สวัสดีทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเด็กอายุ 14 ใกล้ 15 คนนี้นะคะ เรามีความกังวลใจมากจนถึงเครียดทุกวันสภาพจิตใจย่ำแย่มาก ๆ ค่ะ ด้วยความที่ในยุคสมัยนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจดูคลาดเคลื่อนลงมาก เราที่เกิดในปี 2551 ที่ยุคกำลังเปลี่ยนผันทำให้ความคิดจะนึกถึงเงินเป็นหลักค่ะ แล้วเรายิ่งช่างฝันแล้วเป็นคนที่มีแรงผลักดันเรื่องอนาคตมาก ๆ เลยหาอะไรทำตลอดเวลาจนเมื่อ อายุ 12-13 มานี้ได้หาเงินก้อนแรกได้ค่ะ จำนวนไม่มาก ประมาณ X00 บาทได้ จากการเขียนนิยายของตนเองซึ่งก็เข้าบัญชีคุณพ่อคุณแม่ค่ะท่านเลยยืมไป ในก้อนนั้นถ้าหากเราจำได้ก็ใช้แค่ 200 ค่ะ
และทุกเดือนเราจะได้เงินก้อนใหม่มาเสมอ แต่ไม่มีก้อนไหนที่ได้ใช้เต็มที่ ก่อนที่ได้รายได้สูงสุดอยู่ที่ 3,000+ ท่านยืมไปหมด ณ ปัจจุบันก็ได้คืนมาบ้างเพราะไปทำงานน่ะค่ะ แล้วเราก็พยายามจดไว้ว่าเขาคืนไปแล้วเท่าไหร่บ้างน่ะค่ะไม่อยากให้ท่านลำบากและต้องมาคืน
แต่จนกระทั่งจริงๆ พอเราอายุ 14 จะบอกว่า หนูอาจจะเป็นคน ช่างฝัน ก็คงไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ก็มีความฝันเหมือนเด็กทั่วไปเหมือนกัน ยังคงเป็นวัยที่เพ้อฝันอยู่เหมือนเด็กคนอื่น มีไอดอลที่ชอบ เลยทำให้อยากนำเงินไปซื้อสินค้าของศิลปินบ้าง และจะตั้งใจหาเงินต่อยอดทำอนาคตตัวเองน่ะค่ะซึ่ง เราทำเพื่อตนเองและครอบครัวจริง ๆ มีประโยชน์และคิดว่าเป็นหนทางนึงที่เราทำแล้วมีความสุขได้ แต่ทว่า ด้วยความที่ท่านเคยชินจึงขอยืมทุกเดือนเข้าจริงๆ เราจึงหัวชนฝาน่ะค่ะ
ทางตันเข้าจริงๆ เราไม่ได้ ไม่ได้อยากให้ท่านแต่อย่างใด แต่พอมาคิดดูอีกที เราก็แค่ เด็ก อายุ 14 น่ะค่ะ ที่หาเงินได้แล้วจำนวนน้อยจำนวนหนึ่งในเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
เข้าใจที่ท่านขัดสนและอยากให้ลูกเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ อยากให้ลูกตอบแทนตน แต่บางคำพูดที่ว่า 'โตขึ้นแล้วจะลืมพ่อลืมแม่' เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากท่านที่เราไม่โอเคจริงๆ เราปฏิบัติตนดีเท่าที่จะทำได้แล้วค่ะ เราทำได้ดีกว่านี้ได้ถ้าหากเราโตขึ้นพอจะเลี้ยงดูตนเองได้แบบที่เขาอยากให้เราดีในแบบที่เขาคิดน่ะค่ะ
เราขออธิบายไว้ก่อนว่า เราเป็นเด็กที่นึกถึงพ่อถึงแม่เป็นอย่างแรกก่อนที่จะคิดทำอะไรจนติดเป็นนิสัย ไปไหนก็ขอ ทำอะไรก็ไม่มีให้เดือดร้อน ทำตัวดี ไม่พูดหยาบใส่ท่าน เรียนดีขึ้นตลอด พยายามเพื่อท่านมาตลอด เพราะรักพ่อและรักแม่ รักท่านทั้งสองมากจริงๆค่ะ แต่ก็จุกอกมากที่ เขาไม่ผลักดัน ไม่ใส่ใจ ไม่ชมเชยให้กัน มีบางคำพูดที่ว่า ดูถูกเรามาก อย่างเช่น 'ไม่ได้ตั้งใจแต่ดันได้เฉยเลย' ทั้งที่เราก็ตั้งอกตั้งใจทำทุกอย่างมาตลอดถึงแม้จะเหนื่อยน้อยเหนื่อยมากแต่ มั่นใจว่าทำอย่างตั้งใจมากที่สุดแล้วจริงๆค่ะ ก็คงต้องยอมรับว่าไม่ได้ทำต่อหน้าเลยเป็นแบบนี้ แต่การดูถูกดูแคลนต่อใครสักคนถึงแม้จะไม่ใช่ลูกก็ตาม เราไม่ได้รู้เบื้องหลังเขาน่ะค่ะ เราไม่ควรไปดูถูกใครมั่วอยู่แล้ว แต่ท่านกลับดูถูก ลูก ตนเอง แต่พอลูกทำได้ก็อวดคนอื่นไปทั่ว พอเราหยุดพักการทำงานก็มาพูดว่า'ทำตัวไร้สาระ อะไรที่มีประโยชน์ ไม่ทำ'
ปล. ท่านอาจจะมีปมทางครอบครัวท่านที่ว่าไม่มีโอกาสได้ตอบแทนคุณพ่อคุณแม่ของท่านน่ะค่ะ เคยเห็นท่านพูดระบายกับเราอยู่ ซึ่งเรารับฟังค่ะและรับรู้เข้าใจจริงๆ แต่ล่าสุดท่านขอเงินและมีการเถียงทะเลาะกัน เราคาดว่าเกิดจากส่วนนี้น่ะค่ะ เพราะรอบนี้ท่านพูดคำที่ไม่ควรออกมาบ้างจริงๆ จากใจคนเป็นลูกที่เกิดมาเรียนรู้ได้เพียง 14 ปี 11 เดือน อาจจะพิมพ์บางอริยบทไม่เหมาะสมขอประทานอภัยด้วยนะคะ ขอความกรุณาให้คำแนะนำด้วยค่ะ
แอบยาวไปนิดหน่อยขออภัยด้วยนะคะ🙇♀️
ไม่ให้เงินพ่อแม่=อกตัญญู จริงเหรอคะ (ขอความกรุณาให้คำแนะนำหน่อยนะคะ)
และทุกเดือนเราจะได้เงินก้อนใหม่มาเสมอ แต่ไม่มีก้อนไหนที่ได้ใช้เต็มที่ ก่อนที่ได้รายได้สูงสุดอยู่ที่ 3,000+ ท่านยืมไปหมด ณ ปัจจุบันก็ได้คืนมาบ้างเพราะไปทำงานน่ะค่ะ แล้วเราก็พยายามจดไว้ว่าเขาคืนไปแล้วเท่าไหร่บ้างน่ะค่ะไม่อยากให้ท่านลำบากและต้องมาคืน
แต่จนกระทั่งจริงๆ พอเราอายุ 14 จะบอกว่า หนูอาจจะเป็นคน ช่างฝัน ก็คงไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ก็มีความฝันเหมือนเด็กทั่วไปเหมือนกัน ยังคงเป็นวัยที่เพ้อฝันอยู่เหมือนเด็กคนอื่น มีไอดอลที่ชอบ เลยทำให้อยากนำเงินไปซื้อสินค้าของศิลปินบ้าง และจะตั้งใจหาเงินต่อยอดทำอนาคตตัวเองน่ะค่ะซึ่ง เราทำเพื่อตนเองและครอบครัวจริง ๆ มีประโยชน์และคิดว่าเป็นหนทางนึงที่เราทำแล้วมีความสุขได้ แต่ทว่า ด้วยความที่ท่านเคยชินจึงขอยืมทุกเดือนเข้าจริงๆ เราจึงหัวชนฝาน่ะค่ะ
ทางตันเข้าจริงๆ เราไม่ได้ ไม่ได้อยากให้ท่านแต่อย่างใด แต่พอมาคิดดูอีกที เราก็แค่ เด็ก อายุ 14 น่ะค่ะ ที่หาเงินได้แล้วจำนวนน้อยจำนวนหนึ่งในเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
เข้าใจที่ท่านขัดสนและอยากให้ลูกเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ อยากให้ลูกตอบแทนตน แต่บางคำพูดที่ว่า 'โตขึ้นแล้วจะลืมพ่อลืมแม่' เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากท่านที่เราไม่โอเคจริงๆ เราปฏิบัติตนดีเท่าที่จะทำได้แล้วค่ะ เราทำได้ดีกว่านี้ได้ถ้าหากเราโตขึ้นพอจะเลี้ยงดูตนเองได้แบบที่เขาอยากให้เราดีในแบบที่เขาคิดน่ะค่ะ
เราขออธิบายไว้ก่อนว่า เราเป็นเด็กที่นึกถึงพ่อถึงแม่เป็นอย่างแรกก่อนที่จะคิดทำอะไรจนติดเป็นนิสัย ไปไหนก็ขอ ทำอะไรก็ไม่มีให้เดือดร้อน ทำตัวดี ไม่พูดหยาบใส่ท่าน เรียนดีขึ้นตลอด พยายามเพื่อท่านมาตลอด เพราะรักพ่อและรักแม่ รักท่านทั้งสองมากจริงๆค่ะ แต่ก็จุกอกมากที่ เขาไม่ผลักดัน ไม่ใส่ใจ ไม่ชมเชยให้กัน มีบางคำพูดที่ว่า ดูถูกเรามาก อย่างเช่น 'ไม่ได้ตั้งใจแต่ดันได้เฉยเลย' ทั้งที่เราก็ตั้งอกตั้งใจทำทุกอย่างมาตลอดถึงแม้จะเหนื่อยน้อยเหนื่อยมากแต่ มั่นใจว่าทำอย่างตั้งใจมากที่สุดแล้วจริงๆค่ะ ก็คงต้องยอมรับว่าไม่ได้ทำต่อหน้าเลยเป็นแบบนี้ แต่การดูถูกดูแคลนต่อใครสักคนถึงแม้จะไม่ใช่ลูกก็ตาม เราไม่ได้รู้เบื้องหลังเขาน่ะค่ะ เราไม่ควรไปดูถูกใครมั่วอยู่แล้ว แต่ท่านกลับดูถูก ลูก ตนเอง แต่พอลูกทำได้ก็อวดคนอื่นไปทั่ว พอเราหยุดพักการทำงานก็มาพูดว่า'ทำตัวไร้สาระ อะไรที่มีประโยชน์ ไม่ทำ'
ปล. ท่านอาจจะมีปมทางครอบครัวท่านที่ว่าไม่มีโอกาสได้ตอบแทนคุณพ่อคุณแม่ของท่านน่ะค่ะ เคยเห็นท่านพูดระบายกับเราอยู่ ซึ่งเรารับฟังค่ะและรับรู้เข้าใจจริงๆ แต่ล่าสุดท่านขอเงินและมีการเถียงทะเลาะกัน เราคาดว่าเกิดจากส่วนนี้น่ะค่ะ เพราะรอบนี้ท่านพูดคำที่ไม่ควรออกมาบ้างจริงๆ จากใจคนเป็นลูกที่เกิดมาเรียนรู้ได้เพียง 14 ปี 11 เดือน อาจจะพิมพ์บางอริยบทไม่เหมาะสมขอประทานอภัยด้วยนะคะ ขอความกรุณาให้คำแนะนำด้วยค่ะ
แอบยาวไปนิดหน่อยขออภัยด้วยนะคะ🙇♀️