อิสราเอลแฉ ฮามาสใช้พื้นที่ “เซฟโซน” ยิงจรวด
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/212075
 
 
กองทัพอิสราเอลเผย กลุ่มฮามาสใช้พื้นที่ของผู้อพยพ ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นเขตปลอดภัย หรือ Safe Zone เป็นฐานในการยิงจรวดโจมตี
 
กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ระบุว่าเมื่อช่วงบ่ายวันพุธ (6 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุจรวดโจมตีข้ามพรมแดน 2 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายคือเมืองเบียชีบา (Beersheba) อีกหนึ่งเมืองใหญ่ทางภาคใต้ของอิสราเอล
 
กองกำลังป้องกันอิสราเอลระบุว่ากลุ่มฮามาสได้ยิงจรวด 12 ลูกเข้าใส่พลเรือนของเมืองเบียชีบา ซึ่งพบว่าจรวดเหล่านี้ถูกยิงมาจากบริเวณใกล้ๆกับศูนย์อพยพชาวปาเลสไตน์ในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาและจากบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ของสหประชาชาติ

โดยที่ผ่านมาอิสราเอลกล่าวหากลุ่มก่อการร้ายต่างๆในฉนวนกาซาว่า ใช้พลเรือนชาวปาเลสไตน์เป็นโล่ห์มนุษย์ ด้วยการใช้โรงเรียนและโรงพยาบาลเป็นฐานในการปฏิบัติการ ทั้งที่สถานที่เหล่านี้ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่ต้องได้รับการคุ้มครอง
 
ในเวลาเดียวกันเดียวกันกองทัพอิสราเอลได้โจมตีทางบกและทางอากาศในฉนวนกาซามากกว่า 250 จุด ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงของวันพุธ โดยเป้าหมายมีทั้งฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ มีการทำลายทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก รวมถึงสังหารกลุ่มฮามาสที่ปฏิบัติการบริเวณโรงเรียนในทางเหนือของฉนวนกาซา
 
นอกจากนี้ ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลยังรวมถึงการทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนที่มีพลเรือนปาเลสไตน์ใช้เป็นที่หลบภัยในเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ (deir al balah) ตอนกลางของฉนวนกาซา รวมทั้งขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินไปทางใต้ของฉนวนกาซาต่อเนื่อง ทั้งการปิดล้อมเมืองและบุกเข้าโจมตีในใจกลางเมืองข่าน ยูนิสอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่า ผู้นำฮามาสซ่อนตัวในเมืองดังกล่าวที่มีผู้ลี้ภัยเป็นจำนวนมาก
 
กองทัพอิสราเอลประกาศปิดถนนซาลาห์ อัล-ดิน ถนนสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่างทางเหนือฉนวนกาซากับทางตะวันออกของเมืองข่าน ยูนิสทางใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ชาวปาเลสไตน์ใช้อพยพไปที่ปลอดภัย เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวกลายเป็นสมรภูมิรบ โดยเปลี่ยนมาใช้เส้นทางบริเวณชายฝั่งของฉนวนกาซาแทน
 
ขณะที่ฝ่าย ฮามาสระบุว่าได้ทำลายยานยนต์ทหารอิสราเอลจำนวน 24 คัน รวมถึงมีทหารอิสราเอลได้รับบาดเจ็บหรือถูกสสังหารในฉนวนกาซาอย่างน้อย 8 นาย

---

อย่าหลอกตัวเอง "โควิด-19" ติดกันตรึม หมอเตือนอาจถึงตาย ส่วนใหญ่อาการชัดเจน
https://www.thairath.co.th/news/society/2746448

"หมอธีระ" เผยสถานการณ์ "โควิด-19" ติดกันตรึม ส่วนใหญ่มีอาการชัด พร้อมเตือนอย่าชะล่าใจ มีอาการป่วยให้รีบรักษา ก่อนทำคนอื่นลำบากไปด้วย
 
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 มีรายงานว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า 

ตรวจ ATK จากทั้งจมูกและคอพร้อมกันจะมีโอกาสพบการติดเชื้อมากขึ้น ทีมวิจัยจากเดนมาร์กเผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารการแพทย์ JAMA Network Open เมื่อวานนี้ 6 ธันวาคม 2023
 
พบว่าหากตรวจจากทั้งจมูกและคอ จะช่วยเพิ่มโอกาสตรวจพบ COVID-19 มากขึ้นราว 15-20% ผลการศึกษานี้ช่วยให้เรานำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้อย่าลืมว่าปัจจุบันไวรัสพีคราว 4-5 วันหลังเริ่มมีอาการ ดังนั้นหากวันแรกๆ ตรวจได้ผลลบ อย่าชะล่าใจ ควรตรวจซ้ำไปถึงวันที่ 4-5 หลังเกิดอาการด้วย
 
ทั้งยังกล่าวอีกว่า ติดกันตรึม อาการชัดกันเป็นส่วนใหญ่ พยายามอย่าหลอกตนเองนะครับ ไม่ตรวจแปลว่าไม่ติด แต่สุดท้ายทำให้คนรอบข้างติดได้ รุนแรงได้ ตายได้ หรือเกิดผลกระทบระยะยาวได้ ยิ่งหากทำงานบริการ บริบาล พบปะคนมาก
 
หากคนเหล่านั้นสุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัว ถ้าติดแล้วไม่หยุด ไม่แยกตัวไปรักษา ย่อมนำพาให้คนอื่นลำบาก ป่วยควรตรวจ วันแรกๆ หากลบอย่าชะล่าใจ ตรวจถึงวันที่ 4-5 หลังจากเริ่มมีอาการ หยุด/แยกตัวไปรักษาตัว 7-10 วัน จนไม่มีอาการและตรวจซ้ำได้ผลลบ การตรวจโดยป้ายทั้งจมูกและช่องคอด้านหลัง จะช่วยเพิ่มโอกาสตรวจพบได้มากขึ้น 15-20%
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10227787241698984?ref=embed_post

---

คลิปว่อนอีก สห.ทอ. ตั้งแถวรับนักท่องเที่ยวจีน ผบ.ทอ.สั่งตรวจสอบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7999637

คลิปว่อนอีก สห.ทอ. ตั้งแถวรับนักท่องเที่ยวจีน ผบ.ทอ.สั่งตรวจสอบ เพื่อตอบข้อสงสัยสังคม ลั่นเน้นย้ำข้าราชการปฏิบัติตนให้ถูกตามระเบียบราชการเคร่งครัด
 
วันที่ 8 ธ.ค.2566 พล.อ.ต.บุญเลิศ อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ภาพข้าราชการสังกัด สห.ทอ.ร่วมกลุ่มนักท่องเที่ยว ว่า ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานผลให้ทราบโดยด่วน เพื่อจะได้ตอบข้อสงสัยของสังคมต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารอากาศได้เน้นย้ำให้ข้าราชการสังกัดกองทัพอากาศทุกคน ต้องประพฤติปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามระเบียบทางราชการอย่างเคร่งครัด
 
ทั้งนี้ กองทัพอากาศยึดมั่นในแนวทางการปฏิบัติราชการอย่างโปร่งใส เป็นกลาง และจะดำเนินการโดยเด็ดขาดหากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดระเบียบที่เกี่ยวข้อง