เคยสอบติดแต่พ่อแม่ให้สละสิทธิ์มั้ยคะ

บอกก่อนนะคะ บ้านเราฐานะค่อนไปทางลำบาก ซึ่งจะขอเล่าย้อนความไปตอนประถมนะคะ ช่วงนั้นเราเรียนแค่โรงเรียนวัดปกติค่ะ แต่ประเด็นคือผลการเรียนเรียนเราอยู่ในขั้นที่ดีมากๆ ทั้งการสอบO-Netคราวนั้น ลำดับของเราอยู่ลำดับที่2ของอำเภอ ซึ่งเราก็คิดว่า เราคงไปสอบเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีเด็กหัวดีเขาเรียนกันย่านในเมืองได้ ซึ่งตอนนั้นมันก็ได้จริงๆค่ะ แต่แรกเข้าที่ต้องยืนยันตัวจ่ายค่าเล่าเรียนไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร ก็หลายบาทอยู่ค่ะ พ่อบอกว่างั้นสละสิทธ์ได้มั้ย พ่อกลัวจะส่งไม่ไหว เราก็เข้าใจนะคะ ก็เลยกลับมาสอบโรงเรียนตัวย่อ ส.ก. แถวบ้านค่ะ ซึ่งก็สอบได้ลำดับtop5เราก็ตัดสินใจเรียนที่นั่น  จากนั้นประมาณม.2 เราเป็นคนชื่นชอบในเรื่องการเขียนแบบ การสเก็ตภาพ ชอบการเขียนรายงาน  ซึ่งเราก็ใช้ทางนี้ในการหารายได้มาตลอดค่ะ เช่น การรับแก้ ร. แก้0 เขียนรายงาน งานค้าง การเขียนแบบ เขียนแปลน ก็จะมีเด็กนักเรียนในโรงเรียนบ้าง นอกโรงเรียนบ้าง กลุ่มนักเรียนอาชีวะบ้าง กศน.บ้าง มาจ้าง แล้วเราก็ใช้ทางนี้เป็นการหารายได้มาตลอด อยากได้โทรศัพท์ก็เอาเงินไปดาวน์แล้วผ่อนจนครบ อยากได้อะไรก็หาเงินซื้อเอง หาเงินไปโรงเรียนเอง และตัดสินใจไม่เอ่ยปากขอเงินจากที่บ้านเลย พอจะจบม.3 เป็นช่วงที่เรายื่นโควต้าไปกับวิทลัยเทคนิคแห่งหนึ่งในตัวเมืองค่ะ หลังจากนั้นก็ประกาศรายชื่อเราดันติดตั้งแต่รอบนั้นเลย เขามีกำหนดการนัดวันให้มาจ่ายค่าอุปกรณ์ จ่ายค่าธรรมเนียม ค่าชุด รวมๆแรกเข้าก็หมื่นกว่าบาทค่ะ ตอนนั้นเรามีเงินเก็บประมาณครึ่งนึงค่ะ เราขอให้พ่อช่วยออกให้เราครึ่งนึงเดี๋ยวเราจะทยอยคืน  แต่พ่อให้เราสละสิทธิ์ค่ะ บอกว่า ส่งไม่ไหว ไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก ถ้าอยากเรียนมากก็ไปหาเอาเอง เราก็พยายามหา โทรไปบ้านยายขอยืมเขามา จนได้มาครบ พอได้มาเรียนที่นี้ เหมือนกับเราเดินมาเจอขุมทรัพย์เลยค่ะตอนนั้น เพราะความเด็กช่างหลายๆคนไม่ใช่ทุกคนนะคะ ขี้เกียจบ้าง บางคนทำงานไม่มีเวลาทำการบ้าน หรือมีงานค้างนู่นนี่ ก็จะมาจ้างเราค่ะ ก็คือได้ดีมากๆ ปิดเทอมก็คือไม่ขาดสายเลยค่ะมีงานแก้บ้างอะไรบ้าง รร.สายสามัญก็มาจ้างเยอะมากค่ะ เราก็ทำมาตลอดไม่เกี่ยงเลย และใช่ค่ะเราก็ส่งตัวเองมาตลอด วันไหนลูกค้าไม่โอนเงินมา ก็เท่ากับว่าเราไม่มีเงินของวันนั้นค่ะ เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาเรื่อยๆ จนปิดเทอม ปวช.2เทอม2 เราก็ออกมาทำงานตั้งแต่บ่ายจนถึงเที่ยงคืนในเมืองหลังจากนั้นก็ทำมาจนวิทลัยเปิดอีกครั้งค่ะ เราก็ทำงานกลางคืนไปด้วย ทำงานเดิมที่ทำเขียนแบบ เขียนรายงาน การบ้าน ไปด้วย แล้วก็ไปเรียนด้วย วนลูปแบบนี้ แต่เปิดเทอมเราก็ออกมาอยู่หอ ออกรถ1คัน ขับไปทำงานและไปเรียน เราไม่เคยขอที่บ้านเลยค่ะ ไม่เคยเลย แต่จะมีที่บ้านทักมายืมบ้าง ขอบ้าง แต่เราก็ไม่คิดอะไรค่ะให้ตลอด ให้ได้เสมอค่ะ เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาจนตอนนี้ ปวช3 เทอม2 เราสอบติด มทร.สงขลา และ มทรพระนคร เราดีใจมากๆ เราเลยกลับไปบ้านไปบอกที่บ้าน แต่สิ่งที่ที่บ้านพูดคือ แล้วไงต่อ จะไปหรอ ใครส่งไม่ไหวหรอก นี่จะไป ต้องจ่ายเท่าไหร่อีกล่ะ อยู่นี่แหละ ปวส.ถ้าไปใครจะรับผิดชอบน้อง (ค่าโรงเรียนของน้องเรา เราเป็นคนให้นะคะ) เราบอกว่า เรามีจ่ายค่าธรรมเนียมของสงขลา เราอยากไปจริงๆเป็นคณะที่เราอยากเรียนมาตั้งแต่ม.ต้น เขาบอกว่า ไม่มีให้หรอกนะ กุไม่มี ถ้าไม่พอก็อยุ่ที่นี้ ไม่ต้องไป  เราแค่รู้สึกว่า เราผิดอะไรหนักหนา ทำไมมันต้องเป็นเดจาวูตลอด เราฝังใจตั้งแต่ม.1 ยันตอนนี้ ปวช.3 เราน้อยใจมาตลอด ไม่รู้ทำไมต้องเจอแบบเดิมตลอด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่