สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ
วันนี้เราอยากมาแบ่งปันเรื่องราวการเรียนภาษาญี่ปุ่นของเราตลอด 3 ปี (เราเรียนในระบบนะคะ)
บอกก่อนเบื้องต้นว่า เราเป็นคนดูอนิเมะ ฟังเพลงญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ พวกการฟัง หรือ สำเนียงจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราเท่าไหร่ อีกอย่างเราเคยลองศึกษาด้วยตัวเองมานิดหน่อย ผลการเรียนตลอด 3 ปีของเราเลยพอจะอยู่ระดับต้นๆ ของห้อง (เกือบสอบ N4 ผ่าน ขาดไม่กี่คะแนนเอง)
- 1 ปี กับภาษาญี่ปุ่น - (ม.4)
ตอน ม.4 เป็นช่วงโควิดพอดี เลยเรียนออนไลน์ทั้ง 2 เทอมเลย กิจกรรมไม่มีเลย เรียนเน้นๆ แต่โชคดีที่มันเป็นช่วงเริ่มต้น มีเรียนตัวฮิรางานะ กับ คาตะคะนะ แล้วก็มีคันจิตัวง่ายๆ การเรียนเลยไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญอะไรมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นปีแรกและปีเดียวที่ได้เรียนกับครูชาวญี่ปุ่น
- 2 ปี กับภาษาญี่ปุ่น - (ม.5)
ปีนี้ได้ไปโรงเรียนแล้วเย้!! เราได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันด้วย เป็นปีที่ขมปนหวาน เพราะปีนี้มีเรียนทั้งคันจิ
ทั้งไวยากรณ์ใหม่ๆ ซึ่งเราไม่ได้เรียนมาก่อนทำเอาเราท้อกับญี่ปุ่นเลย กลับบ้านมานั่งร้องไห้ถามตัวเองว่า เลือกสายนี้มาทำไมวะเนี่ย
ต้องหนีไปดูเมะต่างโลก เอาแบบให้ลืมโลกฝั่งนี้ไปเลย แต่ก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดหรอกค่ะ เราได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น เช่น กิจกรรมวัฒนธรรม ชงชา มันก็สนุกดีค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเป็นเด็กแข่ง(ความจริงแค่อยากนั่งรถไปเที่ยว ตจว. 5555) แข่งประลองคันจิ , เล่านิทานภาษาญี่ปุ่น , ละครสั้นภาษาญี่ปุ่น ไกลสุดที่เคยไปก็ระดับภาคแหละค่ะ เป็นประสบการณ์ชีวิตสนุกๆ ที่มาพร้อมกับความเครียด มี N5 ติดตัวนะจะบอกให้ (ความจริงคะแนนมากค่ะ เพราะตอนไปสอบเวลาที่ใช้อ่านเตรียมสอบน้อยกว่าเวลาดูเมะอีก5555 อยากได้ N4 ด้วยแต่คะแนนไม่ผ่าน)
- 3 ปี กับภาษาญี่ปุ่น - (ม.6)
ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายแล้ว เป็นปีที่ให้อะไรหลายๆ อย่างกับเรามาก การเรียนเราไม่มีปัญหาอะไรเลย ไวยากรณ์กับคันจิก็ยากขึ้นตามระดับของมัน แต่เหมือนกับเราอิ่มตัวแล้วยังไงไม่รู้ เลยเบื่อๆ กับการเรียนในห้อง ตอนนี้เหมือนเรียนพอให้ผ่านๆ ไป แถมยังมีเรื่องเรียนต่ออีก จากหลายๆ เหตุปัจจัยที่เราได้พบเจอระหว่างการเรียน เราเลยว่าจะไปเรียนเอาที่ถนัดจะดีกว่า เอาอาชีพที่มันมั่นคง ส่วนความชอบเราขอเก็บไว้ทำเวลาว่างแล้วกัน
#สรุปข้อดีรวมๆ#
1. มีเพื่อนเรียนด้วยไม่ทิ้งง่ายๆ
2. ได้เจออะไรใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ
#สรุปข้อเสียรวมๆ#
1. ทางเลือกการเรียนต่อน้อย
2.ไวยากรณ์สมองระเบิด (แต่ถ้าหมั่นฝึกฝนก็ไม่มีอะไรยากค่ะ)
สุดท้ายอยากฝากถึงทุกคนว่า " ภาษาญี่ปุ่น " ไม่ใช่ภาษาที่เรียนด้วยความชอบเพียงอย่างเดียวได้ แต่ต้องมาพร้อมกับความขยัน ความมุมานะ ความอดทน และแรงบันดาลใจที่แรงกล้า
ปล.ใครมีอะไรอยากเสนอแนะเม้นกันได้เลยนะคะ เผื่อใครที่สนใจเรียนจะได้ลองใช้ตัดสินใจกัน
เรียนศิลป์-ญี่ปุ่นมา 3 ปี ให้อะไรกับเราบ้าง...
บอกก่อนเบื้องต้นว่า เราเป็นคนดูอนิเมะ ฟังเพลงญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ พวกการฟัง หรือ สำเนียงจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราเท่าไหร่ อีกอย่างเราเคยลองศึกษาด้วยตัวเองมานิดหน่อย ผลการเรียนตลอด 3 ปีของเราเลยพอจะอยู่ระดับต้นๆ ของห้อง (เกือบสอบ N4 ผ่าน ขาดไม่กี่คะแนนเอง)
- 1 ปี กับภาษาญี่ปุ่น - (ม.4)
ตอน ม.4 เป็นช่วงโควิดพอดี เลยเรียนออนไลน์ทั้ง 2 เทอมเลย กิจกรรมไม่มีเลย เรียนเน้นๆ แต่โชคดีที่มันเป็นช่วงเริ่มต้น มีเรียนตัวฮิรางานะ กับ คาตะคะนะ แล้วก็มีคันจิตัวง่ายๆ การเรียนเลยไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญอะไรมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- 2 ปี กับภาษาญี่ปุ่น - (ม.5)
ปีนี้ได้ไปโรงเรียนแล้วเย้!! เราได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันด้วย เป็นปีที่ขมปนหวาน เพราะปีนี้มีเรียนทั้งคันจิ ทั้งไวยากรณ์ใหม่ๆ ซึ่งเราไม่ได้เรียนมาก่อนทำเอาเราท้อกับญี่ปุ่นเลย กลับบ้านมานั่งร้องไห้ถามตัวเองว่า เลือกสายนี้มาทำไมวะเนี่ยต้องหนีไปดูเมะต่างโลก เอาแบบให้ลืมโลกฝั่งนี้ไปเลย แต่ก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดหรอกค่ะ เราได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น เช่น กิจกรรมวัฒนธรรม ชงชา มันก็สนุกดีค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- 3 ปี กับภาษาญี่ปุ่น - (ม.6)
ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายแล้ว เป็นปีที่ให้อะไรหลายๆ อย่างกับเรามาก การเรียนเราไม่มีปัญหาอะไรเลย ไวยากรณ์กับคันจิก็ยากขึ้นตามระดับของมัน แต่เหมือนกับเราอิ่มตัวแล้วยังไงไม่รู้ เลยเบื่อๆ กับการเรียนในห้อง ตอนนี้เหมือนเรียนพอให้ผ่านๆ ไป แถมยังมีเรื่องเรียนต่ออีก จากหลายๆ เหตุปัจจัยที่เราได้พบเจอระหว่างการเรียน เราเลยว่าจะไปเรียนเอาที่ถนัดจะดีกว่า เอาอาชีพที่มันมั่นคง ส่วนความชอบเราขอเก็บไว้ทำเวลาว่างแล้วกัน
#สรุปข้อดีรวมๆ#
1. มีเพื่อนเรียนด้วยไม่ทิ้งง่ายๆ
2. ได้เจออะไรใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ
#สรุปข้อเสียรวมๆ#
1. ทางเลือกการเรียนต่อน้อย
2.ไวยากรณ์สมองระเบิด (แต่ถ้าหมั่นฝึกฝนก็ไม่มีอะไรยากค่ะ)
สุดท้ายอยากฝากถึงทุกคนว่า " ภาษาญี่ปุ่น " ไม่ใช่ภาษาที่เรียนด้วยความชอบเพียงอย่างเดียวได้ แต่ต้องมาพร้อมกับความขยัน ความมุมานะ ความอดทน และแรงบันดาลใจที่แรงกล้า
ปล.ใครมีอะไรอยากเสนอแนะเม้นกันได้เลยนะคะ เผื่อใครที่สนใจเรียนจะได้ลองใช้ตัดสินใจกัน