เป็นหลักการที่เราได้มาจากหนังสือเล่มหนึ่งที่มีคนแนะนำมาชื่อ Essentialism
เขาบอกว่าถ้าเราลังเลในอะไรสักอย่าง ตอบปฏิเสธไปเลย
ให้การบอกว่า "ไม่" "ไม่ค่ะ" เป็นโหมด Default ของเราเสมอ
สาเหตุที่ควรทำแบบนั้นเพราะเวลาในชีวิตของเรามีจำกัด ถ้าไม่พูดปฏิเสธให้เคลียร์ ๆ ทุกคน ทุกอย่าง จะมาแย่งเอาเวลาของเราไปหมด
พอคิดดูดี ๆ ชีวิตเราก็ผ่านมาจะ 30 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเราไม่มีการ Set Boundary เลย เป็นคนใจดีเกินไป พูดปฏิเสธไม่เป็น
หลาย ๆ ครั้ง มันก็ลงเอยด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด การลงทุนที่ไม่ได้ผลตอบแทน การทำงานที่ต้องอดทนและได้ค่าตอบแทนน้อยกว่าที่เราคาดหวัง หรือการไม่ยอมพูดสิ่งที่เราคิดออกมาเพราะมัวแต่เกรงใจว่าคนรับฟังเขาจะรู้สึกยังไง
ลองเอาหลักการในหนังสือไปปรับใช้ ทำให้เราเป็นคนกล้ามากขึ้นที่จะปฏิเสธในเวลาที่เราต้องปฏิเสธ เพื่อปกป้องความรู้สึกของตัวเอง
แน่นอนว่าการพูด ไม่ หรือ ไม่โอเคนะคะแบบนี้
มันย่อมสร้างความขัดแย้ง หรือความไม่สบายใจ เพราะมันเป็นการสนทนาที่ยาก ใคร ๆ ก็อยากจะหลีกเลี่ยง และอาจจะดูเป็นนางมารร้ายได้
แต่เท่าที่เราทดลองมา ตราบใดที่เราให้ความเคารพคู่สนทนา เขาก็จะรับฟัง และสุดท้ายเราจะหาตรงกลางกันได้โดยที่ไม่ได้เกิดความรู้สึกแย่ต่อกัน
ใครที่รู้สึกว่าตัวเองเป็น Yes man ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็น เราว่าหนังสือเล่มนี้ควรค่าแก่การอ่านเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ถ้าอะไรที่รู้สึกว่าไม่แน่ใจ ให้บอกว่าไม่ ไปเลย
เขาบอกว่าถ้าเราลังเลในอะไรสักอย่าง ตอบปฏิเสธไปเลย
ให้การบอกว่า "ไม่" "ไม่ค่ะ" เป็นโหมด Default ของเราเสมอ
สาเหตุที่ควรทำแบบนั้นเพราะเวลาในชีวิตของเรามีจำกัด ถ้าไม่พูดปฏิเสธให้เคลียร์ ๆ ทุกคน ทุกอย่าง จะมาแย่งเอาเวลาของเราไปหมด
พอคิดดูดี ๆ ชีวิตเราก็ผ่านมาจะ 30 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเราไม่มีการ Set Boundary เลย เป็นคนใจดีเกินไป พูดปฏิเสธไม่เป็น
หลาย ๆ ครั้ง มันก็ลงเอยด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด การลงทุนที่ไม่ได้ผลตอบแทน การทำงานที่ต้องอดทนและได้ค่าตอบแทนน้อยกว่าที่เราคาดหวัง หรือการไม่ยอมพูดสิ่งที่เราคิดออกมาเพราะมัวแต่เกรงใจว่าคนรับฟังเขาจะรู้สึกยังไง
ลองเอาหลักการในหนังสือไปปรับใช้ ทำให้เราเป็นคนกล้ามากขึ้นที่จะปฏิเสธในเวลาที่เราต้องปฏิเสธ เพื่อปกป้องความรู้สึกของตัวเอง
แน่นอนว่าการพูด ไม่ หรือ ไม่โอเคนะคะแบบนี้
มันย่อมสร้างความขัดแย้ง หรือความไม่สบายใจ เพราะมันเป็นการสนทนาที่ยาก ใคร ๆ ก็อยากจะหลีกเลี่ยง และอาจจะดูเป็นนางมารร้ายได้
แต่เท่าที่เราทดลองมา ตราบใดที่เราให้ความเคารพคู่สนทนา เขาก็จะรับฟัง และสุดท้ายเราจะหาตรงกลางกันได้โดยที่ไม่ได้เกิดความรู้สึกแย่ต่อกัน
ใครที่รู้สึกว่าตัวเองเป็น Yes man ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็น เราว่าหนังสือเล่มนี้ควรค่าแก่การอ่านเป็นอย่างยิ่งค่ะ