คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อิจฉาเด็กรุ่นใหม่อายุน้อย เริ่มต้นเร็วได้เปรียบมากๆ ต้องถามว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหนถ้าตามหัวข้อเห็นบอกว่า passive income แสดงว่าไม่น่าจะรับความเสี่ยงได้มาก ถ้ารับความเสี่ยงได้ไม่เยอะ แบ่งไปลงหุ้นกู้ เรทติ้ง A ขึ้นก็ได้ครับ แต่ถ้าพอรับความเสี่ยง จากส่วนต่างราคาได้ก็ควรลง index พวก set50 s&p500 แต่ผมแนะนำว่าหาหนังสืออ่านก่อนดีกว่าครับจะได้อะไรเยอะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ก่อนจะลงทุนอะครับ ก็ควรประเมิณมูลค่าทรัพย์สิน และ อนาคตของตัวเองก่อนเลย ก็เล่าคร่าวๆ ให้ฟังได้
ถามชีวิตตัวเองก่อนว่า
1. มีบ้านหรือยัง
2. มีรถหรือยัง
3. มีเงินเกษียณหรือยัง
4. มีเงินเย็นหรือยัง
จะเอาเงิน 2000-5000 จากเงินเดือน 15000-20000 มาออมทรัพย์ 10 ปีมันยังได้เงินต้นแค่ 240,000 - 600,000 เงินมันก้อนน้อยมากปันผลแบบยังเอามากินข้าวแต่ละเดือนไม่ได้เลยครับ
เพราะถ้าปันผลได้แค่ 1% จากเงินตรงนี้ ปีหนึ่งก็ได้แค่ 2400 - 6000 เฉลี่ยเดือนละ 100-300 เองครับ เงินมันน้อยเกินไป จะหวังให้มันงอกเงยเป็น 2-3 ล้านเลย ป๊าดดดดดด 20% อย่างต่ำอะครับกำไรต่อปี 100% ไม่เสียเลย
ซูฮกเลยทำได้ขนาดนี้ โดยที่ทุนไม่หายก็เก่งเกิน
แบบเนี้ยคุณก็ต้องเอาเวลาไปหา active income ให้ได้ก่อนไหม นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราไม่เหมาะสำหรับลงทุน เพราะเราหาเงินทุนมาลงทุนได้ช้าเกินไปที่จะลงทุนคุ้มค่า บางคนจึงสอนให้ไปอาชีพสองเหอะ ต่อยอดเงินจากตรงนั้น แล้วฟันกำไรหัวแบะจากธุรกิจไปเลย อาจจะปังกว่า แต่ก็เสี่ยงสูงกว่า
จะได้ไม่เสียเวลาทิ้ง สำหรับนักลงทุนการจะมีข้อ 3 ได้ รายได้ต้องไม่ต่ำกว่า 25000 ครับตัวเลขเคาะมานานแล้ว คือ มันจะหักไป DCA หรือ ซื้อเต็มเลย มันก็คงเป็นเงินไม่เกิน 10000 บาทอะครับ มันน้อยอยู่แล้วตามตัวเลขที่นำเสนอไป
อย่างอื่นถ้ายังไม่มี คุณควรไปหาปัจจัยพื้นฐานชีวิตก่อนจะมาเริ่มลงทุนครับ แล้วเอาทุนที่เหลือจากการสร้างปัจจัยพื้นฐานเสร็จแล้ว จากตรงนี้ต่อยอดเป็นทุนกินกำไร มันต้องหาเป็นลำดับครับ อย่าข้ามลำดับ ไม่ว่าคุณจะไปอ่านหนังสือกี่รอบ กี่รอบ เขาก็จะสอนให้ไปทำแบบนี้กันทั้งนั้น
ผมเห็นคนสติไม่ดีหลายคน ติดหนี้คอนโดหรือบ้านจากข้อ 1 แล้วดอกเบี้ยประมาณ 10,000 แล้วบอกว่า
อยากลงทุนจังเลยไม่มีความรู้ไม่มีอะไรเลย เหลือเงินอีก 10000 จะเอาไปลงทุนอะไรให้ปันผลดีคะแล้วอยากได้ passive income 10000-15000 เป็นผลตอบแทน ..... เยอะครับในโซเชียล เหมือนเมากาวเชื่อไลฟ์โค้ชจอมปลอมด้านการลงทุนมามากจัดอะ
หิวเงินแหละ แต่ไม่ฉลาดเลย คือมันไม่รู้ได้ยังไงว่า ปันผลให้ชนะดอกเบี้ยตั้ง 10000 เนี้ย ด้วยเงิน 10000-15000 โอ้โห ต้องฟันกำไร 20-50% เลยมั้งครับถึงจะได้อะครับ
ปันผลได้ 2000 แต่ดอกเบี้ย 10000 ก็ยังเงินเสียเปล่าก็ยัง 8000
นั่นแหละครับมันจึงเป็นที่มาว่า ทำไมต้องเอาเงินไปปิดหนี้ให้หมดก่อนถึงจะเริ่มต้นการลงทุนใหม่ เพราะมันไม่มีใครเก่งจัดชนิดหาเงินกินปันผลได้เดือนละ 10000 แล้วหาเงินเสียดอกเบี้ยเอาชนะได้ง่ายขนาดนั้น โคตรจะบ้า
แม้แต่พวก เอาเงินมาจมกับการเล่นอสังหาหน้าใหม่ มีคอนโดนแบบว่า 5-6 หลังแล้วหาผู้เช่าแบบให้เขาผ่อนให้ ยังจะตายเลย แบกรับภาระหนี้สินสูงเกิ๊น เจอผู้เช่าเชี้ยก็เจ๊งขายห้องทิ้งไม่ได้ หาเงินหมุนไม่ทันอีก
มันก็เลยต้องทำตามเสต็บ
1. ถ้าคุณไม่มีบ้าน คุณก็ต้องไปหาบ้านให้ได้ก่อนครับ ถ้าไม่อยากนอนวัดหรือข้างทาง ถ้ามีแล้วหรือมีมรดกช่วยก็ข้ามข้อนี้ไปเลย
บ้านถูกสุดรวมที่ดินประมาณ 600K หรือ 1 ล้าน บ้านหลังเล็ก ในชทบทห่างไกลจะกำเงินไปรอซื้อหรือซื้อรอไว้ก็ได้ เพื่อนเราบางคนลงทุนไปแล้วเอาไว้กันเหนียว บางคนก็เก็บเงินเอาไว้แทนเอา
ท่องไว้ซื้อเงินสดถูกที่สุด เราไม่เสียดอกเบี้ย แต่ถ้ามันจำเป็นจริง ก็อาจจะต้องยอมเสียดอกเบี้ยเล็กน้อย เพื่อเอาทำเลที่ดีขึ้น
เช่น ถ้าทำงานกรุงเทพสะกลางเมือง 20 ปี ยันแก่ แล้วหาคอนโดถูกแล้วทำเลดีได้ ถ้ายังหาได้หละนะ ไม่เกิน 2 ล้าน ดอกเบี้ยมันจะประมาณ 7000-10000 ครับ มันจะใกล้เคียงกับการเช่าหอพัก แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ข้ามไปเลย แต่ถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องจับจอง แล้วมองว่ามันคือบ้านพักคนชราแบบคอนโด ตอนแรกจะเหนื่อยเพราะต้นมันสูง
แต่ตอนหลังต้นเหลือ 1 ล้านแล้วขยันโปะบ่อย มันจะดอกกเบี้ยประมาณ 3000-5000 ซึ่งมันจะเริ่มรู้สึกกำไรกว่าคนเช่าหอพักเสียเงินฟรีแล้ว
ปล่อยเช่ากก็ได้ 7000-8000 มันก็ได้เงินส่วนต่างมาอีก 3000-4000
มันก็จะดีกว่าเอาเงินไปให้คนอื่นกินค่าเช่าเสียเปล่าหลาย 10 ปีหนะ ซื้อเองอยู่ยาวยังไงก็กำไร
มันก็ขึ้นกับทำเล เพราะบางคนที่เขายอมติดหนี้ เพราะเขาต้องอยู่ช่วงทำงาน 5-10 ปี แล้วหลังจากนั้นย้ายไปที่อื่นปล่อยเช่าให้คนอื่นผ่อนทรัพย์สินย์ให้ แล้วเงินต้นมันเหลือน้อยแล้ว ดอกเบี้ยมันต่ำค่าเช่าก็แพงขึ้นเสมอ มันก็กำไรจร้า
มันถึงมี อสังหา 2 ชนิดได้ไงครับ เพราะมันมีคนโง่มากพอจะมาขอเช่า 7000-10000 หรือ ถ้าไม่อยากถือจัดการแล้วก็ขายเอาเงินสด นี่ไง เงินออมทางหนึ่ง ^^ อสังหาถ้าเล่นเป็นจนเป็นการลงทุนและเงินเกษียณหรือ passive income ในรูปแบบปล่อยเช่า
2. รถมันจำเป็นถึงจะกรุงเทพหรือตจว มันต้องมีอย่างน้อย 1 คัน หรือ มอไซร์ก็ได้สำหรับคนขับขี่คล่องตัวครับ ก็อย่าเอาสะแพงเวอร์ราคา 3-5 ล้าน BMW เลือกที่การใช้งานเป็นหลักจร้า ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย หรือ option ที่ไม่สำคัญ
เพราะรถยนต์ คือ ทรัพย์สินเสื่อมราคา เหมือนจ่ายเงินมาเพื่อยืมใช้ ขายทิ้งราคาก็ตกเยอะ ไหนจะค่าน้ำมันค่าบำรุง ดังนั้นต้องเลือกเองให้เหมาะสมกับฐานะ
3.เงินเกษียณ แยกต่างหาก ไม่ควรเอามาลงทุนกับความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะการลงทุนที่ทุนต้นมันหาย
เพราะถ้าคุณทำเงินเกษียณหาย คุณก็แค่ เกษียณไม่ได้ไงครับ ก็แค่อดตายยามแก่ ใจกล้าไหมหละ ดังนั้นเขาจะไม่นิยมนำเงินเกษียณมาลงทุนความเสี่ยงสูงครับ เสี่ยงอย่างมากก็แค่กกลางๆ แยกต่างหากอีกส่วน
แทนที่จะได้เงินสด 3 ล้าน บางคนจมไปกับหุ้นที่เสี่ยงสูงเงี้ย สุดท้ายปันผลไม่ดี หุ้นล่วง ขายยูนิตคืนไป ได้คืนมา 2.5 ล้านเงี้ย เงินเกษียณมันลดไม่ได้เพิ่มเสมอ ถ้ามันได้กำไรชัว 100% ป่านนี้คนรวยเขารวยล้นฟ้าไปแล้วหละครับ
เงินเกษียณเขาจึงนิยมไปหาอะไรที่ มันได้ทุนทบต้นเอาชัว เงินฝากและเงินออมปันผลความเสี่ยงต่ำ
4. เงินเย็นคือเงินสำหรับกการลงทุนที่เสี่ยงสูงแล้ว เพื่อจะจังหวะดี ถ้าเก่งจริงทุนตรงนี้จะทำให้หาเงินเร่งสปีดได้ไวมากขึ้น แต่ถ้าเสียเปล่า มันก็คือเสียไปเลยหรือได้คืนมาบ้าง แต่มันจะไม่กระทบกับเงินเกษียณครับ
ถึงจะลงทุนพลาด แต่ถ้าเงินนั้นเป็นเงินเย็น มันจะไม่ทำให้ชีวิตยามแก่ของคุณอับจนหนทาง เพราะยังเหลือเงินเกษียณอยู่ ถ้ารู้ว่าตัวเองมาทางนี้ไม่เวริค ก็เลิกลงทุนแล้วไปฝากออมทรัพย์ รวมเงินกับกองเกษียณสะ
นี่คือระบบที่นักลงทุนเขาคิดมาดีแล้ว ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว การแบ่งเค้ก แทบจำเป็นสูตรสำเร็จ 100% การันตีเลยว่ารอดชัว ถ้าเงินถึงทำได้
เพราะว่าถ้าคุณหาความพร้อมไว้หมดแล้ว คุณจะเสี่ยงอะไรอีกหละครับ คุณไม่เสียดอกเบี้ย no ภาระ หมายความว่า
คุณเสีย 0 บาทกับเงินเสียเปล่าครับ แล้วกำไรจากการปันผลถึงจะแค่ 5000 มันก็ยังเป็น +5000 หาได้ 10000 ก็ +10000 จร้า
มันก็ดีกว่าอีคนติดดอกเบี้ย 10000 แล้วปันผล 5000 อะครับ เพราะมัน -5000 นะครับ ผ่อนบ้าน 20 ปีอะ เวลา 1/4 ของชีวิต หรือ 60% ของการทำงานหาเงิน ^^ แล้วมาอวดปันผลว่าเยอะ แต่ดอกเบี้ยเยอะกว่าอะนะ ไม่ฉลาดเลย
คนที่ทำ passive income ได้คือคนที่เขาทำ active ใช้หนี้เตรียมความพร้อมมาจนมันไม่มีภาระเยอะแล้วทั้งนั้นครับ มันทำจนไปถึงข้อ 4 ครับ เขาจึงเอาเงินไปทำทุนหรือทำงานต่อยอดได้โดยที่ ทุนมันไม่ได้หายไปไหนไงครับ
ถ้าเงินมันไม่พอไปถึงข้อ 3 แปลว่า คุณยัง active income มากพอครับ ก็ไม่ต้องมาเข้าโลกการลงทุนจร้า คุณแค่ทำงานก็ยังเกษียณตัวเองลำบากเลยจร้า จะหวังลงทุนอะไรหรอครับ หาเงินให้พอเกษียณก่อนไหม
ถามชีวิตตัวเองก่อนว่า
1. มีบ้านหรือยัง
2. มีรถหรือยัง
3. มีเงินเกษียณหรือยัง
4. มีเงินเย็นหรือยัง
จะเอาเงิน 2000-5000 จากเงินเดือน 15000-20000 มาออมทรัพย์ 10 ปีมันยังได้เงินต้นแค่ 240,000 - 600,000 เงินมันก้อนน้อยมากปันผลแบบยังเอามากินข้าวแต่ละเดือนไม่ได้เลยครับ
เพราะถ้าปันผลได้แค่ 1% จากเงินตรงนี้ ปีหนึ่งก็ได้แค่ 2400 - 6000 เฉลี่ยเดือนละ 100-300 เองครับ เงินมันน้อยเกินไป จะหวังให้มันงอกเงยเป็น 2-3 ล้านเลย ป๊าดดดดดด 20% อย่างต่ำอะครับกำไรต่อปี 100% ไม่เสียเลย
ซูฮกเลยทำได้ขนาดนี้ โดยที่ทุนไม่หายก็เก่งเกิน
แบบเนี้ยคุณก็ต้องเอาเวลาไปหา active income ให้ได้ก่อนไหม นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราไม่เหมาะสำหรับลงทุน เพราะเราหาเงินทุนมาลงทุนได้ช้าเกินไปที่จะลงทุนคุ้มค่า บางคนจึงสอนให้ไปอาชีพสองเหอะ ต่อยอดเงินจากตรงนั้น แล้วฟันกำไรหัวแบะจากธุรกิจไปเลย อาจจะปังกว่า แต่ก็เสี่ยงสูงกว่า
จะได้ไม่เสียเวลาทิ้ง สำหรับนักลงทุนการจะมีข้อ 3 ได้ รายได้ต้องไม่ต่ำกว่า 25000 ครับตัวเลขเคาะมานานแล้ว คือ มันจะหักไป DCA หรือ ซื้อเต็มเลย มันก็คงเป็นเงินไม่เกิน 10000 บาทอะครับ มันน้อยอยู่แล้วตามตัวเลขที่นำเสนอไป
อย่างอื่นถ้ายังไม่มี คุณควรไปหาปัจจัยพื้นฐานชีวิตก่อนจะมาเริ่มลงทุนครับ แล้วเอาทุนที่เหลือจากการสร้างปัจจัยพื้นฐานเสร็จแล้ว จากตรงนี้ต่อยอดเป็นทุนกินกำไร มันต้องหาเป็นลำดับครับ อย่าข้ามลำดับ ไม่ว่าคุณจะไปอ่านหนังสือกี่รอบ กี่รอบ เขาก็จะสอนให้ไปทำแบบนี้กันทั้งนั้น
ผมเห็นคนสติไม่ดีหลายคน ติดหนี้คอนโดหรือบ้านจากข้อ 1 แล้วดอกเบี้ยประมาณ 10,000 แล้วบอกว่า
อยากลงทุนจังเลยไม่มีความรู้ไม่มีอะไรเลย เหลือเงินอีก 10000 จะเอาไปลงทุนอะไรให้ปันผลดีคะแล้วอยากได้ passive income 10000-15000 เป็นผลตอบแทน ..... เยอะครับในโซเชียล เหมือนเมากาวเชื่อไลฟ์โค้ชจอมปลอมด้านการลงทุนมามากจัดอะ
หิวเงินแหละ แต่ไม่ฉลาดเลย คือมันไม่รู้ได้ยังไงว่า ปันผลให้ชนะดอกเบี้ยตั้ง 10000 เนี้ย ด้วยเงิน 10000-15000 โอ้โห ต้องฟันกำไร 20-50% เลยมั้งครับถึงจะได้อะครับ
ปันผลได้ 2000 แต่ดอกเบี้ย 10000 ก็ยังเงินเสียเปล่าก็ยัง 8000
นั่นแหละครับมันจึงเป็นที่มาว่า ทำไมต้องเอาเงินไปปิดหนี้ให้หมดก่อนถึงจะเริ่มต้นการลงทุนใหม่ เพราะมันไม่มีใครเก่งจัดชนิดหาเงินกินปันผลได้เดือนละ 10000 แล้วหาเงินเสียดอกเบี้ยเอาชนะได้ง่ายขนาดนั้น โคตรจะบ้า
แม้แต่พวก เอาเงินมาจมกับการเล่นอสังหาหน้าใหม่ มีคอนโดนแบบว่า 5-6 หลังแล้วหาผู้เช่าแบบให้เขาผ่อนให้ ยังจะตายเลย แบกรับภาระหนี้สินสูงเกิ๊น เจอผู้เช่าเชี้ยก็เจ๊งขายห้องทิ้งไม่ได้ หาเงินหมุนไม่ทันอีก
มันก็เลยต้องทำตามเสต็บ
1. ถ้าคุณไม่มีบ้าน คุณก็ต้องไปหาบ้านให้ได้ก่อนครับ ถ้าไม่อยากนอนวัดหรือข้างทาง ถ้ามีแล้วหรือมีมรดกช่วยก็ข้ามข้อนี้ไปเลย
บ้านถูกสุดรวมที่ดินประมาณ 600K หรือ 1 ล้าน บ้านหลังเล็ก ในชทบทห่างไกลจะกำเงินไปรอซื้อหรือซื้อรอไว้ก็ได้ เพื่อนเราบางคนลงทุนไปแล้วเอาไว้กันเหนียว บางคนก็เก็บเงินเอาไว้แทนเอา
ท่องไว้ซื้อเงินสดถูกที่สุด เราไม่เสียดอกเบี้ย แต่ถ้ามันจำเป็นจริง ก็อาจจะต้องยอมเสียดอกเบี้ยเล็กน้อย เพื่อเอาทำเลที่ดีขึ้น
เช่น ถ้าทำงานกรุงเทพสะกลางเมือง 20 ปี ยันแก่ แล้วหาคอนโดถูกแล้วทำเลดีได้ ถ้ายังหาได้หละนะ ไม่เกิน 2 ล้าน ดอกเบี้ยมันจะประมาณ 7000-10000 ครับ มันจะใกล้เคียงกับการเช่าหอพัก แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ข้ามไปเลย แต่ถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องจับจอง แล้วมองว่ามันคือบ้านพักคนชราแบบคอนโด ตอนแรกจะเหนื่อยเพราะต้นมันสูง
แต่ตอนหลังต้นเหลือ 1 ล้านแล้วขยันโปะบ่อย มันจะดอกกเบี้ยประมาณ 3000-5000 ซึ่งมันจะเริ่มรู้สึกกำไรกว่าคนเช่าหอพักเสียเงินฟรีแล้ว
ปล่อยเช่ากก็ได้ 7000-8000 มันก็ได้เงินส่วนต่างมาอีก 3000-4000
มันก็จะดีกว่าเอาเงินไปให้คนอื่นกินค่าเช่าเสียเปล่าหลาย 10 ปีหนะ ซื้อเองอยู่ยาวยังไงก็กำไร
มันก็ขึ้นกับทำเล เพราะบางคนที่เขายอมติดหนี้ เพราะเขาต้องอยู่ช่วงทำงาน 5-10 ปี แล้วหลังจากนั้นย้ายไปที่อื่นปล่อยเช่าให้คนอื่นผ่อนทรัพย์สินย์ให้ แล้วเงินต้นมันเหลือน้อยแล้ว ดอกเบี้ยมันต่ำค่าเช่าก็แพงขึ้นเสมอ มันก็กำไรจร้า
มันถึงมี อสังหา 2 ชนิดได้ไงครับ เพราะมันมีคนโง่มากพอจะมาขอเช่า 7000-10000 หรือ ถ้าไม่อยากถือจัดการแล้วก็ขายเอาเงินสด นี่ไง เงินออมทางหนึ่ง ^^ อสังหาถ้าเล่นเป็นจนเป็นการลงทุนและเงินเกษียณหรือ passive income ในรูปแบบปล่อยเช่า
2. รถมันจำเป็นถึงจะกรุงเทพหรือตจว มันต้องมีอย่างน้อย 1 คัน หรือ มอไซร์ก็ได้สำหรับคนขับขี่คล่องตัวครับ ก็อย่าเอาสะแพงเวอร์ราคา 3-5 ล้าน BMW เลือกที่การใช้งานเป็นหลักจร้า ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย หรือ option ที่ไม่สำคัญ
เพราะรถยนต์ คือ ทรัพย์สินเสื่อมราคา เหมือนจ่ายเงินมาเพื่อยืมใช้ ขายทิ้งราคาก็ตกเยอะ ไหนจะค่าน้ำมันค่าบำรุง ดังนั้นต้องเลือกเองให้เหมาะสมกับฐานะ
3.เงินเกษียณ แยกต่างหาก ไม่ควรเอามาลงทุนกับความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะการลงทุนที่ทุนต้นมันหาย
เพราะถ้าคุณทำเงินเกษียณหาย คุณก็แค่ เกษียณไม่ได้ไงครับ ก็แค่อดตายยามแก่ ใจกล้าไหมหละ ดังนั้นเขาจะไม่นิยมนำเงินเกษียณมาลงทุนความเสี่ยงสูงครับ เสี่ยงอย่างมากก็แค่กกลางๆ แยกต่างหากอีกส่วน
แทนที่จะได้เงินสด 3 ล้าน บางคนจมไปกับหุ้นที่เสี่ยงสูงเงี้ย สุดท้ายปันผลไม่ดี หุ้นล่วง ขายยูนิตคืนไป ได้คืนมา 2.5 ล้านเงี้ย เงินเกษียณมันลดไม่ได้เพิ่มเสมอ ถ้ามันได้กำไรชัว 100% ป่านนี้คนรวยเขารวยล้นฟ้าไปแล้วหละครับ
เงินเกษียณเขาจึงนิยมไปหาอะไรที่ มันได้ทุนทบต้นเอาชัว เงินฝากและเงินออมปันผลความเสี่ยงต่ำ
4. เงินเย็นคือเงินสำหรับกการลงทุนที่เสี่ยงสูงแล้ว เพื่อจะจังหวะดี ถ้าเก่งจริงทุนตรงนี้จะทำให้หาเงินเร่งสปีดได้ไวมากขึ้น แต่ถ้าเสียเปล่า มันก็คือเสียไปเลยหรือได้คืนมาบ้าง แต่มันจะไม่กระทบกับเงินเกษียณครับ
ถึงจะลงทุนพลาด แต่ถ้าเงินนั้นเป็นเงินเย็น มันจะไม่ทำให้ชีวิตยามแก่ของคุณอับจนหนทาง เพราะยังเหลือเงินเกษียณอยู่ ถ้ารู้ว่าตัวเองมาทางนี้ไม่เวริค ก็เลิกลงทุนแล้วไปฝากออมทรัพย์ รวมเงินกับกองเกษียณสะ
นี่คือระบบที่นักลงทุนเขาคิดมาดีแล้ว ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว การแบ่งเค้ก แทบจำเป็นสูตรสำเร็จ 100% การันตีเลยว่ารอดชัว ถ้าเงินถึงทำได้
เพราะว่าถ้าคุณหาความพร้อมไว้หมดแล้ว คุณจะเสี่ยงอะไรอีกหละครับ คุณไม่เสียดอกเบี้ย no ภาระ หมายความว่า
คุณเสีย 0 บาทกับเงินเสียเปล่าครับ แล้วกำไรจากการปันผลถึงจะแค่ 5000 มันก็ยังเป็น +5000 หาได้ 10000 ก็ +10000 จร้า
มันก็ดีกว่าอีคนติดดอกเบี้ย 10000 แล้วปันผล 5000 อะครับ เพราะมัน -5000 นะครับ ผ่อนบ้าน 20 ปีอะ เวลา 1/4 ของชีวิต หรือ 60% ของการทำงานหาเงิน ^^ แล้วมาอวดปันผลว่าเยอะ แต่ดอกเบี้ยเยอะกว่าอะนะ ไม่ฉลาดเลย
คนที่ทำ passive income ได้คือคนที่เขาทำ active ใช้หนี้เตรียมความพร้อมมาจนมันไม่มีภาระเยอะแล้วทั้งนั้นครับ มันทำจนไปถึงข้อ 4 ครับ เขาจึงเอาเงินไปทำทุนหรือทำงานต่อยอดได้โดยที่ ทุนมันไม่ได้หายไปไหนไงครับ
ถ้าเงินมันไม่พอไปถึงข้อ 3 แปลว่า คุณยัง active income มากพอครับ ก็ไม่ต้องมาเข้าโลกการลงทุนจร้า คุณแค่ทำงานก็ยังเกษียณตัวเองลำบากเลยจร้า จะหวังลงทุนอะไรหรอครับ หาเงินให้พอเกษียณก่อนไหม
แสดงความคิดเห็น
พี่ๆครับผมอายุ 21 อยากมี passive income ควรเริ่มจากตรงไหนดีครับ
ตอนนี้ผมไม่ได้เรียนแล้วครับทำงานเป็นฟรีแลนซ์
รายได้ต่อเดือน 15,000-20,000 ครับ ไม่แน่นอน
แต่ผมอยากมี passive income โดยการลงทุนกับกองทุนปันผล แต่ผมไม่รู้จะปรึกษาใคร พอมีแนวทางให้ผมไหมครับ ขอซับง่ายๆครับกำลังเรียนรู้ ขอบพระคุณร่วงหน้าครับ 🙏🙏🙏