กระทู้เล่าอดีต มาย้อนวัยกันค่ะ อยากรู้ว่าเพื่อนๆสมัยเรียนหรือเข้ามาทำงานใหม่ๆในกรุงเทพมีชีวิตอย่างไรถึงวันนี้

เอาของเราก่อนนะ ต้องย้อนเวลาไปสัก 30 ปี แก่ได้ที่แล้ว อิอิ สมัยปี 2534 เราเริ่มเดินทางเข้ากรุงเทพมาจัดฟันแถวสำเพ็ง
ปี 2535 เราเริ่มมาเรียนพิเศษช่วงปิดเทอม และปี 2537 เราเข้ามาเรียน ม.ปลาย จึงต้องมาอยู่กรุงเทพแบบถาวรตอนอายุ 15 
ก็ยังเป็นเยาวชนอยู่เนอะ ตอนมาอยู่คนเดียวใหม่ๆ ก็ต้องหัดขึ้นรถเมล์ให้ถูกสาย เพราะถ้าหลงทีหนึ่งไปไกลเลย มือถือก็ไม่มี
GPS ก็ไม่มีกลับหอไม่ถูกก็ต้องนั่งสายเดิมย้อนกลับ เคยหลงเป็น 10 ครั้งเลย 55 ตอนนั้นค่ารถเมล์แดง 3.50฿  นั่งชมวิวไป

ตอนเรียน เราเช่าหออยู่อนุสาวรีย์ชัยก็ถือว่ากลางเมือง ค่าหอ 3 พันกว่าบาท มีรูมเมท 3 คน ที่บ้านให้ค่าใช้จ่ายเดือนละ 5 พัน
ก็ต้องอยู่แบบประหยัดหน่อย สมัยก่อนข้าวในโรงอาหารยังจานละ 10฿ ก๋วยเตี๋ยว 6฿ ถ้ากินที่โรงเรียน 2 มื้อก็จะประหยัดมาก
วันหนึ่ง 50฿ ก็พอใช้ถ้าไม่ได้ซื้อหนังสือหรือของใช้ หรือไปกินของในห้าง นานๆทีก็มีกินบ้างเพราะตอนเย็นเรียนพิเศษแถวสยาม

แต่ปัญหาเราส่วนใหญ่จะอยู่ที่รถเมล์เพราะสมัยก่อนรถมีน้อยคนแน่นยืนถึงบันไดเลย แถมรถก็ติดมาก ตอนนั้นยังไม่มีรถไฟฟ้า
เราเคยเดินไปขึ้นรถที่สามย่าน 2 ชม.รถเพิ่งมาถึงหน้าโรงเรียน 55 บางครั้งเราก็เดินกลับหอ พอผ่นาจะคิดถึงตอนเด็ก นี่เราเคย
เดินกลับเองด้วยน่าจะสัก 3 กิโล แก่แล้วตอนนี้คงเดินไม่ไหว เวลาฝนตกไม่ต้องพูดถึงเรียกแท็กซี่ยังไม่มีรถเลย ต้องเดินเปียกปอน
เราเข้าใจน้องคนที่พูดถึงคนจนในกรุงเทพเลย ถ้าใครเคยลำบากจะเข้าใจ เงินแทบจะไม่พอใช้ตอนสิ้นเดือน จะกินใช้ต้องประหยัด

ส่วนเพื่อนเราเกือบ 80% มีฐานะดีบ้านอยู่กรุงเทพ มีคนขับรถ ถ้ามาจากจังหวัดเดียวกันก็มีบ้านอยู่กรุงเทพ มีพี่คอยรับส่ง เราน่าจะ
ลำบากสุดแล้ว บ้านยังจนอยู่ แค่จะหาหอธรรมดากลางใจเมืองอยู่ก็ยากแล้วถ้าไม่มีรูมเมท เคยอยู่กัน 2 คน ค่าหอก็ 1,700฿แล้ว
รวมน้ำไฟ เงินที่เอาไว้กินใช้ซื้อของเหลือเดือนละ 3 พันนิดๆ ตอนนั้นเรายังไม่ได้ทำงานเพราะวุฒิยังน้อยและต้องอ่านหนังสือหนัก

พอเข้ามหาวิทยาลัยได้ถึงเริ่มมีรายได้เล็กๆน้อยๆ แต่ก็ยังลำบากอยู่ เราได้เรียนรู้ชีวิตช่วงมหาวิทยาลัย เคยคิดว่าถ้าเราทำงานประจำ
ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ที่จะอยู่กรุงเทพได้อย่างสุขสบาย และงานอะไรที่เราจะทำ ตอนนั้นข้าราชการซี3เงินเดือน 6 พันกว่า ซึ่งน้อยกว่า
รายได้เราช่วงมหาวิทยาลัย 8,000-10,000฿ เรามีรายได้ตัวเองเพิ่มเลยเยอะ แต่ก็แค่อยู่ได้นะ จ่ายค่าหอ 3,500฿ เหลือ 6-7 พันไว้ใช้
เงินเก็บแทบไม่มี เราเลยลองสอนพิเศษตามบ้านต่อ หาเด็กเรียนเยอะขึ้น เพิ่มค่าสอนจาก ชม. 150 เป็น 200 จบตรีแล้ว บ้านไกลก็ 250
ไปสมัครคุมองตรวจการบ้านกับสอนเด็กได้เดือนละ 2-3 พัน 1 ปีเราเริ่มมีรายได้เกิน 15,000฿ แล้วก็เพิ่มเป็น 25,000฿ เหลือสอนอย่างเดียว

ตอนนั้นยังต้องเรียนต่อ 2 ปี เรายังไม่มีใบอนุญาติว่าความ เลยหางานพวกวิจัย งานแบบสอบถาม ขายของตามตลาดนัดของห้าง เราเอา
รถที่บ้านมาใช้เลยช่วยหาเงินได้อีกเยอะ เฉลี่ยน่าจะ 50,000-70,000฿ พอได้ใบอนุญาตเราก็ลงเรียนโทต่อและทำงานไปด้วย รายได้ก็
จะอยู่ประมาณนี้ไปจนเราจบโท เริ่มมีงานกฎหมายแล้วก็รับงานมาเรื่อยๆบางงานก็หลายหมื่นถึงแสน ส่วนงานสอนก็เติบโตเช่นกัน จาก
สอนที่บ้านน้อง มาเปิดสอนที่คอนโด และไปช่วยที่บ้านสอนคราวนี้เป็นกวดวิชาเลยเด็กเป็นร้อย เราทำงาน 3-4 อย่างไปพร้อมกันจน 38

เรียกว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำ บางทีก็อดนอนนั่งทำคอมจนเช้า กลางวันสอน ใช้ชีวิตแบบนี้มาเกือบ 40 ปี ถึงเริ่มมีทรัพย์สินเกิน 10 ล้าน
หลังจากนั้น 5 ปี เราทำธุรกิจของตัวเองอย่างเดียว ไม่ได้รับงานแม้แต่ว่าความ งานสอนมีแต่ค่าจ้างน้อยมาก คือเป็นงานน้ำใจ ว่าความ
มีอีก 3 งาน ทำฟรีหมด จนทรัพย์สินเราเพิ่มขึ้นมาเกือบ 30 ล้าน แต่เราก็มีหนี้ 3 ล้านกว่า ที่มูลค่ามันเยอะเพราะที่ดินเราติดถนนใหญ่และ
ตอนนี้เริ่มเจริญ เมืองขยายออกมา กับเราซื้อขายที่ดินคอนโด ซื้อมาขายไปตลอด แล้วก็เล่นหุ้นบางส่วน เราเล่นหุ้นได้ค่อนข้างเยอะกว่า
ฝากเงิน ดอกเบี้ยมันน้อยถ้าเราฝากเงินโอกาสจะรวยขึ้นยาก เต็มที่ได้ 3% กว่าๆ แต่เล่นหุ้น ไม่กี่วันเราได้ 5-10% ถ้าเป็นเดือนกำไรก็สูงขึ้น

แต่เราจะไม่แนะนำใครเพราะมันเสี่ยง เราเล่นมานาน 20 กว่าปี เริ่มจับทิศทางตลาดได้ ได้กำไรเราก็เอาเงินมาลงอสังหา เงินที่อยู่ในหุ้นก็
จะเท่าๆเดิม พยายามจะเล่นไม่มากเกิน ถ้าพูดจริงๆก็คือเป็นเงินกำไรหมดแล้ว เราใช้วิธีนี้เอาเงินในหุ้นกินใช้ ส่วนเงินที่ขายที่เอามาซื้อที่
หรือคอนโดเพิ่ม หรือไม่ก็สร้างบ้านสร้างตึกร้านค้า ที่ดินมันก็จะยิ่งเป็นราคาขายยิ่งรวย เรียกว่าตอนนี้เราอยู่เฉยๆก็มีเงินกินใช้พอสมควร 

เราแชร์ชีวิตเราให้ฟัง เห็นหลายกระทู้เลยที่มีค่าใช้จ่ายในกรุงเทพสูง เราเข้าใจเพราะเราเคยผ่านชีวิตแบบนั้นมาก่อน หลายปีที่อดทนสร้างตัว
กว่าจะได้เงินก็มีทั้งความเครียดความกดดัน แต่คนเราต้องรู้จักวางแผนชีวิต พัฒนาตัวเองแล้วต่อยอดไป ตอนเราเรียนตรีเราก็ถูกเพื่อนบางคน
ดูถูกงานเรานะ เค้ามองมันกิ๊กก๊อกไม่มีอนาคต สมัยเราจบมาค่านิยมต้องรับราชการหรือทำงานเอกชนดังๆ เราไม่ได้ว่างานใครดีหรือไม่ดีนะ
แต่เราชอบที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ สร้างความมั่นคงของตัวเอง หาอะไรทำไปเรื่อยๆ มีเวลาก็เที่ยวบ้าง กินของดีดี เที่ยวแบบไม่ต้องประหยัดดูบ้าง
มันก็สนุกดีนะ ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำงานในวันข้างหน้า ถ้าวันนี้เราต้องทนทำงานที่เราไม่ชอบเราคงไม่มีความสุขและอาจป่วยแล้ว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่