คิดอยู่เป็นปี ๆ ว่าจะเขียนกระทู้ดีมั้ย แต่ก็ตัดสินใจเขียนค่ะเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจเราเอง...เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการเข้าเรียนช้าค่ะคือเริ่มเรียน ป.ตรี ตอนอายุ 25 ปีค่ะ จากการได้รับโอกาสจากผู้อุปการะท่านหนึ่งค่ะซึ่งท่านดูแลซัพพอร์ตทุกอย่างทุกอย่างจริง ๆ ค่ะ [ซึ่งเราเรียกท่ายว่าคุณลุงค่ะ] [หนูขอบพระคุณคุณลุงมาก ๆ ค่ะสำหรับโอกาสถึงแม้วันนี้หนูจะไม่มีโอกาส ได้ไปพูดคำนี้กับคุณลุงค่ะ]
ช่วงที่เรียนปกติเราก็เรียนปกติจนมาถึง ช่วงออกฝึกหกิจศึกษา ซึ่งก็คือช่วงสุดท้ายก่อนจะจบการศึกษาค่ะ ก่อนอื่นคือเราเป็นโรคซึมเศร้านะคะรักษาด้วยการรับยาที่โรงพยาบาลมาหลายปีค่ะ...
เราก็ได้ไปฝึกงานที่หนึ่งซึ่งก็คือคุณลุงท่านนี้เป็นผู้ช่วยเหลือในเรื่องนี้อีกเช่นกันค่ะ ช่วงนั้นด้วยความที่ว่าเราไปฝึกสหกิจศึกษาไกลบ้านมาก ทำให้เกิดปัญหา[ส่วนตัว] หลาย ๆ อย่างกับเราประกอบกับเราไม่สามารถเล่าให้ใครฟังหรือปรึกษาใครได้ จนที่สุดกลายเป็นว่าปัญหาหลาย ๆ อย่างมันครอบงำความคิดเราชั่ววูบให้เราตัดสินใจ ทำร้ายตัวเองหวังผลแบบที่ว่านั่นแหล่ะค่ะ ด้วยการกินยาเกินขนาดค่ะ จนสุดท้ายเราเข้าโรงพยาบาล [ด้วยการไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองค่ะ อารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นแบบคิดได้ค่ะกลับใจไม่อยากตุยแล้ว คิดได้ว่าชีวิตเรายังต้องไปต่อเราต้องเรียนให้จบเพื่อคุณลุงที่รอความสำเร็จเราอยู่] เราเข้ารับการรักษาเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือน ด้วยการรักษาแบบที่ห้ามใช้มือถือห้ามรับรู้เรื่องภายนอกทั้งสิ้นค่ะจนวันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราพร้อมแล้วที่จะออกมาสู้ชีวิตต่อ...
และสิ่งนี้แหล่ะค่ะทำให้ชีวิตเราถึงจุดเปลี่ยน คุณลุงคงโกรธและเกลียดเรามาก ๆ กับหลาย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น และเราเองก็ไม่มีโอกาสที่จะได้อธิบายในเรื่องราวที่เกิดเลยจนวันนี้ก็ยังไม่มีโอกาสค่ะ แต่ถึงอย่างไรคุณลุงก็ได้มอบหลาย ๆ สิ่งให้คน ๆ หนึ่งซึ่งในชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้รับหากคุณลุงไม่หยิบยื่นมาให้ เรายังรอโอกาสที่จะได้กราบขอโทษและขอบพระคุณคุณลุงอยู่ตลอดมาค่ะ...
[เข้าเรื่องค่ะทีนี้ดราม่าซะยาวค่ะ]
คือในตอนนี้เรายังไม่ได้จบการศึกษาค่ะ หลังจากที่เกิดเรื่องราวในครั้งนั้น เราต้องทำเรื่องลาพักการศึกษาค่ะ และเราก็ได้เดินทางกลับมาภูมิลำเนา หางานทำเพื่อจะหาเงินมาจ่ายค่าเทอมอีก 11 หน่วยกิตให้จบค่ะ แต่ชีวิตมันดันไม่ง่ายแบบนั้นค่ะ
เราเป็นซึมเศร้าและแพนิคค่ะ เราไปหางานทำได้งานแต่เราทำงานแบบปกติไม่ได้ค่ะ อาการเราแพนิคอยู่ตลอดเวลามือสั่นตัวสั่นกระวนกระวาย และแล้วคือต้องได้ออกจากงานนั้นค่ะ และเราก็หางานใหม่เรื่อย ๆ แต่ด้วยโรคที่เราเป็นมันทำให้เราไม่ปกติเลยค่ะ เรากลายเป็นกลัวผู้คนไม่กล้าเข้าหาไปเลยค่ะ จนวันนี้เราไม่สามารถทำงานได้เลยค่ะ
แล้วเรื่องการเรียนมันมาถึงปีสุดท้ายที่เราจะลาพักการศึกษาได้แล้วค่ะ ซึ่งก็หมายความว่าที่เราเรียนมาทั้งหมดจนเกือบจบ...เราจะไม่จบและมันจะสลายไปค่ะ เราเลยอยากจะปรึกษาเราจะหาทางออกหรือทำอย่างไรดีคะ เราเครียดมากคิดวกวนมากค่ะ
แท็กผิดห้องขออภัยด้วยนะคะ
ไปต่อยังไงดี อีก 11 หน่วยกิต ก็จบการศึกษา แต่ไม่สามารถหาค่าเทอมมาจ่ายได้และดรอปจนถึงเทอมสุดท้ายแล้ว
ช่วงที่เรียนปกติเราก็เรียนปกติจนมาถึง ช่วงออกฝึกหกิจศึกษา ซึ่งก็คือช่วงสุดท้ายก่อนจะจบการศึกษาค่ะ ก่อนอื่นคือเราเป็นโรคซึมเศร้านะคะรักษาด้วยการรับยาที่โรงพยาบาลมาหลายปีค่ะ...
เราก็ได้ไปฝึกงานที่หนึ่งซึ่งก็คือคุณลุงท่านนี้เป็นผู้ช่วยเหลือในเรื่องนี้อีกเช่นกันค่ะ ช่วงนั้นด้วยความที่ว่าเราไปฝึกสหกิจศึกษาไกลบ้านมาก ทำให้เกิดปัญหา[ส่วนตัว] หลาย ๆ อย่างกับเราประกอบกับเราไม่สามารถเล่าให้ใครฟังหรือปรึกษาใครได้ จนที่สุดกลายเป็นว่าปัญหาหลาย ๆ อย่างมันครอบงำความคิดเราชั่ววูบให้เราตัดสินใจ ทำร้ายตัวเองหวังผลแบบที่ว่านั่นแหล่ะค่ะ ด้วยการกินยาเกินขนาดค่ะ จนสุดท้ายเราเข้าโรงพยาบาล [ด้วยการไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองค่ะ อารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นแบบคิดได้ค่ะกลับใจไม่อยากตุยแล้ว คิดได้ว่าชีวิตเรายังต้องไปต่อเราต้องเรียนให้จบเพื่อคุณลุงที่รอความสำเร็จเราอยู่] เราเข้ารับการรักษาเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือน ด้วยการรักษาแบบที่ห้ามใช้มือถือห้ามรับรู้เรื่องภายนอกทั้งสิ้นค่ะจนวันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราพร้อมแล้วที่จะออกมาสู้ชีวิตต่อ...
และสิ่งนี้แหล่ะค่ะทำให้ชีวิตเราถึงจุดเปลี่ยน คุณลุงคงโกรธและเกลียดเรามาก ๆ กับหลาย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น และเราเองก็ไม่มีโอกาสที่จะได้อธิบายในเรื่องราวที่เกิดเลยจนวันนี้ก็ยังไม่มีโอกาสค่ะ แต่ถึงอย่างไรคุณลุงก็ได้มอบหลาย ๆ สิ่งให้คน ๆ หนึ่งซึ่งในชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้รับหากคุณลุงไม่หยิบยื่นมาให้ เรายังรอโอกาสที่จะได้กราบขอโทษและขอบพระคุณคุณลุงอยู่ตลอดมาค่ะ...
[เข้าเรื่องค่ะทีนี้ดราม่าซะยาวค่ะ]
คือในตอนนี้เรายังไม่ได้จบการศึกษาค่ะ หลังจากที่เกิดเรื่องราวในครั้งนั้น เราต้องทำเรื่องลาพักการศึกษาค่ะ และเราก็ได้เดินทางกลับมาภูมิลำเนา หางานทำเพื่อจะหาเงินมาจ่ายค่าเทอมอีก 11 หน่วยกิตให้จบค่ะ แต่ชีวิตมันดันไม่ง่ายแบบนั้นค่ะ
เราเป็นซึมเศร้าและแพนิคค่ะ เราไปหางานทำได้งานแต่เราทำงานแบบปกติไม่ได้ค่ะ อาการเราแพนิคอยู่ตลอดเวลามือสั่นตัวสั่นกระวนกระวาย และแล้วคือต้องได้ออกจากงานนั้นค่ะ และเราก็หางานใหม่เรื่อย ๆ แต่ด้วยโรคที่เราเป็นมันทำให้เราไม่ปกติเลยค่ะ เรากลายเป็นกลัวผู้คนไม่กล้าเข้าหาไปเลยค่ะ จนวันนี้เราไม่สามารถทำงานได้เลยค่ะ
แล้วเรื่องการเรียนมันมาถึงปีสุดท้ายที่เราจะลาพักการศึกษาได้แล้วค่ะ ซึ่งก็หมายความว่าที่เราเรียนมาทั้งหมดจนเกือบจบ...เราจะไม่จบและมันจะสลายไปค่ะ เราเลยอยากจะปรึกษาเราจะหาทางออกหรือทำอย่างไรดีคะ เราเครียดมากคิดวกวนมากค่ะ
แท็กผิดห้องขออภัยด้วยนะคะ