.
.
The Triumph of death
by Pieter Bruegel the Elder
.
.
536 หลังคริศตศักราช
Michael McCormick
นักประวัติศาสตร์ยุคกลาง
536 หลังคริศตศักราช คือ
จุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด
ช่วงหนึ่งในการมีชีวิตอยู่บนโลก
เป็นปีที่เลวร้ายที่สุด
คนเราตกในช่วงเวลา
ยุคมืด
ผู้คนต่างยอมรับชื่อนี้กันอย่างเต็มที่
ยุโรป ตะวันออกกลาง
และบางส่วนของเอเชีย
ตกอยู่ในความมืดมิด
ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 18 เดือน
อุณหภูมิฤดูร้อนลดลงระหว่าง 1.5-2.5°C
ส่งผลให้พืชผลเสียหาย
และผู้คนนับล้านต้องอดตาย
สาเหตุ
พื้นที่
Northern Hemisphere
ภูเขาไฟระเบิดในไอซ์แลนด์
กระจายเถ้าถ่านไปทั่วซีกโลกเหนือ
บดบังแสงแดดเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้น
ของทศวรรษแห่งความทุกข์ยาก
สำหรับมวลมนุษยชาติบนโลก
ตามมาด้วยการปะทุของภูเขาไฟ
อีกสองครั้งตามมา
ในช่วงก่อน 540 หลังคริสตศักราช
นำไปสู่ทศวรรษที่หนาวที่สุด
เป็นประวัติการณ์ในรอบ 2,300 ปีที่ผ่านมา
ได้สร้างเงื่อนไขในขั้นสูงสุด
สำหรับโรคระบาดกาฬโรค
Justinian’s bubonic plague
ซึ่งเป็นโรคระบาดครั้งแรก
ที่แพร่กระจายไปทั่วทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ส่งผลให้มีคนตายราว 25-50 ล้านคน
หรือคิดเป็น 35-55% ของประชากรทั้งหมด
ซึ่งเร่งเวลาล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันออก
.
.
1347-1349
ในช่วงปีใดช่วงหนึ่งระหว่างปี 1347-1349
เพราะผลจากโรคระบาด
กาฬโรค
ที่ระบาดจนถึงจุดสูงสุดของคนเรา
คร่าชีวิตผู้คนส่วนใหญ่ในยูเรเซีย
และบางส่วนของแอฟริกาเหนือ
ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ
ประมาณการว่ามีคนตายราว 25-200 ล้านคน
หรือประมาณ 30-60%
ของประชากรยุโรปทั้งหมดในขณะนั้น
ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติของมนุษย์
ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
กาฬโรคเริ่มต้นในตะวันออกไกล
โรคระบาดมาถึงชายฝั่งยุโรป
โดยการมาถึงของเรือมรณะ 12 ลำ
หลังจากที่กลาสีขึ้นท่าเทียบเรือ
Messina ในเมืองท่า Sicily ในปลายปี 1347
ผู้คนที่ยืนดูอยู่ก็ต้องตกใจมาก
เมื่อพบว่าลูกเรือส่วนใหญ่เสียชีวิต
หรือเสียชีวิตด้วยโรคลึกลับ
.
.
.
Comune di Messina
.
.
หลังจากนั้น
กาฬโรคก็แพร่กระจายไปทั่วยุโรป
ที่ไม่มีการเตรียมตัวป้องกันมาก่อน
ทำให้เกิดความกลัวและความทุกข์ยาก
หลายคนเชื่อว่าโรคระบาดนี้
เป็นการลงโทษจากพระเจ้า
นำไปสู่การกำจัดผู้ที่คิดว่าเป็นคนนอกรีต
ชาวยิวยังถูกกล่าวโทษอย่างผิด ๆ ว่า
คนเป็นต้นตอของโรคระบาดครั้งนี้
ทำให้เกิดการสังหารหมู่ทั่วทั้งทวีปยุโรป
แม้ว่าการเสียชีวิตจากโรคระบาด
จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบตายเร็วมาก
แต่แบคทีเรียที่ก่อโรค
Yersinia pestis
จะทำให้เหยื่อได้รับความเจ็บปวด
อย่างทุกข์ทรมานมากก่อนจะตาย
มึไข้ อาเจียน และเลือดออกรุนแรง
รวมถึงอาการบวมที่มีหนอง มีฝี
เป็นเพียงอาการเพียงไม่กี่อาการ
ที่เหยื่อต้องทนทุกข์ก่อนตายจาก
ด้วยอัตราการรอดตายที่ต่ำมาก
ศพจึงกองสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
ในการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางศพนับล้านคน
.
.
.
.
.
1816
ปีที่ปราศจากฤดูร้อน
เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกลดลงประมาณ 1°C
เช่นเดียวกับปี 536 หลังคริสตศักราช
สาเหตุความร้อนที่ลดลงนั้น
เกิดจากเถ้าภูเขาไฟที่ปกคลุมท้องฟ้าทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 1815
ภูเขาไฟตัมโบราบนเกาะซุมบาวา
Mount Tambora ที่เกาะ Sumbawa
(ปัจจุบันคืออินโดนีเซีย) ปะทุขึ้น
ทำให้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ
ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ
พ่นซัลเฟอร์ไดออกไซด์จำนวนมาก
สู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกลดลง
มีผู้เสียชีวิตประมาณ 11,000 คนหลังเหตุระเบิด
ขณะที่อีกหลายพันคนเสียชีวิต
ในอีกไม่กี่เดือนและหลายปีข้างหน้า
เพราะผลกระทบที่ยืดเยื้อของการระเบิด
ด้วยอุณหภูมิที่ลดลง การตายของพืชผลทั่วโลก
ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ ความอดอยาก
และการเสียชีวิตอย่างกว้างขวางในช่วงปี 1816
.
.
.
Caldera of Mount Tambora
.
.
ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด
Epidemic typhus ได้ทำลายล้างยุโรป
ในขณะที่ฤดูร้อนที่เปียกชื้น หนาวเย็น
และแม้กระทั่งหิมะตกปกคลุมซีกโลกเหนือ
ส่งผลให้อุณหภูมิฤดูร้อนโดยเฉลี่ย
ที่หนาวที่สุดที่บันทึกไว้สำหรับยุโรป
ระหว่างหลายปีที่ผ่านมา
ช่วงระหว่างปี 1766-2000
พื้นที่บางส่วนของโลกประสบกับน้ำท่วม
ความแห้งแล้ง และไฟป่าอย่างรุนแรง
ผลจาก El nino กับ La nina
สำหรับหลาย ๆ คน ดูเหมือนว่าปี 1816
คือ การมาถึงของวันสิ้นโลกตามคัมภีร์ไบเบิ้ล
.
.
.
.
.
1918
ปีนี้เริ่มต้นจากความขัดแย้งนองเลือดที่สุด
ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
และจบลงด้วยโรคระบาดใหญ่ร้ายแรง
การที่รวมปีนี้ไว้ในรายชื่อสมเหตุสมผล
นอกเหนือจากภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 1
แต่การระบาดของ
ไข้หวัดใหญ่สเปน
ทำให้ปีหายนะ1918 อยู่เหนือปีอื่นๆ
แม้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 จะยุติลงในปี 1918
แต่ปีนี้ยังคงมีการปะทะนองเลือดมากที่สุด
รวมถึง
German Spring Offensive
และ
Battle of the Somme ครั้งที่ 2
ในขณะที่ยุโรปที่เสียหายจากสงคราม
ต่างเริ่มเลียบาดแผล รอบูรณะประเทศ
และใคร่ครวญถึงความคิดเรื่องสันติภาพ
.
.
.
.
.
ไข้หวัดใหญ่สเปน เริ่มระบาดไปทั่ว
ไม่ทราบที่มาที่แน่ชัดของไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้
แต่จำนวนผู้ป่วยเริ่มเพิ่มขึ้นพร้อม ๆ กัน
ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
เมื่อทหารกลับบ้านหลังสงคราม
หลายคนก็ติดไข้หวัดใหญ่ไปด้วย
จากนั้นมันแพร่กระจายเหมือนไฟป่า
เป็นระลอกต่อเนื่องกันไปหลายที่
ซึ่งอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อประมาณ 500 ล้านคน
หากไม่มีวัคซีนหรือยาที่มีประสิทธิภาพ
ในการต่อสู้กับ
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1
เจ้าหน้าที่ทั่วโลกต่างปิดสถานที่สาธารณะ
และสั่งให้สวมหน้ากากอนามัย
สามปีต่อมา มีผู้เสียชีวิต
ประมาณ 50 ล้านคนจากโรคนี้
.
.
.
H1N1 influenza virus, taken in
the CDC Influenza Laboratory
.
.
.
1943
ระหว่างปี 1939-1945
ถือเป็นจุดตกต่ำสำหรับมนุษยชาติ
แต่ในปี 1943 ดูเหมือนจะตกต่ำที่สุด
คือ การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดและนองเลือดที่สุด
ในสงครามโลกครั้งที่ 2
รวมถึงจุดสยองขวัญอย่างแรงของ
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวของนาซี
ต้นปี 1943
การต่อสู้อันดุเดือดยังคงดำเนินต่อไป
ในแนวรบด้านตะวันออก
เครื่องบดเนื้อที่
ปิดล้อมสตาลินกราด
ต้องพบกับบทสรุปอันนองเลือด
ในขณะที่การต่อสู้รถถังครั้งใหญ่ที่สุด
ในประวัติศาสตร์ก็โหมกระหน่ำที่
Kursk
รถถังของเยอรมันกับสหภาพโซเวียต
ดวลกันทั้งสองฝ่ายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด
ในประวัติศาสตร์โลกการรบในสนามรบ
แนวรบด้านตะวันตกพบการต่อสู้ที่ดุเดือด
เมื่อกองกำลังพันธมิตรบุกซิซิลี
และขับไล่กองกำลังฝ่ายอักษะออกจากเกาะ
ในปีที่ผ่านมา
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เริ่มมีคนตายมากขึ้น
เมื่อนาซีเยอรมันได้พัฒนากลไกการเนรเทศ
และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ
เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิปี 1943
ชาวยิวมากกว่า 1.3 ล้านคนถูกเนรเทศ/ฆ่าทิ้ง
ขณะที่โลกกำลังตื่นตัวต่อ
ความน่าสะพรึงกลัวที่เกิดกับชาวยิวในยุโรป
แต่ฝ่ายพันธมิตรล้มเหลวในการดำเนินการ
เพราะขาดความสามารถทางการทหาร
สติปัญญา และเจตจำนงทางการเมือง
(ตามที่บางคนโต้แย้ง)
ในปีนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 3 ล้านคน
ในจังหวัดเบงกอลของบริติชอินเดีย
(อินเดีย พม่า นายู ช่วงเป็นเมืองขึ้นอังกฤษ)
เพราะความอดอยากและโรคภัยไข้เจ็บ
การขาดแคลนอาหารที่ได้รับจากความโลภ
และจำนวนปริมาณอาหารที่อังกฤษ
ส่งออกจากแคว้นต่าง ๆ ในอินเดียที่เพิ่มขึ้น
เพื่อขายทำกำไรให้กับอังกฤษ
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://tinyurl.com/2fdvvbt7
ปีหายนะของมนุษยชาติ
.
The Triumph of death
by Pieter Bruegel the Elder
.
536 หลังคริศตศักราช
Michael McCormick
นักประวัติศาสตร์ยุคกลาง
536 หลังคริศตศักราช คือ
จุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด
ช่วงหนึ่งในการมีชีวิตอยู่บนโลก
เป็นปีที่เลวร้ายที่สุด
คนเราตกในช่วงเวลา ยุคมืด
ผู้คนต่างยอมรับชื่อนี้กันอย่างเต็มที่
ยุโรป ตะวันออกกลาง
และบางส่วนของเอเชีย
ตกอยู่ในความมืดมิด
ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 18 เดือน
อุณหภูมิฤดูร้อนลดลงระหว่าง 1.5-2.5°C
ส่งผลให้พืชผลเสียหาย
และผู้คนนับล้านต้องอดตาย
สาเหตุ
พื้นที่ Northern Hemisphere
ภูเขาไฟระเบิดในไอซ์แลนด์
กระจายเถ้าถ่านไปทั่วซีกโลกเหนือ
บดบังแสงแดดเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้น
ของทศวรรษแห่งความทุกข์ยาก
สำหรับมวลมนุษยชาติบนโลก
ตามมาด้วยการปะทุของภูเขาไฟ
อีกสองครั้งตามมา
ในช่วงก่อน 540 หลังคริสตศักราช
นำไปสู่ทศวรรษที่หนาวที่สุด
เป็นประวัติการณ์ในรอบ 2,300 ปีที่ผ่านมา
ได้สร้างเงื่อนไขในขั้นสูงสุด
สำหรับโรคระบาดกาฬโรค
Justinian’s bubonic plague
ซึ่งเป็นโรคระบาดครั้งแรก
ที่แพร่กระจายไปทั่วทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ส่งผลให้มีคนตายราว 25-50 ล้านคน
หรือคิดเป็น 35-55% ของประชากรทั้งหมด
ซึ่งเร่งเวลาล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันออก
.
.
.
.
.
1347-1349
ในช่วงปีใดช่วงหนึ่งระหว่างปี 1347-1349
เพราะผลจากโรคระบาดกาฬโรค
ที่ระบาดจนถึงจุดสูงสุดของคนเรา
คร่าชีวิตผู้คนส่วนใหญ่ในยูเรเซีย
และบางส่วนของแอฟริกาเหนือ
ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ
ประมาณการว่ามีคนตายราว 25-200 ล้านคน
หรือประมาณ 30-60%
ของประชากรยุโรปทั้งหมดในขณะนั้น
ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติของมนุษย์
ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
กาฬโรคเริ่มต้นในตะวันออกไกล
โรคระบาดมาถึงชายฝั่งยุโรป
โดยการมาถึงของเรือมรณะ 12 ลำ
หลังจากที่กลาสีขึ้นท่าเทียบเรือ
Messina ในเมืองท่า Sicily ในปลายปี 1347
ผู้คนที่ยืนดูอยู่ก็ต้องตกใจมาก
เมื่อพบว่าลูกเรือส่วนใหญ่เสียชีวิต
หรือเสียชีวิตด้วยโรคลึกลับ
.
.
Comune di Messina
.
หลังจากนั้น
กาฬโรคก็แพร่กระจายไปทั่วยุโรป
ที่ไม่มีการเตรียมตัวป้องกันมาก่อน
ทำให้เกิดความกลัวและความทุกข์ยาก
หลายคนเชื่อว่าโรคระบาดนี้
เป็นการลงโทษจากพระเจ้า
นำไปสู่การกำจัดผู้ที่คิดว่าเป็นคนนอกรีต
ชาวยิวยังถูกกล่าวโทษอย่างผิด ๆ ว่า
คนเป็นต้นตอของโรคระบาดครั้งนี้
ทำให้เกิดการสังหารหมู่ทั่วทั้งทวีปยุโรป
แม้ว่าการเสียชีวิตจากโรคระบาด
จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบตายเร็วมาก
แต่แบคทีเรียที่ก่อโรค Yersinia pestis
จะทำให้เหยื่อได้รับความเจ็บปวด
อย่างทุกข์ทรมานมากก่อนจะตาย
มึไข้ อาเจียน และเลือดออกรุนแรง
รวมถึงอาการบวมที่มีหนอง มีฝี
เป็นเพียงอาการเพียงไม่กี่อาการ
ที่เหยื่อต้องทนทุกข์ก่อนตายจาก
ด้วยอัตราการรอดตายที่ต่ำมาก
ศพจึงกองสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
ในการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางศพนับล้านคน
.
.
.
1816
ปีที่ปราศจากฤดูร้อน
เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกลดลงประมาณ 1°C
เช่นเดียวกับปี 536 หลังคริสตศักราช
สาเหตุความร้อนที่ลดลงนั้น
เกิดจากเถ้าภูเขาไฟที่ปกคลุมท้องฟ้าทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 1815
ภูเขาไฟตัมโบราบนเกาะซุมบาวา
Mount Tambora ที่เกาะ Sumbawa
(ปัจจุบันคืออินโดนีเซีย) ปะทุขึ้น
ทำให้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ
ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ
พ่นซัลเฟอร์ไดออกไซด์จำนวนมาก
สู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกลดลง
มีผู้เสียชีวิตประมาณ 11,000 คนหลังเหตุระเบิด
ขณะที่อีกหลายพันคนเสียชีวิต
ในอีกไม่กี่เดือนและหลายปีข้างหน้า
เพราะผลกระทบที่ยืดเยื้อของการระเบิด
ด้วยอุณหภูมิที่ลดลง การตายของพืชผลทั่วโลก
ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ ความอดอยาก
และการเสียชีวิตอย่างกว้างขวางในช่วงปี 1816
.
.
Caldera of Mount Tambora
.
ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด
Epidemic typhus ได้ทำลายล้างยุโรป
ในขณะที่ฤดูร้อนที่เปียกชื้น หนาวเย็น
และแม้กระทั่งหิมะตกปกคลุมซีกโลกเหนือ
ส่งผลให้อุณหภูมิฤดูร้อนโดยเฉลี่ย
ที่หนาวที่สุดที่บันทึกไว้สำหรับยุโรป
ระหว่างหลายปีที่ผ่านมา
ช่วงระหว่างปี 1766-2000
พื้นที่บางส่วนของโลกประสบกับน้ำท่วม
ความแห้งแล้ง และไฟป่าอย่างรุนแรง
ผลจาก El nino กับ La nina
สำหรับหลาย ๆ คน ดูเหมือนว่าปี 1816
คือ การมาถึงของวันสิ้นโลกตามคัมภีร์ไบเบิ้ล
.
.
.
1918
ปีนี้เริ่มต้นจากความขัดแย้งนองเลือดที่สุด
ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
และจบลงด้วยโรคระบาดใหญ่ร้ายแรง
การที่รวมปีนี้ไว้ในรายชื่อสมเหตุสมผล
นอกเหนือจากภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 1
แต่การระบาดของ ไข้หวัดใหญ่สเปน
ทำให้ปีหายนะ1918 อยู่เหนือปีอื่นๆ
แม้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 จะยุติลงในปี 1918
แต่ปีนี้ยังคงมีการปะทะนองเลือดมากที่สุด
รวมถึง German Spring Offensive
และ Battle of the Somme ครั้งที่ 2
ในขณะที่ยุโรปที่เสียหายจากสงคราม
ต่างเริ่มเลียบาดแผล รอบูรณะประเทศ
และใคร่ครวญถึงความคิดเรื่องสันติภาพ
.
.
.
ไข้หวัดใหญ่สเปน เริ่มระบาดไปทั่ว
ไม่ทราบที่มาที่แน่ชัดของไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้
แต่จำนวนผู้ป่วยเริ่มเพิ่มขึ้นพร้อม ๆ กัน
ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
เมื่อทหารกลับบ้านหลังสงคราม
หลายคนก็ติดไข้หวัดใหญ่ไปด้วย
จากนั้นมันแพร่กระจายเหมือนไฟป่า
เป็นระลอกต่อเนื่องกันไปหลายที่
ซึ่งอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อประมาณ 500 ล้านคน
หากไม่มีวัคซีนหรือยาที่มีประสิทธิภาพ
ในการต่อสู้กับ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1
เจ้าหน้าที่ทั่วโลกต่างปิดสถานที่สาธารณะ
และสั่งให้สวมหน้ากากอนามัย
สามปีต่อมา มีผู้เสียชีวิต
ประมาณ 50 ล้านคนจากโรคนี้
.
.
H1N1 influenza virus, taken in
the CDC Influenza Laboratory
.
.
1943
ระหว่างปี 1939-1945
ถือเป็นจุดตกต่ำสำหรับมนุษยชาติ
แต่ในปี 1943 ดูเหมือนจะตกต่ำที่สุด
คือ การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดและนองเลือดที่สุด
ในสงครามโลกครั้งที่ 2
รวมถึงจุดสยองขวัญอย่างแรงของ
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวของนาซี
ต้นปี 1943
การต่อสู้อันดุเดือดยังคงดำเนินต่อไป
ในแนวรบด้านตะวันออก
เครื่องบดเนื้อที่ ปิดล้อมสตาลินกราด
ต้องพบกับบทสรุปอันนองเลือด
ในขณะที่การต่อสู้รถถังครั้งใหญ่ที่สุด
ในประวัติศาสตร์ก็โหมกระหน่ำที่ Kursk
รถถังของเยอรมันกับสหภาพโซเวียต
ดวลกันทั้งสองฝ่ายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด
ในประวัติศาสตร์โลกการรบในสนามรบ
แนวรบด้านตะวันตกพบการต่อสู้ที่ดุเดือด
เมื่อกองกำลังพันธมิตรบุกซิซิลี
และขับไล่กองกำลังฝ่ายอักษะออกจากเกาะ
ในปีที่ผ่านมา
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เริ่มมีคนตายมากขึ้น
เมื่อนาซีเยอรมันได้พัฒนากลไกการเนรเทศ
และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ
เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิปี 1943
ชาวยิวมากกว่า 1.3 ล้านคนถูกเนรเทศ/ฆ่าทิ้ง
ขณะที่โลกกำลังตื่นตัวต่อ
ความน่าสะพรึงกลัวที่เกิดกับชาวยิวในยุโรป
แต่ฝ่ายพันธมิตรล้มเหลวในการดำเนินการ
เพราะขาดความสามารถทางการทหาร
สติปัญญา และเจตจำนงทางการเมือง
(ตามที่บางคนโต้แย้ง)
ในปีนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 3 ล้านคน
ในจังหวัดเบงกอลของบริติชอินเดีย
(อินเดีย พม่า นายู ช่วงเป็นเมืองขึ้นอังกฤษ)
เพราะความอดอยากและโรคภัยไข้เจ็บ
การขาดแคลนอาหารที่ได้รับจากความโลภ
และจำนวนปริมาณอาหารที่อังกฤษ
ส่งออกจากแคว้นต่าง ๆ ในอินเดียที่เพิ่มขึ้น
เพื่อขายทำกำไรให้กับอังกฤษ
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://tinyurl.com/2fdvvbt7