JJNY : ดักคอ ถ้ายุบพรรค"ก้าวไกล"│นราฯอ่วม จมบาดาล 13 อ.│บาทแข็งค่าเล็กน้อย│ผู้นำอิสราเอลประกาศเดินหน้าสงครามกับฮามาส

"กูรู" โหนผลโพล ดักคอถ้ายุบพรรค "ก้าวไกล" จะบรรลัยขนาดไหน!
https://siamrath.co.th/n/502711
 
 
วันที่ 26 ธ.ค.66 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า...

ก้าวไกลกำลังก้าวไกล

ผลโพลล่าสุดพรรคก้าวไกลและผู้นำพรรคได้รับความนิยมเป็นลำดับหนึ่ง
ด้วยคะแนนเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด

พรรคลำดับ 2 และ 3 คะแนนรวมกัน ยังได้แค่ครึ่งหนึ่งของพรรคก้าวไกล

ก่อให้เกิดความหวาดผวาแก่คนบางกลุ่ม ถึงขนาดวาดหวังว่าต้องใช้วิธีการยุบพรรคก้าวไกลให้ได้
ช่างน่าเวทนายิ่งนักที่คนพวกนี้มีความอยากมากว่าสติปัญญา
 
ไม่ลืมหูลืมตาดูเลยว่าประวัติการยุบพรรคที่ผ่านมาได้ผลหรือไม่เพียงใด
ดูแค่พรรคเพื่อไทยก็ได้ ถูกยุบมากี่รอบแล้ว มาวันนี้ก็เป็นรัฐบาลอีกแล้ว
 
ถ้ายุบพรรคก้าวไกลจะบรรลัยขนาดไหนก็คำนวนดูเอง!!!!
 
ข่าวเรื่องโพลยังไม่ทันจาง เมื่อวานนี้ผลการเลือกตั้งผู้แทนประกันสังคมทั่วประเทศ ก็ล็อคถล่มอีกแล้ว
 
เครือข่ายของพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งตัวแทนฝ่ายลูกจ้างเกินกว่าครึ่ง
 
เป็นสัญญาณหมายว่าคะแนนนิยมจากผู้ใช้แรงงานในระดับประเทศยืนข้างพรรคก้าวไกล
 
น่าสังเกตว่า นี่ขนาดไม่ได้มีการรณรงค์กันอย่างจริงจังเท่าใดนักยังขนาดนี้
โบราณท่านว่า ลูกวัวไม่กลัวเสือ นั่นเพราะลูกวัวไม่รู้จักเสือ!!!
 
ดังนั้นใครก็ตาม ที่ไม่รู้เรื่องการจัดตั้ง ก็ย่อมไม่รู้จักอานุภาพ ของสงครามประชาชน และพลังของมวลชน
 
"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
หมื่นศัตรูแสนหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านแรงมหาประชาชน"

https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/921484232670853?ref=embed_post




นราฯอ่วม จมบาดาล 13 อำเภอ ปชช.เดือดร้อนกว่า 1 แสนคน คาดฝนตกถึงพรุ่งนี้
https://www.matichon.co.th/region/news_4348182

นราฯอ่วม จมบาดาล 13 อำเภอ ปชช.เดือดร้อนกว่า 1 แสนคน ผู้ว่าฯสั่งเฝ้าระวัง 24 ชม. คาดฝนตกถึงพรุ่งนี้
 
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายวสันต์ ไชยทวีวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส รานงายสถานการณ์อุทกภัย หลังเกิดฝนตกหนักช่วงวันที่ 22-25 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้ง 13 อำเภอ 68 ตำบล 410 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 28,049 ครัวเรือน 109,545 คน โรงเรียน 254 แห่ง วัด 18 แห่ง มัสยิด 13 แห่ง ถนน 2 สาย สะพาน 1 แห่ง เป็นต้น
 
ขณะที่การช่วยเหลือ ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง และยังคงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
 
ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส แจ้งว่ามีฝนตกช่วงเช้าถึงสายบริเวณอำเภอรือเสาะ ศรีสาคร ระแงะ เจาะไอร้อง และตกช่วงบ่ายถึงค่ำบริเวณอำเภอตากใบ สุคิริน แว้ง และตกช่วงดึกถึงเช้ามืดวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.66) บริเวณอำเภอศรีสาคร จะแนะ ตากใบ สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก เป็นฝนกำลังอ่อนถึงปานกลาง ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำใน 3 ลุ่มน้ำสายหลัก ลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำสายบุรี และลุ่มน้ำโก-ลก อย่างใกล้ชิด



เงินบาทเปิดซื้อขายแข็งค่าเล็กน้อยแตะระดับ 34.57 บาทต่อดอลล์
https://www.matichon.co.th/economy/news_4348112

เงินบาทเปิดซื้อขายแข็งค่าเล็กน้อยแตะระดับ 34.57 บาทต่อดอลล์
 
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.57 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.45-34.70 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideway (แกว่งตัวในช่วง 34.56-34.63 บาทต่อดอลลาร์) ท่ามกลางปริมาณการทำธุรกรรมที่เบาบางในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสในหลายประเทศ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทำให้ เงินบาทยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป้าเงินบาท ณ สิ้นปี ที่เราได้ประเมินไว้ก่อนหน้า
 
นายพูน กล่าวว่า สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจและสำคัญอาจมีไม่มากนัก โดยเราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดอาจรอลุ้นผลการประมูลบอนด์ 2 ปี สหรัฐฯ ในช่วงเวลาราว 1.00 น. ของเช้าวันพุธที่ 27 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย

ทั้งนี้ ตลาดการเงินฝั่งยุโรป จะยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุด Boxing Day ทำให้ ปริมาณธุรกรรมในตลาดการเงินอาจเบาบางลงต่อเนื่อง และควรที่ผู้เล่นในตลาดจะเตรียมพร้อมรับมือความผันผวนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี
 
นายพูน กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัว sideway ใกล้ระดับเป้าสิ้นปีของเราที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ ถึงจะเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนของเงินบาท อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ เนื่องจากโฟลว์ธุรกรรมทองคำยังคงส่งผลต่อทิศทางเงินบาทได้พอสมควร
 
นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเรามองว่า นักลงทุนต่างชาติอาจยังเป็นฝั่งทยอยขายสุทธิสินทรัพย์ไทยต่อได้ แต่แรงขายอาจลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าพอสมควร โดยแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติในช่วงระหว่างวัน ก็มีโอกาสทำให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้บ้าง แต่โดยรวมเงินบาทก็จะยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนัก หากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ มากดดัน
ขณะที่โซนแนวรับ ยังคงเป็นช่วง 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากเราคาดว่า ผู้เล่นในตลาด อาทิ บรรดาผู้นำเข้า อาจรอจังหวะเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าต่ำกว่าระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์
 
ความผันผวนของเงินบาทยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และการเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง” นายพูน กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่