดชาร์ตทั้งในและต่างประเทศได้อีกด้วย ตามฉายา 'NewJeans Syndrome' โดยเฉพาะ Ditto ทำสถิติอันดับ 1 บนชาร์ต MelOn ได้ติดต่อกัน 14 สัปดาห์

ผลงานของ NewJeans ในระดับโลกยังทำได้ดีเช่นกัน โดยติดชาร์ต Billboard ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Billboard 200 ด้วยระยะเวลาที่เร็วสุดนับตั้งแต่เดบิวต์ นอกจากนี้ทั้ง OMG Ditto SuperShy ETA Cool With You ยังเข้าสู่ Billboard Hot 100 ในปีนี้ได้อีกด้วย

16 ล้านอัลบั้มคือยอดขายรวมทั้งหมดของทุกอัลบั้มที่ SEVENTEEN ขายได้ในปีนี้

SEVENTEEN สร้างสถิติระดับประวัติศาสตร์ K-POP ครั้งใหม่ด้วย 10th Mini Album 'FML' ที่ทำยอดขายมากกว่า 3.99 ล้านอัลบั้มภายในวันแรก และยอดขายรวมมากกว่า 6.28 ล้านอัลบั้ม กลายเป็นอัลบั้ม K-POP ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล และสร้างสถิติใหม่ในฐานะศิลปินที่มียอดขายมากกว่า 3 ล้านอัลบั้มในวันแรกจากอัลบั้มทั่วโลก

11th Mini Album 'SEVENTEENTH HEAVEN' ได้ทำสถิติยอดขายอัลบั้มทะลุ 5,091,887 อัลบั้มในสัปดาห์แรกหลังจากวางขาย ทำให้อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มแรกในประวัติศาสตร์ K-POP ที่ทำยอดขายสูงถึง 5 ล้านอัลบั้มในสัปดาห์แรก ด้วยสถิติสุดแข็งแกร่งนี้ทำให้ SEVENTEEN ได้กลายเป็น '10 Million Artist' โดยมียอดขายรวมทุกอัลบั้มในปีนี้มากกว่า 16 ล้านอัลบั้ม

นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลระดับโลกเช่นกัน SEVENTEEN ได้กลายเป็นศิลปิน K-POP วงแรกที่ได้ขึ้นพูดสุนทรพจน์ในสำนักงานใหญ่ UNESCO ที่งาน Youth Forum ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ UNESCO กรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยได้ร่วมเชิญกล่าวในวาระการประชุมและขึ้นแสดงคอนเสิร์ตประมาณ 1 ชั่วโมงที่สร้างความประทับใจให้แฟนๆทั่วโลก

เริ่มต้นที่ Zero Base One สร้างสถิติ 2 อัลบั้มที่วางขายในปีนี้หลังจากเดบิวต์ทำยอดขายมากกว่า 2 ล้านอัลบั้ม และในสถิติยอดสตรีม In Bloom มากกว่า 89 ล้านสตรีมใน Spotify ด้วยผลงานนี้ทำให้ได้รับรางวัล Rookie 5 รางวัลในงานปลายปีอีกด้วย

ซิงเกิ้ลแรกของ Riize 'Get A Guitar' มียอดขายทะลุ 1 ล้านอัลบั้มภายในสัปดาห์แรกหลังวางขาย และติดอันดับ 16 ในชาร์ต MelOn Daily ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของวงที่เดบิวต์ในปีนี้ เป็นผลให้ Riize ได้รับรางวัลมากมายจากงานปลายปีไม่ว่าจะเป็น Rookie Of The Year, Favorite New Artist และ Next Leader

YG Entertainment ที่เดบิวต์ Baby Monster ครั้งแรกในรอบ 7 ปีก็น่าจับตามองเช่นกัน โดย Music Video 'Batter Up' มียอดวิวมากกว่า 100 ล้านครั้งใช้เวลาเพียงแค่ 18 วัน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดสำหรับเพลงเดบิวต์ของ K-POP และมียอดสตรีม 10 ล้านบน Spotify โดยใช้เวลาเพียงแค่ 10 วัน 

กล่าวได้ว่าเป็นอีกปีที่เป็นปาฏิหาริย์สำหรับค่ายเล็ก-กลาง อย่าง KQ Entertainment ที่มีวง ATEEZ เป็นศิลปิน K-POP วงแรกจากค่ายเล็กที่สามารถขึ้นอันดับ 1 Billboard 200 ได้ โดยใช้เวลาร่วม 5 ปีตั้งแต่เดบิวต์ โดยเริ่มต้นติดชาร์ตตั้งแต่ปี 2022 นับเป็นวงที่ 7 ของ K-POP ที่ติดชาร์ตนี้ นอกจากนี้ยังได้อันดับ 2 ยอดขายในสหราชอาณาจักรและติดอันดับยอดขายระดับโลกเช่นกัน โดยวิเคราะห์ได้ว่าแฟนด้อมอาจเพิ่มขึ้นมาจากกิจกรรมโปรโมทและทัวร์ที่ทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดบิวต์จนประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ ATEEZ ยังทำสถิติใหม่ในทัวร์ปีนี้ด้วยการเป็น K-POP เจน 4 วงแรกที่แสดงที่ซาอุดิอาระเบียในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และจัดทัวร์อเมริกาใต้ครั้งแรก ด้วยสเกลสนาม Allianz Parque ที่บราซิล รวมถึงเอเชียทัวร์อีกด้วย โดยมียอดผู้ชมทัวร์นี้ทั้งหมดมากกว่า 400,000 คน ในระยะเวลา 1 ปี

นอกจาก Ateez ที่เป็นปาฏิหาริย์ของค่ายเล็กแล้ว ปีนี้ Fifty Fifty เป็นอีกวงที่ทำได้เช่นกัน ด้วยการติด Billboard Hot 100 กับเพลง Cupid โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 5 เดือนหลังจากเดบิวต์ เป็นสถิติที่เร็วที่สุดใน K-POP โดยสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าหากเพลงดีก็สามารถตีตลาดได้ทุกที่ แม้ไม่มีการโปรโมทในวงกว้างมากก็ไม่กระทบกับความชอบของเพลง

อย่างไรก็ตาม เกิดเหตุการณ์พลิกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพียงแค่ 6 เดือนหลังจากเดบิวต์ สมาชิก Fifty Fifty ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อยกเลิกสัญญากับค่าย ATTRAKT ซึ่งอ้างว่าค่ายไม่ชำระเงินและค่าใช้จ่ายและบกพร่องในการดูแลศิลปินด้านสุขภาพ โดยในกระบวนการนี้มีข้อโต้แย้งว่ามีการปลอมแปลงเอกสารและหลักฐานปลอม ทำให้มีการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับสมาชิก Fifty Fifty ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างมากจากสาธารณะชน จนสมาชิกวง คีน่า ได้คืนดีกับ ATTRAKT ค่ายต้นสังกัดและอีก 3 คนที่เหลือถูกยกเลิกสัญญา โดย ATTRAKT มีแพลนที่จะปรับโครงสร้างวงด้วยการหาสมาชิกใหม่ แต่ยังไม่สามารถการันตีว่าจะยังครองกระแสสาธารณะชนได้อยู่หรือไม่เช่นกัน

อีกกรณีในปีนี้คือ ยู จุนวอน เซนเตอร์จากรายการ Fantasy Boys ที่มาจากรายการเซอไวเวิล MBC Fantasy Boys โดยฝ่ายยู จุนวอน ได้ฟ้องร้องขอยกเลิกสัญญากับต้นสังกัด Pocket Doll Studio เนื่องจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และถูกต้นสังกัดฟ้องกลับเรียกร้องค่าเสียหายกลับ

อาจจะตกหล่นดีเทลบางอย่างเล็กน้อยในเนื้อข่าวนะคะ ขออภัยด้วยค่ะ ไม่มีค่อยมีเวลาเท่าไหร่

หากแปลผิดพลาด แจ้งให้แก้ไขได้เลยค่ะ 🙏🏻