คือเราแต่งงานเข้ามาอยู่ในครอบครัวภรรยา เข้าปีที่ 4 ครับ
ผมจะเล่าจุดเรื่อมต้นก่อน เพื่อจะได้เห็นภาพรวมก่อนนะครับ
ตอนแต่งงานเสร็จ ผ่านมาปีกว่า ปัญหาโผล่มาคือ บ้านที่ภรรยาอยู่ น้าเป็นคนสร้าง
สรุปคือ ให้เราซื้อต่อ ในราคา 850000 บาท ตอนแรกผมก็ไม่เอาครับ
เพราะว่าบ้านผม ที่พ่อแม่ ก็มี บ้านทางภรรยา หลังเก่า แต่อาจจะต้องปรับปรุงก็มี
แต่บ้านหลังนี้ ก็อยู่ข้างๆ และภรรยาผม ก็ตั้งครรภ์ มีคนแรก 2 เดือน
ผมก็ยิ่งต้อง คิดให้ดี เพราะว่าช่วงนั้น โควิดมาพอดี และตัวเองก็พึ่งทำหางานสร้างตัว
แต่ตอนนั้นโชคดีที่ เข้ามาขายของออนไลน์ รายได้ก็ดีพอสมควร
แบบว่าช่วงโควิด อยู่กินกันสบาย ไม่เดือดร้อน
และพอไปดู แปลงที่ดิน ดูแล้ว กลับเป็นที่ตาบอด ไม่มีทางเข้า
ที่ใช้ทางเข้าออก อยู่ทุกวันนี้ ดันเป็นที่เพื่อนบ้าน
ปัญหามันค่อยๆ ถูกรื้อฟื้น ที่ปล่อยปะละเลย กันมานาน
สรุปคือ กู้มาจ่ายน้าเขา ในราคา 900000 บาท หนี้ก้อนแรก
ที่ติดสินใจกู้เพราะว่า ที่ประเมิน พร้อมบ้าน ได้ราคา 1.3 ล้านครับ
ทางภรรยา ก็เอารายได้ ขายของที่ตลาด เก็บใส่กระปุกไว้เพื่อผ่อนบ้าน
ผมมีธุรกิจนึงที่เป็นรายได้ เพื่อดูแลลูก ดูแลภายในบ้าน
คือผมเข้ามาอยู่ในบ้าน ภรรยา ได้มา 4 ปีครับ
มีลูกสาว 1 คน วัย 3 ขวบ
และก็มีคนแก่ คือป้าภรรยา (ยายของลูกผม) ที่อยู่ด้วยกันในบ้าน
ปัญหาคือแกเป็นคนมักง่าย มากๆๆ กระทะเวลาทำกับข้าวไม่เคยล้าง แล้วแขวนไว้
เวลาผมมาทำกับข้าว หรือว่ามาอุ่นกับข้าว มันเสียความรู้สึกมากๆๆๆๆๆๆ
จาน ถ้วย โต๊ะกับข้าว ไม่เคยเช็ดล้าง เลย ผมไปอยู๋แรงๆ แมลงสาบ วิ่งทั่วห้องเลย
คือแบบ สกปรกมาก บางทีนั่งกินข้าว เวลามีอะไรเคี้ยวๆ ก็
ลงพื้น
และแบบ พื้นก็นานๆๆๆๆๆๆๆๆ จะกวาด หรือ ถูปีละครั้ง
คือผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะรักสะอาด หรือว่าความเนียบอะไรหรอก
แต่โดยพื้นฐานมันไม่ควรจะสกปรกแบบนี้ไหมอะ
ผมเคยเจอ แบบเวลาป้าทำกับข้าว เจอแมลงสาบ ที่ต้มในถ้วยด้วย
แล้วคือ ท้องแมลงสาบ ละลายแล้ว ผมอ๊วกแทบพุ่ง คือตอนทำกับข้าว
มันไม่เห็นจริงๆหรอ
เวลาออกงานนอกบ้าน แต่งตัวสวย เนียบ สะอาดสะอ้าน
คือความรู้สึกผมมัน ไม่รู้สึกไม่ไหวแล้วคือ พฤติกรรมของป้านี่แหละครับ
ผมกับภรรยา พยายามทำความสะอาด ให้เป็นระเบียบ แต่คนที่ไม่คิดจะทำ ก็คือไม่คิดทำ
ผมเองก็สงสารภรรยา ที่เป็นคนกลางในบ้าน ส่วนมากจะเป็นภรรยาที่คอยเก็บกวาด เช็ดถู
ซึ่งเขาเองก็ทำงานประจำ ไหนจะกลับมาดูลูก ผมก็เช็ด เก็บกวาดบ้าง ในบางครั้ง
หลักๆ งานผมจะคอยหารายได้ ทำงานหน้าคอมเป็นหลักเลย
และก็ผมเป็นคนไม่คิดเรื่องการกินเท่าไร กินง่ายอยู่แล้ว เลยบอกป้าว่า
ป้าทำอะไรกิน ก็ทำเผื่อผมหน่อยก็ได้ครับ ถ้าวันไหนเมนู ผมไม่ชอบ ก็ไปซื้ออาหารตามสั่งกิน
และที่ความรู้สึกแย่ๆสะสมมาอยู๋แล้ว ลูกผมโตมา 1 ขวบ เริ่มเดินได้
เวลาฝากป้าแกดู แกมักจะเอาหลานไปฝากไว้บ้าน ข้างๆ แล้วกลับมานั่งๆนอนๆ ที่บ้าน
เวลาช่วงสายๆ ถึงบ่ายๆ เพราะตอนเช้า ผมจะดู และเย็น ภรรยากลับจากการทำงานจะดูลูกต่อ
ซึ่งผมสังเกตุเห็น ลูกผมอารมณ์ร้อน พอมาทราบว่า ทางบ้านอื่นๆ ให้ผมลูกดูมือถือทั้งวัน
ซึ่งผมเองก็พยายามติดตามการเลี้ยงลูกด้วย กลัวจะออทิสติกเทียม และสมาธิสั้น
เลยตัดสินใจ ส่งไปโรงเรียน เตรียมอนุบาล เพื่อแก้ปัญหานี้ครับ
ถ้าอยู่บ้านผมไม่ได้ทำงานเลย ลูกจะชอบมาเล่นกับผม
ดังนั้นผมจึงจัดการ แบ่งเวลา ให้ลูกหลังจากกลับมาจาก โรงเรียน
ปัญหามันเยอะมากๆ กับป้าคนนี้ คือผมเข้าใจนะครับว่า คนแก่ แล้วยังไง?
65 ปี เขาไม่สามารถเปลี่ยนนิสัย หรือว่าความคิดได้เลยหรอ
บางที ป้าตากผ้า หลังบ้าน หลานเดินไปเที่ยวเล่น ก็อาจจะซนไปหยิบนั้นหยิบนี่
ไล่หลานไปไกลๆ คือผมเองก็ได้ยินนะครับ ลูกสาว 2 ขวบ เดินมาน้ำตาซึม
แล้วเข้ามากอดผม ร้องไห้ คนเป็นพ่อจะรู้สึกยังไง ลูกน่าสงสารมาก
ผมเลือกที่ไม่ไปทำงานต่างที่ เพราะอยากอยู่กับลูก เลยเลือกทำงานออนไลน์ครับ
มาถึงปี 66 อะไรๆมันก็ไม่ง่าย ทุนผมเองก็ไม่ได้มีเยอะ ส่วนตัวก็เข้าวัย 31 ปีแล้ว
แต่โชคดีที่อยู่บ้านนอก ค่าครองชีพไม่สูงมากครับ
และมาถึงช่วงปลายปี ป้าเขาถูกหวยลาว แสนกว่าบาท เขาดีใจหน้าบาน
แจกเงินหลานๆ ข้างบ้านพี่น้อง คนละ 500 1000 แต่ผมกับภรรยา หรือลูกผม
ตั้งแต่ผมแต่งงาน จนถึงแบบ ลูกผมเกิดมา งานแต่งเขาไม่เคยช่วย อันนี้พอเข้าใจ
นมสักกล่อง แพมเพิส ขนม อะไรก็แล้วแต่ ไม่เคยได้จากป้าเลย ก็ได้แค่ ก็ดูหลานนี่ไง
ไม่เคยได้อะไรจากเขาเลย ที่พูดนี้ ผมไม่ได้ต้องการเงินจากป้าเขาหรอกครับ
แต่ผมกำลังมอง ความมีน้ำใจ การให้ความสำคัญ การช่วยเหลือกันในครอบครัว
ผมมอง Mindset ของคนครับ
หนักเข้าๆ ผมก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่สนใจป้าเขาเลย
มันทำให้ความสัมพันธ์ของคนในบ้าน ยิ่งไม่คุยกัน ไม่มองหน้ากัน
ผมสงสารภรรยา ที่เป็นคนกลางมากครับๆ ผมเองก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง
คนไม่สนใจก็ไม่สนใจเลยนะ ผมคิดถึงขั้น เจ็บป่วยมา ผมไม่ดูแลป้าเขาจริงๆนะ
ไม่ใช่แม่ผมนิ เอาตรงๆเลยนะ เขาช่วยอะไร ก็มีเรื่องเดียวที่คิดออก
คือทำกับข้าวเผื่อผม แค่นั้นเลย ผมเข้ามาอยู่ในบ้าน ซ่อมบ้าน ปรับปรุงบ้าน
ก็หมดไปหลายอย่าง ผมก็ไม่เคยว่า หรือคิดเล็กคิดน้อย
มาลงทุนปลูกผัก แปลงผัก ผลไม้ ก็ให้แกเก็บไปขาย เงินผมไม่เคยขอ
ผมไม่รู้หรอกครับว่าบ้านอื่นเขาเป็นกันยังไง
แต่สิ่งที่ผมคิดคือ พื้นฐานการใช้ชีวิต มันไม่ใช่แบบนี้
มันควรจะสะอาดหน่อยไหม มันควรจะช่วยเหลือกันในครอบครัว ไม่ใช่หรอครับ
บางทีก็น้อยใจมากๆ ว่าเราเองทำงานงกๆๆๆๆ หาทาง หารายได้เพิ่ม
บางคนนั่งๆนอนๆ ไม่ทำห่าอะไร ก็ถูกหวย
ผมไม่มีธุรกิจ หรือมรดก หรือว่ามีคนคอยสอน จากครอบครัว พ่อแม่ ผมเองเลย
เริ่มเองหมด จาก 0 มีปังบ้าง พังก็เยอะ ล้มลุกคลุกคลาน เหนื่อยมากกับชีวิตครับ
ขอบคุณที่ผู้อ่าน อ่านมาถึงตรงนี้ อ่านในสิ่งที่ผมได้พิมพ์ระบายออกมา
ขอบคุณจริงๆครับ แต่ก็ต้องสู้ เพราะลูก ผมอยากให้ลูกเติบโตไปในคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้
ผมมีเขาแล้ว ผมก็ต้องดูแลอย่างเต็มที่ครับ ผมรักลูกและภรรยา มาก
เพราะในวันที่ผมไม่มี ก็ยังมีภรรยา ที่แม้รายได้จะน้อยมากๆๆๆๆ
เขาดูแลผมมาตลอด ในวันที่ผมเองล้ม หรือรายได้ไม่มีเข้ามาเลยครับ
ผู้อ่านแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยนะครับ
ผมยินดีรับฟังครับ
ขอปรึกษาปัญหาครอบครัว ได้ไหมครับ
ผมจะเล่าจุดเรื่อมต้นก่อน เพื่อจะได้เห็นภาพรวมก่อนนะครับ
ตอนแต่งงานเสร็จ ผ่านมาปีกว่า ปัญหาโผล่มาคือ บ้านที่ภรรยาอยู่ น้าเป็นคนสร้าง
สรุปคือ ให้เราซื้อต่อ ในราคา 850000 บาท ตอนแรกผมก็ไม่เอาครับ
เพราะว่าบ้านผม ที่พ่อแม่ ก็มี บ้านทางภรรยา หลังเก่า แต่อาจจะต้องปรับปรุงก็มี
แต่บ้านหลังนี้ ก็อยู่ข้างๆ และภรรยาผม ก็ตั้งครรภ์ มีคนแรก 2 เดือน
ผมก็ยิ่งต้อง คิดให้ดี เพราะว่าช่วงนั้น โควิดมาพอดี และตัวเองก็พึ่งทำหางานสร้างตัว
แต่ตอนนั้นโชคดีที่ เข้ามาขายของออนไลน์ รายได้ก็ดีพอสมควร
แบบว่าช่วงโควิด อยู่กินกันสบาย ไม่เดือดร้อน
และพอไปดู แปลงที่ดิน ดูแล้ว กลับเป็นที่ตาบอด ไม่มีทางเข้า
ที่ใช้ทางเข้าออก อยู่ทุกวันนี้ ดันเป็นที่เพื่อนบ้าน
ปัญหามันค่อยๆ ถูกรื้อฟื้น ที่ปล่อยปะละเลย กันมานาน
สรุปคือ กู้มาจ่ายน้าเขา ในราคา 900000 บาท หนี้ก้อนแรก
ที่ติดสินใจกู้เพราะว่า ที่ประเมิน พร้อมบ้าน ได้ราคา 1.3 ล้านครับ
ทางภรรยา ก็เอารายได้ ขายของที่ตลาด เก็บใส่กระปุกไว้เพื่อผ่อนบ้าน
ผมมีธุรกิจนึงที่เป็นรายได้ เพื่อดูแลลูก ดูแลภายในบ้าน
คือผมเข้ามาอยู่ในบ้าน ภรรยา ได้มา 4 ปีครับ
มีลูกสาว 1 คน วัย 3 ขวบ
และก็มีคนแก่ คือป้าภรรยา (ยายของลูกผม) ที่อยู่ด้วยกันในบ้าน
ปัญหาคือแกเป็นคนมักง่าย มากๆๆ กระทะเวลาทำกับข้าวไม่เคยล้าง แล้วแขวนไว้
เวลาผมมาทำกับข้าว หรือว่ามาอุ่นกับข้าว มันเสียความรู้สึกมากๆๆๆๆๆๆ
จาน ถ้วย โต๊ะกับข้าว ไม่เคยเช็ดล้าง เลย ผมไปอยู๋แรงๆ แมลงสาบ วิ่งทั่วห้องเลย
คือแบบ สกปรกมาก บางทีนั่งกินข้าว เวลามีอะไรเคี้ยวๆ ก็ ลงพื้น
และแบบ พื้นก็นานๆๆๆๆๆๆๆๆ จะกวาด หรือ ถูปีละครั้ง
คือผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะรักสะอาด หรือว่าความเนียบอะไรหรอก
แต่โดยพื้นฐานมันไม่ควรจะสกปรกแบบนี้ไหมอะ
ผมเคยเจอ แบบเวลาป้าทำกับข้าว เจอแมลงสาบ ที่ต้มในถ้วยด้วย
แล้วคือ ท้องแมลงสาบ ละลายแล้ว ผมอ๊วกแทบพุ่ง คือตอนทำกับข้าว
มันไม่เห็นจริงๆหรอ
เวลาออกงานนอกบ้าน แต่งตัวสวย เนียบ สะอาดสะอ้าน
คือความรู้สึกผมมัน ไม่รู้สึกไม่ไหวแล้วคือ พฤติกรรมของป้านี่แหละครับ
ผมกับภรรยา พยายามทำความสะอาด ให้เป็นระเบียบ แต่คนที่ไม่คิดจะทำ ก็คือไม่คิดทำ
ผมเองก็สงสารภรรยา ที่เป็นคนกลางในบ้าน ส่วนมากจะเป็นภรรยาที่คอยเก็บกวาด เช็ดถู
ซึ่งเขาเองก็ทำงานประจำ ไหนจะกลับมาดูลูก ผมก็เช็ด เก็บกวาดบ้าง ในบางครั้ง
หลักๆ งานผมจะคอยหารายได้ ทำงานหน้าคอมเป็นหลักเลย
และก็ผมเป็นคนไม่คิดเรื่องการกินเท่าไร กินง่ายอยู่แล้ว เลยบอกป้าว่า
ป้าทำอะไรกิน ก็ทำเผื่อผมหน่อยก็ได้ครับ ถ้าวันไหนเมนู ผมไม่ชอบ ก็ไปซื้ออาหารตามสั่งกิน
และที่ความรู้สึกแย่ๆสะสมมาอยู๋แล้ว ลูกผมโตมา 1 ขวบ เริ่มเดินได้
เวลาฝากป้าแกดู แกมักจะเอาหลานไปฝากไว้บ้าน ข้างๆ แล้วกลับมานั่งๆนอนๆ ที่บ้าน
เวลาช่วงสายๆ ถึงบ่ายๆ เพราะตอนเช้า ผมจะดู และเย็น ภรรยากลับจากการทำงานจะดูลูกต่อ
ซึ่งผมสังเกตุเห็น ลูกผมอารมณ์ร้อน พอมาทราบว่า ทางบ้านอื่นๆ ให้ผมลูกดูมือถือทั้งวัน
ซึ่งผมเองก็พยายามติดตามการเลี้ยงลูกด้วย กลัวจะออทิสติกเทียม และสมาธิสั้น
เลยตัดสินใจ ส่งไปโรงเรียน เตรียมอนุบาล เพื่อแก้ปัญหานี้ครับ
ถ้าอยู่บ้านผมไม่ได้ทำงานเลย ลูกจะชอบมาเล่นกับผม
ดังนั้นผมจึงจัดการ แบ่งเวลา ให้ลูกหลังจากกลับมาจาก โรงเรียน
ปัญหามันเยอะมากๆ กับป้าคนนี้ คือผมเข้าใจนะครับว่า คนแก่ แล้วยังไง?
65 ปี เขาไม่สามารถเปลี่ยนนิสัย หรือว่าความคิดได้เลยหรอ
บางที ป้าตากผ้า หลังบ้าน หลานเดินไปเที่ยวเล่น ก็อาจจะซนไปหยิบนั้นหยิบนี่
ไล่หลานไปไกลๆ คือผมเองก็ได้ยินนะครับ ลูกสาว 2 ขวบ เดินมาน้ำตาซึม
แล้วเข้ามากอดผม ร้องไห้ คนเป็นพ่อจะรู้สึกยังไง ลูกน่าสงสารมาก
ผมเลือกที่ไม่ไปทำงานต่างที่ เพราะอยากอยู่กับลูก เลยเลือกทำงานออนไลน์ครับ
มาถึงปี 66 อะไรๆมันก็ไม่ง่าย ทุนผมเองก็ไม่ได้มีเยอะ ส่วนตัวก็เข้าวัย 31 ปีแล้ว
แต่โชคดีที่อยู่บ้านนอก ค่าครองชีพไม่สูงมากครับ
และมาถึงช่วงปลายปี ป้าเขาถูกหวยลาว แสนกว่าบาท เขาดีใจหน้าบาน
แจกเงินหลานๆ ข้างบ้านพี่น้อง คนละ 500 1000 แต่ผมกับภรรยา หรือลูกผม
ตั้งแต่ผมแต่งงาน จนถึงแบบ ลูกผมเกิดมา งานแต่งเขาไม่เคยช่วย อันนี้พอเข้าใจ
นมสักกล่อง แพมเพิส ขนม อะไรก็แล้วแต่ ไม่เคยได้จากป้าเลย ก็ได้แค่ ก็ดูหลานนี่ไง
ไม่เคยได้อะไรจากเขาเลย ที่พูดนี้ ผมไม่ได้ต้องการเงินจากป้าเขาหรอกครับ
แต่ผมกำลังมอง ความมีน้ำใจ การให้ความสำคัญ การช่วยเหลือกันในครอบครัว
ผมมอง Mindset ของคนครับ
หนักเข้าๆ ผมก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่สนใจป้าเขาเลย
มันทำให้ความสัมพันธ์ของคนในบ้าน ยิ่งไม่คุยกัน ไม่มองหน้ากัน
ผมสงสารภรรยา ที่เป็นคนกลางมากครับๆ ผมเองก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง
คนไม่สนใจก็ไม่สนใจเลยนะ ผมคิดถึงขั้น เจ็บป่วยมา ผมไม่ดูแลป้าเขาจริงๆนะ
ไม่ใช่แม่ผมนิ เอาตรงๆเลยนะ เขาช่วยอะไร ก็มีเรื่องเดียวที่คิดออก
คือทำกับข้าวเผื่อผม แค่นั้นเลย ผมเข้ามาอยู่ในบ้าน ซ่อมบ้าน ปรับปรุงบ้าน
ก็หมดไปหลายอย่าง ผมก็ไม่เคยว่า หรือคิดเล็กคิดน้อย
มาลงทุนปลูกผัก แปลงผัก ผลไม้ ก็ให้แกเก็บไปขาย เงินผมไม่เคยขอ
ผมไม่รู้หรอกครับว่าบ้านอื่นเขาเป็นกันยังไง
แต่สิ่งที่ผมคิดคือ พื้นฐานการใช้ชีวิต มันไม่ใช่แบบนี้
มันควรจะสะอาดหน่อยไหม มันควรจะช่วยเหลือกันในครอบครัว ไม่ใช่หรอครับ
บางทีก็น้อยใจมากๆ ว่าเราเองทำงานงกๆๆๆๆ หาทาง หารายได้เพิ่ม
บางคนนั่งๆนอนๆ ไม่ทำห่าอะไร ก็ถูกหวย
ผมไม่มีธุรกิจ หรือมรดก หรือว่ามีคนคอยสอน จากครอบครัว พ่อแม่ ผมเองเลย
เริ่มเองหมด จาก 0 มีปังบ้าง พังก็เยอะ ล้มลุกคลุกคลาน เหนื่อยมากกับชีวิตครับ
ขอบคุณที่ผู้อ่าน อ่านมาถึงตรงนี้ อ่านในสิ่งที่ผมได้พิมพ์ระบายออกมา
ขอบคุณจริงๆครับ แต่ก็ต้องสู้ เพราะลูก ผมอยากให้ลูกเติบโตไปในคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้
ผมมีเขาแล้ว ผมก็ต้องดูแลอย่างเต็มที่ครับ ผมรักลูกและภรรยา มาก
เพราะในวันที่ผมไม่มี ก็ยังมีภรรยา ที่แม้รายได้จะน้อยมากๆๆๆๆ
เขาดูแลผมมาตลอด ในวันที่ผมเองล้ม หรือรายได้ไม่มีเข้ามาเลยครับ
ผู้อ่านแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยนะครับ
ผมยินดีรับฟังครับ