เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ได้ไป ดูรถ ร่วมกับเพื่อน เพื่อนเคยซื้อรถมือ2มาขับแล้วหลายคัน คือ เราหาข้อมูล เพื่อนหาให้และเพื่อนช่วยออกทุน ระบุยี่ห้อได้ไหม ตอนแรกว่าจะดูยี่ห้อ T รุ่น V ปี 2008 ราคา 99,000 บาท รถสตาร์ทไม่ติด เบาะผ้าขาด จอตรงเครื่องเสียงร้าว ขอบประตูล่างทางขึ้นลงร้าว เงิงด้วย ขอบพลาสติกด้านหน้าที่ติดกระจกกับที่ปัดน้ำฝนร้าว สภาพไม่น่าเอา
แต่ไปเจอ ยี่ห้อ N รุ่น A ปี 2012 E CVT ไมล์ถ้าจำไม่ผิดน่าประมาณ 300,000กว่าโล
เพื่อนทดลองขับ สักครู่ เครื่องแน่น ปล่อยพวงมาลัยรถไม่เอียง กลับเต็นท์
ยามเมื่อเราขึ้นรถ นี่มันรถขนมะพร้าวหรือไง กลิ่นทั้งน้ำทั้งกะทิ มะพร้าว ตลบอบอวนทั้งรถ แกะป้ายดู ทะเบียนปัตตานี โอ้มะพร้าว ขนปลาทะเลด้วยไหม
ได้ยินเสียงล้อดัง กุกๆๆ เด้งๆ เหมือนชนกระทบอะไรสักอย่าง ตรงซุ้มล้อคนขับ
เสียงกิ๊กๆๆๆๆๆเหมือนกระจกดัง มีรอยร้าวกระจกตรงมุมคนขับ
ถามเพื่อนบอกไม่ได้ยินไม่มีเสียงอะไร ทั้งหูทั้งจมูกดีเกิน
เครื่องมีเหมือนขี้เกลือเกาะสีขาวๆ ที่วางแบตสนิม น็อตเป็นสนิม รอยต่อรถตรงฝาท้ายเป็น คราบ สนิม
เปิดดูรอยอาร์ค ด้านบน ก็ มีรอยอาร์คอยู่ แต่ของ N ไม่แน่ใจ ว่ารอย อาร์คจะตรงกันหมดหรือมีข้างล่างบ้างไม่สม่ำเสมอบ้าง แต่ข้างล่างเปิดไม่ได้
ตอนขับไปลองรถ ขอให้เพื่อนขับรถไปจอดที่ร่มแล้วจะขอแกะเปิดดูแต่ละส่วนของรถโดยละเอียด แต่เพื่อนไม่แวะขับรถเข้าเต็นท์ตกลงราคาขายตามสภาพราคาตัด 115,000บาท โอนเอง ขับรถกลับมาเลย
ดูเล่ม โอนกันกับเจ้าของ 2 คนกับลิสซิ่ง ล่าสุดเกียรตินาคิน จนเล่มเต็มหมด ใช้รถที่นครปฐม - กรุงเทพฯ และปัตตานี 2 ปี
ไปดูร้านอื่นเปรียบเทียบก่อนไหม เผื่อเจอดีกว่า จะเอาเลยหรอ ยังไม่ได้ดูให้ดีๆเลยนะ ตังค์ไม่พอด้วย
ระหว่างทางขับรถกลับ หน้าปัดรถขึ้นรูปเครื่องยนต์ จึงบอกเพื่อน เพื่อนก็ให้ขับกลับต่อ
วันที่ 12 ธันวาคม ขับรถจะไปธุระที่โรงพยาบาล แล้วไปโอนรถด้วย
ขับไปได้ 10 กิโล ถึงสี่แยกไฟแดง เหยียบเบรครถดับ ปล่อยเบรครถก็ยังดับ
ขับไปอีกเกือบ 20 กิโลเมตร กำลังจะเข้าจอดที่ขนส่ง เหยียบเบรค รถดับอีกรอบ เหม็น กลิ่นควันมาก มาก
ตรวจสภาพช่างตีราคา 130,000 บาท มารับเล่มใน 3 วันถัดไป เรายังไม่ได้ไปรับเล่ม
กลับมาบ้าน อยากดับกลิ่นมะพร้าว มะพร้าว เลย เปิดฝากระโปรงท้าย รู้สึกฝากระโปรงกับคานน็อตจะคนละสีกันรถเป็นสีขาว คานน็อตสีเงินโลหะ ก้มดูด้านล่าง เห็นตรงขอบท้าย มีรอยสีแห้งย้อย เป็นทาง เป็นตุ่มๆ ส่วนอีกฝั่งนึง เหมือนถูกเอาอะไรยาไว้ ดูบุบๆ ไม่เนียน ฝากระโปรงท้ายปิดยาก ทีเดียวไม่ลงต้องออกแรง2รึ3ครั้ง
รถสีขาวเห็นเขม่าควันท่อไอเสียดำมากชัดเจน
วันที่ 13 ธันวาคม เปิดฝากระโปรงเติมน้ำในที่ปัดน้ำฝน และหม้อน้ำ
วันที่ 14 ธันวาคม ขับรถไปทำงาน ระยะทาง 26 กิโลเมตร
วันที่ 15 เปิดดูหม้อน้ำ ลดไปนิด ยังมีอยู่
วันที่ 16 ล้างรถเอง เปิดดูหม้อน้ำ น้ำยุบลงไป เยอะ น้ำที่ปัดน้ำฝนก็ยุบ ต้องเติมใหม่
ไม่สบายใจในการใช้รถ จึงแจ้งเพื่อนว่าจะขอคืนรถ เพื่อนตกลงรับคืนแล้วคืนเงินเต็มจำนวน แต่รับไปครึ่งนึงก่อน
วันที่ 17 เพื่อนมารับรถ บอกให้เพื่อนรีบขายคืน ไปซะ
เพื่อนเอารถไปซ่อมที่อู่ประจำ เช็คโค้ดแล้ว ตัวกรองท่อไอเสีย ถูกแกะหายไป ปลายท่อก็ถูกแกะ หายไป หม้อน้ำรั่ว เปลี่ยนกันชนท้ายถและซ่อมอะไรไปอีก หมดไป 4,000 กว่าบาท
เอามาได้ วันสองวัน
เอากลับไปซ่อม มีอาการไปดับกลางทางเร่งไม่ขึ้น เปลี่ยนลูกปืนล้อ เปลี่ยนคอย เซ็นเซอร์หาปลายท่อใหม่ และหาอะไหล่มือสอง ตัวกรองท่อไอเสีย
วันที่23 จ่ายค่าเปลี่ยนลูกปืนแตกขึ้นสนิมกิน ทั้งแงะทั้งเป่าติดออกมายากเย็น และเปลี่ยนเซ็นเซอร์ ไปอีก6,000 ลืมถามเพื่อนไปรับเล่มมายัง
สอบถามดูเพื่อนตั้งงบซ่อมไว้ 15,000 บาท
ทำไมไม่ขายไป
เพื่อนบอกว่า รถราคาแค่นี้ ซื้อมาไว้ซ่อม
รถราคาเป็นแสนนะ ไม่มีรถที่คุณภาพดีกว่านี้แล้วหรอ หรือมีรถแค่คันเดียวในโลก เท่านี้ คือไมาใช่ดีจนไร้ที่ติ
เพื่อนก็บอกไม่รู้
แล้วหาที่อื่นไม่ได้เหรอ ต้นทุนได้ มาซัก คงไม่ถึงแสน
เพื่อนบอกแล้วมีปัญญาหารถได้อย่างเขาไหม ทีคันเก่านั่นก็เสียเหมือนกัน
แล้วติดต่อร้านที่ขายรถไหม
ไม่มีเวลาเลย
แล้วถ้าซ่อมเกินงบ 15,000 บาท จะทำยังไง ที่ถามเพราะไม่อยากให้เจ็บตัวนะ
เกินก็ตีเทิร์นไป เหลือเท่าไหร่ก็จ่ายส่วนต่าง รถปีไม่ลึก
ง่ายดีเนาะ ระหว่างขายไปเลย กับเอามาซ่อมก่อนขาย อันไหนมันเจ็บตัวกว่ากัน ขายไปเลยก็ไม่ต้องซ่อม เอามาซ่อมก็เสียค่าซ่อมอีก แล้วก็จะโดนหักอีกเท่าไหร่ แต่มาเสียค่าซ่อมอีก ซื้อรถก็อยากจะเอามาใช้ ไม่ได้เอามาซ่อม ซ่อมแล้วไม่รู้จะซ่อมจบหรือเปล่า
ก่อนไปก็หาช่างในจ.นั้น มีเพจที่รับดูรถ เพื่อนพวกนี้ฮั้วกันกิน2ต่อ รับจากเรารับจากเต๊นด้วยไม่ต่างกัน
ไม่เคยมีรถขอปรึกษาว่า เราซื้อรถมือ2 เพื่อมาไว้ซ่อมเหรอคะ
แต่ไปเจอ ยี่ห้อ N รุ่น A ปี 2012 E CVT ไมล์ถ้าจำไม่ผิดน่าประมาณ 300,000กว่าโล
เพื่อนทดลองขับ สักครู่ เครื่องแน่น ปล่อยพวงมาลัยรถไม่เอียง กลับเต็นท์
ยามเมื่อเราขึ้นรถ นี่มันรถขนมะพร้าวหรือไง กลิ่นทั้งน้ำทั้งกะทิ มะพร้าว ตลบอบอวนทั้งรถ แกะป้ายดู ทะเบียนปัตตานี โอ้มะพร้าว ขนปลาทะเลด้วยไหม
ได้ยินเสียงล้อดัง กุกๆๆ เด้งๆ เหมือนชนกระทบอะไรสักอย่าง ตรงซุ้มล้อคนขับ
เสียงกิ๊กๆๆๆๆๆเหมือนกระจกดัง มีรอยร้าวกระจกตรงมุมคนขับ
ถามเพื่อนบอกไม่ได้ยินไม่มีเสียงอะไร ทั้งหูทั้งจมูกดีเกิน
เครื่องมีเหมือนขี้เกลือเกาะสีขาวๆ ที่วางแบตสนิม น็อตเป็นสนิม รอยต่อรถตรงฝาท้ายเป็น คราบ สนิม
เปิดดูรอยอาร์ค ด้านบน ก็ มีรอยอาร์คอยู่ แต่ของ N ไม่แน่ใจ ว่ารอย อาร์คจะตรงกันหมดหรือมีข้างล่างบ้างไม่สม่ำเสมอบ้าง แต่ข้างล่างเปิดไม่ได้
ตอนขับไปลองรถ ขอให้เพื่อนขับรถไปจอดที่ร่มแล้วจะขอแกะเปิดดูแต่ละส่วนของรถโดยละเอียด แต่เพื่อนไม่แวะขับรถเข้าเต็นท์ตกลงราคาขายตามสภาพราคาตัด 115,000บาท โอนเอง ขับรถกลับมาเลย
ดูเล่ม โอนกันกับเจ้าของ 2 คนกับลิสซิ่ง ล่าสุดเกียรตินาคิน จนเล่มเต็มหมด ใช้รถที่นครปฐม - กรุงเทพฯ และปัตตานี 2 ปี
ไปดูร้านอื่นเปรียบเทียบก่อนไหม เผื่อเจอดีกว่า จะเอาเลยหรอ ยังไม่ได้ดูให้ดีๆเลยนะ ตังค์ไม่พอด้วย
ระหว่างทางขับรถกลับ หน้าปัดรถขึ้นรูปเครื่องยนต์ จึงบอกเพื่อน เพื่อนก็ให้ขับกลับต่อ
วันที่ 12 ธันวาคม ขับรถจะไปธุระที่โรงพยาบาล แล้วไปโอนรถด้วย
ขับไปได้ 10 กิโล ถึงสี่แยกไฟแดง เหยียบเบรครถดับ ปล่อยเบรครถก็ยังดับ
ขับไปอีกเกือบ 20 กิโลเมตร กำลังจะเข้าจอดที่ขนส่ง เหยียบเบรค รถดับอีกรอบ เหม็น กลิ่นควันมาก มาก
ตรวจสภาพช่างตีราคา 130,000 บาท มารับเล่มใน 3 วันถัดไป เรายังไม่ได้ไปรับเล่ม
กลับมาบ้าน อยากดับกลิ่นมะพร้าว มะพร้าว เลย เปิดฝากระโปรงท้าย รู้สึกฝากระโปรงกับคานน็อตจะคนละสีกันรถเป็นสีขาว คานน็อตสีเงินโลหะ ก้มดูด้านล่าง เห็นตรงขอบท้าย มีรอยสีแห้งย้อย เป็นทาง เป็นตุ่มๆ ส่วนอีกฝั่งนึง เหมือนถูกเอาอะไรยาไว้ ดูบุบๆ ไม่เนียน ฝากระโปรงท้ายปิดยาก ทีเดียวไม่ลงต้องออกแรง2รึ3ครั้ง
รถสีขาวเห็นเขม่าควันท่อไอเสียดำมากชัดเจน
วันที่ 13 ธันวาคม เปิดฝากระโปรงเติมน้ำในที่ปัดน้ำฝน และหม้อน้ำ
วันที่ 14 ธันวาคม ขับรถไปทำงาน ระยะทาง 26 กิโลเมตร
วันที่ 15 เปิดดูหม้อน้ำ ลดไปนิด ยังมีอยู่
วันที่ 16 ล้างรถเอง เปิดดูหม้อน้ำ น้ำยุบลงไป เยอะ น้ำที่ปัดน้ำฝนก็ยุบ ต้องเติมใหม่
ไม่สบายใจในการใช้รถ จึงแจ้งเพื่อนว่าจะขอคืนรถ เพื่อนตกลงรับคืนแล้วคืนเงินเต็มจำนวน แต่รับไปครึ่งนึงก่อน
วันที่ 17 เพื่อนมารับรถ บอกให้เพื่อนรีบขายคืน ไปซะ
เพื่อนเอารถไปซ่อมที่อู่ประจำ เช็คโค้ดแล้ว ตัวกรองท่อไอเสีย ถูกแกะหายไป ปลายท่อก็ถูกแกะ หายไป หม้อน้ำรั่ว เปลี่ยนกันชนท้ายถและซ่อมอะไรไปอีก หมดไป 4,000 กว่าบาท
เอามาได้ วันสองวัน
เอากลับไปซ่อม มีอาการไปดับกลางทางเร่งไม่ขึ้น เปลี่ยนลูกปืนล้อ เปลี่ยนคอย เซ็นเซอร์หาปลายท่อใหม่ และหาอะไหล่มือสอง ตัวกรองท่อไอเสีย
วันที่23 จ่ายค่าเปลี่ยนลูกปืนแตกขึ้นสนิมกิน ทั้งแงะทั้งเป่าติดออกมายากเย็น และเปลี่ยนเซ็นเซอร์ ไปอีก6,000 ลืมถามเพื่อนไปรับเล่มมายัง
สอบถามดูเพื่อนตั้งงบซ่อมไว้ 15,000 บาท
ทำไมไม่ขายไป
เพื่อนบอกว่า รถราคาแค่นี้ ซื้อมาไว้ซ่อม
รถราคาเป็นแสนนะ ไม่มีรถที่คุณภาพดีกว่านี้แล้วหรอ หรือมีรถแค่คันเดียวในโลก เท่านี้ คือไมาใช่ดีจนไร้ที่ติ
เพื่อนก็บอกไม่รู้
แล้วหาที่อื่นไม่ได้เหรอ ต้นทุนได้ มาซัก คงไม่ถึงแสน
เพื่อนบอกแล้วมีปัญญาหารถได้อย่างเขาไหม ทีคันเก่านั่นก็เสียเหมือนกัน
แล้วติดต่อร้านที่ขายรถไหม
ไม่มีเวลาเลย
แล้วถ้าซ่อมเกินงบ 15,000 บาท จะทำยังไง ที่ถามเพราะไม่อยากให้เจ็บตัวนะ
เกินก็ตีเทิร์นไป เหลือเท่าไหร่ก็จ่ายส่วนต่าง รถปีไม่ลึก
ง่ายดีเนาะ ระหว่างขายไปเลย กับเอามาซ่อมก่อนขาย อันไหนมันเจ็บตัวกว่ากัน ขายไปเลยก็ไม่ต้องซ่อม เอามาซ่อมก็เสียค่าซ่อมอีก แล้วก็จะโดนหักอีกเท่าไหร่ แต่มาเสียค่าซ่อมอีก ซื้อรถก็อยากจะเอามาใช้ ไม่ได้เอามาซ่อม ซ่อมแล้วไม่รู้จะซ่อมจบหรือเปล่า
ก่อนไปก็หาช่างในจ.นั้น มีเพจที่รับดูรถ เพื่อนพวกนี้ฮั้วกันกิน2ต่อ รับจากเรารับจากเต๊นด้วยไม่ต่างกัน