ผมมองว่ารถ EV ยังไม่ได้จะเป็นสิ่งที่จะมาแทนรถน้ำมันได้แบบเสร็จสรรพ เหมือนกล้อง Digital ที่มาแทนกล้องฟิล์มได้อย่างจริงจัง ถ้ามองข้อการใช้งานแล้วนะครับ
กล้อง Digital ที่มันแทนกล้องฟิล์มได้เลย สาเหตุเพราะ
- ถ่ายแล้วเห็นภาพทันที เสียถ่ายใหม่ สะดวกการใช้งานว่าง่ายๆ
- ลดเรื่อง คชจ ค่าฟิล์ม ค่าล้าง ค่าอัด ผมทันยุคกล้องฟิล์ม ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นส่วนหลักเลย
- ถ่ายออกมาเป็นไฟล์ดิจิตอล นำไปปรับแต่งได้สะดวก ถ้าถ่ายฟิล์ม ต้องเสียค่าสแกนเป็นไฟล์ดิจิตอลอีกรอบ
เรียกได้ว่า มันก็ถ่ายออกมาเป็นภาพได้เหมือนกล้องฟิล์ม แต่สะดวกกว่า เร็วกว่า ประหยัดกว่าชัดเจนนั่นเอง
ขณะที่รถ EV ถ้าเปรียบกับรถน้ำมันตอนนี้
- ว่ากันว่ารักษ์โลก บางคนก็บอกว่าไม่จริง ที่มาของไฟฟ้าก็ทำลายโลกเหมือนกัน (ข้อนี้เถียงกันไม่จบครับ พูดยาก)
- ใช้พลังงานไฟฟ้า แน่นอนถูกกว่าน้ำมัน แต่ค่าแบตฯ เสื่อมก้อนโต ถัวเฉลี่ย ผมคิดว่ารถอีวีก็ยังประหยัดกว่าแต่นิดหน่อยจริงๆ
- ความทนทานยังต้องรอเวลาพิสูจน์
- รถยนต์เป็นสินค้าราคาแพง คนจะคิดเยอะกว่าซื้อกล้อง และเมื่อคิดแล้วยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังใช้รถน้ำมันต่อไป หรือไปแค่ hybrid
- ค่าใช้จ่ายแฝงยังแพง
- ปัญหาการใช้งานเรื่องที่ชาร์จ ที่ชาร์จ รวมถึงระยะเวลาการชาร์จ ถ้าจะขับ EV ไปเชียงใหม่ ต้องมีเวลาเพิ่มอีกอย่างน้อย เกือบ 3 ชม.
จะเห็นว่ามันแทนไม่ได้ตรงๆ แต่ถามว่ามันเป็นทางเลือกไหม ตอบเลยว่าใช่ครับ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ดูทันสมัย รักษ์โลก แต่มันไม่ใช่การแทนที่แน่ๆ
อันนี้เป็นเหตุคร่าวๆ ที่พอนึกออกนะครับ ไม่ได้จะชี้ว่ารถ EV ไม่ดี หรือสู้รถน้ำมันไม่ได้ เพราะรถมันก็เหมาะสำหรับคนที่เหมาะกับการใช้งานของมัน แต่แค่ไม่เห็นด้วยกับที่ว่ามันจะแทนที่รถน้ำมันได้อย่างเสร็จสรรพภายในระยะเวลาอันสั้น แน่นอนครับถ้าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า รถไฟฟ้าโดยเฉพาะจากจีน ทนทานจริง ไม่มีปัญหามากมาย แบตฯ ราคาไม่ถึงแสน ชาร์จเต็มในเวลาไม่เกิน 10 นาที วิ่งได้ระยะทางกว่า 1000 กม. เมื่อนั้นผมคนนึงครับซื้อใช้แน่นอน เพราะตอนนั้นรถน้ำมันน่าจะตายจริงๆ ใครจะใช้
แต่ถ้าลองย้อนกลับมามองกล้อง Digital แล้วลองถามตัวเองดูว่าในเมื่อมันดีทุกด้านแล้วทำไมเราจะไม่ซื้อมันใช้ละครับ แต่สำหรับรถ EV มันยังไม่ใช่แบบนั้นไงจริงมั้ย กระทู้นี้แค่จะอยากสื่อว่าไม่เห็นว่ารถ EV กับกล้อง Digital มันจะเป็นไปในทางเดียวกันได้เลยจริงๆ ครับ สำหรับในอุตสาหกรรมของมัน
ทำไมคนถึงมักเทียบยุครถ EV จะเหมือนยุคกล้อง Digital
กล้อง Digital ที่มันแทนกล้องฟิล์มได้เลย สาเหตุเพราะ
- ถ่ายแล้วเห็นภาพทันที เสียถ่ายใหม่ สะดวกการใช้งานว่าง่ายๆ
- ลดเรื่อง คชจ ค่าฟิล์ม ค่าล้าง ค่าอัด ผมทันยุคกล้องฟิล์ม ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นส่วนหลักเลย
- ถ่ายออกมาเป็นไฟล์ดิจิตอล นำไปปรับแต่งได้สะดวก ถ้าถ่ายฟิล์ม ต้องเสียค่าสแกนเป็นไฟล์ดิจิตอลอีกรอบ
เรียกได้ว่า มันก็ถ่ายออกมาเป็นภาพได้เหมือนกล้องฟิล์ม แต่สะดวกกว่า เร็วกว่า ประหยัดกว่าชัดเจนนั่นเอง
ขณะที่รถ EV ถ้าเปรียบกับรถน้ำมันตอนนี้
- ว่ากันว่ารักษ์โลก บางคนก็บอกว่าไม่จริง ที่มาของไฟฟ้าก็ทำลายโลกเหมือนกัน (ข้อนี้เถียงกันไม่จบครับ พูดยาก)
- ใช้พลังงานไฟฟ้า แน่นอนถูกกว่าน้ำมัน แต่ค่าแบตฯ เสื่อมก้อนโต ถัวเฉลี่ย ผมคิดว่ารถอีวีก็ยังประหยัดกว่าแต่นิดหน่อยจริงๆ
- ความทนทานยังต้องรอเวลาพิสูจน์
- รถยนต์เป็นสินค้าราคาแพง คนจะคิดเยอะกว่าซื้อกล้อง และเมื่อคิดแล้วยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังใช้รถน้ำมันต่อไป หรือไปแค่ hybrid
- ค่าใช้จ่ายแฝงยังแพง
- ปัญหาการใช้งานเรื่องที่ชาร์จ ที่ชาร์จ รวมถึงระยะเวลาการชาร์จ ถ้าจะขับ EV ไปเชียงใหม่ ต้องมีเวลาเพิ่มอีกอย่างน้อย เกือบ 3 ชม.
จะเห็นว่ามันแทนไม่ได้ตรงๆ แต่ถามว่ามันเป็นทางเลือกไหม ตอบเลยว่าใช่ครับ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ดูทันสมัย รักษ์โลก แต่มันไม่ใช่การแทนที่แน่ๆ
อันนี้เป็นเหตุคร่าวๆ ที่พอนึกออกนะครับ ไม่ได้จะชี้ว่ารถ EV ไม่ดี หรือสู้รถน้ำมันไม่ได้ เพราะรถมันก็เหมาะสำหรับคนที่เหมาะกับการใช้งานของมัน แต่แค่ไม่เห็นด้วยกับที่ว่ามันจะแทนที่รถน้ำมันได้อย่างเสร็จสรรพภายในระยะเวลาอันสั้น แน่นอนครับถ้าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า รถไฟฟ้าโดยเฉพาะจากจีน ทนทานจริง ไม่มีปัญหามากมาย แบตฯ ราคาไม่ถึงแสน ชาร์จเต็มในเวลาไม่เกิน 10 นาที วิ่งได้ระยะทางกว่า 1000 กม. เมื่อนั้นผมคนนึงครับซื้อใช้แน่นอน เพราะตอนนั้นรถน้ำมันน่าจะตายจริงๆ ใครจะใช้
แต่ถ้าลองย้อนกลับมามองกล้อง Digital แล้วลองถามตัวเองดูว่าในเมื่อมันดีทุกด้านแล้วทำไมเราจะไม่ซื้อมันใช้ละครับ แต่สำหรับรถ EV มันยังไม่ใช่แบบนั้นไงจริงมั้ย กระทู้นี้แค่จะอยากสื่อว่าไม่เห็นว่ารถ EV กับกล้อง Digital มันจะเป็นไปในทางเดียวกันได้เลยจริงๆ ครับ สำหรับในอุตสาหกรรมของมัน