สวัสดีค่ะ ก่อนหน้านี้เราเคยเขียนกระทู้ไป มีคนตอบกลับเยอะมากๆ เราไม่มีเวลาเข้าไปอ่านทั้งหมดเลย แต่ขอบคุณทุกคำตอบมากๆ
ต้องยอมรับเลยว่าตอนนั้นเราเด็กมากจริงๆ ไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย ตอนนั้นมันมีปัญหาที่อยู่ใต้น้ำกว่านี้แต่เราไม่เคยรับรู้ ตอนนี้เราอายุโตมากพอที่จะรู้ได้แล้วก็ทำความเข้าใจได้มากขึ้น เราไม่ได้เข้าพันทิปมานานมาก เพราะต้องไปเผชิญหน้ากับปัญหาของตัวเองพร้อมกับแม่ หลายปีที่ผ่านมาทำให้เราโตขึ้นมากแต่ก็ยังอ่อนเรื่องประสบการณ์และวิธีคิดที่ติดความเป็นเด็ก เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยได้เจออะไรแย่ๆโดยตรงกับตัวเอง มีแม่เรารับแทนตลอด
ตอนนี้เราเข้ามหาลัยแล้วค่ะ ปัจจุบันคุณพ่ออายุเยอะขึ้นมาก อยู่คนเดียวตามประสา หากินเล็กๆน้อยๆ รายได้ไม่ได้ดีเหมือนเดิม+ติดสุราหนัก เมียน้อยก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนแม่เราก็ตัดขาดจากพ่อได้ ไม่เสียใจแต่ก็ผิดหวังหลายๆเรื่องในชีวิตจนปลง ไม่ได้แข็งแรงขายของเก่งเหมือนกับวันที่เราเขียนกระทู้เรื่องนั้นได้แล้ว พี่สาวตอนนี้เรียนจบทำงานแต่ก็ยังไม่ได้สภาพคล่องขนาดนั้น
ล่าสุดคุณแม่ตรวจเจอโรคประจำตัวหลายอย่างจากการไปรักษาตัวตอนเกิดอุบัติเหตุ มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดในใจลึกๆว่าเราเคยทำตัวแย่กับเค้าขนาดไหน เพราะท่านมีเราตอนอายุเยอะแล้ว เราเป็นลูกหลงที่ติดแม่มากๆ ถูกเลี้ยงมาแบบสปอย ยิ่งผ่านอะไรหลายๆอย่างมาด้วยกัน เราก็รักท่านมากขึ้น พยายามเห็นแก่ตัวน้อยลง เอาใจใส่ดูแลเพราะรู้ว่าเค้าเหนื่อยกับเรามากๆ อยากให้เรามีชีวิตที่ดีและสุขสบาย
วันที่เค้าเกิดอุบัติเหตุ เค้าบอกว่าตัวเค้าจะไปแล้วแต่เค้ายังไปไม่ได้เพราะห่วงเรามากที่สุด ตอนตรวจเจอโรคเค้าก็พูดกับเราว่า เค้าไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นโรคอะไรเลย คิดแค่ว่าเค้าต้องแข็งแรงเพื่อดูแลเราให้โตมามีชีวิตดี พูดตามตรงว่าเราไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อเลย มันตื้อในใจไปหมด ทั้งรู้สึกแย่ รู้สึกผิด เป็นห่วง และไม่อยากเสียเค้าไปเลย
ในตอนนี้ที่เรากำลังเริ่มเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ เราไม่เคยคิดว่าจะมีวันไหนที่เค้าจะไม่อยู่กับเราเลย เพราะที่ผ่านมาคุณแม่แสดงให้เห็นว่าต่อให้เค้าจะไม่ไหวแค่ไหน เค้าก็ยังอยู่กับเราตลอด ตอนนี้เรากลัวเสียเค้าไปมากๆ มีบางวันที่ฉีดยาให้เค้าเสร็จแล้วก็แอบไปนั่งร้องไห้คนเดียว ไม่กล้าให้เค้าเห็นเลย ที่ผ่านมาเราทำให้เค้าเป็นห่วงเยอะมาก ทุกวันนี้เรากลัวทุกวันว่าเราจะเสียเค้าไป ต้องแอบไปดูว่าเค้ายังโอเคดีมั้ย ไม่ได้เป็นอะไร ระแวงไปทุกก้าวของเค้า กลัวเค้าล้ม กลัวเค้าวูบ เป้าหมายในชีวิตของเรามีเค้าอยู่เสมอ แต่การที่เป็นโรค มันทำให้เรารู้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเคยเจอเหตุการณ์ที่สูญเสียผู้ใหญ่ไปแบบกรฃะทันหันจากการแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำหรือจากโรคเจ็บป่วย เราไม่เคยจินตนาการเลยว่าสักวันคนที่เรารักมีสิทธิ์ไปอยู่ตรงนั้น แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วก็กลัวมันมากจนแพนิค ในวันที่เราพอมีเงินแล้วเค้ากลับเป็นแบบนี้ เราอยากให้เค้าได้พักผ่อน กินหรูอยู่สบายในวันที่เราทำงานให้เงินเค้าได้
ปัจจุบันเราอยู่กับแม่สองคน แม่ต้องกินยาทุกวันห้ามขาด ปกติเราเรียนและอยู่หอ แต่ว่าวันไหนไม่มีเรียนก็จะกลับไปหาแม่
พอเค้าเป็นแบบนี้ เราอยากกลับมาดูแลเค้า แต่แม่ก็อยากให้เราเรียนให้จบ เค้าอยากไปงานรับปริญญาของเรา เค้าไม่อยากให้เราทิ้งการเรียนมาสนใจเค้า แต่เค้าอยู่บ้านคนเดียว แอบบ่นคิดถึงเรากับคนอื่น ไม่ยอมบอกเราตรงๆ ก่อนหน้าที่เค้าจะรู้ว่ามีโรค เค้าอยากให้เราไปแลกเปลี่ยนเรียนที่ต่างประเทศเพราะรู้ว่ามันดีต่ออนาคตเรามากกว่า เราเลยตั้งใจเตรียมสอบภาษา รอยื่นทุนในชั้นปีสูง แต่ตอนนี้เราลังเลที่จะไม่ไป แม่ก็ขอให้เราไป ไม่ต้องเป็นห่วงเค้าดูแลตัวเองได้ ชีวิตเราไม่แน่นอน วันหน้าเค้าอาจจะไม่อยู่ เราต้องพยายามเพื่ออนาคตตัวเองให้ดี มันยิ่งทำให้เรารู้สึกผิดมากๆ จนไม่รู้จะตัดสินใจยังไงเลย จะให้เค้าอยู่คนเดียวก็ไม่ปลอดภัย ไปอยู่กับพ่อก็ทำให้แม่อึดอัดใจ อยู่กับเราเค้าก็กลัวเป็นภาระ ไปอยู่กับญาติก็เกรงใจ
ปล. ส่วนนึงที่เราแพนิคเพราะมันเป็นโรคจากพันธุกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตจากเส้นเลือดสมองแตกตีบ แม่ก็กลัว เราก็กลัว เพราะทุกคนเป็นแบบเดียวกันหมด ไม่สามารถรักษาหายได้นอกจากจะกินยาไปตลอดชีวิต ขาดยาตอนไหนก็มีสิทธิ์เกิดภาวะแทรกซ้อน ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลแต่พออยู่คนเดียว ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะเป็นยังไง เพราะมีกันอยู่แค่นี้
ไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียวตามลำพัง แต่เค้าไม่อยากเป็นภาระเรา
ต้องยอมรับเลยว่าตอนนั้นเราเด็กมากจริงๆ ไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย ตอนนั้นมันมีปัญหาที่อยู่ใต้น้ำกว่านี้แต่เราไม่เคยรับรู้ ตอนนี้เราอายุโตมากพอที่จะรู้ได้แล้วก็ทำความเข้าใจได้มากขึ้น เราไม่ได้เข้าพันทิปมานานมาก เพราะต้องไปเผชิญหน้ากับปัญหาของตัวเองพร้อมกับแม่ หลายปีที่ผ่านมาทำให้เราโตขึ้นมากแต่ก็ยังอ่อนเรื่องประสบการณ์และวิธีคิดที่ติดความเป็นเด็ก เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยได้เจออะไรแย่ๆโดยตรงกับตัวเอง มีแม่เรารับแทนตลอด
ตอนนี้เราเข้ามหาลัยแล้วค่ะ ปัจจุบันคุณพ่ออายุเยอะขึ้นมาก อยู่คนเดียวตามประสา หากินเล็กๆน้อยๆ รายได้ไม่ได้ดีเหมือนเดิม+ติดสุราหนัก เมียน้อยก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนแม่เราก็ตัดขาดจากพ่อได้ ไม่เสียใจแต่ก็ผิดหวังหลายๆเรื่องในชีวิตจนปลง ไม่ได้แข็งแรงขายของเก่งเหมือนกับวันที่เราเขียนกระทู้เรื่องนั้นได้แล้ว พี่สาวตอนนี้เรียนจบทำงานแต่ก็ยังไม่ได้สภาพคล่องขนาดนั้น
ล่าสุดคุณแม่ตรวจเจอโรคประจำตัวหลายอย่างจากการไปรักษาตัวตอนเกิดอุบัติเหตุ มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดในใจลึกๆว่าเราเคยทำตัวแย่กับเค้าขนาดไหน เพราะท่านมีเราตอนอายุเยอะแล้ว เราเป็นลูกหลงที่ติดแม่มากๆ ถูกเลี้ยงมาแบบสปอย ยิ่งผ่านอะไรหลายๆอย่างมาด้วยกัน เราก็รักท่านมากขึ้น พยายามเห็นแก่ตัวน้อยลง เอาใจใส่ดูแลเพราะรู้ว่าเค้าเหนื่อยกับเรามากๆ อยากให้เรามีชีวิตที่ดีและสุขสบาย
วันที่เค้าเกิดอุบัติเหตุ เค้าบอกว่าตัวเค้าจะไปแล้วแต่เค้ายังไปไม่ได้เพราะห่วงเรามากที่สุด ตอนตรวจเจอโรคเค้าก็พูดกับเราว่า เค้าไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นโรคอะไรเลย คิดแค่ว่าเค้าต้องแข็งแรงเพื่อดูแลเราให้โตมามีชีวิตดี พูดตามตรงว่าเราไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อเลย มันตื้อในใจไปหมด ทั้งรู้สึกแย่ รู้สึกผิด เป็นห่วง และไม่อยากเสียเค้าไปเลย
ในตอนนี้ที่เรากำลังเริ่มเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ เราไม่เคยคิดว่าจะมีวันไหนที่เค้าจะไม่อยู่กับเราเลย เพราะที่ผ่านมาคุณแม่แสดงให้เห็นว่าต่อให้เค้าจะไม่ไหวแค่ไหน เค้าก็ยังอยู่กับเราตลอด ตอนนี้เรากลัวเสียเค้าไปมากๆ มีบางวันที่ฉีดยาให้เค้าเสร็จแล้วก็แอบไปนั่งร้องไห้คนเดียว ไม่กล้าให้เค้าเห็นเลย ที่ผ่านมาเราทำให้เค้าเป็นห่วงเยอะมาก ทุกวันนี้เรากลัวทุกวันว่าเราจะเสียเค้าไป ต้องแอบไปดูว่าเค้ายังโอเคดีมั้ย ไม่ได้เป็นอะไร ระแวงไปทุกก้าวของเค้า กลัวเค้าล้ม กลัวเค้าวูบ เป้าหมายในชีวิตของเรามีเค้าอยู่เสมอ แต่การที่เป็นโรค มันทำให้เรารู้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเคยเจอเหตุการณ์ที่สูญเสียผู้ใหญ่ไปแบบกรฃะทันหันจากการแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำหรือจากโรคเจ็บป่วย เราไม่เคยจินตนาการเลยว่าสักวันคนที่เรารักมีสิทธิ์ไปอยู่ตรงนั้น แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วก็กลัวมันมากจนแพนิค ในวันที่เราพอมีเงินแล้วเค้ากลับเป็นแบบนี้ เราอยากให้เค้าได้พักผ่อน กินหรูอยู่สบายในวันที่เราทำงานให้เงินเค้าได้
ปัจจุบันเราอยู่กับแม่สองคน แม่ต้องกินยาทุกวันห้ามขาด ปกติเราเรียนและอยู่หอ แต่ว่าวันไหนไม่มีเรียนก็จะกลับไปหาแม่
พอเค้าเป็นแบบนี้ เราอยากกลับมาดูแลเค้า แต่แม่ก็อยากให้เราเรียนให้จบ เค้าอยากไปงานรับปริญญาของเรา เค้าไม่อยากให้เราทิ้งการเรียนมาสนใจเค้า แต่เค้าอยู่บ้านคนเดียว แอบบ่นคิดถึงเรากับคนอื่น ไม่ยอมบอกเราตรงๆ ก่อนหน้าที่เค้าจะรู้ว่ามีโรค เค้าอยากให้เราไปแลกเปลี่ยนเรียนที่ต่างประเทศเพราะรู้ว่ามันดีต่ออนาคตเรามากกว่า เราเลยตั้งใจเตรียมสอบภาษา รอยื่นทุนในชั้นปีสูง แต่ตอนนี้เราลังเลที่จะไม่ไป แม่ก็ขอให้เราไป ไม่ต้องเป็นห่วงเค้าดูแลตัวเองได้ ชีวิตเราไม่แน่นอน วันหน้าเค้าอาจจะไม่อยู่ เราต้องพยายามเพื่ออนาคตตัวเองให้ดี มันยิ่งทำให้เรารู้สึกผิดมากๆ จนไม่รู้จะตัดสินใจยังไงเลย จะให้เค้าอยู่คนเดียวก็ไม่ปลอดภัย ไปอยู่กับพ่อก็ทำให้แม่อึดอัดใจ อยู่กับเราเค้าก็กลัวเป็นภาระ ไปอยู่กับญาติก็เกรงใจ
ปล. ส่วนนึงที่เราแพนิคเพราะมันเป็นโรคจากพันธุกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตจากเส้นเลือดสมองแตกตีบ แม่ก็กลัว เราก็กลัว เพราะทุกคนเป็นแบบเดียวกันหมด ไม่สามารถรักษาหายได้นอกจากจะกินยาไปตลอดชีวิต ขาดยาตอนไหนก็มีสิทธิ์เกิดภาวะแทรกซ้อน ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลแต่พออยู่คนเดียว ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะเป็นยังไง เพราะมีกันอยู่แค่นี้