วันนี้จะมาแชร์ วิธีในการเลือกหุ้นลงทุน ด้วยปัจจัยพื้นฐาน
ปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index อยู่ที่ 1380 จุด
วิธีที่ผมใช้ในการเลือกหุ้นด้วยปัจจับพื้นฐานดังนี้
1. เราเคยใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทที่เราจะซื้อหุ้นเพื่อลงทุนหรือไม่ ? ขอยกอย่างหุ้นในพอร์ตผมเลยนะครับ
1.1 OR เนื่องจากปัจจุบันผมยังใช้รถน้ำมันอยู่เพื่อนใช้ในการเดินทางไปทำงาน ท่องเที่ยว อีกอย่าง OR ยังมีร้านกาแฟอเมซอนที่พี่พักผ่อนของนักเดินทาง รวมถึงเป็นที่พบปะกับคนรู้จักเพื่อพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ปัจจุบันคนนิยมทำงานผ่าน Co-working Space เราจะสังเกตได้ว่าหลาย ๆ สาขามีปลั๊กไฟสามารถชาร์ตอุปกรณ์ไอทีได้ เช่น โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์
1.2 GUNGUL เป็นบริษัทที่เน้นทำธุรกิจเกี่ยวพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม นอกจากอัตราส่วนทางการเงินค่อนข้างดีไม่ว่าจะเป็น รายได้ กำไรสุทธิ เงินปันผลอยู่ที่ 4% ROA ROE อัตรากำไรสุทธิ สม่ำเสมอ
1.3 BTS ปัจจับันคนในโซนกรุงเทพนิยมใช้รถไฟฟ้า BTS เพื่อไปเรียน ไปทำงาน ไปพักผ่อน ถึงแม้จะมีข่าวไม่ดีว่า กทม.ยังติดหนี้ BTS แต่ก็ได้มีการอัพเดตแล้วว่า กทม.จะจ่ายหนี้ BTS เร็ว ๆ นี้ ปัจจุบันราคาหุ้น BTS ลงมาเยอะมากจากเคยทำราคาสูงสุดที่ราคาประมาณ 13 บาท/หุ้น
ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 7. 1 บาท/หุ้น
1.4 QH บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านเดี่ยว ทาว์นโอม คอนโด นอกจากนั้นยังถือหุ้นใน โอมโปร อัตราส่วนทางการเงินถือว่าใช้ได้รวมถึงมีการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 6.4%
1.5 KBANK ธนาคารกสิกรไทย ถึงแม่เมื่อเร็วๆนี้จะมีข่าวว่วธนาคารจะเสี่ยงเจ๊งแต่ในประเทศไทยเรายังมีการขอสินเชื่อผ่านธนาคาร นอกจากนั้นธนาคารก็เป็นที่ๆปลอดภัยในการฝากเงินสำหรับประชาชนทั่วไป
1.6 INTUCH บริษัทแม่ AIS โดย INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ ADVANC ที่ 40.45 % อัตราส่วนทางการเงินของ INTUCH เช่น P/E P/BV ROA ROE %Yield อัตรากำไรสุทธิ ค่อนข้างดี
2. บริษัทมีการดำเนินธุรกิจมานานแล้วหรือยังเนื่องจากบริษัทที่เปิดมานานมักผ่านวิกฤตมาแล้วไม่กี่กี่รอบ เช่น ต้มยำกุ้ง โควิด 19 รายได้ กำไรสุทธิ เงินปันผล เติบโตอย่างสม่ำเสมอหรือไม่
3. ซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่เหมาะสมนั้นคือไม่ซื้อที่ราคาแพงจนเกินไป เวลาผมจะซื้อผมใช้สูตร 0.7 x ราคาสูงสุด เวลาที่หุ้นลงมาแรง ๆจะได้ไม่ทำให้เราติดดอยจนเกินไปครับ
วิธีในการเลือกหุ้นลงทุน
ปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index อยู่ที่ 1380 จุด
วิธีที่ผมใช้ในการเลือกหุ้นด้วยปัจจับพื้นฐานดังนี้
1. เราเคยใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทที่เราจะซื้อหุ้นเพื่อลงทุนหรือไม่ ? ขอยกอย่างหุ้นในพอร์ตผมเลยนะครับ
1.1 OR เนื่องจากปัจจุบันผมยังใช้รถน้ำมันอยู่เพื่อนใช้ในการเดินทางไปทำงาน ท่องเที่ยว อีกอย่าง OR ยังมีร้านกาแฟอเมซอนที่พี่พักผ่อนของนักเดินทาง รวมถึงเป็นที่พบปะกับคนรู้จักเพื่อพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ปัจจุบันคนนิยมทำงานผ่าน Co-working Space เราจะสังเกตได้ว่าหลาย ๆ สาขามีปลั๊กไฟสามารถชาร์ตอุปกรณ์ไอทีได้ เช่น โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์
1.2 GUNGUL เป็นบริษัทที่เน้นทำธุรกิจเกี่ยวพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม นอกจากอัตราส่วนทางการเงินค่อนข้างดีไม่ว่าจะเป็น รายได้ กำไรสุทธิ เงินปันผลอยู่ที่ 4% ROA ROE อัตรากำไรสุทธิ สม่ำเสมอ
1.3 BTS ปัจจับันคนในโซนกรุงเทพนิยมใช้รถไฟฟ้า BTS เพื่อไปเรียน ไปทำงาน ไปพักผ่อน ถึงแม้จะมีข่าวไม่ดีว่า กทม.ยังติดหนี้ BTS แต่ก็ได้มีการอัพเดตแล้วว่า กทม.จะจ่ายหนี้ BTS เร็ว ๆ นี้ ปัจจุบันราคาหุ้น BTS ลงมาเยอะมากจากเคยทำราคาสูงสุดที่ราคาประมาณ 13 บาท/หุ้น
ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 7. 1 บาท/หุ้น
1.4 QH บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านเดี่ยว ทาว์นโอม คอนโด นอกจากนั้นยังถือหุ้นใน โอมโปร อัตราส่วนทางการเงินถือว่าใช้ได้รวมถึงมีการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 6.4%
1.5 KBANK ธนาคารกสิกรไทย ถึงแม่เมื่อเร็วๆนี้จะมีข่าวว่วธนาคารจะเสี่ยงเจ๊งแต่ในประเทศไทยเรายังมีการขอสินเชื่อผ่านธนาคาร นอกจากนั้นธนาคารก็เป็นที่ๆปลอดภัยในการฝากเงินสำหรับประชาชนทั่วไป
1.6 INTUCH บริษัทแม่ AIS โดย INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ ADVANC ที่ 40.45 % อัตราส่วนทางการเงินของ INTUCH เช่น P/E P/BV ROA ROE %Yield อัตรากำไรสุทธิ ค่อนข้างดี
2. บริษัทมีการดำเนินธุรกิจมานานแล้วหรือยังเนื่องจากบริษัทที่เปิดมานานมักผ่านวิกฤตมาแล้วไม่กี่กี่รอบ เช่น ต้มยำกุ้ง โควิด 19 รายได้ กำไรสุทธิ เงินปันผล เติบโตอย่างสม่ำเสมอหรือไม่
3. ซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่เหมาะสมนั้นคือไม่ซื้อที่ราคาแพงจนเกินไป เวลาผมจะซื้อผมใช้สูตร 0.7 x ราคาสูงสุด เวลาที่หุ้นลงมาแรง ๆจะได้ไม่ทำให้เราติดดอยจนเกินไปครับ