มีใครเป็นเหมือนกันบ้าง? เหงานะ! แต่...ไม่ชอบการคุยกับใครนานๆ ไม่กล้าเปิดใจ บางทีก็คิดว่าอยู่คนเดียวก็มีความสุขดี

สวัสดีทุกคน เราชื่อมายด์นะ เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว อายุ 23 ย่าง 24 มีลูกชายอายุ7ขวบ^^
เรามีลูกตั้งแต่อายุ16 ยังเรียนไม่จบเลยT_T  ตอนนั้นก็แสบใช่เล่นเลยเหมือนกันดื้อรั้นไม่ฟังเสียงใคร ครอบครัวเราฐานะปานกลางแม่แต่งงานกับฝรั่ง ตอนอายุ15เรากับครอบครัวไปเที่ยวเกาหลีกัน ตอนนั้นกำลังซ่าแตกเนื้อสาว เราไปเที่ยว10วัน วันที่4ของทริปเราไปเที่ยวคังนัมมีหนุ่มเกาหลีมาทักทายและมีการแลกเฟสบุ๊คกัน ด้วยความที่เราไม่เหมือนเด็กอายุ15เพราะเราเป็นคนตัวสูง เราสูง170 ผู้ชายที่มาขอเฟสก็สูงกว่าเรานิดหน่อยหน้าตาดีงานดีเลยแหละ🤭🤭 ตอนนั้นก็ทักทายกันเฉยๆไม่ได้คุยอะไรกันมากยังไม่ได้ถามชื่อหรืออายุกันเลยด้วยซั้า แล้วเรากับครอบครัวก็เดินไปที่อื่นต่อ ตกเย็นมาเขาก็ทักเรามา ก็ได้คุยกัน ถามชื่ออายุกัน เขาอายุ21 แต่เราโกหกเขาว่าเราอายุ18 ก็คุยกันภาษาอังกฤษแต่บางครั้งเขาใช้ translate แปลไทยส่งมาคุยกับเรา ช่วงที่ไปเที่ยวนั้นเราก็ไม่ได้เจอเขาอีกนะเพราะเราไปเที่ยวเมืองอื่นแล้ว พอกลับจากเกาหลีเราก็ยังคุยกันเรื่อยๆคุยทุกวัน จนได้ video callกัน คุยกันมากเรื่อยๆ คาสายกันเกือบ24ชมก็มี เขาเป็นคนขอจีบเรา เราก็ตกลงคบกับเค้า เราคุยกับคบกันอยู่แบบนี้ประมาณ5เดือน เขาก็บินมาเที่ยวที่ไทย เราดีใจมากที่จะได้เจอเขา กำลังคลั้งรักอะเนาะ^°^ ครอบครัวก็พอรู้อยู่บ้างว่าเรามีคนคุยเพราะเห็นเราคุยโทรศัพท์ทุกวัน แม่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเราอยู่คนละประเทศเขาเลยไท่ได้กังวล แต่เราไม่ได้บอกแม่ว่าเขามาหาเราที่ไทย เขามาไทย7วันอยู่ที่กรุงเทพ3วัน วันที่4เขามาหาเราที่ต่างจังหวัด ซื้งเขาพักที่ในตัวเมืองห่างจากบ้านเรา10กว่าโล วันแรกเราให้เพื่อนขับรถไปเป็นเพื่อนเราไปนั้งคาเฟ่กันก็ยังไม่มีอะไร ตอนเย็นเราก็กลับวันต่อมาเราก็ไปอีก ไปเที่ยวน้ำตกกัน เพื่อนก็ไปเล่นน้ำตอนเราอยู่กับเขา เขาก็บอกว่าเขาอยากอยู่กับเราจัง ตกเย็นเราก็เลยชวนเพื่อนอยู่ แฟนเราเปิดห้องอีกห้อง เราโทรบอกแม่ว่าขอนอนบ้านเพื่อนเรา ส่วนเพื่อนเราก็โทรบอกแม่ว่านอนบ้านเรา เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนสนิทนอนด้วยกันบ่อยแม่เลยไม่ได้ห่วงถ้าจะไปนอนบ้านเพื่อน วันนั้นเราก็นอนกับแฟน เพื่อนเรารับรู้ทุกอย่าง แต่ตอนนั้นเราผิดเองที่ไม่ได้ป้องกัน อารมณ์คลั่งรักหลงไหล ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาเลยTT เรานอนกับแฟน2คืน เช้าวันสุดท้ายที่เขาต้องเข้ากรุงเทพเพราะต้องบินกลับเกาหลีตอนกลางคืน เราไม่อยากแยกจากเขาเลย ก็มีร้องไห้งอแงบ้าง แต่แฟนก็ปลอบ พอส่งเขาขึ้นรถเสร็จเขาก็โทรและคาสายกับเราไว้ตลอด เราก็กลับบ้านกับเพื่อน เพื่อนมาส่งเราเพราะ บ้านเรากับเพื่อนห่างกัน3ซอย เราก็ใช้ชีวิตปกติเรื่อยๆ ยังคุยกับแฟนตลอด ผ่านไป2เดือนประจำเดือนเราไม่มา เราก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร ก็ยังคุยกับแฟนปกติเรื่อยๆ ผ่านไป4เดือนเรามีอาการอยากกินของเปรี้ยวเวลานั้งรถก็อ้วก ปกติเราไม่เมารถ จนแม่ทักว่าช่วงนี้เราอ้วนขึ้นแล้วเราก็พึ่งนึงนกขึ้นได้ว่าประจำเดือนก็ยังไม่มา เราเลยไปแอบซื้อที่ตรวจครรภ์ ผลสรุป ใช่ เราท้อง ตอนนั้นสับสนมากไม่รู้จะทำไงดี เคยถึงขั้นแกล้งให้ตัวเองตกบันไดแต่ก็ไม่เป็นผล ลื่นล้มกระแทกแรงๆก็ไม่เป็นอะไร จนเดือนที่5เราเลยคุยกับแฟนว่า ประจำเดือนเราไม่มา แต่เขาคิดว่าเราแกล้ง ผ่านมาอีกสักระยะครั้งนี้เราก็พูดอีก เขาก็เงียบ หน้าดูเครียดๆ จนเราตัดสินใจที่จะคุยกับแม่ ตอนนั้นคือรู้สึกแย่ไปหมด แม่เราคือร้องไห้ไม่พูดกับเราหลายวันอยู่ ส่วนพ่อเลี้ยงก็คอยให้กำลังใจและค่อยๆคุยกับแม่จนแม่หายโกรธ และได้มานั้งคุยกับเรา เราก็เล่าทุกอย่างให้แม่ฟังทั้งหมด และก็โทรไปหาแฟน แม่เราก็คุยกับแฟน แต่เราลืมไปอย่างนึงคือเราโกหกเขาเรื่องอายุ ตอนนั้นที่แม่คุยคือแม่เราไปบอกเขาว่าเราพึ่งอายุ15 สีหน้าเขาเครียดมากๆ เราเองก็พูดไม่ออกได้แต่ร้องไห้ คุยกันเสร็จแม่เราก็บอกว่าอีก3เดือนเขาจะมาไทย ตอนนั้นเราก็ดีใจที่เขายังอยู่กับเรา พักหลังๆเราคุยกันเขาก็เหมือนยังโกรธ ว่าทำไมถึงโกหก ทำไมไม่บอกว่าอายุ15 เขากุมขมับเหมือนจะร้องไห้และก็คงเครียดมากๆ เราก็คุยกันน้อยลง จากที่เคยตาสาย ก็จะคุยกันแค่2-3เวลา  เราฝากครรภ์ กำหนดคลอดคือเดือนกันยา เราไม่ไปโรงเรียน ตรงๆเลยคืออาย สรุปเราก็เรียนไม่จบม.3 เขากับแม่ว่าจะมาหาเราที่ไทยก่อนคลอด  พอถึงเดือนกันยายน เขาก็มาจริงๆ เรากับครอบครัวก็ขับรถไปรับที่กรุงเทพมาที่บ้าน เขาแลกเงินมา2แสนกว่าเกือบๆ3แสน เขาเอาให้เรา พอถึงบ้านทางครอบครัวเราและตากับยายก็มาผูกข้อมือให้ ไม่ได้แต่งงานทำแค่เป็นพิธีมีแค่คนในครอบครัว แล้วก็มีเพื่อนสนิทของเรากับแม่เพื่อน2-3คนแค่นั้น อีก5วันนัดคลอด เราอยู่ด้วยกันปกติ ทุกอย่างตอนนั้นมันดีมากเลย เหมือนเขาก็เริ่มโอเคขึ้น จนเราคลอด เราตั้งชื่อจริงเป็นชื่อไทยนามสกุลของเรา ส่วนชื่อเล่นเป็นชื่อเกาหลี ที่ตั้งเกาหลีไม่ได้เพราะเรายังไม่ได้แต่งงานและก็แต่งไม่ได้ด้วยเพราะอายุเราแค่15 แต่ชื่อพ่อของลูกก็คือชื่อของแฟน แฟนอยู่กับเราอีก1อาทิตย์ แล้วก็กลับเกาหลี เราก็ยังติดต่อกันอยู่ เขาส่งเงินมาให้ทุกเดือน แต่เราคุยกันน้อยลงคุยก็แค่วันละ2ครั้ง จนลูกได้1ขวบ เขาส่งเงินให้เรามากกว่าปกติ เขาส่งเงินมา3แสน เราก็ไม่ได้เอะใจ หลังจากนั้น1อาทิตย์เขาไม่ค่อยโทรหาเรา หรือบางทีโทรไปก็ไม่รับสาย และแล้ววันนั้นก็มาถึงเขาหายไปเลย หายไปจริงๆ ไม่มีความเคลื่อนไหว เฟสไม่ได้บล็อกแต่เหมือนเขาไม่ได้แล่นอีกเลยTT เราเสียใจมากๆร้องไห้ทุกวันเป็นอยู่แบบนี้เกือบปี เราเริ่มดีขึ้นเราก็เริ่มหาอะไรทำ เราเริ่มทำงานเป็นตัวแทนขายครีมช่วงแรกๆก็ดีแต่พักหลังๆก็เริ่มขายของไม่ได้ ตอนแรกก็คิดว่าจะกลับไปเรียนต่อ แต่ในใจก็ไม่อยากอยากไปเพราะรู้สึกอายที่จะต้องกลับไปเรียนม.3อีกครั้ง เราเลยที่จะหางานทำแต่ก็ยากเพราะเราอายุน้อยแถมวุฒิม.3ก็ไม่มี แม่เราเลยลงทุนเปิดร้านกาแฟให้ มันก็เป็นไปได้ดีเลยแหละ จนเราอายุ19สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น แม่เราป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลได้แค่5วันแม่เราก็เสีย ส่วนพ่อเลี้ยงพอจัดเรื่องงานศพเสร็จจัดการทุกอย่างเสร็จเขาก็ได้ให้เงินก้อนใหญ่กับเราก้อนนึงแล้วเขาก็กลับอังกฤษ เราก็อยู่แบบนี้เรื่อยๆจนอายุ20เราตัดสินใจไปเกาหลีอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้ไปเที่ยว แต่เราตั้งใจจะไปทำงานและอยากหาข่าวพ่อของลูก เราฝากลูกไว้กับป้าโดยส่งเงินให้เป็นเดือน เราได้ข่าวของแฟนเรา เราแต่งงานไปแล้วตอนที่รู้เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วเพราะเราทำใจได้แล้ว เราก็ทำงานอยู่เกาหลีทำโรงงานโทรศัพท์อยู่ที่ภาคใต้อยู่ได้2ปีเราก็เจอแจ็คพอต😅 ได้กลับไทย เรากลับมาอยู่ไทยได้1เดือนเราไม่ได้ทำอะไรเลยอยู่แต่บ้านกับลูก จนวันนึงเพื่อนที่เคยอยู่เกาหลีด้วยกันก็แจ็คพ็อตแตกเหมือนกันกลับมาที่ไทยก็เลยนัดเจอกันที่กรุงเทพ เราก็ไปเที่ยวเหนือล่องใต้ด้วยกันจนคุยกันว่าเราจะทำอะไรกันต่อไปดี ตอนแรกเราอยากเปิดคาเฟ่ในกรุงเทพแต่ก็เหมือนเพื่อนจะไม่ค่อยสนใจ วันนึงเราไปเที่ยวพัทยาด้วยกัน เราไปนวดที่พัทยาด้วยกันเพื่อนก็เลยชวนว่าลองเปิดร้านนวดกันมั้ย ลงทุนครั้งเดียวแต่กินได้ตลอด เราก็สนใจ เลยหาทำเลในกรุงเทพ เราก็ได้จริงๆ ร้านเราไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่มีพนักงาน9-10คน กิจการเป็นไปได้ด้วยดี เราก็เลยซื้อคอนโดอยู่กรุงเทพห้องนึง ร้านเราก็ผลัดกันเข้าไปดูแล เวลาว่างไปเราก็ไปเที่ยวกัน
และหลังจากนี้ก็จะเป็นส่วนของหัวกะทู้เลย😊
คือใจจริงเราก็ดูมีความสุขกับชีวิตแล้วนะตอนนี้ แต่... มันก็รู้สึกเหงานะบางที🥺 เราก็มีคนเข้ามาคุยนะแต่พอคุยกันไปเรื่อยๆเป็นเราเองที่รู้สึกเบื่อเค้า
บางทีเราก็อยากเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนนะ แต่ใจนึงก็กลัว...กลัวจะเจ็บเหมือนเดิม บางครั้งมีคนเข้ามา แรกๆก็เหมือนจะดีเลยแหละ แต่ผ่านไปสักพักก็เหมือนเค้าเข้ามาเพราะหวังผลประโยชน์ อาจจะเป็นเพราะเราเคยเจอคนมาหลายรูปแบบ เหมือนเรารู้ทันว่าเค้าเข้ามาเพราะอะไร เราไม่เคยปิดบังคนคุยนะว่าเรามีลูก คือถ้ารับได้ก็คุยรับไม่ได้ก็ผ่านแค่นั้น แต่ไม่รู้สิในใจลึกๆมันก็ยังอยากมีใครสักคนอยู่ดีนะ แต่เราก็เป็นแบบนี้ซะด้วยสิ คุยอยู่ดีเราก็เหมือนเบื่อ ส่วนมากถ้าเบื่อมากๆเราก็จะไปเที่ยวกับเพื่อน ก็ไม่เชิงเพื่อนหรอกส่วนมากเพื่อนเราก็จะเป็นรุ่นพี่30อัพกันหมดแล้ว ส่วนเพื่อนสนิทตอนนั้นเค้าก็ทำงานเติบโตกันไปคนละทิศละทาง เราไม่ได้เรียนต่อเลยทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนวัยเดียวกัน ส่วนมากไปเจอที่เกาหลี ส่วนคนที่อายุห่างกับเราไม่มากก็คือหุ้นส่วนของเราที่อายุ26 ส่วนคนอื่นก็30อัพ ใครเป็นเหมือนเรามาแชร์มาคุยมาเป็นเพื่อนกันได้นะ😊😊😊
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่