อแซก นิวตัน (Isaac Newton) เป็นคนอังกฤษ และมีอาชีพเป็น นักฟิสิกส์ นัก คณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักปรัชญา ผลงานชิ้นเอกของ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ก็คือการที่ค้นพบแรงโน้มถ่วงของโลกจากการที่ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ไปยืนใต้ต้นแอปเปิ้ล แล้วแอปเปิ้ลตกใส่ทำให้โลกเราได้รู้จักคำว่าแรงโน้มถ่วง นอกจากนี้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ยังได้พัฒนา calculus ค้นพบกฎแรงนิวตัน สร้างกล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงที่สามารถใช้งานจริงได้เป็นเครื่องแรก จะเห็นได้ว่า ไอแซกเป็นอัจฉริยะตัวจริง และทำไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) คิดว่าความสามารถตัวเองนั้นเกี่ยวกับคณิตสามารถใช้ในการหาเงินในตลาดหุ้นได้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ได้เข้าไปลงทุนบริษัท South sea company
บริษัท South Sea company
บริษัท South sea company เป็นเป็นบริษัทของรัฐบาลอังกฤษและกลุ่มพ่อค้าอังกฤษทำการค้าในทะเลอเมริกาใต้ ก่อตั้งในปี1711 บริษัทเป็นอุตสาหกรรมผูกขาดที่จะทำการซื้อขายในทะเลอเมริกาใต้และส่วนอื่นๆของอเมริกาใต้ แลกกลับที่บริษัทจะต้องรับหนี้ของประเทศอังกฤษเอาไว้ หลังจากบริษัทเสียการผูกขาดทางการค้าให้กับสเปนแล้วทำให้กำไรได้แย่ลงเรื่อยๆ
ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) กลายเป็นนักลงทุนหุ้น
ในเบื้องต้นด้วยความที่บริษัทเป็นบริษัทผูกขาดทำให้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ตัดสินใจในการลงทุนในหุ้นบริษัท South Sea company และได้กำไรอยู่พอสมควร หลังจากนั้นด้วยความร้อนแรงของหุ้น ทำให้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) อดใจไม่ไหวที่จะเห็นคนอื่นกำไรไปต่อหน้า ต่อตาทำให้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton)ตัดสินใจลงทุนเพิ่มเงินเข้าไปอีก หลังจากหุ้นผ่านจุสูงสุดไปจนทำให้ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ขาดทุนเป็นเงินกว่า 2 หมื่นปอนด์ หลายคนก็คิดว่ามันไม่เยอะอะไร แต่ผมจะบอกว่ามันเยอะมากสำหรับปี 1720 จน ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ต้องพูดว่า ผมสามารถคำนวณการเคลื่อนไหวของดวงดาวได้ แต่ไม่สามารถคาดการความบ้าคลั่งของผู้คนได้
บทเรียนที่ผมคิดว่าได้รับจากการขาดทุนหุ้นของ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton)
อย่าปล่อยให้อารมณ์ตลาดพาเราไป
จริงๆแล้ว ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) เองถ้าพอใจกับการลงทุนในตอนแรกแล้ว ไม่เข้าไปในตอนที่หุ้นกำลังร้อนแรงเกินไป โอกาสขาดทุนของ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) จะน้อยมาก เพราะการประเมินหุ้นจริงผมว่าสำหรับ อัจฉริยะอย่าง ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ไม่ได้ยากอะไรเกินไป ดังนั้นการควบคุมอารมณ์ตลาดจึงมีความจำเป็นอย่างมาก
จงรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
สำหรับการลงทุนในหุ้นเฉพาะตัวนั้น นักลงทุนเองต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามสถานการณ์ อย่าคิดว่าสิ่งที่ได้ผลตอบแทนดีในอดีตจะยืนยันในการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อย่างตัวอย่าง บริษัท South Sea company เองตอนแรกที่ผูกขาดการลงทุนในอเมริกาใต้ ก็ยังคงเป็นบริษัทที่น่าลงทุน แต่หลังจากที่บริษัทสูญเสียแหล่งรายได้ไปทำให้บริษัทกลับกลายเป็นบริษัทไม่มีเงินเพียงพอที่จะบริหารและใช้หนี้ได้
กระจายการลงทุน
จากที่เห็นการที่เราลงทุนในบริษัทเดียว จะย่อมต้องรับความเสี่ยงเองทั้งหมด ถ้ากลับกันเราสามารถลงทุนได้ทั้งสเปนและอังกฤษพร้อมกัน ไม่ว่าฝั่งไหนได้เราก็จะได้กำไรอีกบริษัทหนึ่งมาชดเชยส่วนที่เราสูญเสียไปได้ ดังนั้นอย่าลืมการกระจายความเสี่ยงเป็นเรื่องที่สำคัญขนาด ถามตัวเองครับขนาดอัจฉริยะ อย่าง ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) และบริษัทที่ผูกขาดการค้าอย่างบริษัท South sea company ยังพลาดได้ เราคนธรรมดาก็สามารถพลาดได้เช่นกันครับ
การศึกษาประวัติศาสตร์การเงินคือการศึกษาจุดที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และล้มเหลว ทำให้เรานำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบันได้ สุดท้ายขอบคุณนะครับสำหรับทุกคนที่อ่านจนจบ หวังหว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนะครับ
บทเรียนจากการขาดทุนหุ้นของ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton)
บริษัท South Sea company
บริษัท South sea company เป็นเป็นบริษัทของรัฐบาลอังกฤษและกลุ่มพ่อค้าอังกฤษทำการค้าในทะเลอเมริกาใต้ ก่อตั้งในปี1711 บริษัทเป็นอุตสาหกรรมผูกขาดที่จะทำการซื้อขายในทะเลอเมริกาใต้และส่วนอื่นๆของอเมริกาใต้ แลกกลับที่บริษัทจะต้องรับหนี้ของประเทศอังกฤษเอาไว้ หลังจากบริษัทเสียการผูกขาดทางการค้าให้กับสเปนแล้วทำให้กำไรได้แย่ลงเรื่อยๆ
ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) กลายเป็นนักลงทุนหุ้น
ในเบื้องต้นด้วยความที่บริษัทเป็นบริษัทผูกขาดทำให้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ตัดสินใจในการลงทุนในหุ้นบริษัท South Sea company และได้กำไรอยู่พอสมควร หลังจากนั้นด้วยความร้อนแรงของหุ้น ทำให้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) อดใจไม่ไหวที่จะเห็นคนอื่นกำไรไปต่อหน้า ต่อตาทำให้ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton)ตัดสินใจลงทุนเพิ่มเงินเข้าไปอีก หลังจากหุ้นผ่านจุสูงสุดไปจนทำให้ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ขาดทุนเป็นเงินกว่า 2 หมื่นปอนด์ หลายคนก็คิดว่ามันไม่เยอะอะไร แต่ผมจะบอกว่ามันเยอะมากสำหรับปี 1720 จน ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ต้องพูดว่า ผมสามารถคำนวณการเคลื่อนไหวของดวงดาวได้ แต่ไม่สามารถคาดการความบ้าคลั่งของผู้คนได้
บทเรียนที่ผมคิดว่าได้รับจากการขาดทุนหุ้นของ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton)
อย่าปล่อยให้อารมณ์ตลาดพาเราไป
จริงๆแล้ว ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) เองถ้าพอใจกับการลงทุนในตอนแรกแล้ว ไม่เข้าไปในตอนที่หุ้นกำลังร้อนแรงเกินไป โอกาสขาดทุนของ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) จะน้อยมาก เพราะการประเมินหุ้นจริงผมว่าสำหรับ อัจฉริยะอย่าง ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) ไม่ได้ยากอะไรเกินไป ดังนั้นการควบคุมอารมณ์ตลาดจึงมีความจำเป็นอย่างมาก
จงรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
สำหรับการลงทุนในหุ้นเฉพาะตัวนั้น นักลงทุนเองต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามสถานการณ์ อย่าคิดว่าสิ่งที่ได้ผลตอบแทนดีในอดีตจะยืนยันในการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อย่างตัวอย่าง บริษัท South Sea company เองตอนแรกที่ผูกขาดการลงทุนในอเมริกาใต้ ก็ยังคงเป็นบริษัทที่น่าลงทุน แต่หลังจากที่บริษัทสูญเสียแหล่งรายได้ไปทำให้บริษัทกลับกลายเป็นบริษัทไม่มีเงินเพียงพอที่จะบริหารและใช้หนี้ได้
กระจายการลงทุน
จากที่เห็นการที่เราลงทุนในบริษัทเดียว จะย่อมต้องรับความเสี่ยงเองทั้งหมด ถ้ากลับกันเราสามารถลงทุนได้ทั้งสเปนและอังกฤษพร้อมกัน ไม่ว่าฝั่งไหนได้เราก็จะได้กำไรอีกบริษัทหนึ่งมาชดเชยส่วนที่เราสูญเสียไปได้ ดังนั้นอย่าลืมการกระจายความเสี่ยงเป็นเรื่องที่สำคัญขนาด ถามตัวเองครับขนาดอัจฉริยะ อย่าง ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) และบริษัทที่ผูกขาดการค้าอย่างบริษัท South sea company ยังพลาดได้ เราคนธรรมดาก็สามารถพลาดได้เช่นกันครับ
การศึกษาประวัติศาสตร์การเงินคือการศึกษาจุดที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และล้มเหลว ทำให้เรานำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบันได้ สุดท้ายขอบคุณนะครับสำหรับทุกคนที่อ่านจนจบ หวังหว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนะครับ