ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV คิดอย่างไร คุ้มค่าไหม

เช็กเลย คุ้มค่าไหม “รถยนต์ไฟฟ้า EV” เสียภาษีปีละเท่าไหร่ คิดภาษีอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง 2566 สำหรับรถไฟฟ้าที่จดทะเบียน ตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 – 30 ก.ย. 68

รถยนต์ไฟฟ้า EV กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้า EV น่าสนใจยิ่งขึ้นก็คืออัตราภาษีที่ต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

อย่างไรก็ดี ยังมีเรื่องที่กลุ่มผู้ใช้รถหลายส่วนกังวล อาทิ ข้อจำกัดในเรื่องของสถานีชาร์จไฟ, ความคุ้มค่าของ รถยนต์ไฟฟ้า EV เทียบกับ รถยนต์ปกติที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง, รถยนต์ไฟฟ้า EV เสียภาษีปีละเท่าไหร่, รถยนต์ไฟฟ้า EV คิดภาษีอย่างไร และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ตามมาดูกันครับ

รถยนต์ไฟฟ้า EV คิดภาษีอย่างไร

รถยนต์ไฟฟ้า EV คิดภาษีประจำปี อ้างอิงตามน้ำหนักรถ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้

1. รถยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน
2. รถยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน 7 คน
3. รถไฟฟ้าประเภทอื่น อาทิ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า, รถบดถนน, รถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร

รถยนต์ไฟฟ้า EV เสียภาษีปีละเท่าไหร่
จากที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ ลดอัตราภาษีประจำปีลง 80% ของอัตราที่กำหนดตามกฎหมายเป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2568 นับแต่วันที่จดทะเบียน โดยแบ่งออก ดังนี้

1.ภาษี รถยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน (1 ต.ค. 65 – 30 ก.ย. 68)

น้ำหนัก ไม่เกิน 500 กก. ต้องเสียภาษี 30 บาท

น้ำหนัก 501 – 750 กก. ต้องเสียภาษี 60 บาท

น้ำหนัก 751 – 1,000 กก. ต้องเสียภาษี 90 บาท

น้ำหนัก 1,001 – 1,250 กก. ต้องเสียภาษี 160 บาท

น้ำหนัก 1,251 – 1,500 กก. ต้องเสียภาษี 200 บาท

น้ำหนัก 1,501 – 1,750 กก. ต้องเสียภาษี 260 บาท

น้ำหนัก 1,751 – 2,000 กก. ต้องเสียภาษี 330 บาท

น้ำหนัก 2,001 – 2,500 กก. ต้องเสียภาษี 380 บาท

น้ำหนัก 2,501 – 3,000 กก. ต้องเสียภาษี 440 บาท

น้ำหนัก 3,001 – 3,500 กก. ต้องเสียภาษี 480 บาท

น้ำหนัก 3,501 – 4,000 กก. ต้องเสียภาษี 520 บาท

น้ำหนัก 4,001 – 4,500 กก. ต้องเสียภาษี 560 บาท

น้ำหนัก 4,501 – 5,000 กก. ต้องเสียภาษี 600 บาท

น้ำหนัก 5,001 – 6,000 กก. ต้องเสียภาษี 640 บาท

น้ำหนัก 6,001 – 7,000 กก. ต้องเสียภาษี 680 บาท

น้ำหนัก 7,001 ขึ้นไป กก. ต้องเสียภาษี 720 บาท

2.ภาษี รถยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน 7 คน (1 ต.ค. 65 – 30 ก.ย. 68)

น้ำหนัก ไม่เกิน 500 กก. ต้องเสียภาษี 15 บาท

น้ำหนัก 501 – 750 กก. ต้องเสียภาษี 30 บาท

น้ำหนัก 751 – 1,000 กก. ต้องเสียภาษี 45 บาท

น้ำหนัก 1,001 – 1,250 กก. ต้องเสียภาษี 80 บาท

น้ำหนัก 1,251 – 1,500 กก. ต้องเสียภาษี 100 บาท

น้ำหนัก 1,501 – 1,750 กก. ต้องเสียภาษี 130 บาท

น้ำหนัก 1,751 – 2,000 กก.ต้องเสียภาษี 160 บาท

น้ำหนัก 2,001 – 2,500 กก. ต้องเสียภาษี 190 บาท

น้ำหนัก 2,501 – 3,000 กก. ต้องเสียภาษี 220 บาท

น้ำหนัก 3,001 – 3,500 กก. ต้องเสียภาษี 240 บาท

น้ำหนัก 3,501 – 4,000 กก. ต้องเสียภาษี 260 บาท

น้ำหนัก 4,001 – 4,500 กก. ต้องเสียภาษี 280 บาท

น้ำหนัก 4,501 – 5,000 กก. ต้องเสียภาษี 300 บาท

น้ำหนัก 5,001 – 6,000 กก. ต้องเสียภาษี 320 บาท

น้ำหนัก 6,001 – 7,000 กก. ต้องเสียภาษี 340 บาท

น้ำหนัก 7,001 ขึ้นไป กก. ต้องเสียภาษี 360 บาท

3. ภาษี รถไฟฟ้าประเภทอื่น (1 ต.ค. 65 – 30 ก.ย. 68)

สำหรับ รถไฟฟ้าประเภทอื่น เก็บภาษีอัตรากึ่งหนึ่งของข้อกำหนดการจัดเก็บตามน้ำหนัก หรือจัดเก็บเป็นรายคัน อาทิ
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ต้องเสียภาษี 10 บาท
รถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องเสียภาษี 10 บาท
รถบดถนน คันละ 200 บาท
รถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร คันละ 50 บาท

อย่างไรก็ดี หลังจากวันที่ 30 กันยายน 2568 อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล

การจดทะเบียน รถยนต์ไฟฟ้า EV ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ดังนี้

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
2. หนังสือแจ้งจำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิต
3. หลักฐานการได้มาของรถ ได้แก่ สัญญาซื้อขาย 4. สัญญาเช่าซื้อ ใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี
5. หลักฐานการประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
6. แบบคำขอจดทะเบียนรถรวมทั้งหนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่ให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)
7. นำรถเข้ารับการตรวจสภาพเพื่อความถูกต้อง

รถยนต์ไฟฟ้า EV เปรียบเทียบกับ รถยนต์ปกติที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง อะไรคุ้มค่ากว่ากัน

ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV และรถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง คิดคำนวณตามน้ำหนักรถ โดยรถยนต์ไฟฟ้า EV จะมีอัตราภาษีต่ำกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในทุกระดับน้ำหนัก

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2568 จะมีอัตราภาษีลดลง 80% ของอัตราที่กำหนดตามกฎหมาย โดยแบ่งอัตราภาษีตามน้ำหนักรถ ดังนี้

 
 
นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน 7 คน จะมีอัตราภาษีลดลง 60% ของอัตราที่กำหนดตามกฎหมาย โดยแบ่งอัตราภาษีตามน้ำหนักรถ ดังนี้



จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV ต่ำกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในทุกระดับน้ำหนัก โดยมากจะต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า EV น้ำหนัก 1,000 กก. เสียภาษีปีละ 160 บาท ในขณะที่รถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำหนัก 1,000 กก. เสียภาษีปีละ 1,200 บาท
ดังนั้น รถยนต์ไฟฟ้า EV จึงมีความคุ้มค่ากว่ารถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในแง่ของค่าใช้จ่ายด้านภาษี
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV เช่น ราคารถ ค่าบำรุงรักษา ค่าไฟฟ้า เป็นต้น

โดยสรุปแล้ว ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV ในปัจจุบันมีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจซื้อด้วย

ที่มา : กรมการขนส่งทางบก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่