วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปกิน เที่ยว ถ่ายรูปใน #ย่านราชเทวี ซึ่งนอกจากจะอยู่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยคอนโดและออฟฟิศที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดแล้ว ย่านนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่น่าสนใจอีกเพียบ แถมอยู่ไม่ไกลจาก BTS เดินแล้วเหงื่อยังไม่ชุ่มหลัง ซึ่งจะเป็นที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้าาาา
1. Stockroom
คาเฟ่สไตล์ Nordic มีการตกแต่งสุดแสนจะมินิมอลแบบเอิร์ธโทนที่ดูเรียบง่าย แต่สุดลงตัว ใครเป็นสาย cafe hopping บอกเลยว่าที่นี่เป็นอีก 1 ใน recommeded ที่ควรมาเป็นอย่างยิ่ง
มุมถ่ายรูปที่พวกเราชอบนั้นอยู่ที่บริเวณหน้าร้าน มีองค์ประกอบของเฟอนิเจอร์ไม้อย่างม้านั่งยาว ประตู และป้ายร้าน Mood & Tone ดีมากๆ แถมมีความมินิมอลมินิใจสุดๆ ส่วนอีกมุมคือ มุม Glasshouse หลังร้านก่อนขึ้นไปชั้น 2 ที่ตกแต่งแบบ loft นิดๆ ประกอบกับหลังคาตรงบริเวณนั้นที่มีความโปร่งแสงหน่อยๆ ทำให้แม้จะเป็นตึกแถว แต่ก็ได้รับแสงธรรมชาติที่ส่องลงมาได้แบบละมุนใจสุดๆ ใครไปอย่าพลาด 2 มุมนี้นะ
2. PASTA AMA พาสต้าอาม่า
ร้านนี้จะเป็นพาสต้าเส้น homemade แนวฟิวชั่น เมนูมีความประยุกต์ระหว่างความเป็นอิตาเลียน-ไทย-ญี่ปุ่น ที่เราว่าทางร้านทำออกมาได้ดีเลย ถ้าใครไม่ชอบพาสต้าแนวอิตาเลียนจ๋า ร้านนี้ตอบโจทย์มาก เพราะแต่ละเมนูทำออกมาได้ทานง่าย ถูกปากคนไทยแน่นอน
จุดเด่นของร้านนี้นอกจากตัวอาหารแล้ว ก็คือบรรยากาศภายในร้านที่มีความน่ารักโฮมมี่มาก มีทั้งโซน indoor และ outdoor ซึ่งบรรยากาศดีทั้งสองโซน และอีก 1 ความโดดเด่นคือ เป็นร้านพาสต้าที่มีดนตรีสด! โดยจะอยู่บริเวณโซน outdoor ซึ่งมันเพิ่มบรรยากาศให้ร้านนี้มีความน่านั่งเพิ่มขึ้นไปอีก
3. Piccolo vicolo cafe
Piccolo ( เล็ก) Vicolo ( ตรอก หรือ ซอยเล็กๆ) คาเฟ่ที่เนรนิตเวิ้งตึกแถวย่านราชเทวีที่เคยมีผู้อาศัยจริงมาก่อน ก่อนหมดสัญญาเช่า ให้กลายเป็นร้านกาแฟที่มีสไตล์โดดเด่น ผสมผสานระหว่างโครงสร้างเดิมกับความโมเดิร์นของการตกแต่งใหม่ได้อย่างลงตัว บอกได้เลยว่า Mood & Tone ดีมาก ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้ง
ที่นี่ถูกแต่งให้มีความเป็น Loft มีความปูนเปลือย ผสมผสานไปกับวัสดุอย่างพวกไม้และเหล็ก รวมถึงความเขียวของต้นไม้ที่ถูกจัดวางไว้ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ทั้งในตัวร้าน บริเวณรอบๆร้าน และในชั้น 2 ที่เขาจัดเป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะ
4. Fishmonger
Fishmonger ราชเทวี-บรรทัดทอง "The House of Fish & Chips ในคอมมูนิตี้สเปซยอดฮิตอย่างโครงการ Galile Oasis โดยตัวร้านจะอยู่ด้านในเกือบสุด มี 2 โซนที่นั่ง โซนด้านในค่อนข้างแคบ มีประมาณ 2-3 ที่นั่ง ส่วนโซนด้านนอกจะมีที่นั่งเยอะอยู่ อารมณ์แบบ sharing seats
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การใช้ปลาไทยหลากหลายชนิดจากเกาะลันตาซึ่งทำประมงด้วยวิถีพื้นบ้านที่คำนึงถึงความยั่งยืน โดยที่นี่มีปลายืนพื้นอยู่ 5 ชนิดที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อเท่าไหร่ เช่น ปลาสร้อยนกเขา ปลาน้ำดอกไม้ ปลาช่อนทะเล ปลาเก๋า และปลาอังเกย อีกทั้งยังมีปลาพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่อยู่ในเมนูพิเศษประจำวัน แบบตอนที่เราไปก็มีเมนูปลาหูช้าง (ค้างคาว) / ปลากุดสลาด / ปลาเหลืองญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งพนักงานของที่นี่เขาก็จะช่วยอธิบายให้ว่าตัวเนื้อสัมผัสและรสชาติของปลาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจของเรา
5. Mono cafe bkk
สำหรับใครที่เป็นสาย breakfast แต่ชอบตื่นสาย (แบบพวกเรา ) ห้ามพลาดร้านนี้ เพราะเค้ามีคอนเซป “Early birds and later worms friendly” แบบว่าเสริฟ breakfast ทั้งวันแถมยังมีคาเฟ่และขนมกุ๊กกิ๊กให้ทานอีกด้วย
ตัวร้านตกแต่งสไตล์ minimal มี 2 ชั้น เน้นโทนสีขาวสะอาดตา ส่วนตัวเราชอบบริเวณหน้าร้านมาก แสงสวย ถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่โซล มีความเกาหลีเกาใจ น่ารักสุดๆ
6. The Quarter Bangkok
บรรยากาศเป็นแบบ Hostel เล็กๆที่ใช้พื้นที่รับแขกด้านหน้ามาเสริฟอาหารและเครื่องดื่ม ตัวร้านใช้สีขาวเป็นหลัก แซมด้วยฟ้า ดูแล้วค่อนข้างสบายตา ส่วนการตกแต่งด้านในค่อนข้าง classic ให้ฟีลเหมือนย้อนยุคไปในสมัยก่อน มีมุมเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งส่องบรรยากาศบนท้องถนนแยกราชเทวีกันแบบเพลินๆ
7. Roots at Ratchathewi
คาเฟ่แบรนด์ดัง Roots ที่มาเปิดสาขาใหม่ (สาขาที่ 12) บริเวณด้านหน้าโรงแรมเอเชีย ภายในตกแต่งด้วยสีโทนอิฐน้ำตาลและสีขาวเป็นหลักให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนอีกอย่างที่เราชอบคือตัวเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเก้าอี้สานปริ๊นลาย iconic ของ roots ซึ่งดูชิคมาก
ไฮไลท์ของที่นี่มีหลายจุด แต่ที่เราอยากแนะนำคือมุมหน้าร้าน ทั้งมุมที่นั่งที่มี logo คำว่า Roots ติดอยู่ที่กำแพง และมุมที่นั่งที่มีกระจกร้านพร้อม graphic สวยงาม
8. Casa Lapin Specialty Coffee x Ratchathewi
คาเฟ่สไตล์ลอฟต์ๆโทนสีน้ำตาล พื้นที่นั่งเยอะ แถมมีจุดชาร์จไฟและโซนห้องประชุมด้วย เหมาะสำหรับการมานั่งทำงานอยู่นะ แต่ติดตรงแสงอาจจะน้อยหน่อย ส่วนเมนูก็มีทั้งอาหารคาวและของหวาน
โดยเมนูที่เราสั่งกัน ก็เช่น
-Casa lapin milk tea (140.-) รสชาติอาจจะค่อยเหมือนชาไทยที่คุ้นเคย เขาน่าจะใส่ wipping cream เพิ่มความนัวมาด้วย
-Chocolate almond coffee cake (125.-)
9. Kaizen Sushi Hibachi
ร้านอาหารญี่ปุ่น ตกแต่งไสตล์โมเดิร์นเจแปน ร้านค่อนข้างกว้าง มีห้อง private ด้วย เผื่อมาเป็นแก๊งใหญ่
โดยเมนูที่เราสั่งกัน ก็เช่น
-Bashira Don (650.-) เป็นเมนูรวมหลายๆอย่าง
-Unagi - Foie Gras Don (680.-) ข้าวหน่าปลาไหล + ฟังกราส์
-Spicy Zuwai Kani Maki (560.-) โรลกุ้งไส้ทอดครีมชีส ที่ท็อปปิ้งด้วยเนื้อปูชูไวพูนๆคลุกซอสโทบิโกะสไปซี
10. เจ๊ก้อย ส้มตำอาหารอีสาน (Jaekoy)
ร้านส้มตำเจ้าดังที่เปิดมากว่า 20 ปี ร้านค่อนข้างใหญ่ พนักงานเยอะอยู่ พร้อมชาร์จตบอด ส่วนอาหารถือว่าหลากหลายมากๆ ทั้งของคาว ส้มตำ ต้มแซ่บ ปลาทอด ด้านของหวานก็มาครบ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง หรือ toast ก็ยังมี
ถ้าใครกินอิ่มแล้ว อยากเดินผลาญแคล ก็สามารถแวะไปถ่ายรูปเล่นได้ที่สวนเฉลิมหล้า (Chaloemla Graffiti Park) ซึ่งเป็น Location ถ่ายถาพ Street Art สุดคูลใจกลางกรุงเทพ ซึ่งที่นี่จะเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะแนว Graffiti จากฝีมือศิลปินอิสระหลายสิบคนจากทั่วประเทศ
อันนี้แถม แถวทางขึ้น BTS ราชเทวี ฝั่ง JRK Tower ที่กำลังก่อสร้างอยู่ จะมีร้านคุณลุงขายขนมหวานที่เคยออกข่าวเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วอยู่ด้วยนะ คุณลุงเขาทำมาขายจะ 30 ปีแล้ว ราคาก็ไม่แพง ถุงๆละ 25 บาท มีทั้ง ข้าวเหนียวถั่วดำ สาคู ลอดช่อง เต้าส่วน ใครสนใจก็มาช่วยอุดหนุนคุณลุงได้น๊า ลุงบอกว่าตรงจุดนี้จะมาขายหลังจาก 10.00 - 20.00 แต่ถ้าของหมดเร็วลุงก็จะได้กลับบ้านเร็ว (ปล.ขออนุญาตคุณลุงถ่ายรูปแล้วนะ จริงๆลุงคุยสนุก อัธยาศัยดี แต่ในรูปอาจจะจังหวะไม่ได้ยิ้มพอดี
ก็จบไปแล้วกับการรีวิว
"10 ร้านอาหารและคาเฟ่ ติด BTS ราชเทวี" ครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปเที่ยวไปกินที่ไหนกันอีก ก็ฝากติดตามด้วยนะ
ภาพถ่ายทั้งหมดโดย (By My Side: ผลัดกันถ่าย)
ติดตามทริปอื่นๆของพวกเราได้ที่:
https://opl.to/bymyside
[CR] 10 ร้านอาหารและคาเฟ่ ติด BTS ราชเทวี
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปกิน เที่ยว ถ่ายรูปใน #ย่านราชเทวี ซึ่งนอกจากจะอยู่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยคอนโดและออฟฟิศที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดแล้ว ย่านนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่น่าสนใจอีกเพียบ แถมอยู่ไม่ไกลจาก BTS เดินแล้วเหงื่อยังไม่ชุ่มหลัง ซึ่งจะเป็นที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้าาาา
1. Stockroom
คาเฟ่สไตล์ Nordic มีการตกแต่งสุดแสนจะมินิมอลแบบเอิร์ธโทนที่ดูเรียบง่าย แต่สุดลงตัว ใครเป็นสาย cafe hopping บอกเลยว่าที่นี่เป็นอีก 1 ใน recommeded ที่ควรมาเป็นอย่างยิ่ง
มุมถ่ายรูปที่พวกเราชอบนั้นอยู่ที่บริเวณหน้าร้าน มีองค์ประกอบของเฟอนิเจอร์ไม้อย่างม้านั่งยาว ประตู และป้ายร้าน Mood & Tone ดีมากๆ แถมมีความมินิมอลมินิใจสุดๆ ส่วนอีกมุมคือ มุม Glasshouse หลังร้านก่อนขึ้นไปชั้น 2 ที่ตกแต่งแบบ loft นิดๆ ประกอบกับหลังคาตรงบริเวณนั้นที่มีความโปร่งแสงหน่อยๆ ทำให้แม้จะเป็นตึกแถว แต่ก็ได้รับแสงธรรมชาติที่ส่องลงมาได้แบบละมุนใจสุดๆ ใครไปอย่าพลาด 2 มุมนี้นะ
2. PASTA AMA พาสต้าอาม่า
ร้านนี้จะเป็นพาสต้าเส้น homemade แนวฟิวชั่น เมนูมีความประยุกต์ระหว่างความเป็นอิตาเลียน-ไทย-ญี่ปุ่น ที่เราว่าทางร้านทำออกมาได้ดีเลย ถ้าใครไม่ชอบพาสต้าแนวอิตาเลียนจ๋า ร้านนี้ตอบโจทย์มาก เพราะแต่ละเมนูทำออกมาได้ทานง่าย ถูกปากคนไทยแน่นอน
จุดเด่นของร้านนี้นอกจากตัวอาหารแล้ว ก็คือบรรยากาศภายในร้านที่มีความน่ารักโฮมมี่มาก มีทั้งโซน indoor และ outdoor ซึ่งบรรยากาศดีทั้งสองโซน และอีก 1 ความโดดเด่นคือ เป็นร้านพาสต้าที่มีดนตรีสด! โดยจะอยู่บริเวณโซน outdoor ซึ่งมันเพิ่มบรรยากาศให้ร้านนี้มีความน่านั่งเพิ่มขึ้นไปอีก
3. Piccolo vicolo cafe
Piccolo ( เล็ก) Vicolo ( ตรอก หรือ ซอยเล็กๆ) คาเฟ่ที่เนรนิตเวิ้งตึกแถวย่านราชเทวีที่เคยมีผู้อาศัยจริงมาก่อน ก่อนหมดสัญญาเช่า ให้กลายเป็นร้านกาแฟที่มีสไตล์โดดเด่น ผสมผสานระหว่างโครงสร้างเดิมกับความโมเดิร์นของการตกแต่งใหม่ได้อย่างลงตัว บอกได้เลยว่า Mood & Tone ดีมาก ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้ง
ที่นี่ถูกแต่งให้มีความเป็น Loft มีความปูนเปลือย ผสมผสานไปกับวัสดุอย่างพวกไม้และเหล็ก รวมถึงความเขียวของต้นไม้ที่ถูกจัดวางไว้ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ทั้งในตัวร้าน บริเวณรอบๆร้าน และในชั้น 2 ที่เขาจัดเป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะ
4. Fishmonger
Fishmonger ราชเทวี-บรรทัดทอง "The House of Fish & Chips ในคอมมูนิตี้สเปซยอดฮิตอย่างโครงการ Galile Oasis โดยตัวร้านจะอยู่ด้านในเกือบสุด มี 2 โซนที่นั่ง โซนด้านในค่อนข้างแคบ มีประมาณ 2-3 ที่นั่ง ส่วนโซนด้านนอกจะมีที่นั่งเยอะอยู่ อารมณ์แบบ sharing seats
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การใช้ปลาไทยหลากหลายชนิดจากเกาะลันตาซึ่งทำประมงด้วยวิถีพื้นบ้านที่คำนึงถึงความยั่งยืน โดยที่นี่มีปลายืนพื้นอยู่ 5 ชนิดที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อเท่าไหร่ เช่น ปลาสร้อยนกเขา ปลาน้ำดอกไม้ ปลาช่อนทะเล ปลาเก๋า และปลาอังเกย อีกทั้งยังมีปลาพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่อยู่ในเมนูพิเศษประจำวัน แบบตอนที่เราไปก็มีเมนูปลาหูช้าง (ค้างคาว) / ปลากุดสลาด / ปลาเหลืองญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งพนักงานของที่นี่เขาก็จะช่วยอธิบายให้ว่าตัวเนื้อสัมผัสและรสชาติของปลาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจของเรา
5. Mono cafe bkk
สำหรับใครที่เป็นสาย breakfast แต่ชอบตื่นสาย (แบบพวกเรา ) ห้ามพลาดร้านนี้ เพราะเค้ามีคอนเซป “Early birds and later worms friendly” แบบว่าเสริฟ breakfast ทั้งวันแถมยังมีคาเฟ่และขนมกุ๊กกิ๊กให้ทานอีกด้วย
ตัวร้านตกแต่งสไตล์ minimal มี 2 ชั้น เน้นโทนสีขาวสะอาดตา ส่วนตัวเราชอบบริเวณหน้าร้านมาก แสงสวย ถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่โซล มีความเกาหลีเกาใจ น่ารักสุดๆ
6. The Quarter Bangkok
บรรยากาศเป็นแบบ Hostel เล็กๆที่ใช้พื้นที่รับแขกด้านหน้ามาเสริฟอาหารและเครื่องดื่ม ตัวร้านใช้สีขาวเป็นหลัก แซมด้วยฟ้า ดูแล้วค่อนข้างสบายตา ส่วนการตกแต่งด้านในค่อนข้าง classic ให้ฟีลเหมือนย้อนยุคไปในสมัยก่อน มีมุมเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งส่องบรรยากาศบนท้องถนนแยกราชเทวีกันแบบเพลินๆ
7. Roots at Ratchathewi
คาเฟ่แบรนด์ดัง Roots ที่มาเปิดสาขาใหม่ (สาขาที่ 12) บริเวณด้านหน้าโรงแรมเอเชีย ภายในตกแต่งด้วยสีโทนอิฐน้ำตาลและสีขาวเป็นหลักให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนอีกอย่างที่เราชอบคือตัวเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเก้าอี้สานปริ๊นลาย iconic ของ roots ซึ่งดูชิคมาก
ไฮไลท์ของที่นี่มีหลายจุด แต่ที่เราอยากแนะนำคือมุมหน้าร้าน ทั้งมุมที่นั่งที่มี logo คำว่า Roots ติดอยู่ที่กำแพง และมุมที่นั่งที่มีกระจกร้านพร้อม graphic สวยงาม
8. Casa Lapin Specialty Coffee x Ratchathewi
คาเฟ่สไตล์ลอฟต์ๆโทนสีน้ำตาล พื้นที่นั่งเยอะ แถมมีจุดชาร์จไฟและโซนห้องประชุมด้วย เหมาะสำหรับการมานั่งทำงานอยู่นะ แต่ติดตรงแสงอาจจะน้อยหน่อย ส่วนเมนูก็มีทั้งอาหารคาวและของหวาน
โดยเมนูที่เราสั่งกัน ก็เช่น
-Casa lapin milk tea (140.-) รสชาติอาจจะค่อยเหมือนชาไทยที่คุ้นเคย เขาน่าจะใส่ wipping cream เพิ่มความนัวมาด้วย
-Chocolate almond coffee cake (125.-)
9. Kaizen Sushi Hibachi
ร้านอาหารญี่ปุ่น ตกแต่งไสตล์โมเดิร์นเจแปน ร้านค่อนข้างกว้าง มีห้อง private ด้วย เผื่อมาเป็นแก๊งใหญ่
โดยเมนูที่เราสั่งกัน ก็เช่น
-Bashira Don (650.-) เป็นเมนูรวมหลายๆอย่าง
-Unagi - Foie Gras Don (680.-) ข้าวหน่าปลาไหล + ฟังกราส์
-Spicy Zuwai Kani Maki (560.-) โรลกุ้งไส้ทอดครีมชีส ที่ท็อปปิ้งด้วยเนื้อปูชูไวพูนๆคลุกซอสโทบิโกะสไปซี
10. เจ๊ก้อย ส้มตำอาหารอีสาน (Jaekoy)
ร้านส้มตำเจ้าดังที่เปิดมากว่า 20 ปี ร้านค่อนข้างใหญ่ พนักงานเยอะอยู่ พร้อมชาร์จตบอด ส่วนอาหารถือว่าหลากหลายมากๆ ทั้งของคาว ส้มตำ ต้มแซ่บ ปลาทอด ด้านของหวานก็มาครบ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง หรือ toast ก็ยังมี
ถ้าใครกินอิ่มแล้ว อยากเดินผลาญแคล ก็สามารถแวะไปถ่ายรูปเล่นได้ที่สวนเฉลิมหล้า (Chaloemla Graffiti Park) ซึ่งเป็น Location ถ่ายถาพ Street Art สุดคูลใจกลางกรุงเทพ ซึ่งที่นี่จะเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะแนว Graffiti จากฝีมือศิลปินอิสระหลายสิบคนจากทั่วประเทศ
อันนี้แถม แถวทางขึ้น BTS ราชเทวี ฝั่ง JRK Tower ที่กำลังก่อสร้างอยู่ จะมีร้านคุณลุงขายขนมหวานที่เคยออกข่าวเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วอยู่ด้วยนะ คุณลุงเขาทำมาขายจะ 30 ปีแล้ว ราคาก็ไม่แพง ถุงๆละ 25 บาท มีทั้ง ข้าวเหนียวถั่วดำ สาคู ลอดช่อง เต้าส่วน ใครสนใจก็มาช่วยอุดหนุนคุณลุงได้น๊า ลุงบอกว่าตรงจุดนี้จะมาขายหลังจาก 10.00 - 20.00 แต่ถ้าของหมดเร็วลุงก็จะได้กลับบ้านเร็ว (ปล.ขออนุญาตคุณลุงถ่ายรูปแล้วนะ จริงๆลุงคุยสนุก อัธยาศัยดี แต่ในรูปอาจจะจังหวะไม่ได้ยิ้มพอดี
ก็จบไปแล้วกับการรีวิว "10 ร้านอาหารและคาเฟ่ ติด BTS ราชเทวี" ครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปเที่ยวไปกินที่ไหนกันอีก ก็ฝากติดตามด้วยนะ
ภาพถ่ายทั้งหมดโดย (By My Side: ผลัดกันถ่าย)
ติดตามทริปอื่นๆของพวกเราได้ที่:
https://opl.to/bymyside
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้