สวัสดีค่ะทุกคนเเนะนำตัวก่อนเลยนะคะคือเราอายุ16-17ค่ะ อยากให้เเม่ๆผู้ปกครองมาลองอ่านมากๆเลยค่ะหนูอยากให้การบูลลี่หมดไปค่ะเราไม่ควรมีใครโดนสิ่งที่เลวร้ายขนาดนี้ค่ะเรามีปัญหาในห้องเรียนค่ะ อาจจะดูไม่เเย่มากเเต่อยากให้ลองฟังดูนะคะ บางทีอาจจะดูไร้สาระเเต่สำหรับหนูการรับมือขนาดนี้รู้สึกว่าถ้าผ่านไปได้เราจะแกร่งกล้าเดิมเเละคนที่ทำจะทำอะไรเราไม่ได้ค่ะ
เราเป็นคนพูดจาขวานผ่าซากมากค่ะ เราเพิ่งขึ้นม4ค่ะตอนนั้น เรามีเพื่อนเยอะเพราะมาจากเด็กห้องเรียนพิเศษเเต่มีเพื่อนกลุ่มนึงเขาเป็นเพื่อนที่รู้จักหน่อยๆตั้งเเต่ม.ต้นค่ะน่ารักมากค่ะ เพื่อนจะเรียกครูทุกคนว่าทิชเชอร์และไม่ค่อยพูดคำหยาบเรากับเพื่อนๆอีก2คนรู้สึกว่าดีอ่ะกล้าเเสดงออกแต่คนอื่นไม่คิดเเบบนี้ค่ะทุกคนบูลลี่เเบนเพื่อนออกจากห้อง เราไม่เห็นด้วยค่ะเราเลยเลือกจะทิ้งทุกคนเเละก้าวออกมากัน3คนค่ะ คือเรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเครเท่าไรหลังจากนั้นทุกคนก็จะไม่ค่อ่ยโอเครว่าเราไปต่างๆนาๆเราทนได้อยู่ค่ะช่วงเเรกๆเราก็ไม่สนใจจนเรื่องเริ่มเอาทุกคนมาเกี่ยวข้อง เรื่องก็เเย่ขึ้นเรื่อยๆจนเทอม1ถึงเทอม2 สักพักจนมีปัญหากับพี่ๆม6ที่เป็นแฟนของสักคนในกลุ่มเรารู้สึกว่าทำไมหนักจังเลยเราเคลียร์จนจบ(มั้งนะคะ) จนเราทนไม่ไหวคือ ไม่บอกเราว่าสลับคาบคณิตจนถ้าครูไม่โทรมาบอกเราอาจจะไม่ได้เรียนเเละขาดคาบนั้น เราทนไม่ได้ครูคณิตครูแกกับเราสนิทกันมาตั้งแต่ม1ค่ะเราเล่าทุกอย่างแกปลอบใจเรากอดเราบอกเราว่าเราทำถูกเเล้วบอกให้เราใจเย็นๆเพราะรู้จักเราดีว่าเราใจร้อนอาจจะทำอะไรบ้าๆเราปรึกษาแกเลื่อยๆค่ะ เเต่ช่วงนี้เครียดมากเพราะนอกจากการเเบนเรา พวกเขาพยายามเข้าหาครูทุกคนค่ะเพื่อที่จะดึงครูไปด้วย ใช่ค่ะรวมถึงครูคณิตด้วย แต่แกน่ารักมากๆค่ะ เเกเป็นกลางไม่เข้าฝ่ายเขา อยู่ข้างๆเราตลอดน่ารักเหมือนตอนม1ที่รู้จักกันตอนเเรกเลยค่ะ แต่ทว่า ครูภาษาไทยที่สอน น่าจะฟังเขา ครูที่ตอนเเรกไม่มีคนไปทำงานด้วยพวกเราก็ช่วยไม่ได้หยุดเสาร์อาทิตย์กลับหักหลังดื้อๆเลยค่ะ ยอมรับว่าเจ็บมากๆเลย จากที่เรา ทุกคนอาจจะถามว่าทำไมไม่ปรึกษาครอบครัว คือ ครอบครัวหนูไม่ค่อยเปิดใจมากเท่าไรสำหรับหนูนะคะ เขาทำงานหนักเเละเคยปรึกษาในเคสเเบบนี้เเต่เขากลับนิ่งเฉย นี่เเหละค่ะคือถ้าผู้ปกครองไม่เปิดใจสักเท่าไรหรืออาจจะไม่ให้คำปรึกษาเด็กๆบางที เด็กๆก็อาจจะเก็บเรื่องเเบบนี้ไว้คนเดียวจนบางที มันอาจจะระเบิดออกมา เเละบางคนก็น่าจะถามทำไมไม่ปรึกษาครูประจำชั้นคือเรารู้สึกว่าเรา อคติกับเรากับเพื่อนๆที่ออกมาทั้งหมดมากๆค่ะ มันเลยทำให้คิดว่าถ้าไปพูดเเล้วเขานิ่งเฉยล่ะเลยไม่ได้ปรึกษาค่ะ เราเลือกปรึกษาครูคณิตค่ะเพราะสบายใจมาก จนวันนึงที่เราจะประทุจิงๆคือ เราไส่ชุดมาผิด บอกก่อนโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนประจำอำเภอไม่ได้ใหญ่เงินที่เอาไปก็ไม่เยอะ คือพอกิน เราไส่มาผิดเเล้วเอาเงินมาเเค่60+15เงินเพื่อคืน ค่าข้าว25 ค่าน้ำ20 ค่าเงินห้อง5 ค่าข้าวเช้า25 หมดค่ะ เพื่อนมาบอกว่าจะเก็บเงินห้องเราก็ให้5บาท เเต่เพื่อนบอกอีก20นะ เราก็ห้ะค่าไร เพื่อนบอกเก็บค่าไส่ชุดผิด เราเเบบห้ะทำไมเราไม่รู้อ่ะเราก็แบบหงุดหงิดล้ะ เเต่เพื่อนที่เก็บคืออีกกลุ่มที่สนิทกันไปเที่ยวกันบ่อยๆ เพื่อนเลยบอก10บาทก็ได้ เราก็โอเครกะว่าวันถัดไปจะจ่าย โอเครพวกนางก็ไปว่านุ่นนี่กับเพื่อนที่เก็บเงินเพื่อนเลยไม่โอเครเพราะว่าว่าเราไปว่าเพื่อนขู่ เดี๋ยวนะ เราเเบบความรู้สึกเเย่มากเราก็ไปร้องกับครูคณิต ถึงขั้นเคยบอกเเกจะย้ายไปเรียนในเมืองเพราะทนไม่ไหวเเล้ว แกบอกว่า จะยอมพวกนั้นหรอ ยอมแพ้เเล้วหรอ อยากให้เขาไปทำกับคนอื่นหรอ หนูคนที่ครูรู้จักคือคนที่สู้จนตายกันไปข้างเลยนะ เราก็คิดได้เลย จะอยู่ให้ตายกันไปข้างเลยมาเเต่วันนี้ทุกคนพูดว่าจนครูคณิตให้ไปบอกที่ปรึกษาถ้าเขาไม่ทำอะไรแกจะพาไปจบที่ให้ออกกันไปข้างเลย แกขอร้องให้เราไปบอกที่ปรึกษาเราก็กัดฟันไป พอมารู้ทีหลัง พวกเพื่อนเขาเล่าคนละอย่างกันเรา คือว่าเราหัวรุนแรง เรายอมรับว่ากวน พูดจาโผงผางจริงๆ เเต่ ไม่เคยทำอะไรใคร ครูประจำชั้นเลยดูไม่ชอบเราตอนเเรกเพราะพวกเขา ครูเลยปรับความเข้าใจ เราร้องให้หนักมากคือ ทำไมทุกคนใจร้ายกับเราจังเลย ทั้งๆที่เราไม่คิดว่าจะทำเรากับเพื่อนๆขนาดนี้ ครูว่าจะให้เพื่อนมาขอโทษ เราบอกเลยเพราะครูคณิตบอกมา ว่าไม่ต้องขอโทษ เราไม่รับ เราเเค่ขอให้พวกเธอหยุด หยุดทำกับเราเเละคนอื่น ถึงจะมาเป็นเพื่อนเราขอรู้จักเเค่ชื่อพอ เพราะวันนี้ที่คุณทำเราคุณไม่เจ็บแป๊บๆก็ลืม แต่เรากับเพื่อนๆทุกคนที่โดนพวกเธอใจร้ายไส่ พวกเราเจ็บมากๆเลยนะ เราไม่ได้คิดเลยว่าที่จริงเรารู้ว่าเพื่อนอาจจะไม่ได้อยากทำเเต่ เราว่าตอนเด็กๆทุกคนมีปมในใจมากกว่า เพราะทุกคนที่ทำเเบบนี้กับเราเขาอาจจะเคยโดนสังคมรอบข้างทำจากคนที่สดใสมองโลกเเง่ดี จนกลายเป็นคนเเบบนี้ ที่จริง เราเข้าใจทุกคนนะคะ เราก็เคยโดนบูลลี่ เพราะเราอ้วน เเต่เราเลือกที่จะไม่บูลลี่ใครต่อเพราะเราไม่ชอบเราจะไม่ทำกับใคร
จบเเล้วค่ะอาจจะยาวเเต่อยากให้อ่านมากๆเลยนะคะโดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีลูกๆหลาน สิ่งที่อยากจะสื่อคือ
1.อยากให้ทุกคนเข้าใจการเติบโตมาของทุกคนว่าไม่เหมือนกัน
2.อะไรที่เราโดนกระทำเราไม่ชอบ ให้จบที่เรา ไม่อยากให้ทำกับคนอื่น
3.สังคมไทยการบูลลี่เป็นเรื่องปกติ เราต้องเสียขนาดไหนคะทุกคนถึงจะเห็นความสำคัญของเรื่องนี้
4.อยากให้พ่อๆแม่ๆที่ทำงานเยอะๆคุยกับลูกๆบ้างเขาอาจจะเเค่ต้องการคำถามง่ายๆคือ วันนี้เป็นไงบ้าง เรียนหนักไหม
5.อยากให้พ่อๆแม่ๆเข้าใจการเรียนของสมัยนี้นะคะว่าลำบากมากๆการเเข่งขันสูงมากความกดดันเช่นกันค่ะ
6.อยากให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคนๆนึงนะคะ มันอาจจะไม่มีเเสงนำทาง เราพยายามเดินออกมาจากสิ่งเเย่ๆให้ได้นะคะบางทีคำปรึกษาดีๆอาจจะเป็นคนที่อยากฟังจริงๆเชื่อค่ะ บนโลกที่กว้างใหญ่จะมีสักคนที่รอฟังอยู่ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณที่อ่านจบจบจริงๆนะคะ
ขอบคุณครูคณิตศาสตร์คนๆนั้นนะคะ🤍
การเติบโตในฤดูกาลที่ยากลำบากของดอกไม้…รอวันที่ฤดูการที่ดีมาถึงอย่างมีความหวัง ;-)
เราเป็นคนพูดจาขวานผ่าซากมากค่ะ เราเพิ่งขึ้นม4ค่ะตอนนั้น เรามีเพื่อนเยอะเพราะมาจากเด็กห้องเรียนพิเศษเเต่มีเพื่อนกลุ่มนึงเขาเป็นเพื่อนที่รู้จักหน่อยๆตั้งเเต่ม.ต้นค่ะน่ารักมากค่ะ เพื่อนจะเรียกครูทุกคนว่าทิชเชอร์และไม่ค่อยพูดคำหยาบเรากับเพื่อนๆอีก2คนรู้สึกว่าดีอ่ะกล้าเเสดงออกแต่คนอื่นไม่คิดเเบบนี้ค่ะทุกคนบูลลี่เเบนเพื่อนออกจากห้อง เราไม่เห็นด้วยค่ะเราเลยเลือกจะทิ้งทุกคนเเละก้าวออกมากัน3คนค่ะ คือเรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเครเท่าไรหลังจากนั้นทุกคนก็จะไม่ค่อ่ยโอเครว่าเราไปต่างๆนาๆเราทนได้อยู่ค่ะช่วงเเรกๆเราก็ไม่สนใจจนเรื่องเริ่มเอาทุกคนมาเกี่ยวข้อง เรื่องก็เเย่ขึ้นเรื่อยๆจนเทอม1ถึงเทอม2 สักพักจนมีปัญหากับพี่ๆม6ที่เป็นแฟนของสักคนในกลุ่มเรารู้สึกว่าทำไมหนักจังเลยเราเคลียร์จนจบ(มั้งนะคะ) จนเราทนไม่ไหวคือ ไม่บอกเราว่าสลับคาบคณิตจนถ้าครูไม่โทรมาบอกเราอาจจะไม่ได้เรียนเเละขาดคาบนั้น เราทนไม่ได้ครูคณิตครูแกกับเราสนิทกันมาตั้งแต่ม1ค่ะเราเล่าทุกอย่างแกปลอบใจเรากอดเราบอกเราว่าเราทำถูกเเล้วบอกให้เราใจเย็นๆเพราะรู้จักเราดีว่าเราใจร้อนอาจจะทำอะไรบ้าๆเราปรึกษาแกเลื่อยๆค่ะ เเต่ช่วงนี้เครียดมากเพราะนอกจากการเเบนเรา พวกเขาพยายามเข้าหาครูทุกคนค่ะเพื่อที่จะดึงครูไปด้วย ใช่ค่ะรวมถึงครูคณิตด้วย แต่แกน่ารักมากๆค่ะ เเกเป็นกลางไม่เข้าฝ่ายเขา อยู่ข้างๆเราตลอดน่ารักเหมือนตอนม1ที่รู้จักกันตอนเเรกเลยค่ะ แต่ทว่า ครูภาษาไทยที่สอน น่าจะฟังเขา ครูที่ตอนเเรกไม่มีคนไปทำงานด้วยพวกเราก็ช่วยไม่ได้หยุดเสาร์อาทิตย์กลับหักหลังดื้อๆเลยค่ะ ยอมรับว่าเจ็บมากๆเลย จากที่เรา ทุกคนอาจจะถามว่าทำไมไม่ปรึกษาครอบครัว คือ ครอบครัวหนูไม่ค่อยเปิดใจมากเท่าไรสำหรับหนูนะคะ เขาทำงานหนักเเละเคยปรึกษาในเคสเเบบนี้เเต่เขากลับนิ่งเฉย นี่เเหละค่ะคือถ้าผู้ปกครองไม่เปิดใจสักเท่าไรหรืออาจจะไม่ให้คำปรึกษาเด็กๆบางที เด็กๆก็อาจจะเก็บเรื่องเเบบนี้ไว้คนเดียวจนบางที มันอาจจะระเบิดออกมา เเละบางคนก็น่าจะถามทำไมไม่ปรึกษาครูประจำชั้นคือเรารู้สึกว่าเรา อคติกับเรากับเพื่อนๆที่ออกมาทั้งหมดมากๆค่ะ มันเลยทำให้คิดว่าถ้าไปพูดเเล้วเขานิ่งเฉยล่ะเลยไม่ได้ปรึกษาค่ะ เราเลือกปรึกษาครูคณิตค่ะเพราะสบายใจมาก จนวันนึงที่เราจะประทุจิงๆคือ เราไส่ชุดมาผิด บอกก่อนโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนประจำอำเภอไม่ได้ใหญ่เงินที่เอาไปก็ไม่เยอะ คือพอกิน เราไส่มาผิดเเล้วเอาเงินมาเเค่60+15เงินเพื่อคืน ค่าข้าว25 ค่าน้ำ20 ค่าเงินห้อง5 ค่าข้าวเช้า25 หมดค่ะ เพื่อนมาบอกว่าจะเก็บเงินห้องเราก็ให้5บาท เเต่เพื่อนบอกอีก20นะ เราก็ห้ะค่าไร เพื่อนบอกเก็บค่าไส่ชุดผิด เราเเบบห้ะทำไมเราไม่รู้อ่ะเราก็แบบหงุดหงิดล้ะ เเต่เพื่อนที่เก็บคืออีกกลุ่มที่สนิทกันไปเที่ยวกันบ่อยๆ เพื่อนเลยบอก10บาทก็ได้ เราก็โอเครกะว่าวันถัดไปจะจ่าย โอเครพวกนางก็ไปว่านุ่นนี่กับเพื่อนที่เก็บเงินเพื่อนเลยไม่โอเครเพราะว่าว่าเราไปว่าเพื่อนขู่ เดี๋ยวนะ เราเเบบความรู้สึกเเย่มากเราก็ไปร้องกับครูคณิต ถึงขั้นเคยบอกเเกจะย้ายไปเรียนในเมืองเพราะทนไม่ไหวเเล้ว แกบอกว่า จะยอมพวกนั้นหรอ ยอมแพ้เเล้วหรอ อยากให้เขาไปทำกับคนอื่นหรอ หนูคนที่ครูรู้จักคือคนที่สู้จนตายกันไปข้างเลยนะ เราก็คิดได้เลย จะอยู่ให้ตายกันไปข้างเลยมาเเต่วันนี้ทุกคนพูดว่าจนครูคณิตให้ไปบอกที่ปรึกษาถ้าเขาไม่ทำอะไรแกจะพาไปจบที่ให้ออกกันไปข้างเลย แกขอร้องให้เราไปบอกที่ปรึกษาเราก็กัดฟันไป พอมารู้ทีหลัง พวกเพื่อนเขาเล่าคนละอย่างกันเรา คือว่าเราหัวรุนแรง เรายอมรับว่ากวน พูดจาโผงผางจริงๆ เเต่ ไม่เคยทำอะไรใคร ครูประจำชั้นเลยดูไม่ชอบเราตอนเเรกเพราะพวกเขา ครูเลยปรับความเข้าใจ เราร้องให้หนักมากคือ ทำไมทุกคนใจร้ายกับเราจังเลย ทั้งๆที่เราไม่คิดว่าจะทำเรากับเพื่อนๆขนาดนี้ ครูว่าจะให้เพื่อนมาขอโทษ เราบอกเลยเพราะครูคณิตบอกมา ว่าไม่ต้องขอโทษ เราไม่รับ เราเเค่ขอให้พวกเธอหยุด หยุดทำกับเราเเละคนอื่น ถึงจะมาเป็นเพื่อนเราขอรู้จักเเค่ชื่อพอ เพราะวันนี้ที่คุณทำเราคุณไม่เจ็บแป๊บๆก็ลืม แต่เรากับเพื่อนๆทุกคนที่โดนพวกเธอใจร้ายไส่ พวกเราเจ็บมากๆเลยนะ เราไม่ได้คิดเลยว่าที่จริงเรารู้ว่าเพื่อนอาจจะไม่ได้อยากทำเเต่ เราว่าตอนเด็กๆทุกคนมีปมในใจมากกว่า เพราะทุกคนที่ทำเเบบนี้กับเราเขาอาจจะเคยโดนสังคมรอบข้างทำจากคนที่สดใสมองโลกเเง่ดี จนกลายเป็นคนเเบบนี้ ที่จริง เราเข้าใจทุกคนนะคะ เราก็เคยโดนบูลลี่ เพราะเราอ้วน เเต่เราเลือกที่จะไม่บูลลี่ใครต่อเพราะเราไม่ชอบเราจะไม่ทำกับใคร
จบเเล้วค่ะอาจจะยาวเเต่อยากให้อ่านมากๆเลยนะคะโดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีลูกๆหลาน สิ่งที่อยากจะสื่อคือ
1.อยากให้ทุกคนเข้าใจการเติบโตมาของทุกคนว่าไม่เหมือนกัน
2.อะไรที่เราโดนกระทำเราไม่ชอบ ให้จบที่เรา ไม่อยากให้ทำกับคนอื่น
3.สังคมไทยการบูลลี่เป็นเรื่องปกติ เราต้องเสียขนาดไหนคะทุกคนถึงจะเห็นความสำคัญของเรื่องนี้
4.อยากให้พ่อๆแม่ๆที่ทำงานเยอะๆคุยกับลูกๆบ้างเขาอาจจะเเค่ต้องการคำถามง่ายๆคือ วันนี้เป็นไงบ้าง เรียนหนักไหม
5.อยากให้พ่อๆแม่ๆเข้าใจการเรียนของสมัยนี้นะคะว่าลำบากมากๆการเเข่งขันสูงมากความกดดันเช่นกันค่ะ
6.อยากให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคนๆนึงนะคะ มันอาจจะไม่มีเเสงนำทาง เราพยายามเดินออกมาจากสิ่งเเย่ๆให้ได้นะคะบางทีคำปรึกษาดีๆอาจจะเป็นคนที่อยากฟังจริงๆเชื่อค่ะ บนโลกที่กว้างใหญ่จะมีสักคนที่รอฟังอยู่ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณที่อ่านจบจบจริงๆนะคะ
ขอบคุณครูคณิตศาสตร์คนๆนั้นนะคะ🤍