เนื่องจากเป็นกระทู้แรกที่เราอยากแชร์เรื่องราวแบ่งปันสำหรับคนที่ในครอบครัวตรวจเจอเนื้องอกในสมอง
ต้องขอเล่าว่าแม่เป็นคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอร์(เบียร์)เป็นประจำทุกวัน เริ่มจากดื่มวันละ 1 กระป๋อง มา2 กระป๋อง จากนั้นมา 1 ขวดและ2 ขวด ตามลำดับ
จนติดและมีอาการมึนเป็นประจำตลอดระยะเวลา 5-6 ปี และมีอาการตาพล่ามัว และไม่ค่อยได้รับกลิ่น อยากนอนทั้งวันขายของไม่ได้อาการเหมือนคนเมาค้าง(แม่เรามีอาชีพค้าขาย) แต่ไม่มีอาการปวดหัวหรือข้างเคียงอื่นๆ คนในครอบครัวได้พยายามบอกให้แม่เลิกดื่มจะได้ทำงานได้ ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย แต่ก็ไม่เกิดผล แม่ก็ยังดื่มต่อไป
จนมาวันนึงตอนกลางคืนแม่มีอาการชัก ฉี่รดที่นอน พ่อได้พาไปโรงพยาบาล แล้วพ่อโทรหาเราว่าแม่ชัก เราซึ่งอยู่อีกอำเภอนึงจึงรีบขับรถไปดูแม่ที่ รพ จากนั้นจึงพาแม่ไปโรงพยาบาลเอกชนต่อเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยให้เร็วที่สุด พอไปโรงพยาบาลเอกชนทำ ct scan พบก้อนเนื้องอกในสมองขนาดเท่ากำมือซึ่งใหญ่มาก เราค่อนข้างตกใจ แต่คุณหมอบอกว่ามีทางเดียวคือต้องผ่าตัดออกเพราะยังเป็นก้อนเนื้อธรรมดา ถ้าไม่ผ่าก้อนเนื้อจะกดทับประสาทตาและจมูก ให้มองไม่ชัดและไม่ได้รับกลิ่น และจะชักขึ้นมาอีกได้ จากนั้นให้แม่นอนadmit รอวันผ่าปีกประมาณ 7 วันแต่เราขอย้ายไปรอผ่าตัดที่โรงพยาบาลรัฐ ที่เป็นโรงพยาบาลศูนย์แทนเพราะใช้สิทธิเบิกได้ของเรา
พอถึงวันผ่าตัด เราก็กังวลนิดนึงแต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติ เพราะไม่อยากให้คนป่วยกังวลด้วบ เรานั่งรอห้องผ่าตัดตั้งแต่ 9.00-17.00 ใช้เวลาผ่าตัด 10 ชม. ฟังไม่ผิด 10 ชั่วโมง ซึ่งนานมาก หมอบอกว่าเพราะขนาดใหญ่จึงใช้เวลานาน
พอผ่าเสร็จ เค้าย้ายแม่ไปอยู่ห้องไอซียู เราเห็นแม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ มีผ้าพันแผลพันรอบหัว อาการค่อนข้างหน้าตกใจ แต่พออีกวันนึงพยาบาลโทรมาบอกว่าแม่รู้สึกตัวแล้ว เราดีใจมาก ขอบคุณพยาบาล แม่นอนห้องไอซียู 3 วัน จากนั้นย้ายมาอยู่ห้องพิเศษ
ตอนนี้แม่อาการดีขึ้นแล้ว สามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ กินอาหารเองได้ เหลือแต่พยายามฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง
ที่เรามาเขียนกระทู้นี้ เพื่อ อยากแชร์ ประสบการณ์สำหรับคนที่คนในครอบครัวตรวจเจอเนื้องอก และมีอาการกังวลใจ ขอให้อดทนและผ่านเรื่องราวนี้ไปค่ะ
เมื่อแม่ตรวจพบเจอก้อนเนื้อในสมองขนาดใหญ่มาก
ต้องขอเล่าว่าแม่เป็นคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอร์(เบียร์)เป็นประจำทุกวัน เริ่มจากดื่มวันละ 1 กระป๋อง มา2 กระป๋อง จากนั้นมา 1 ขวดและ2 ขวด ตามลำดับ
จนติดและมีอาการมึนเป็นประจำตลอดระยะเวลา 5-6 ปี และมีอาการตาพล่ามัว และไม่ค่อยได้รับกลิ่น อยากนอนทั้งวันขายของไม่ได้อาการเหมือนคนเมาค้าง(แม่เรามีอาชีพค้าขาย) แต่ไม่มีอาการปวดหัวหรือข้างเคียงอื่นๆ คนในครอบครัวได้พยายามบอกให้แม่เลิกดื่มจะได้ทำงานได้ ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย แต่ก็ไม่เกิดผล แม่ก็ยังดื่มต่อไป
จนมาวันนึงตอนกลางคืนแม่มีอาการชัก ฉี่รดที่นอน พ่อได้พาไปโรงพยาบาล แล้วพ่อโทรหาเราว่าแม่ชัก เราซึ่งอยู่อีกอำเภอนึงจึงรีบขับรถไปดูแม่ที่ รพ จากนั้นจึงพาแม่ไปโรงพยาบาลเอกชนต่อเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยให้เร็วที่สุด พอไปโรงพยาบาลเอกชนทำ ct scan พบก้อนเนื้องอกในสมองขนาดเท่ากำมือซึ่งใหญ่มาก เราค่อนข้างตกใจ แต่คุณหมอบอกว่ามีทางเดียวคือต้องผ่าตัดออกเพราะยังเป็นก้อนเนื้อธรรมดา ถ้าไม่ผ่าก้อนเนื้อจะกดทับประสาทตาและจมูก ให้มองไม่ชัดและไม่ได้รับกลิ่น และจะชักขึ้นมาอีกได้ จากนั้นให้แม่นอนadmit รอวันผ่าปีกประมาณ 7 วันแต่เราขอย้ายไปรอผ่าตัดที่โรงพยาบาลรัฐ ที่เป็นโรงพยาบาลศูนย์แทนเพราะใช้สิทธิเบิกได้ของเรา
พอถึงวันผ่าตัด เราก็กังวลนิดนึงแต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติ เพราะไม่อยากให้คนป่วยกังวลด้วบ เรานั่งรอห้องผ่าตัดตั้งแต่ 9.00-17.00 ใช้เวลาผ่าตัด 10 ชม. ฟังไม่ผิด 10 ชั่วโมง ซึ่งนานมาก หมอบอกว่าเพราะขนาดใหญ่จึงใช้เวลานาน
พอผ่าเสร็จ เค้าย้ายแม่ไปอยู่ห้องไอซียู เราเห็นแม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ มีผ้าพันแผลพันรอบหัว อาการค่อนข้างหน้าตกใจ แต่พออีกวันนึงพยาบาลโทรมาบอกว่าแม่รู้สึกตัวแล้ว เราดีใจมาก ขอบคุณพยาบาล แม่นอนห้องไอซียู 3 วัน จากนั้นย้ายมาอยู่ห้องพิเศษ
ตอนนี้แม่อาการดีขึ้นแล้ว สามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ กินอาหารเองได้ เหลือแต่พยายามฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง
ที่เรามาเขียนกระทู้นี้ เพื่อ อยากแชร์ ประสบการณ์สำหรับคนที่คนในครอบครัวตรวจเจอเนื้องอก และมีอาการกังวลใจ ขอให้อดทนและผ่านเรื่องราวนี้ไปค่ะ