เช้าวันรุ่งขึ้น เรมอนเดินออกมาสูดอากาศ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะสามารถสานต่อความสัมพันธ์กับ
เฟอดินานได้ เมื่อคืนมันเหมือนภาพฝัน
เช้านี้ต่างหากที่ความจริงรออยู่
เขาตกปากรับคำกับซาอีไปแล้ว
ว่าจะนำทาสอาเธอร์ไปมอบให้อบิเกล
พอเขาไปที่สิริคิมาจาโร
ก็อาจไม่ได้กลับมาที่นี่อีก
และอาจไม่ได้เจอกับเฟอดินานอีก
เรมอนมองฟ้ายามเช้าอย่างเยือกเย็น
บางครั้ง เขาก็งงกับการดำรงอยู่ของตนเอง
งงกับเหตุและผลที่มันเกิดขึ้นในโลกวิทยาศาสตร์
อะไรขึ้นอยู่กับอะไร บางครั้งก็ไม่มีใครล่วงรู้
เรมอนหันไปเห็นซาอีกำลังจูงมอเตอร์ไซด์ออกมา
เขาจูงออกมาช้าๆ จิตใจเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เรมอนไม่แน่ใจว่าซาอีรู้สึกอย่างไร
ซาอีเอง เขารู้สึกว่าโลกว่างเปล่า
เขาเพิ่งเจอกับกาเร็ตได้ไม่นาน
แต่ต้องมาจากกันชั่วนิรันดร์ซะแล้ว
แต่เขาก็พอทนได้
การเป็นทหารของสิริคิมาจาโรมันทำให้เขาด้านชา
บางครั้ง ทำให้เขาไม่มีความหวัง
แต่ก็นะ เขาเองเลือกเกิดไม่ได้
ทุกย่างก้าวมันจึงคือโชคชะตาที่ลิขิตไว้แล้ว
ถึงแม้ซาอีจะเป็นชายชาติทหาร
แต่เขาก็ยังรู้สึกหวิวๆ
เขากำลังจะจากกาเร็ตไปชั่วกาลจริงๆเหรอ
ซาอีขึ้นไปนั่งคร่อมมอเตอร์ไซด์
เขาติดเครื่องมัน แล้วนั่งรอให้เรมอนขึ้นมาซ้อนอย่างเลื่อนลอย
เขารู้สึกว่าเขารออยู่นานมาก เรมอนก็ยังไม่ขึ้นมาสักที
ซาอีจึงหันไปดู เห็นเรมอนนั่งอยู่ที่ริมถนน
เขาดับเครื่องก่อนแล้วเดินไปหาเรมอน
"ได้เวลาแล้วนะครับ"
เขาเห็นเรมอนยังคงนั่งซึม เขาจึงลงนั่งอยู่ข้างๆ
"เห็นบอกว่าอยากไปก่อนสองคนนั้นจะตื่นขึ้นมานี่ครับ"
"กู กูทำใจลำบาก กู ..."
"ยังไม่ต้องพูดอะไรออกมาตอนนี้ก็ได้ครับ"
"กูทำใจลำบากจริงๆนะ
จะไปโดยไม่ร่ำลาเฟอดินานเลยก็กระไรอยู่
แต่ถ้าเจอหน้าเขาอีกครั้ง กูจะตัดใจจากเขาได้จริงๆเหรอ
กูไม่แน่ใจเลยจริงๆ"
"นั่งพักก่อนก็ได้ครับ สองคนนั้น
ไม่น่าตื่นเช้ากันครับ
นั่งทำใจสักพักก็ได้ครับ"
เรมอนหันไปมองหน้าซาอี
"กูรู้นะว่ามืงก็เจ็บปวด
มองปราดเดียวก็รู้ว่ามืงอาลัยอาวรณ์กาเร็ตแค่ไหน"
"ครับ จริงอย่างที่คุณพูดทุกอย่าง
แต่ผมชินแล้วครับ ชีวิตผมเจ็บปวดมาเยอะ
ไม่เคยมีอะไรได้ดังใจเลย
เกิดมาเพื่อรับใช้คนอื่น
มันเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ
นานจนผมก็ลืมไปแล้วว่าความสุขของตัวเองคืออะไร
ผมนึกไม่ออกจน ... จนได้มาเจอกาเร็ต
เขาทำให้ผมนึกออกว่าความสุขของผมคืออะไร
ชาตินี้ได้มาเจออะไรแบบนี้ ผมน่าจะพอใจ
และไม่ควรหวังอะไรไปมากกว่านี้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ผมก็อยากให้มันจบลงตั้งแต่เมื่อวาน
วันนี้ ผมต้องกลับมาเป็นคนเดิม ใช้ชีวิตอย่างเดิมๆ
อยู่เหมือนคนไร้ความรู้สึกไปวันๆ
นี่แหละครับ ชีวิตของผม"
ฟังแล้ว เรมอนก็อดรู้สึกไปกับซาอีไม่ได้
เขาหันไปมองถนนข้างหน้าที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา
วันชื่นคืนสุขคงไม่กลับมาแล้ว
เขาควรจะดูตัวอย่างจากซาอีแล้วทำใจซะ
มันยังมีภารกิจข้างหน้ารออยู่
เขาต้องเข้มแข็งกว่าเดิม
และก้าวผ่านมันไปให้ได้
ซาอีเองไมไ่ด้พูดอะไรอีก เขารอจนกว่าเรมอนจะพร้อม
เขาคาดว่าเฟอดินานกับกาเร็ตไม่น่าจะตื่นเช้า
ซาอีลุกยืนขึ้นก่อน เขาจะรอจนกว่าเรมอนจะพร้อม
ไม่นานนักเรมอนก็ลุกขึ้นยืน
"กูพร้อมแล้ว"
แต่พอเรมอนพร้อม ซาอีหันไปมองถนนที่เขาเดินกับกาเร็ตเมื่อวาน
มันมีแต่ความสุขที่เขาไม่เคยพบเจอ
เขาพยายามมองทุกอย่าง
และพยายามเก็บเกี่ยวความสุขต่างๆเป็นครั้งสุดท้าย
คงได้เวลาแล้ว ถ้าช้าไปกว่านี้ ถ้ากาเร็ตตื่น
เขาน่าจะทำใจได้ยาก เขาคงอยากจะเข้าไปกอดกาเร็ต
และจะไม่ยอมปล่อยเขาไปอีก
มันเป็นสิ่งที่ทำใจได้ยากมาก
ในท้ายที่สุด ขอให้จบภายในรุ่งอรุณนี้
ทุกอย่างควรจะจบในรุ่งอรุณนี้.
วิมานมายา โดย ศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 254 รุ่งอรุณ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะสามารถสานต่อความสัมพันธ์กับ
เฟอดินานได้ เมื่อคืนมันเหมือนภาพฝัน
เช้านี้ต่างหากที่ความจริงรออยู่
เขาตกปากรับคำกับซาอีไปแล้ว
ว่าจะนำทาสอาเธอร์ไปมอบให้อบิเกล
พอเขาไปที่สิริคิมาจาโร
ก็อาจไม่ได้กลับมาที่นี่อีก
และอาจไม่ได้เจอกับเฟอดินานอีก
เรมอนมองฟ้ายามเช้าอย่างเยือกเย็น
บางครั้ง เขาก็งงกับการดำรงอยู่ของตนเอง
งงกับเหตุและผลที่มันเกิดขึ้นในโลกวิทยาศาสตร์
อะไรขึ้นอยู่กับอะไร บางครั้งก็ไม่มีใครล่วงรู้
เรมอนหันไปเห็นซาอีกำลังจูงมอเตอร์ไซด์ออกมา
เขาจูงออกมาช้าๆ จิตใจเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เรมอนไม่แน่ใจว่าซาอีรู้สึกอย่างไร
ซาอีเอง เขารู้สึกว่าโลกว่างเปล่า
เขาเพิ่งเจอกับกาเร็ตได้ไม่นาน
แต่ต้องมาจากกันชั่วนิรันดร์ซะแล้ว
แต่เขาก็พอทนได้
การเป็นทหารของสิริคิมาจาโรมันทำให้เขาด้านชา
บางครั้ง ทำให้เขาไม่มีความหวัง
แต่ก็นะ เขาเองเลือกเกิดไม่ได้
ทุกย่างก้าวมันจึงคือโชคชะตาที่ลิขิตไว้แล้ว
ถึงแม้ซาอีจะเป็นชายชาติทหาร
แต่เขาก็ยังรู้สึกหวิวๆ
เขากำลังจะจากกาเร็ตไปชั่วกาลจริงๆเหรอ
ซาอีขึ้นไปนั่งคร่อมมอเตอร์ไซด์
เขาติดเครื่องมัน แล้วนั่งรอให้เรมอนขึ้นมาซ้อนอย่างเลื่อนลอย
เขารู้สึกว่าเขารออยู่นานมาก เรมอนก็ยังไม่ขึ้นมาสักที
ซาอีจึงหันไปดู เห็นเรมอนนั่งอยู่ที่ริมถนน
เขาดับเครื่องก่อนแล้วเดินไปหาเรมอน
"ได้เวลาแล้วนะครับ"
เขาเห็นเรมอนยังคงนั่งซึม เขาจึงลงนั่งอยู่ข้างๆ
"เห็นบอกว่าอยากไปก่อนสองคนนั้นจะตื่นขึ้นมานี่ครับ"
"กู กูทำใจลำบาก กู ..."
"ยังไม่ต้องพูดอะไรออกมาตอนนี้ก็ได้ครับ"
"กูทำใจลำบากจริงๆนะ
จะไปโดยไม่ร่ำลาเฟอดินานเลยก็กระไรอยู่
แต่ถ้าเจอหน้าเขาอีกครั้ง กูจะตัดใจจากเขาได้จริงๆเหรอ
กูไม่แน่ใจเลยจริงๆ"
"นั่งพักก่อนก็ได้ครับ สองคนนั้น
ไม่น่าตื่นเช้ากันครับ
นั่งทำใจสักพักก็ได้ครับ"
เรมอนหันไปมองหน้าซาอี
"กูรู้นะว่ามืงก็เจ็บปวด
มองปราดเดียวก็รู้ว่ามืงอาลัยอาวรณ์กาเร็ตแค่ไหน"
"ครับ จริงอย่างที่คุณพูดทุกอย่าง
แต่ผมชินแล้วครับ ชีวิตผมเจ็บปวดมาเยอะ
ไม่เคยมีอะไรได้ดังใจเลย
เกิดมาเพื่อรับใช้คนอื่น
มันเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ
นานจนผมก็ลืมไปแล้วว่าความสุขของตัวเองคืออะไร
ผมนึกไม่ออกจน ... จนได้มาเจอกาเร็ต
เขาทำให้ผมนึกออกว่าความสุขของผมคืออะไร
ชาตินี้ได้มาเจออะไรแบบนี้ ผมน่าจะพอใจ
และไม่ควรหวังอะไรไปมากกว่านี้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ผมก็อยากให้มันจบลงตั้งแต่เมื่อวาน
วันนี้ ผมต้องกลับมาเป็นคนเดิม ใช้ชีวิตอย่างเดิมๆ
อยู่เหมือนคนไร้ความรู้สึกไปวันๆ
นี่แหละครับ ชีวิตของผม"
ฟังแล้ว เรมอนก็อดรู้สึกไปกับซาอีไม่ได้
เขาหันไปมองถนนข้างหน้าที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา
วันชื่นคืนสุขคงไม่กลับมาแล้ว
เขาควรจะดูตัวอย่างจากซาอีแล้วทำใจซะ
มันยังมีภารกิจข้างหน้ารออยู่
เขาต้องเข้มแข็งกว่าเดิม
และก้าวผ่านมันไปให้ได้
ซาอีเองไมไ่ด้พูดอะไรอีก เขารอจนกว่าเรมอนจะพร้อม
เขาคาดว่าเฟอดินานกับกาเร็ตไม่น่าจะตื่นเช้า
ซาอีลุกยืนขึ้นก่อน เขาจะรอจนกว่าเรมอนจะพร้อม
ไม่นานนักเรมอนก็ลุกขึ้นยืน
"กูพร้อมแล้ว"
แต่พอเรมอนพร้อม ซาอีหันไปมองถนนที่เขาเดินกับกาเร็ตเมื่อวาน
มันมีแต่ความสุขที่เขาไม่เคยพบเจอ
เขาพยายามมองทุกอย่าง
และพยายามเก็บเกี่ยวความสุขต่างๆเป็นครั้งสุดท้าย
คงได้เวลาแล้ว ถ้าช้าไปกว่านี้ ถ้ากาเร็ตตื่น
เขาน่าจะทำใจได้ยาก เขาคงอยากจะเข้าไปกอดกาเร็ต
และจะไม่ยอมปล่อยเขาไปอีก
มันเป็นสิ่งที่ทำใจได้ยากมาก
ในท้ายที่สุด ขอให้จบภายในรุ่งอรุณนี้
ทุกอย่างควรจะจบในรุ่งอรุณนี้.