ในยุคสังคมที่เศรษฐกิจถดถอย หลายครอบครัวชักหน้าไม่ถึงหลัง เมื่อเงินขาดมือ ไม่รู้จะเอาที่ไหนมากินมาใช้ 
เป็นแค่คนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ จะไปกู้ธนาคารที่ไหนใครเขาจะให้ ทางที่มีก็ต้องขอหยิบขอยืมคนใกล้ตัวกันไปตามประสา. 
หากแต่เมื่อหันหน้าไปหาใครรอบข้างก็ลำบากเลือดเข้าตา สุดท้ายก็ต้องบ่ายหน้าไปหาเงินกู้นอกระบบ



แต่มันไม่ไหว ดอกร้อยละ 20 วันๆส่งแต่ดอก ดอกทบต้นไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีปัญญาจ่ายหมดเมื่อไหร่ .. 
สุดท้ายเมื่อไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องหนีหนี้.....



เรื่องราวของหนีหนี้ หนังสั้นความยาวแค่ 4 นาทีนิดๆ ของกลุ่มคนทำหนังสั้นรุ่นใหม่ที่ชื่อกลุ่มว่า วิฬารปรัมปรา (วิฬาร ก็คือแมวล่ะครับ) 
เป็นหนังสั้นลำดับที่ 3 แล้วของพวกเขา หลังจากที่มีงานมาก่อนหน้านี้อย่าง ห้องใต้ดิน และอะไรในท่อ 
พวกเขาจะอัพเดตหนังวีคละเรื่องด้วยกัน และนำเสนอทาง youtube ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผมชอบหนีหนี้มากที่สุด



เรื่องราวของครอบครัวนึงผู้พ่อที่โดนเจ้าหนี้มาตามทวง จนตัวเองหนีหนี้และทิ้งลูกเมียไว้ที่ห้อง 
โดยสัญญาว่าจะกลับมารับไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง....หลายคนอาจตั้งคำถามว่าแล้วไปกู้พวกหน้าเลือดพวกนี้ทำไม .รนหาที่กันเอง .. 
คือต้องยอมรับครับว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนกันได้ เพราะเค้าไม่มีหลักประกันอะไรเลย
อย่างที่บรรดาธนาคารทั้งหลายต้องการ เป็นแค่ชาวบ้านร้านตลาดที่ต้องการเงินมาหมุนเพื่อค้าขายวันต่อวัน
ในเมื่อกู้ธนาคารไม่ได้ก็ต้องมาพึ่งนอกระบบกันทั้งนั้น นี่คือความเป็นจริง



หากแต่หนังสั้นเรื่องนี้นำเสนอในรูปแบบปัญหาสังคมปนความสยองขวัญแบบหักมุมตอนท้าย ซึ่งทำได้ดีเลยทีเดียว 
อารมณ์เหมือนเรื่องสยอง 2 บรรทัด คือบรรทัดแรกคือเนื้อเรื่องและบรรทัด 2 หักมุมจบ
ถือว่าน่าติดตามและขอเป็นกำลังใจให้เลยครับ หวังว่าจะมีงานดีดีต่อเนื่องมาอีกเรื่อยๆ อ่อ 
และหากใครชอบแมวแนะนำให้ดูเรื่องที่ชื่อว่า อะไรในท่อนะครับ ตัวแสดงเป็นแมวทำได้ดีมาก เล่นได้เหมือนแมวจริงๆ (ก็มันเป็นแมวนี่หว่า 5555)  
อ้อ มีเรื่องใหม่มาแล้วนะครับ คงคอนเซ็ปต์สยองทุกเรื่องเช่นเดิม
ลองไปติดตามกันได้ใน youtube นะครับ กับช่อง วิฬารปรัมปรา 
สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามรีวิวของผม Lunar_b กันมาตลอดทั้งปี 70 เรื่องพอดี
ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดีและสุขสมหวังสำหรับทุกท่าน ไม่มีหนี้มีสิน ตัวเบาสบายไรัปัญหาใดๆนะครับ
สวัสดีปีใหม่ครับผม ^^ 

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร 
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===