ปกติ ผมมักจะไป บริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย
เพราะ ว่า เคยไปลอง รพ รัฐชื่อดัง แห่งอื่นแล้ว ปรากฏว่าหาเส้นเลือดกว่าจะเจอโดนเข็มแทงไปสี่ที ภาพจำเลยไม่ดี ก็เลยกลับมาที่สภากาชาดไทย
เจอ จนท ท่านใดก็ มีความชำนาญไม่ค่อยเจ็บ
จุดประสงค์ที่อยากรีวิว สภากาชาด ไทย ก็เพราะช่วงหลังๆ ผมพบว่าบริการรวดเร็วกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย
เผื่อท่านใดห่างหายไม่ได้ไปนานกลัวเสียเวลาจะได้ลองไป
ผมก็เลยเลือกไปวันที่คนมาเยอะๆแน่นๆ เลยดูสิว่าจะนานเท่าไร
(ผมใช้เวลาทั้งสิ้นไม่ถึงสองชั่วโมง แต่หากปกติพักหลังทุกขั้นตอนเร็วขึ้นกว่าเก่ามาก ครั้งก่อนล่าสุดผมว่าไม่ถึง ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จละ)
ก่อนอื่นการเดินทางไปสภากาชาด ค่อนข้างสะดวก นั่ง mrt มาลงสถานี สามย่าน เดิน 900 เมตร
หรือ bts มาลงสถานีศาลาแดง เดินอีก 850 เมตร ก็ได้
หรือจะขับรถมาก็ได้ (ถ้าไม่ใช่วันหยุดนักขัตฤกษ์ วันสำคัญ ที่จอดรถก็เพียงพออยู่)
จอดรถได้นาน 3 ชั่วโมงสำหรับผู้มาบริจาคเลือด
แต่ว่า วันที่ไปเป็นวันที่ 5 ธ ค
คนค่อนข้างจะมาก ที่จอดรถจึงไม่เพียงพอ ก็เลยจะแนะนำว่า หากมาแล้ววนแล้วไม่มีที่จอด ก็สามารถไปจอดที่วัดหัวลำโพงแล้วเดินมาก็ได้ แต่มีค่าจอดรถ
อีกทาง ไปจอดที่จามจุรีแสควร์ จอดฟรี 2 ชั่วโมง แล้วเดินไปสภากาชาดก็ราวๆ 900 เมตร
1. พอมาถึง ก็ มากรอกเอกสารตามปกติ ก็ถามถึงความพร้อมทั่วๆไป ข้อมูลของผู้บริจาค
ปกติจะทำในอาคารชั้น 1 แต่เนื่องจากว่าคนมาเยอะในวันดังกล่าวจึงต้องมาใช้พื้นที่ด้านล่างกรอกข้อมูล ตามรูปด้านล่าง คนเยอะมากมาย
2. พอกรอกเสร็จ ก็จะเดินไปวัดความดัน ปกติก็แปบเดียว แต่คนมาเยอะ รูปด้านล่างจึงให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนจองคิวออนไลน์มาก่อนกับ walkin
ผม walk in คนจองออนไลน์มาคิวจะน้อยกว่าในขั้นตอนนี้ กับ ขั้นตอนถัดไป อาจเป็นทางเลือกให้ท่านที่ว่างช่วงวันหยุดสำคัญ จะไปก็จองออนไลน์ก็ประหยัดเวลาได้พอควร บัตรคิวก็จะคนละสีกับคน walk in
รูปด้านล่างคือ สำหรับคนจองออนไลน์ ชิลๆ คิวไม่เยอะ
ส่วนนี่สำหรับคนที่ walk in ก็อบอุ่นดี แต่ก็ไม่นานมากนัก
3. พอวัดความดันผ่าน เรียบร้อยก็รับบัตรคิว รอเรียกขึ้นอาคาร สำหรับคนจองออนไลน์ก็จะไวกว่า
พอขึ้นอาคารไปแล้วก็ไปลงทะเบียนกับ จนท อีกครั้ง สำหรับคนที่มีบัตรผู้บริจาคอยู่แล้วก็เอามายื่นให้ จนท ลงข้อมูล ถ้าไม่เคยมีบัตรก็นำบัตรประชาชนมา จนท ก็จะออกบัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิตให้
ขั้นตอนนี้คนจองออนไลน์ก็จะมีช่องต่างหาก ก็จะเร็วกว่า เสร็จแล้ว ก็รับบัตรคิว ถ้าวันธรรมดา คนไม่เยอะก็ไม่ต้องมีบัตรคิวเดินไปอีกห้องต่อได้เลย
4. พอได้บัตรคิวแล้วก็มาอีกห้องข้างๆกัน รอไปตรวจความหนาแน่นเม็ดเลือด กับพบแพทย์ซักประวัติ ว่าพร้อมจะบริจาคหรือไม่ อาจมีหลายๆท่านไปแล้วพอถึงขั้นตอนนี้อาจไม่ได้ไปต่อเพราะร่างกายไม่พร้อมดังนั้น ผมจึงอยากเรียนให้เตรียมตัวเบื้องต้นก่อนไปบริจาคเลือด
4.1 นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างต่ำก็ 7 ชั่วโมง จะให้ดี ก็นอนก่อน ห้าทุ่ม
4.2 ก่อนไปบริจาคเลือด ควรรับประทานอาหาร ก่อน แต่ ต้องไม่ใช่อาหารที่มี ไขมัน สูง ขาหมู ข้าวมันไก่แบบนี้ไม่ควรทานครับ
มาตราการต่างๆ ก็เผื่อ สุขภาพผู้บริจาค และ ผู้รับ ก็ควรตอบตามจริงครับ เลือดถุงนึงก่อนจะเอาไปใช้ก็มีขั้นตอนตรวจสอบตรงนี้มีต้นทุนพอควร
ถ้าไม่มั่นใจก็เลื่อนไปก่อนดีกว่าครับ
5. พอเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นไปชั้น 2 กันครับ ถ้าวันธรรมดา คนไม่เยอะก็ไม่ต้องกดบัตรคิว แต่วันนี้ต้องกด แล้วก็รอคิว จะเรียกไปเรื่อยๆ ห้องให้บริจาคมีสองห้อง คือ ห้อง 5 กับ 4 อยู่คนละฝั่งกัน คิวก็จะรันไปเรื่อยๆว่า หมายเลขนี้ให้ไปห้องไหนเราก็ไปตามที่คิวเรียกครับ
6. เข้าไปแล้วก็จะมี จนท ถามว่าจะบริจาคผ่านแขนซ้ายหรือ ขวา ก็เลือกข้างที่เราคิดว่าไม่ค่อยใช้ไป เสร็จแล้วก็ รออีกนิดจะได้บริจาคแล้วครับ
พอเข้าไป จนทก็จะให้ อุปกรณ์ ตามรูปให้มากำ แล้วก็คลาย เหมือนปั๊มเลือดไปในตัว หรือ จะได้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้นก่อนเจาะ
7. เลือดที่เค้ารับบริจาค ก็ขึ้นอยู่กับ น้ำหนัก และ เพศ ผู้บริจาค ของ ผม 450 cc แต่หากเป็น ผญ น้ำหนักตัวน้อยก็ 350 cc
8. พอ ถึงเกณฑ์แล้วเครื่องก็จะดัง จนท ก็จะเอาเข็มออกให้ ก็พักสักแปบแล้วค่อยลุก ไปถึงขั้นตอนสำคัญ ไป เอาของกินฟรีกัน เมื่อก่อนสมัยวัยรุ่น มีโอวัลติน ใส่เป็นเหยือก เติมได้เรื่อยๆขนมก็ได้เรื่อยๆ แต่พอมีเจ้าโควิดมา ก็เลยแบ่งใส่ถุงไว้แล้ว ก็เลยได้คนละถุง
เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลากลับ ที่กาชาดก็ดีอีกอย่างมักมี หน่วยงานหรือห้างร้านมาจัดอีเว้นท์ก็อาจได้ของแจกสำหรับผู้บริจาคโลหิต รูปด้านล่างคือของที่ได้มากลับมาในวันนั้น
สุดท้าย กาชาด อยู่ใจกลางเมืองก็สามารถ เป็นที่เดทได้ นอกจากในบริเวณเดียวกันจะมีสวนงู แล้ว ก็ตาม ก็ยังสามารถ ไปสวนลุมปั่นเรือเป็ดได้ หรือจะไป ตลาดสามย่านหาของอร่อยๆทาน หรือไปทำบุญต่อที่วัดหัวลำโพง หรือจะนั่ง mrt ไปวัดไตรมิตร หรือ เดินเยาวราชต่อก็ได้ เผื่อใครจะได้เป็นไอเดียไปบริจาคเลือดด้วยไปเดทด้วยก็ยังได้
รีวิว บริจาคโลหิต @ สภากาชาดไทย Dec 2566
เพราะ ว่า เคยไปลอง รพ รัฐชื่อดัง แห่งอื่นแล้ว ปรากฏว่าหาเส้นเลือดกว่าจะเจอโดนเข็มแทงไปสี่ที ภาพจำเลยไม่ดี ก็เลยกลับมาที่สภากาชาดไทย
เจอ จนท ท่านใดก็ มีความชำนาญไม่ค่อยเจ็บ
จุดประสงค์ที่อยากรีวิว สภากาชาด ไทย ก็เพราะช่วงหลังๆ ผมพบว่าบริการรวดเร็วกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย
เผื่อท่านใดห่างหายไม่ได้ไปนานกลัวเสียเวลาจะได้ลองไป
ผมก็เลยเลือกไปวันที่คนมาเยอะๆแน่นๆ เลยดูสิว่าจะนานเท่าไร
(ผมใช้เวลาทั้งสิ้นไม่ถึงสองชั่วโมง แต่หากปกติพักหลังทุกขั้นตอนเร็วขึ้นกว่าเก่ามาก ครั้งก่อนล่าสุดผมว่าไม่ถึง ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จละ)
ก่อนอื่นการเดินทางไปสภากาชาด ค่อนข้างสะดวก นั่ง mrt มาลงสถานี สามย่าน เดิน 900 เมตร
หรือ bts มาลงสถานีศาลาแดง เดินอีก 850 เมตร ก็ได้
หรือจะขับรถมาก็ได้ (ถ้าไม่ใช่วันหยุดนักขัตฤกษ์ วันสำคัญ ที่จอดรถก็เพียงพออยู่)
จอดรถได้นาน 3 ชั่วโมงสำหรับผู้มาบริจาคเลือด
แต่ว่า วันที่ไปเป็นวันที่ 5 ธ ค
คนค่อนข้างจะมาก ที่จอดรถจึงไม่เพียงพอ ก็เลยจะแนะนำว่า หากมาแล้ววนแล้วไม่มีที่จอด ก็สามารถไปจอดที่วัดหัวลำโพงแล้วเดินมาก็ได้ แต่มีค่าจอดรถ
อีกทาง ไปจอดที่จามจุรีแสควร์ จอดฟรี 2 ชั่วโมง แล้วเดินไปสภากาชาดก็ราวๆ 900 เมตร
1. พอมาถึง ก็ มากรอกเอกสารตามปกติ ก็ถามถึงความพร้อมทั่วๆไป ข้อมูลของผู้บริจาค
ปกติจะทำในอาคารชั้น 1 แต่เนื่องจากว่าคนมาเยอะในวันดังกล่าวจึงต้องมาใช้พื้นที่ด้านล่างกรอกข้อมูล ตามรูปด้านล่าง คนเยอะมากมาย
2. พอกรอกเสร็จ ก็จะเดินไปวัดความดัน ปกติก็แปบเดียว แต่คนมาเยอะ รูปด้านล่างจึงให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนจองคิวออนไลน์มาก่อนกับ walkin
ผม walk in คนจองออนไลน์มาคิวจะน้อยกว่าในขั้นตอนนี้ กับ ขั้นตอนถัดไป อาจเป็นทางเลือกให้ท่านที่ว่างช่วงวันหยุดสำคัญ จะไปก็จองออนไลน์ก็ประหยัดเวลาได้พอควร บัตรคิวก็จะคนละสีกับคน walk in
รูปด้านล่างคือ สำหรับคนจองออนไลน์ ชิลๆ คิวไม่เยอะ
ส่วนนี่สำหรับคนที่ walk in ก็อบอุ่นดี แต่ก็ไม่นานมากนัก
3. พอวัดความดันผ่าน เรียบร้อยก็รับบัตรคิว รอเรียกขึ้นอาคาร สำหรับคนจองออนไลน์ก็จะไวกว่า
พอขึ้นอาคารไปแล้วก็ไปลงทะเบียนกับ จนท อีกครั้ง สำหรับคนที่มีบัตรผู้บริจาคอยู่แล้วก็เอามายื่นให้ จนท ลงข้อมูล ถ้าไม่เคยมีบัตรก็นำบัตรประชาชนมา จนท ก็จะออกบัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิตให้
ขั้นตอนนี้คนจองออนไลน์ก็จะมีช่องต่างหาก ก็จะเร็วกว่า เสร็จแล้ว ก็รับบัตรคิว ถ้าวันธรรมดา คนไม่เยอะก็ไม่ต้องมีบัตรคิวเดินไปอีกห้องต่อได้เลย
4. พอได้บัตรคิวแล้วก็มาอีกห้องข้างๆกัน รอไปตรวจความหนาแน่นเม็ดเลือด กับพบแพทย์ซักประวัติ ว่าพร้อมจะบริจาคหรือไม่ อาจมีหลายๆท่านไปแล้วพอถึงขั้นตอนนี้อาจไม่ได้ไปต่อเพราะร่างกายไม่พร้อมดังนั้น ผมจึงอยากเรียนให้เตรียมตัวเบื้องต้นก่อนไปบริจาคเลือด
4.1 นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างต่ำก็ 7 ชั่วโมง จะให้ดี ก็นอนก่อน ห้าทุ่ม
4.2 ก่อนไปบริจาคเลือด ควรรับประทานอาหาร ก่อน แต่ ต้องไม่ใช่อาหารที่มี ไขมัน สูง ขาหมู ข้าวมันไก่แบบนี้ไม่ควรทานครับ
มาตราการต่างๆ ก็เผื่อ สุขภาพผู้บริจาค และ ผู้รับ ก็ควรตอบตามจริงครับ เลือดถุงนึงก่อนจะเอาไปใช้ก็มีขั้นตอนตรวจสอบตรงนี้มีต้นทุนพอควร
ถ้าไม่มั่นใจก็เลื่อนไปก่อนดีกว่าครับ
5. พอเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นไปชั้น 2 กันครับ ถ้าวันธรรมดา คนไม่เยอะก็ไม่ต้องกดบัตรคิว แต่วันนี้ต้องกด แล้วก็รอคิว จะเรียกไปเรื่อยๆ ห้องให้บริจาคมีสองห้อง คือ ห้อง 5 กับ 4 อยู่คนละฝั่งกัน คิวก็จะรันไปเรื่อยๆว่า หมายเลขนี้ให้ไปห้องไหนเราก็ไปตามที่คิวเรียกครับ
6. เข้าไปแล้วก็จะมี จนท ถามว่าจะบริจาคผ่านแขนซ้ายหรือ ขวา ก็เลือกข้างที่เราคิดว่าไม่ค่อยใช้ไป เสร็จแล้วก็ รออีกนิดจะได้บริจาคแล้วครับ
พอเข้าไป จนทก็จะให้ อุปกรณ์ ตามรูปให้มากำ แล้วก็คลาย เหมือนปั๊มเลือดไปในตัว หรือ จะได้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้นก่อนเจาะ
7. เลือดที่เค้ารับบริจาค ก็ขึ้นอยู่กับ น้ำหนัก และ เพศ ผู้บริจาค ของ ผม 450 cc แต่หากเป็น ผญ น้ำหนักตัวน้อยก็ 350 cc
8. พอ ถึงเกณฑ์แล้วเครื่องก็จะดัง จนท ก็จะเอาเข็มออกให้ ก็พักสักแปบแล้วค่อยลุก ไปถึงขั้นตอนสำคัญ ไป เอาของกินฟรีกัน เมื่อก่อนสมัยวัยรุ่น มีโอวัลติน ใส่เป็นเหยือก เติมได้เรื่อยๆขนมก็ได้เรื่อยๆ แต่พอมีเจ้าโควิดมา ก็เลยแบ่งใส่ถุงไว้แล้ว ก็เลยได้คนละถุง
เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลากลับ ที่กาชาดก็ดีอีกอย่างมักมี หน่วยงานหรือห้างร้านมาจัดอีเว้นท์ก็อาจได้ของแจกสำหรับผู้บริจาคโลหิต รูปด้านล่างคือของที่ได้มากลับมาในวันนั้น
สุดท้าย กาชาด อยู่ใจกลางเมืองก็สามารถ เป็นที่เดทได้ นอกจากในบริเวณเดียวกันจะมีสวนงู แล้ว ก็ตาม ก็ยังสามารถ ไปสวนลุมปั่นเรือเป็ดได้ หรือจะไป ตลาดสามย่านหาของอร่อยๆทาน หรือไปทำบุญต่อที่วัดหัวลำโพง หรือจะนั่ง mrt ไปวัดไตรมิตร หรือ เดินเยาวราชต่อก็ได้ เผื่อใครจะได้เป็นไอเดียไปบริจาคเลือดด้วยไปเดทด้วยก็ยังได้