วันนึงหญิงสาวชื่อวูกินก็กลับบ้านมาหลังจากหายตัวไปกว่า 90 ปี
พ่อ "ดีมาก ครอบครัวเราจะได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ซักที"
แม่ "งี้ต้องฉลอง"
โงงุยน้องชาย "แปลก ๆ น่ะ"
วูกิน "จะว่า ๆ เราเป็นคนอื่นปลอมตัวมารึ ผิดหวังมาก เป็นน้องชายเราแท้ ๆ"
พ่อ "ใช่ คิดว่าเป็นฆาตกรชอบฆ่าคนอื่นปลอมตัวมา ลูกโรคจิตงี้ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกก็จะตัดขาดจากการเป็นพ่อ-ลูกกันไปแล้ว"
แม่ "เราก็เหมือนกัน ติดที่ว่าเราเป็นแม่นี่ดิ เลยตัดขาดจากการเป็นพ่อ-ลูกไม่ได้"
โงงูย "ทุกคนเป็นบ้ากันไปหมด เราแค่แปลกว่าทำไมหายตัวไป 90 ปีถึงยังเป็นหญิงสาวอยู่อีก"
วูกิน "อ้าว จะว่า ๆ เราแก่ใช่มะ หยาบคายมากน้องเรา"
งานฉลองก็เริ่มขึ้นแล้ว แต่เนื่องจากการโต้เถียงกันครอบครัวจึงไม่พอใจโงงุยเท่าไหร่นัก
พิธีกร "ตอนนี้บ้านก็จัดไฟดีสโก้เท็คแล้ว เชิญทุกท่านดิ้นกันให้เต็มที่เบย"
เพื่อนโงงูย "ตกลงเจ้าไม่คิดว่าวูกินจะเป็นฆาตกรงั้นใช่มะ?"
โงงูย "ไม่คิดแม้ซักนิดเดียว"
เพื่อนฯ "แต่วันก่อนเราเห็นคนตาย 50 ศพและวูกินก็อยู่บริเวณนั้นด้วย"
โงงูย "เป๊ะเลย ขอบใจมากทำเราตาสว่าง ต้องเป็นฝีมือของวูกินแน่นอน"
เพื่อนฯ "เรายังไม่ทันเล่าอีก 100 เหตุการณ์ที่เราเจอมาเลยนะ"
โงงูย "ไม่ต้องพูดเราก็รู้ จะว่าว่ามีคนตายแล้ววูกินก็อยู่แถวนั้นด้วยเหมือนเดิมใช่มะ เพราะงั้นเราเลยมั่นใจไง"
ทั้ง 2 จึงจัดหานักสะกดจิตมา
นักสะกดจิต "เอาล่ะ วูกิน กระโดดตบได้"
วูกิน "จะสะกดจิตให้เรายอมเผยว่าเราคือฆาตรน่ะรึ เราไม่หลงกลหรอก"
นักสะกดจิต "ชะ หนอย... รู้ตัวซะก่อน พลาดแล้วสิเรา..."
"แต่เนื่องจากเราไม่ใช่ฆาตกรไง ดังนั้นเราเลยยอมให้ถูกสะกดจิตได้" วูกินพูดพร้อมกระโดดตบ
นักสะกดจิต "หึหึ ไม่เฉลียวใจสินะว่าสะกดจิตไรต้องมากระโดดตบ ปกติแค่นอนเฉย ๆ ก็ได้ละ"
วูกิน "สะ... เสร็จกัน..."
แต่สายไปแล้ว วูกินอยู่ในภวังค์เรียบร้อยแล้ว
โงงูย "เริ่มถามได้ยัง?"
นักสะกดจิต "จะถามไรก็ถามไปได้เบย"
โงงูย "ตกลงที่ว่าไม่ใช่นี่คือไม่ใช่ไม่ใช่ใช่ไหม"
วูกิน "ไม่"
เพื่อนโงงูย "แสดงว่าใช่ใช่ไม่ใช่งั้นดิ"
นักสะกดจิต "แปลก ๆ นา ใช่อันหลังสุดเป็นคำถาม เพราะงั้นก็ไม่ต้องไปสลับป่าว"
วูกิน "ใช่"
โงงูย "งงเลยเนี่ย ตกลงเมื่อกี้ตอบคำถามของนักสะกดจิตเหรอ?"
วูกิน "ไม่"
เพื่อนโงงูย "งั้นก็หมายถึงตอบคำถามเราน่ะสิ ไม่ใช่มั้ง"
วูกิน "ใช่"
โงงูย "เอางี้ สรุปเลยละกันว่าใช่หรือไม่ใช่"
วูกิน "ไม่"
โงงูย "ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แต่เป็นฆาตกร ในที่สุดก็เฉลยมาจนได้"
พ่อแม่ "พวกเราดันหลงหน้ามืดตามัวเชื่อซะได้ พวกเรามันหูเบานัก"
นิทานก่อนนอน 181
พ่อ "ดีมาก ครอบครัวเราจะได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ซักที"
แม่ "งี้ต้องฉลอง"
โงงุยน้องชาย "แปลก ๆ น่ะ"
วูกิน "จะว่า ๆ เราเป็นคนอื่นปลอมตัวมารึ ผิดหวังมาก เป็นน้องชายเราแท้ ๆ"
พ่อ "ใช่ คิดว่าเป็นฆาตกรชอบฆ่าคนอื่นปลอมตัวมา ลูกโรคจิตงี้ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกก็จะตัดขาดจากการเป็นพ่อ-ลูกกันไปแล้ว"
แม่ "เราก็เหมือนกัน ติดที่ว่าเราเป็นแม่นี่ดิ เลยตัดขาดจากการเป็นพ่อ-ลูกไม่ได้"
โงงูย "ทุกคนเป็นบ้ากันไปหมด เราแค่แปลกว่าทำไมหายตัวไป 90 ปีถึงยังเป็นหญิงสาวอยู่อีก"
วูกิน "อ้าว จะว่า ๆ เราแก่ใช่มะ หยาบคายมากน้องเรา"
งานฉลองก็เริ่มขึ้นแล้ว แต่เนื่องจากการโต้เถียงกันครอบครัวจึงไม่พอใจโงงุยเท่าไหร่นัก
พิธีกร "ตอนนี้บ้านก็จัดไฟดีสโก้เท็คแล้ว เชิญทุกท่านดิ้นกันให้เต็มที่เบย"
เพื่อนโงงูย "ตกลงเจ้าไม่คิดว่าวูกินจะเป็นฆาตกรงั้นใช่มะ?"
โงงูย "ไม่คิดแม้ซักนิดเดียว"
เพื่อนฯ "แต่วันก่อนเราเห็นคนตาย 50 ศพและวูกินก็อยู่บริเวณนั้นด้วย"
โงงูย "เป๊ะเลย ขอบใจมากทำเราตาสว่าง ต้องเป็นฝีมือของวูกินแน่นอน"
เพื่อนฯ "เรายังไม่ทันเล่าอีก 100 เหตุการณ์ที่เราเจอมาเลยนะ"
โงงูย "ไม่ต้องพูดเราก็รู้ จะว่าว่ามีคนตายแล้ววูกินก็อยู่แถวนั้นด้วยเหมือนเดิมใช่มะ เพราะงั้นเราเลยมั่นใจไง"
ทั้ง 2 จึงจัดหานักสะกดจิตมา
นักสะกดจิต "เอาล่ะ วูกิน กระโดดตบได้"
วูกิน "จะสะกดจิตให้เรายอมเผยว่าเราคือฆาตรน่ะรึ เราไม่หลงกลหรอก"
นักสะกดจิต "ชะ หนอย... รู้ตัวซะก่อน พลาดแล้วสิเรา..."
"แต่เนื่องจากเราไม่ใช่ฆาตกรไง ดังนั้นเราเลยยอมให้ถูกสะกดจิตได้" วูกินพูดพร้อมกระโดดตบ
นักสะกดจิต "หึหึ ไม่เฉลียวใจสินะว่าสะกดจิตไรต้องมากระโดดตบ ปกติแค่นอนเฉย ๆ ก็ได้ละ"
วูกิน "สะ... เสร็จกัน..."
แต่สายไปแล้ว วูกินอยู่ในภวังค์เรียบร้อยแล้ว
โงงูย "เริ่มถามได้ยัง?"
นักสะกดจิต "จะถามไรก็ถามไปได้เบย"
โงงูย "ตกลงที่ว่าไม่ใช่นี่คือไม่ใช่ไม่ใช่ใช่ไหม"
วูกิน "ไม่"
เพื่อนโงงูย "แสดงว่าใช่ใช่ไม่ใช่งั้นดิ"
นักสะกดจิต "แปลก ๆ นา ใช่อันหลังสุดเป็นคำถาม เพราะงั้นก็ไม่ต้องไปสลับป่าว"
วูกิน "ใช่"
โงงูย "งงเลยเนี่ย ตกลงเมื่อกี้ตอบคำถามของนักสะกดจิตเหรอ?"
วูกิน "ไม่"
เพื่อนโงงูย "งั้นก็หมายถึงตอบคำถามเราน่ะสิ ไม่ใช่มั้ง"
วูกิน "ใช่"
โงงูย "เอางี้ สรุปเลยละกันว่าใช่หรือไม่ใช่"
วูกิน "ไม่"
โงงูย "ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แต่เป็นฆาตกร ในที่สุดก็เฉลยมาจนได้"
พ่อแม่ "พวกเราดันหลงหน้ามืดตามัวเชื่อซะได้ พวกเรามันหูเบานัก"