ธรรมของพระเจ้าจักรพรรดิ
-บาลี ปา. ที. ๑๑/๖๔/๓๕.
ตรัสเล่าถึงพระเจ้าจักรพรรดิในกาลก่อน โดยเป็นการสนทนาระหว่างพระราชฤาษีที่เป็นบิดา กับพระราชาที่เป็นบุตร เกี่ยวกับข้อปฏิบัติเพื่อความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ (จกฺกวตฺติวตฺต)
ก็จักกวัตติวัตรอันประเสริฐนั้น เป็นอย่างไร ?
ลูกเอ๋ย ! ถ้าเช่นนั้น เจ้าจงอาศัยธรรมเท่านั้น จงสักการะธรรม เคารพธรรม นับถือธรรม บูชาธรรม ยำเกรงธรรม มีธรรมเป็นธงชัย มีธรรมเป็นยอด มีธรรมเป็นใหญ่
จงจัดการอารักขาป้องกันและคุ้มครองโดยชอบธรรม ในหมู่ชน ในราชสำนัก ในหมู่พล ในพวกกษัตริย์ผู้ตามเสด็จ ในพวกพราหมณ์และคหบดี ในราษฎรชาวนิคมและชาวชนบททั้งหลาย ในพวกสมณะและพราหมณ์ ในเหล่าเนื้อและนกทั้งหลาย.
ลูกเอ๋ย ! การอธรรมอย่าให้มีได้ในแว่นแคว้นของเจ้าเลย.
ลูกเอ๋ย ! อนึ่ง บุคคลเหล่าใดในแว่นแคว้นของเจ้า ไม่มีทรัพย์ เจ้าพึงให้ทรัพย์แก่บุคคลเหล่านั้นด้วย.
ลูกเอ๋ย ! อนึ่ง สมณพราหมณ์เหล่าใด ในแว่นแคว้นของเจ้า เป็นผู้งดเว้นจากความมัวเมาและความประมาทตั้งมั่นอยู่ในขันติ (อดทน, อดกลั้น) และโสรัจจะ (ความสงบ) ฝึกตนอยู่แต่ผู้เดียว สงบตนอยู่แต่ผู้เดียว ให้ตนดับกิเลสอยู่แต่ผู้เดียว พึงเข้าไปหาสมณพราหมณ์เหล่านั้นโดยกาลอันควร แล้วไต่ถามสอบถามว่า “ท่านขอรับ ! อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เกื้อกูล เพื่อความทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน” เจ้าได้ฟังคำของสมณพราหมณ์เหล่านั้นแล้ว สิ่งใดเป็นอกุศล พึงละเว้นสิ่งนั้นเสีย สิ่งใดเป็นกุศล พึงยึดถือประพฤติสิ่งนั้น.
ลูกเอ๋ย ! นี้แลคือ จักกวัตติวัตรอันประเสริฐนั้น.
https://etipitaka.com/read/thaipb/11/197/
ธรรมของพระเจ้าจักรพรรดิ | พุทธวจน
ธรรมของพระเจ้าจักรพรรดิ
-บาลี ปา. ที. ๑๑/๖๔/๓๕.
ตรัสเล่าถึงพระเจ้าจักรพรรดิในกาลก่อน โดยเป็นการสนทนาระหว่างพระราชฤาษีที่เป็นบิดา กับพระราชาที่เป็นบุตร เกี่ยวกับข้อปฏิบัติเพื่อความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ (จกฺกวตฺติวตฺต)
ก็จักกวัตติวัตรอันประเสริฐนั้น เป็นอย่างไร ?
ลูกเอ๋ย ! ถ้าเช่นนั้น เจ้าจงอาศัยธรรมเท่านั้น จงสักการะธรรม เคารพธรรม นับถือธรรม บูชาธรรม ยำเกรงธรรม มีธรรมเป็นธงชัย มีธรรมเป็นยอด มีธรรมเป็นใหญ่
จงจัดการอารักขาป้องกันและคุ้มครองโดยชอบธรรม ในหมู่ชน ในราชสำนัก ในหมู่พล ในพวกกษัตริย์ผู้ตามเสด็จ ในพวกพราหมณ์และคหบดี ในราษฎรชาวนิคมและชาวชนบททั้งหลาย ในพวกสมณะและพราหมณ์ ในเหล่าเนื้อและนกทั้งหลาย.
ลูกเอ๋ย ! การอธรรมอย่าให้มีได้ในแว่นแคว้นของเจ้าเลย.
ลูกเอ๋ย ! อนึ่ง บุคคลเหล่าใดในแว่นแคว้นของเจ้า ไม่มีทรัพย์ เจ้าพึงให้ทรัพย์แก่บุคคลเหล่านั้นด้วย.
ลูกเอ๋ย ! อนึ่ง สมณพราหมณ์เหล่าใด ในแว่นแคว้นของเจ้า เป็นผู้งดเว้นจากความมัวเมาและความประมาทตั้งมั่นอยู่ในขันติ (อดทน, อดกลั้น) และโสรัจจะ (ความสงบ) ฝึกตนอยู่แต่ผู้เดียว สงบตนอยู่แต่ผู้เดียว ให้ตนดับกิเลสอยู่แต่ผู้เดียว พึงเข้าไปหาสมณพราหมณ์เหล่านั้นโดยกาลอันควร แล้วไต่ถามสอบถามว่า “ท่านขอรับ ! อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เกื้อกูล เพื่อความทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน” เจ้าได้ฟังคำของสมณพราหมณ์เหล่านั้นแล้ว สิ่งใดเป็นอกุศล พึงละเว้นสิ่งนั้นเสีย สิ่งใดเป็นกุศล พึงยึดถือประพฤติสิ่งนั้น.
ลูกเอ๋ย ! นี้แลคือ จักกวัตติวัตรอันประเสริฐนั้น.
https://etipitaka.com/read/thaipb/11/197/