ตามกระทู้เลยค่ะ เรากำลังจบม.3 เรื่องมีอยู่ว่าทางฝั่งพ่อกับแม่แนะนำให้เอาโควต้าสายอาชีพ แล้วค่อยมาสอบเข้าสายสามัญทีหลังค่ะ แต่เราจำเป็นต้องทำ เพราะเขาบอกกับเราว่าถ้าสอบเข้าสามัญไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องเรียนมาเลี้ยงน้องที่อายุห่างกัน 14ปี เราคิดหนักใจนึงก็อยากเรียนสามัญ เรียนพยาบาลหาอาชีพที่เงินมั่นคง เราเป็นพี่คนโตมีน้องสองคน คนที่สองห่างกันสองปี คิดเเปรนไว้ในใจว่าเราจะเรียนสายสามัญ คนกลางเรียนสายอาชีพ จะได้หาเงินเลี้ยงน้องคนเล็กกับครอบครัวเราได้ ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวขนาดใหญ่เลยค่ะ การเข้าสายอาชีพ มันจำเป็นต้องจ่ายเงิน 6,000กว่าๆ ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ควรเลยค่ะ เราต้องไปมอบตัววันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เรารู้ว่าอาชีพทุกอย่างมันหาเงินได้ไม่ด้อยไปกว่ากัน เมื่อคิดมาถึงจุดนึง ว่าน้องคนเล็กเราโตขึ้น ต้องใช้จำนวนเงินมากกว่าเดิม เราอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเราสองคนเรียนสายอาชีพ จะมีเวินส่งน้องเรียนมั้ย เรานับถือพ่อกับแม่ที่เลี้ยงเรามาได้ แต่อดนู้สึกผิดที่ใช้เงินในที่แบบนี้ เพราะเราไม่มั่นใจในตัวเอง ไหนจะค่าเสื้อผ้า ค่าเครื่องเรียน ใช้เงินไปไม่ใช่น้อยๆ แถมครูแนะแนวก็กดดันเพราะเราขอคำแนะนำไปซะเยอะ เพราะเราในตอนนั้นมั่นใจว่าจะไปสายสามัญ เราไประบายให้ครูฟังเขาก็ยินดีจะรับฟังไม่คัดค้าน แต่พอเราเปลี่ยนสาย เรารับรู้ว่าครูแนะแนวเขาก็ทะแมงเราแปลกๆ แต่พอเราสมัครออนไลน์ แต่เราไปสถานศึกษานั้น ก่อนหน้านั้นไม่ได้ศึกษาว่าต้องทำยังไง เราก็ฟังครู แต่เราก็ลืม เพื่อนก็ไม่รูว่าจะบอกถูกหรือเปล่า เรากลัวเพราะเราเคยถ้าแล้วเราโดนว่ากลับมาว่า ก็ไม่ยอมฟังกัน แล้วที่นี้จะมาถามเอาทีหลัง ครั้งหน้าจะไม่บอกแล้วนะ หลายวันนั้น เราก็ได้ลาหยุด ครูแนะแนวมาถามเพื่อนเราว่าเราไปไหน เพื่อนก็บอกว่าไปที่สถานศึกษานั้น เขาก็บ่นเราว่าไปทำไม ทำตัวแปลกแยกกว่าชาวบ้าน หลายๆอย่างเลยค่ะ ซึ่งพอเรามาได้ยินจากปากของเพื่อนอีกวันนึง ความเชื่อใจคือพังเลยค่ะ เราเหนื่อย ไม่อยากคุยกับครูแนะแนว
ไปสักพัก แต่เหตุที่ทำให้ต้องคุยกันก็คือวันนี้เราต้องไปช่วยกิจกรรมรร. เราขอครูแนะแนว เอ้อ เราก็ขอเขาก็มองหน้าเราแบบจิกเบาๆแนวกดดันอ่ะค่ะ ตาต่อตาแล้วก็ไม่พูดอะไร ถามว่าไปกี่คนสองสามรอบ เราก็ตอบนะคะ ยืนมองเรานิ่งเหมือนเราทำผิดแบบไม่น่าให้อภัย เมื่อก่อนก็จะทักทายคุยกันสนุกๆ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเก่าแล้วค่ะ ความเชื่อใจมันพัง พังมากๆ จนตอนเพื่อนเล่ามาเราแอบไปร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำ ครูที่เชื่อใจที่สุด กลับเป็นครูที่กดดันเราที่สุด เราก็ไม่อยากกลายเป็นคนที่คิดร้ายต่อครูในใจ มันทำให้เราจิตป่วยกว่าเดิม
ฉะนั้น เราอยากจะบอกคนที่กำลังจบม.3นะคะว่า ไม่ต้องสนใจ ทำตามที่เราต้องการ ต้องคำนึงถึงครอบครัวเป็นหลักว่าการเงินท่านพอส่งเราได้ไหม พยายามอย่าบอกใครเรื่องที่เราจะทำนู่นนี่ เพราะใช่ว่าเพื่อนจะสามารถเชื่อใจได้ หรือรู้ใจเราขนาดนั้น มุ่งไปเลยค่ะ เพื่ออนาคตของเราไม่ใช่ของใคร และครอบคุณที่อ่านจนจบ ถือว่าเราได้ระบายสิ่งที่อัดอันในใจออกมา และอย่างลืมตัวตนของตัวเองกับครอบครัวของตัวเองด้วยนะคะ สักวันมันจะเป็นแรงผลักดันเราให้สู้ต่อไป เหนื่อยก็พัก มันไม่ได้เเย่หรอกนะคะ
ม.3 จบแล้วต่อสายไหนดี หนักใจสายที่อยากเรียนอยู่อีกทาง