ปี 2023 ที่กำลังจะผ่านไปถือเป็นปีที่มีทั้งสินทรัพย์ที่เติบโตโดดเด่นและบางสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้แย่ เรามารีวิวไปด้วยกันว่าสินทรัพย์ใดบ้างที่เป็นดาวเด่นและดาวดับ
โดดเด่นที่สุด >> ต้องยกให้หุ้น 7 นางฟ้าหรือ Big7 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ครองสัดส่วนของดัชนี S&P500 ถึง 1 ใน 4 และเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นขาขึ้นตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าหุ้น 7 ตัวคือ Apple Microsoft Alphabet Tesla Meta Amazon และ Nvidia แบกตลาดหุ้นสหรัฐฯเอาไว้
เทรนด์มาแรง >> ต้องยกให้การมาของ Generative AI ที่ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ Nvidia ที่ผลิตการ์ดประมวลผลเป็นหุ้นเทคโนโลยีที่โดดเด่นในปีนี้รวมถึงหุ้นเทคขนาดใหญ่ที่ลงสนามแข่งขันเอไอทุกราย และยังมีหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซอฟท์แวร์ คลาวด์ ฯลฯ ที่เกาะกระแสเอไอปรับตัวขึ้นได้แรงเช่นกัน
เหนือความคาดหมายเล็กๆ >> Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้กว่า 150% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่จะมี Bitcoin Spot ETF เกิดขึ้น และ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ถือว่าเหนือความคาดหมายเล็กๆที่ผลตอบแทนทำได้ดีเกินคาดทั้งปีที่แล้วยังเป็นขาลงทั้งปี
ผันผวนสุดๆ >> ตลาดหุ้นเวียดนาม ทองคำ หนึ่งในตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้ดีในปีนี้คือตลาดหุ้นเวียดนาม โดยเคยสร้างผลตอบแทน Year To Date ได้ถึง 22% แต่มีบางช่วงที่ราคาปรับตัวลงหนักเช่นกัน ส่วนทองคำได้รับอานิสงจากแนวโน้มนโยบายการเงินของ FED ที่ผ่อนคลายเร็วกว่าคาดและสงครามอิสราเอลและฮามาสจนราคาทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล แต่ราคาก็ปรับตัวลงเร็วเช่นกัน จึงถือเป็นสองสินทรัพย์ที่ผันผวนที่สุดมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและแย่
หวือหวาที่สุด >> หุ้น Vinfast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนามที่เข้าตลาดหุ้นด้วยวิธีการ Spac ก่อนจะสร้างผลตอบแทนหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ทันทีที่เข้าซื้อขายในตลาด Nasdaq แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ถูกเทขายอย่างหนักจนตอนนี้ราคาต่ำกว่าไอพีโอแล้ว ถือเป็นหุ้นที่หวือหวาสุดของปีนี้
แย่ที่สุด >> ตลาดหุ้นจีนและไทย กลายเป็นสองตลาดหุ้นหลักที่สร้างผลตอบแทนได้แย่ที่สุดของปีนี้ โดยติดลบในระดับเลขสองหลัก ส่วนของตลาดหุ้นไทยนอกจากไม่มี Election Rally ยังได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อยและเศรษฐกิจที่โตถดถอย ส่วนตลาดหุ้นจีนได้ผลกระทบจากเศรษฐกิจที่เติบโตลดลง
สรุปภาพรวมการลงทุนตลอดปี 2023 สินทรัพย์ไหนเด่น-ดับ ที่สุด
โดดเด่นที่สุด >> ต้องยกให้หุ้น 7 นางฟ้าหรือ Big7 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ครองสัดส่วนของดัชนี S&P500 ถึง 1 ใน 4 และเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นขาขึ้นตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าหุ้น 7 ตัวคือ Apple Microsoft Alphabet Tesla Meta Amazon และ Nvidia แบกตลาดหุ้นสหรัฐฯเอาไว้
เทรนด์มาแรง >> ต้องยกให้การมาของ Generative AI ที่ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ Nvidia ที่ผลิตการ์ดประมวลผลเป็นหุ้นเทคโนโลยีที่โดดเด่นในปีนี้รวมถึงหุ้นเทคขนาดใหญ่ที่ลงสนามแข่งขันเอไอทุกราย และยังมีหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซอฟท์แวร์ คลาวด์ ฯลฯ ที่เกาะกระแสเอไอปรับตัวขึ้นได้แรงเช่นกัน
เหนือความคาดหมายเล็กๆ >> Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้กว่า 150% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่จะมี Bitcoin Spot ETF เกิดขึ้น และ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ถือว่าเหนือความคาดหมายเล็กๆที่ผลตอบแทนทำได้ดีเกินคาดทั้งปีที่แล้วยังเป็นขาลงทั้งปี
ผันผวนสุดๆ >> ตลาดหุ้นเวียดนาม ทองคำ หนึ่งในตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้ดีในปีนี้คือตลาดหุ้นเวียดนาม โดยเคยสร้างผลตอบแทน Year To Date ได้ถึง 22% แต่มีบางช่วงที่ราคาปรับตัวลงหนักเช่นกัน ส่วนทองคำได้รับอานิสงจากแนวโน้มนโยบายการเงินของ FED ที่ผ่อนคลายเร็วกว่าคาดและสงครามอิสราเอลและฮามาสจนราคาทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล แต่ราคาก็ปรับตัวลงเร็วเช่นกัน จึงถือเป็นสองสินทรัพย์ที่ผันผวนที่สุดมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและแย่
หวือหวาที่สุด >> หุ้น Vinfast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนามที่เข้าตลาดหุ้นด้วยวิธีการ Spac ก่อนจะสร้างผลตอบแทนหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ทันทีที่เข้าซื้อขายในตลาด Nasdaq แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ถูกเทขายอย่างหนักจนตอนนี้ราคาต่ำกว่าไอพีโอแล้ว ถือเป็นหุ้นที่หวือหวาสุดของปีนี้
แย่ที่สุด >> ตลาดหุ้นจีนและไทย กลายเป็นสองตลาดหุ้นหลักที่สร้างผลตอบแทนได้แย่ที่สุดของปีนี้ โดยติดลบในระดับเลขสองหลัก ส่วนของตลาดหุ้นไทยนอกจากไม่มี Election Rally ยังได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อยและเศรษฐกิจที่โตถดถอย ส่วนตลาดหุ้นจีนได้ผลกระทบจากเศรษฐกิจที่เติบโตลดลง