วันที่ 16 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย มีประเด็นร้อนแรงที่ถูกพูดถึงอย่างมาก คือ เรื่องโปรแกรมเทรดดิ้ง หรือโรบอทเทรด เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตว่า ไม่เป็นธรรมกับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งล่าสุด นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปศึกษาทบทวนการใช้โปรแกรมเทรดดิ้งดังกล่าว
อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสสอบถามเรื่องนี้จาก “พรอนงค์ บุษราตระกูล” เลขาธิการ ก.ล.ต. คนใหม่
โดยเลขาฯ ก.ล.ต. กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการแก้ปัญหาเร่งด่วน (Quick win) ไปแล้ว ทั้งในเรื่องของหลักประกัน ระยะเวลาส่งมอบ ซึ่งน่าจะเห็นปลชัดเจนในระยะสั้น
ส่วนในระยะยาวสำนักงาน ก.ล.ต. จะขับเคลื่อนนโยบายเรื่องนี้ โดยการใช้ดาต้า เอาดาต้าจากโปรแกรมเทดดิ้งมาศึกษา โดยศึกษาวิธีปฎิบัติของต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการนำผลการศึกษาของสำนักงาน และสิ่งที่คิดว่าน่าจะเดินต่อไปได้ในอนาคตไปหารือร่วมกันกัตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะทำการศึกษาเช่นเดียวกัน และจะนำผลมาชนกัน และดูว่าเราจะอยู่กับโปรแกรมเทรดด้วยวิธีปฏิบัติอย่างไร ด้วยเจตนารมณ์ให้เกิดความเท่าเที่ยมและเหมาะสมกับบริบทตลาดทุนไทย
“หลายคนอาจบอกว่าแก้ง่าย ถ้าเราอยากรู้ว่าใครทำอะไร ก็เอาตลาดทุนไทย เป็นตลาด ID คือต่างชาติต้องมาลงทะเบียน ถ้าจะมาเล่นหุ้นไทยต้องลงทะเบียน แต่ถามว่าตลาดหุ้นที่ทำ ID มีที่ไหนในโลกที่ทำบ้าง ถ้าเราจะหยิบมาใช้ก็ต้องมั่นใจว่า ตลาดเรามีจุดน่าสนใจเพียงพอ เหมือนถ้าอยากได้ส่วนลดสักอย่าง แล้วให้กรอกข้อมูล 4-5 ขั้น ก็ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่เรามีตัวเลือกเยอะมาก ที่เราจะอยู่กับโปรแกรมเทรดดิ้ง แต่ในทางเลือกแต่ละทางนั้น มีต้นทุน ซึ่งต้องหารือกันในเชิงนโยบายว่าจะดำเนินการได้อย่างไร”
$€£¥ เลขาฯ ก.ล.ต. ตอบปมให้เลิก “โปรแกรมเทรดดิ้ง” ชี้ผลศึกษาได้ข้อสรุปต้นปี’67
อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสสอบถามเรื่องนี้จาก “พรอนงค์ บุษราตระกูล” เลขาธิการ ก.ล.ต. คนใหม่
โดยเลขาฯ ก.ล.ต. กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการแก้ปัญหาเร่งด่วน (Quick win) ไปแล้ว ทั้งในเรื่องของหลักประกัน ระยะเวลาส่งมอบ ซึ่งน่าจะเห็นปลชัดเจนในระยะสั้น
ส่วนในระยะยาวสำนักงาน ก.ล.ต. จะขับเคลื่อนนโยบายเรื่องนี้ โดยการใช้ดาต้า เอาดาต้าจากโปรแกรมเทดดิ้งมาศึกษา โดยศึกษาวิธีปฎิบัติของต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการนำผลการศึกษาของสำนักงาน และสิ่งที่คิดว่าน่าจะเดินต่อไปได้ในอนาคตไปหารือร่วมกันกัตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะทำการศึกษาเช่นเดียวกัน และจะนำผลมาชนกัน และดูว่าเราจะอยู่กับโปรแกรมเทรดด้วยวิธีปฏิบัติอย่างไร ด้วยเจตนารมณ์ให้เกิดความเท่าเที่ยมและเหมาะสมกับบริบทตลาดทุนไทย
“หลายคนอาจบอกว่าแก้ง่าย ถ้าเราอยากรู้ว่าใครทำอะไร ก็เอาตลาดทุนไทย เป็นตลาด ID คือต่างชาติต้องมาลงทะเบียน ถ้าจะมาเล่นหุ้นไทยต้องลงทะเบียน แต่ถามว่าตลาดหุ้นที่ทำ ID มีที่ไหนในโลกที่ทำบ้าง ถ้าเราจะหยิบมาใช้ก็ต้องมั่นใจว่า ตลาดเรามีจุดน่าสนใจเพียงพอ เหมือนถ้าอยากได้ส่วนลดสักอย่าง แล้วให้กรอกข้อมูล 4-5 ขั้น ก็ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่เรามีตัวเลือกเยอะมาก ที่เราจะอยู่กับโปรแกรมเทรดดิ้ง แต่ในทางเลือกแต่ละทางนั้น มีต้นทุน ซึ่งต้องหารือกันในเชิงนโยบายว่าจะดำเนินการได้อย่างไร”