ผมนั้นเริ่มรู้จักและทำผิดในรูปแบบของพนันออนไลน์ ตั้งแต่ อายุ 14 เริ่มจากน้อยๆ คือครั้งละหลักสิบ หลักร้อย ก็เล่นมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดที่เริ่มหนักขึ้นช่วง อายุ 16 ได้ค่าใช้จ่ายแบบรายเดือนจากพ่อหลักพัน ช่วงนั้นก็คือเล่นหนักจนไม่มีเงินใช้จ่ายไป รร พ่อกับแม่ก็รู้ พอพ่อกับแม่รู้ พ่อกับแม่ก็บอกก็สอนเรา เราก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งนั้นมาช่วงหนึ่ง จนกระทั่งอายุ 17 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดเรียนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ มีไปเรียนที่ รร บ้าง ช่วงนั้นพ่อเราให้เงินมาเก็บไว้ก่อนหนึ่งหลักหมื่น เราก็เก็บไว้ พอเราไป รร เราก็เจอเพื่อนคนหนึ่งสนิทกันเห็นเพื่อนกำลังเล่นการพนันออนไลน์อยู่ เราก็ดูเพื่อนเล่น พอสุดท้ายกลับมาบ้านเราก็เลยตัดสินใจเล่นสุดท้ายเราก็เสีย ครั้งนี้เป็นจำนวนที่เยอะ เราก็กลัวพ่อแม่จะรู้เราก็เลย ขอยืมเงินเพื่อนสนิทมาติดบัญชีไว้ สุดท้ายเงินที่ยืมเพื่อนมาก็กลับไปเล่นจนสุดท้ายก็หมด พ่อแม่ก็รู้ จนมากระทั่งช่วงอายุ 18 จนถึง 19 ช่วงจะเข้ามหาลัยเราก็กลับมาเล่นช่วง จะจบ ม.6 ก็เล่นเสียหลักพันหลักหมื่น ยืมเพื่อนยืมคนรู้จักมาเล่น ้เพื่อยากจะได้เงินคืน สุดท้ายเงินก็หมด ก็ต้องขอยืมพี่มาใช้หนี้เพื่อนใช้หนี้คนรู้จัก เราก็ยังไม่หยุด วันจ่ายค่าเทอมมหาลัยเราก็ได้ขอเงินจากพ่อ แต่ผมก็กลับไม่ได้จ่ายเอาเงินไปเล่นหมด เราเลยตัดสินใจขอซิ่ว 1 ปี ทำงานเคลียร์ตัวเอง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เราได้เงินเดือนมา เราก็เล่น พอเราหมดเราก็ยืมเพื่อน ยืมคนรู้จัก จนเราเป็นหนี้ พอผ่านไปสัก 1 เดือนเราก็กลับไปเล่น วนลูป อยู่อย่างนี้ จนมาถึงเดือน 9 ครั้งนี้เราก็เล่น แต่ครั้งนี้เราเอาหูฟัง airpods โทรศัพท์ไปจำนำ ยืมเพื่อนมาเล่นเพื่อหวังจะได้คืน สุดท้ายผมก็เสียจนหมดตัว พ่อผมก็เป็นคนไปไถ่ออกมาให้ จนมากระทั่งวันที่ 28/11/23
ผมก็ได้ก้าวขาเข้าไปเล่น เพื่อหวังจะขอให้ได้เพียงแค่ 100 แต่พอผมเข้าไปเล่น แต่สิ่งที่คาดหวังก็ไม่ได้เป็นดั่งหวังผม ผมกลับเสีย ผมจึงขอยืมเพื่อนกับพี่ที่ทำงานมาเพื่อมาเอาเงินของตัวเองคืน สุดท้ายก็หมด ผมจึงใช้วิธีเดิมคือเอา airpods กับ โทรศัพท์ ไปจำนำเผื่อหวังจะเอาเงินที่เสียไปคืน โดยไม่ได้คิดว่าจะเสียเลย หน้ามืดคิดแค่ว่าจะเอาเงินของตัวเองคืน สุดท้ายก็หมด ผมนั้นเจอแต่ปัญหาเดิมๆ คือปัญหาเรื่องนี้ ผมพยายามจะเลิกไม่นึก ไม่คิดถึงมัน พอมันมีความคิดหวังจากมันเพียงเล็กน้อย คิดว่าคงไม่เสีย สุดท้ายมันก็เสีย ก่อนผมจะก้าวขาเข้าไปผมก็มีความคิดนะว่าถ้าเราได้มันมาหนึ่งครั้ง มันก็จะมีครั้งที่สอง
พ่อกับแม่ คนรอบๆข้างตัวผมคือเป็นห่วงผม ให้อภัยผมมาตลอด พ่อเป็นคนที่ดีกับผมมากๆเป็นห่วงผมมากๆ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าผมทำผิดมาตั้งหลายครั้ง คนบางคนรอบตัวผมก็มองผมไม่เหมือนเดิม ความรู้สึกที่คนรอบข้างผมมองผมเปลี่ยนไปมันเป็นความรู้สึกที่ผมรับรู้ได้ ผมยังมองเห็นภาพที่เป็นเหตุการณ์ต่างๆที่มันเกิดขึ้นอยู่ในหัว ทุกสิ่งที่ผมทำมันแย่มาก มันทำให้ผมเสียทั้งเพื่อน ความรู้สึกของผมคนใกล้ตัวคนในครอบครัวผมเสีย ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองที่ทำไม่ได้ แก้ไขมันไม่ได้สักที จนผมคิดว่าผมเป็นตัวปัญหาของบ้านไปแล้ว บางทีผมก็รู้สึกท้ออยากหายไป ไม่อยากอยู่ต่อ ไม่อยากให้ใครมาต้องตามแก้ปัญหาของผมที่ผมสร้างมันขึ่นมา ที่เป็นปัญหาเดิมๆเรื่องเดิมๆอีกแล้ว
การทำผิดในเรื่องเดิมๆซ้ำ (การติดพนัน)
ผมก็ได้ก้าวขาเข้าไปเล่น เพื่อหวังจะขอให้ได้เพียงแค่ 100 แต่พอผมเข้าไปเล่น แต่สิ่งที่คาดหวังก็ไม่ได้เป็นดั่งหวังผม ผมกลับเสีย ผมจึงขอยืมเพื่อนกับพี่ที่ทำงานมาเพื่อมาเอาเงินของตัวเองคืน สุดท้ายก็หมด ผมจึงใช้วิธีเดิมคือเอา airpods กับ โทรศัพท์ ไปจำนำเผื่อหวังจะเอาเงินที่เสียไปคืน โดยไม่ได้คิดว่าจะเสียเลย หน้ามืดคิดแค่ว่าจะเอาเงินของตัวเองคืน สุดท้ายก็หมด ผมนั้นเจอแต่ปัญหาเดิมๆ คือปัญหาเรื่องนี้ ผมพยายามจะเลิกไม่นึก ไม่คิดถึงมัน พอมันมีความคิดหวังจากมันเพียงเล็กน้อย คิดว่าคงไม่เสีย สุดท้ายมันก็เสีย ก่อนผมจะก้าวขาเข้าไปผมก็มีความคิดนะว่าถ้าเราได้มันมาหนึ่งครั้ง มันก็จะมีครั้งที่สอง
พ่อกับแม่ คนรอบๆข้างตัวผมคือเป็นห่วงผม ให้อภัยผมมาตลอด พ่อเป็นคนที่ดีกับผมมากๆเป็นห่วงผมมากๆ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าผมทำผิดมาตั้งหลายครั้ง คนบางคนรอบตัวผมก็มองผมไม่เหมือนเดิม ความรู้สึกที่คนรอบข้างผมมองผมเปลี่ยนไปมันเป็นความรู้สึกที่ผมรับรู้ได้ ผมยังมองเห็นภาพที่เป็นเหตุการณ์ต่างๆที่มันเกิดขึ้นอยู่ในหัว ทุกสิ่งที่ผมทำมันแย่มาก มันทำให้ผมเสียทั้งเพื่อน ความรู้สึกของผมคนใกล้ตัวคนในครอบครัวผมเสีย ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองที่ทำไม่ได้ แก้ไขมันไม่ได้สักที จนผมคิดว่าผมเป็นตัวปัญหาของบ้านไปแล้ว บางทีผมก็รู้สึกท้ออยากหายไป ไม่อยากอยู่ต่อ ไม่อยากให้ใครมาต้องตามแก้ปัญหาของผมที่ผมสร้างมันขึ่นมา ที่เป็นปัญหาเดิมๆเรื่องเดิมๆอีกแล้ว