ผมตีตั๋วดูแบบ 3D และยอมรับว่า ไม่เคยดู 3 มิติ มาก่อน พอได้ดูแล้ว รู้สึกว้าว ตั้งแต่ Logo เลย เพิ่งรู้ว่าภาพ 3 มิติ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
สวยกว่า 2D เห็นๆ รู้อย่างนี้ ดูแบบ 3D ตั้งนานแล้ว

เชื่อหรือไม่ Aquaman ภาค 1 ผมดูไม่จบ เลยจำไม่ค่อยได้ว่า ภาคแรกเนื้อเรื่องเป็นไง

พอได้มาดูภาค 2 ก็เป็นการวัดฝีมือว่า ผู้กำกับ จะทำให้คนไม่เคยดูภาคแรก ดูภาค 2 รู้เรื่องหรือเปล่า ซึ่ง เจม วาน สอบผ่านนะ เพราะผมสนุกไปกับหนัง

1. แนะนำให้ดู 3D ภาพสวยทุกฉาก

หนังเรื่องนี้ ถ้าฉายชน Avatar 2 ตามกำหนดฉายเดิม ถือได้ว่า สูสี มาก
ด้านเนื้อเรื่อง ผมว่าสนุกกว่า Avatar 2 ด้วย

2. ฉากเปิด ฉากจบ การเดินเรื่อง ทุกอย่าง มีความพอดี ลงตัว สนุกทั้งเรื่อง

3. นี่เป็นหนังที่ เจมส์ วาน โชว์ฝีมือ เต็มที่มาก

ทั้งการกำกับ การเล่าเรื่อง ฉากตกใจ ฉากแอคชั่น ความงามของโลกใต้น้ำ

แกไม่ได้เก่งแต่หนังสยองขวัญอย่างเดียว
ให้ทำหนัง Superhero แกก็ทำได้ดี

ถ้าไม่มีเรื่องการยุติจักรวาล Dceu หนังคงทำเงินมากกว่านี้

ที่ผมดูหนังมาตั้งแต่ต้นปี หนังที่สนุกและให้แง่คิดคนดู มี Insidious 5 กับ Aquaman 2 นี่ละ

ผมไม่รู้สึกติดขัดอะไรในหนัง Aquaman 2
ฉากน้องแอ๋ม ก็สวยงามตามท้องเรื่อง

เนื้อหาหลักจนถึงตอนจบ เน้นความเป็นพี่น้องชัดเจน
น้องแอ๋มก็มีความจำเป็น เพียงแค่ไม่ใช่ภาคนี้

ตัวหนัง Aquaman เป็นหนังเดี่ยวที่ไม่พึ่งฮีโร่คนอื่นมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

ผมยังหวังว่า จะมีภาค 3
และภาคนี้ควรได้รางวัลออสการ์ สักรางวัล

ถ้าหนังจะไม่ทำเงิน ไม่ใช่เพราะหนังไม่สนุก
แต่เป็นเพราะดราม่า และอคติมากกว่า

ส่วนคะแนน ผมให้ 20/10