สวัสดีเพื่อนๆ เราขอแชร์ประสบการณ์ที่เจอ
Romance Scamer โดยเราเสียเงินไปราวๆ 150,000 บาท (เราเป็นพนักงานบริษัททั่วไป เงินที่เสียไปคือเงินเก็บเรา ฮึ่ย!!
)
เริ่มจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราเล่นแอพฯหาคู่ และได้แมชกับหนุ่มเอเชี่ยน หน้าตาดีไสตล์พิมพ์นิยม ซึ่งเขาสร้างโปรไฟล์ไว้ว่า เป็นชาวสิงคโปร์, อายุ 33, ราศีสิงค์, ทำงาน business analysis, ชอบหมา และ looking for LTR (ฮั่นแน่! ไอเราก็โดนตกสิคะ) ต่อไปเราจะเรียกเขาว่า น้องมิจ(ฉาชีพ) นะคะ และเราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งภาษาที่น้องใช้คือดีมาก จนทำให้เชื่อได้ว่าเป็น สิงคโปเรี่ยน จริงๆ
เรากับน้องมิจก็พูดคุยตามแพทเทิร์นคนเล่นแอพหาคู่แหละ แต่เราไม่ได้ถามประวัติส่วนตัว ไม่ขอ social media (ซึ่งพลาดมาก)
เริ่มแรก น้องมิจจะทดสอบเราก่อนว่าเราสนใจเขาไหม โดยการาน้องบอกว่า ”ผมจะไปงานรวมญาติที่มาเลเซีย จะไม่ค่อยได้คุยนะครับ“ (มันตรงกับช่วงตรุษจีน ซึ่งก็เชื่อได้) น้องหายไปประมาณอาทิตย์นึง และกลับมาโดยถามว่า “คิดถึงไหมครับ” ซึ่งเราก็ตอบว่า “คิดถึงการาคุยกับเธอนะ” อะ! ตกหลุมน้องมิจแล้วหนึ่ง
ต่อมาเราก็คุยกันไป แบบคนจีบกันแหละ และน้องมิจก็ส่งรูปน้องอุ้มหลานมาให้ (ซึ่งน้องน่าจะพยายามสร้างโปรไฟล์ให้เห็นว่าน้องเป็นคนอ่อนโยนนะ แต่อันนี้ตกเราไม่ได้ เพราะเราไม่ชอบเด็ก) แต่สิ่งที่น้องตกเราได้คือ ความเชื่อใจในการส่งรูป ต่างหาก! และเราก็ส่งรูปตัวเราเองกลับ ดีนะเป็นรูปธรรมดาๆ (รูปตอนไปวิ่งที่สวน รูปตอนไปยิม น่ะ)
คุยกันได้ราว 2 สัปดาห์ น้องมิจเริ่มแยปมาว่า “พี่สนใจทำอาชีพเสริมไหม มันเป็น “Good opotunity“นะ” ตอนนั้น เรายังไม่ค่อยไว้ใจ เลยบอกว่า “ไม่อะ ตอนนี้ชีวิตเราก็ดีอยู่แล้ว” — น้องก็ไม่อะไร คุยกันต่อไป ระหว่างนั้น เราก็เอาชื่อของน้อง(ตามที่น้องบอก) ไปเสิร์จใน IG, Facebook แต่ไม่เจอรูปที่ตรงแฮะ (อืม... หรือเป็นพวกไม่เล่น social media นะ)
น้องมิจสร้างความไว้ใจ ทั้งการที่รู้จักเมืองไทยเป็นอย่างดี (เช่นรูปจักพริกเกลือ) เป็นคนมีฐานะ สร้างเรื่องว่า ผมเคยสูญยเสียคู่หมั้นจากอุบัติเหตุ ทำให้ผนมีอาการ panic จากกการเห็นอุบัติเหตุ แสดงให้เห็นว่าผมรักหมานะ ส่ง VDO ที่เล่นกับหมามา (โทษทีน้อง พี่ชอบแมว) และน้องก็จะพิสูจน์ว่าเราแคร์น้องหรือไม่ด้วยการสร้างเรื่อง แล้วให้เราแสดงความเป็นห่วง (ตอนนั้น เราก็ห่วงจริงๆ แหละ เพราะน้องบอกว่ารู้สึกว่างเปล่า เราก็ให้กำลังใจไป)
เมื่อน้องมิจ แน่ใจแล้ว่าเราแคร์น้อง น้องก็ถามอีกว่า “พี่สนใจทำธุรกิจไหม ผมทำได้ พี่ก็ทำได้ มันเป็น Good opponity นะครับ” ตอนนี้ไอเราก็เริ่มไว้ใจแล้วไง เลยตอบว่า “ธุรกิจไรอะ” …. และนี้คือจุดเริ่มต้นของการหลอกกกกก
น้องบอกว่ามันเป็นธุรกิจ Dropship เราเป็นนาายหน้า รับorder จากลูกค้า และส่ง orderไปให้กับ maker โดยไม่ต้องมีstock maker จะส่งของให้ลูกค้าเลย ไอเราก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าในธุรกิจออนไลน์มันมีแบบด้วยเหรอ ซึ่งมีแฮะ!
เราได้บอกเงื่อนไขกับน้องมิจว่า เราจะลองทำดู แต่เราจะเลิกทำเมื่อไหร่ก็ได้ และเธอหามาเร่งรัดพี่นะจ๊ะ และเธอยืนยันกับฉันสิว่าเธอไม่ใช่ scamer — น้องก็ OK กับเงื่อนไขเรา
แต่ไม่ยืนยันเรื่อง scamer น้องก็ทำเป็นโหโมว่า นี่เธอคิดว่าฉันเป็น scammer เหรอ! (ก็ใช่สิยะ!) แต่เราบอกน้องว่า “Just say you are not scammer” … ในสุดน้องก็บอกว่า “no I’m not scammer” (น้องงงงง แกโกหกฉัน แกเป็น scammer ค่ะะะะะ!! - ถึงเราบังคับให้น้องพูดก็เถอะ)
จากนั้นน้องส่งลิงค์ให้เรา —- เราไม่คลิ๊กลิงค์ แต่ขอ คีย์เวิร์ด จากน้องแทน (กะจะเอาไปเสิร์จในgoogle) — แต่น้องบอกว่าไม่มีคีย์เวิร์ืด มีแต่ link — ไอเราก็เอาละ มันแปลกๆ — เราถาม ทำไมไม่ทำเป็นแอพฯ น้องบอกว่า แอพฯ มันจะมีข้อจำกัด ทำบนเว็บจะได้ทั้ง IOS และ Android (ก็เข้าใจได้…มั้ง) และน้องมีวิธีพูดให้เราเชื่อว่ามันปลอดภัย
เราเลยย้ายมาทำบน iPad อย่างน้อยถ้าโดยแฮก iPad ก็ไม่มีแอพธนาคาร — ด้วยความที่เราย้ายมาทำบน iPad เราเลยได้อ่าน url ซึ่ง url มันไม่ใช่ชื่อของเว็บofficial!! (ไม่ขอบอกนะว่าเว็บเขียนไง)
เราก็ถามว่าurlนี้ถูกแล้วเหรอ พี่ขอเข้าผ่านweb official ได้ไหมจ๊ะ — น้องบอกว่า url นี้แหละ ประมาณรว่ามันเป็นเว็บ official อีกserverหนึ่ง — เอาละ หลาายเอ๊ะแล้วนะ แต่เพื่อนๆ คนมันหลง ผสมกับอยากลองด้วย ก็ลองเข้าเว็บสิ — ควาวมพินาทกำลังเริ่มต้นขึ้น!!
ระหว่างนี้ น้องมิจก็สอนการลงทะเบียน และการใช้งาานเว็บ พร้อมกับการหยอดคำพูดหวานๆ
โดยเว็บปลอมนี้มันให้เราลงทะเบียน และต้องแนบรูป บัตร ปชช ซึ่งในวันแรกเราแนบรูปไม่ผ่าน เราก็บอกน้องว่าไว้พรุ่งนี้ค่อยทำ ตอนแรกน้องไม่ยอม แต่ก็เราแนบรูปบัตร ปชช ไม่ผ่านไง และเราก็ขี้เกียจแล้ว ก็พูดจนน้องยอมแหละ — เมื่อถึงอีกวัน น้องก็มาตามให้ลงทะเบียนต่อ (น้องคงร้อนรนแล้วหละ) โดยครั้งนี้เราเอาบัตรไปถ่ายเอกสารเป็นกระดาษ เซ็นกกำกับและบอกว่าใช้สำหรับสมัครเว็บ…เท่านั้น (ก็ยังไม่ไว้ใจเว็บนี้แหละ แต่นั่นแหละ คนมันหลง ผสมความอยากรู้) — แนบครั้งนี้ ผ่าน! ก็ใส่เบอร์โทร อีเมล ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ และรหัสผู้แนะนำ ซึ่งก็คือรหัสของน้องมิจนี้แหละ
เมื่อลงทะเบียนเสร็จ ก็เริ่มเลือกของที่จะขาย ต้องเลือก 20 รายการ — น้องมิจแนะนำให้ขาย พวกโทรศัพท์มือถือ แต่เราไม่ชอบ เลยไปเลือกของอย่างอื่น (ดีนะ ไม่เลือกมือถือ ทำไมน่ะเหรอ เดี๋ยวรอดูต่อไป หึๆ)
จากนั้น เราต้องเติมเงินเข้าไปในwallet account เรา เพื่อเป็นเงินทุน โดยน้องมิจให้เราเอาเงินไปซื้อ USTD ผ่านแอพฯ OKX (ใช้แอพฯน่าเชื่อถือซะด้วย!) และเอา USTD ไปเปลี่ยนเป็น TRC20 โอนเข้า wallet ในเว็บปลอม (log in เป็นaccount เรา)
จากนั้นไม่นาน ก็มีคนมาซื้อของเรา ครั้งแรกก็รับออรเดอร์ และส่งต่อorder+จ่ายเงินให้maker และเมื่อลูกค้าได้ของ เราก็จะได้เงินกลับมากำไรประมาณ 7เปอร์ืเซ็น (ใช้เวลา 3-4 วัน ในการาทำให้ order complete)
แต่ต่อมา ลูกค้าเริ่มซื้อของเยอะขึ้น และซื้อครั้งละ 10 ชิ้น-200ชิ้น ต่อให้เราขาายของราคาถูก แต่ถ้าorderทีละหลาายชิ้น มันก็ใช้เงินเยอะ ซึ่งเราเองก็เกิด panic ละ เพราะ order มันเยอะมาก เงินที่เราเติมไว้ไม่พอ เราจึงคุยกับ admin ของเว็บ เพื่อขอเปลี่ยนประเภทสินค้าที่ขาย แต่ admin บอกว่าเราต้องเคลียร์ orderที่ค้างก่อน!!! เราก็เติมเงินเข้าสิคะ ราวๆ 50,000 บาท คิดว่าคงพอแหละ (และเราก็ไปว่าน้องมิจว่า "ทำไมไม่บอกพี่ว่าลูกค้าจะซื้อเยอะขนาดนี้ พี่ไม่มีเงินหรอนะ” แต่น้องมิจก็ขอโทษและอธิบายว่าเป็นการขายส่ง แบบ resales นู่นนี่นั่น และปิดท้ายว่า “พี่ต้องเติมเงิน 300,000 บาท แล้วเดี๋ยวธุรกิจมันจะ flow เอง” จะบ้าเหรอ! เราไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอกนะ เราเลยต่อรองว่า ค่อยๆ เติมละกัน เพราะเราไม่มีเงิน) เมื่อเครียร์ออเดอร์ได้ เรารีบเปลี่ยนสินค้าให้เป็นของถูกๆ แม้ว่าเราจะไม่ได้ชอบสินค้านั้น ซึ่งเราต้องเลือกสินค้าที่จะขายให้ครบ 20 รายการด้วย!! (เอากับมันซี) นี่แหละดีนะที่เราไม่เลือกพวกมือถือ บ้าบอ!
จากนั้น Order ก็มีเข้ามาไม่หยุด ไอน้องมิจก็ไซโค ให้เติมเงินเข้าไป เราตัดสินใจถอนเงินเก็บมา 100,000 แล้ว เติมเข้าไปในwallet เพราะคิดว่าเงินทุนเยอะขนาดนี้ น่าจะพอได้แล้วนะ
ปรากฏว่า ไม่พอ! order ที่completed แล้วก็ถอนเงินออกมาไม่ได้ เพราะ ยังมีorder ค้างอยู่ เราเกิด panic มาก จนต้องสารภาพ และปรึกษาพี่สาวว่าจะเอาไงดี เติมเงินเข้าไปอีกดีไหม — เราต้องขอบคุณพี่สาวมากๆๆๆๆๆๆๆ ที่ทำให้เรามีสติมากขึ้น และบอกว่าไม่ต้องเติมแล้ว และให้ไปต่อรองกับ admin
เราต่อรองกับadmin ว่า
- ขอขถอนเงินจาก orderที่completeมา จะได้เป็นทุน —ไม่ได้
- ขอให้admin จัดการเงินจาก order ที่complete แล้วไปรับorderแทน — ไม่ได้
- โอนorderไม่ไปให้ผุ้ขายเจ้าอื่น — ไม่ได้
- ปิดร้านไปเลย — ไม่ได้จนหว่าจะเคลียร์order ทั้งหมด
Admin ช่วยอะไรไม่ได้เลย นอกจาจะ แนะนำให้เคลียร์ order อย่างเดียว (บ้าจริงเชียว)
เมื่อเราไม่เคลียร์order ใน2วัน ร้านของเราก็จะถูกแบน และน้องมิจก็มากดดัน (และเริ่มหยาบคาย) ว่า ร้านของน้องก็ถูกบนไปด้วย ให้ไปจัดการร้านซะ (น้องบอกให้ไปยืมเงินเพื่อนหรือใครก็ได้ —- แหนะ! ดูมัน!!!!!)
และที่น่ากลัวมากกกกกก คือน้องเสนอให้ยืมเงินจำนวนครึ่งหนึ่งของยอด order ที่ค้าง แต่เเราไม่เอาเพราะ เราไม่อยากยืมเงินใคร (จริงๆ เราก็เริ่มได้กลิ่นตุๆแล้วล่ะ)
ตอนนี้เราเกิดความเครียด และ panic ขั้นสุด เพราะเป็นกังวลทั้งorder ที่ยังค้าง และร้านของน้องมิจที่ถูกแบนเพราะเรา…
ในที่สุดเราเครียดมาก จนไปโพสหาวิธีการใน พันธ์ทิพย์ …. เท่านั้นแหละ!!!! ทุกความเห็นเป็นเสียงเดียวกัน —
ถูกหลอกแล้วคร้านบบบบบบ
และเราก็เริ่มไปเสิร์จ และทำให้รู้จัก การหลอกให้ “กดรรับภาระกิจ” รูปแบบมันเหมือนกันเลย!!!
มันเจ็บปวดนะ แต่เป็นการปล็ดล็อค เราสบายใจขึ้น เพราะสิ่งที่เกิดคือเราถูกหลอก เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน (นอกจากตัวเอง)
จากนั้น เราก็วางเฉย ไม่เติมเงิน คุยกับน้องมิจน้อยลง แต่น้องยังคอยกดดัน พูดดีบ้าง (ยังเสนอให้ยืมเงิน โดยอ้างว่า “เพราะผมเชื่อใจพี่”) หยาาบคายบ้าง (น้องบอกว่า เธอคือหนึ่งในคนที่ฉันเกลียด)
ในที่สุดยอด เรารู้สึก ปสด กับน้อองมากกกกก เลยถาม Aadmin ว่าถ้าฉันไม่เคลียร์order มันจะยังไง — admin ตอบว่า ระบบจะนำเงินที่เป็นรายได้ของเรา (เงินจาก order ที่ complete แล้ว) ไปบริจาค เราก็บอกว่า OK งั้นฉันขอให้คุณเอาเงินไปบริจาคที่…. (เราบอกชื่อมูลนิธิ 2-3 แห่งในไทยไป) และขอใบเสร็จหรือหลักฐบานด้วยนะ ทางAadim ตอบกลับมาว่า … “OK” (แต่ก็แอบสงสัยว่า admin จะทำไงกับorderที่ค้างนะ แต่ขี้เกียวจถามละ เพราะเราก็กวนประสาทเขาไปเยอะอยู่) และเราก็ไปบอกกับน้องมิจว่าเราให้ระบบเอาเงินไปบริจาคละ น้องมิจตอบกลับมาว่า “เธอน่ะ ตัดสินใจผิดแล้ว เจอกันในศาล!” (เสียดายน้องพิมพ์ภาษาอังกฤษ ไม่งั้น เราคงบอกว่าศาลไหน ศาลพระภูมิ? หรือศาลไคฟงดี?)
ตอนแรกก็แอบกังวลนะว่า เราจะถูกฟ้องไหมนะ แต่มาคิดๆ ฟ้องก็ฟ้องดิ เราเป็นผู้เสียหาายนะเฟ่ย!!
จากนั้น เราได้report ต่อ official ของเว็บนั้น ทั้งofficial Thailand และ Singapore เพื่อให้เราทราบว่าเว็บเขาถูกแอบอ้างนะ เขาจะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ (เราส่ง link ให้เขาด้วย) ซึ่ง admin official สิงคโปร์ น่ารักมาก เขาแจ้งว่า เขาเสียใจ เขาไม่สามารถดึงเงินคืนมาได้ (แหงอยู่แล้ว อันนี้เราเข้าใจ) แต่เขาจะประสาานงาานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเขาแนะนำให้เรา ไปreport ในอีกเว็บ โดดยเขาส่งlink สำหรับการreport website ปลอมมาให้ และเราก็ทำการreport ไปละ (แต่คิดว่า น่าจะไล่ปิดไม่หวาดไม่ไหวหรอก เพราะมีหลาายlink —น้องมิจเคยส่งมาให้ตอนนี้เข้าlinkแรกไม่ได้ แถมเราเอาlink ไปเช็ค IP address ละ มันถูกสร้างมาจากหลายที่แฮะ ทั้งฮอ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมถึงไทยด้วย!)
ต่อมาเราไปแจ้งความออนไลน์ แต่ไม่ได้ไปรายงานที่ สน (เราไม่มีรถ เดินทางไม่สะดวก) คำร้องเลยถูกยกเลิก แต่คิดว่า อย่างน้อยก็มีข้อมูลค้างในฐานข้อมูลบ้างล่ะ
เราไปแจ้งทำบัตร ปชช ใหม่ โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าบัตรเก่าได้ส่งไปให้มิจฉาชีพ และเอาไปอัพเดทกับธนาคาร โดยให้เหตุผลเดียวกัน
ตอนนี้เราคงทำได้เท่านี้ เราไม่ได้หวังจะได้เงินคืน แต่หวังว่าน้องมิจจะได้รับกรรมอะไรซักอย่าง
จากเหตุการณ์นี้ ส่งผลกระทบต่อ cash flow ของเรา และทำให้เกิด trigger เมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ และการโทษความโง่ของตัวเอง แต่เราเชื่อว่าเวลาจะช่วยให้เราดีขึ้นได้ ;)
*******ข้อระวัง คือ น้องมิจจะไซโคคุณอย่างหนัก ถ้าคุณไม่มีเงิน น้องจะให้คุณไปยืมเงินใครก็้ได้
และที่น่ากลัวสุด คือ น้องมิจจะให้คุณยืมเงิน อย่ารับข้อเสนอโดดยเด็ดขาด!!!!!!!! เพราะมันจะทำให้คุณรเป็นหนี้จริงๆ โดยที่คุณจะไม่ใช้เงินนั้นด้วยซ้ำ******
ท้ายนี้ ข้อคิดที่ได้ คือ อย่างเอาตัวเองไปเสี่ยงงงงงง
และเพื่อนๆที่เคยถูกหลอก หรือกำลังอยู่ในสถานการณ์นี้ เราเข้าใจพวกคุณ เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก พวกเราไม่ได้ทำผิด พวกเราคือผู้เสียหาย!!!! ขอให้พวกเราก้าวข้ามเหตุการณ์แย่ๆ เหล่านี้ไปได้
เตือนภัย Romance Scam
เริ่มจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราเล่นแอพฯหาคู่ และได้แมชกับหนุ่มเอเชี่ยน หน้าตาดีไสตล์พิมพ์นิยม ซึ่งเขาสร้างโปรไฟล์ไว้ว่า เป็นชาวสิงคโปร์, อายุ 33, ราศีสิงค์, ทำงาน business analysis, ชอบหมา และ looking for LTR (ฮั่นแน่! ไอเราก็โดนตกสิคะ) ต่อไปเราจะเรียกเขาว่า น้องมิจ(ฉาชีพ) นะคะ และเราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งภาษาที่น้องใช้คือดีมาก จนทำให้เชื่อได้ว่าเป็น สิงคโปเรี่ยน จริงๆ
เรากับน้องมิจก็พูดคุยตามแพทเทิร์นคนเล่นแอพหาคู่แหละ แต่เราไม่ได้ถามประวัติส่วนตัว ไม่ขอ social media (ซึ่งพลาดมาก)
เริ่มแรก น้องมิจจะทดสอบเราก่อนว่าเราสนใจเขาไหม โดยการาน้องบอกว่า ”ผมจะไปงานรวมญาติที่มาเลเซีย จะไม่ค่อยได้คุยนะครับ“ (มันตรงกับช่วงตรุษจีน ซึ่งก็เชื่อได้) น้องหายไปประมาณอาทิตย์นึง และกลับมาโดยถามว่า “คิดถึงไหมครับ” ซึ่งเราก็ตอบว่า “คิดถึงการาคุยกับเธอนะ” อะ! ตกหลุมน้องมิจแล้วหนึ่ง
ต่อมาเราก็คุยกันไป แบบคนจีบกันแหละ และน้องมิจก็ส่งรูปน้องอุ้มหลานมาให้ (ซึ่งน้องน่าจะพยายามสร้างโปรไฟล์ให้เห็นว่าน้องเป็นคนอ่อนโยนนะ แต่อันนี้ตกเราไม่ได้ เพราะเราไม่ชอบเด็ก) แต่สิ่งที่น้องตกเราได้คือ ความเชื่อใจในการส่งรูป ต่างหาก! และเราก็ส่งรูปตัวเราเองกลับ ดีนะเป็นรูปธรรมดาๆ (รูปตอนไปวิ่งที่สวน รูปตอนไปยิม น่ะ)
คุยกันได้ราว 2 สัปดาห์ น้องมิจเริ่มแยปมาว่า “พี่สนใจทำอาชีพเสริมไหม มันเป็น “Good opotunity“นะ” ตอนนั้น เรายังไม่ค่อยไว้ใจ เลยบอกว่า “ไม่อะ ตอนนี้ชีวิตเราก็ดีอยู่แล้ว” — น้องก็ไม่อะไร คุยกันต่อไป ระหว่างนั้น เราก็เอาชื่อของน้อง(ตามที่น้องบอก) ไปเสิร์จใน IG, Facebook แต่ไม่เจอรูปที่ตรงแฮะ (อืม... หรือเป็นพวกไม่เล่น social media นะ)
น้องมิจสร้างความไว้ใจ ทั้งการที่รู้จักเมืองไทยเป็นอย่างดี (เช่นรูปจักพริกเกลือ) เป็นคนมีฐานะ สร้างเรื่องว่า ผมเคยสูญยเสียคู่หมั้นจากอุบัติเหตุ ทำให้ผนมีอาการ panic จากกการเห็นอุบัติเหตุ แสดงให้เห็นว่าผมรักหมานะ ส่ง VDO ที่เล่นกับหมามา (โทษทีน้อง พี่ชอบแมว) และน้องก็จะพิสูจน์ว่าเราแคร์น้องหรือไม่ด้วยการสร้างเรื่อง แล้วให้เราแสดงความเป็นห่วง (ตอนนั้น เราก็ห่วงจริงๆ แหละ เพราะน้องบอกว่ารู้สึกว่างเปล่า เราก็ให้กำลังใจไป)
เมื่อน้องมิจ แน่ใจแล้ว่าเราแคร์น้อง น้องก็ถามอีกว่า “พี่สนใจทำธุรกิจไหม ผมทำได้ พี่ก็ทำได้ มันเป็น Good opponity นะครับ” ตอนนี้ไอเราก็เริ่มไว้ใจแล้วไง เลยตอบว่า “ธุรกิจไรอะ” …. และนี้คือจุดเริ่มต้นของการหลอกกกกก
น้องบอกว่ามันเป็นธุรกิจ Dropship เราเป็นนาายหน้า รับorder จากลูกค้า และส่ง orderไปให้กับ maker โดยไม่ต้องมีstock maker จะส่งของให้ลูกค้าเลย ไอเราก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าในธุรกิจออนไลน์มันมีแบบด้วยเหรอ ซึ่งมีแฮะ!
เราได้บอกเงื่อนไขกับน้องมิจว่า เราจะลองทำดู แต่เราจะเลิกทำเมื่อไหร่ก็ได้ และเธอหามาเร่งรัดพี่นะจ๊ะ และเธอยืนยันกับฉันสิว่าเธอไม่ใช่ scamer — น้องก็ OK กับเงื่อนไขเรา
แต่ไม่ยืนยันเรื่อง scamer น้องก็ทำเป็นโหโมว่า นี่เธอคิดว่าฉันเป็น scammer เหรอ! (ก็ใช่สิยะ!) แต่เราบอกน้องว่า “Just say you are not scammer” … ในสุดน้องก็บอกว่า “no I’m not scammer” (น้องงงงง แกโกหกฉัน แกเป็น scammer ค่ะะะะะ!! - ถึงเราบังคับให้น้องพูดก็เถอะ)
จากนั้นน้องส่งลิงค์ให้เรา —- เราไม่คลิ๊กลิงค์ แต่ขอ คีย์เวิร์ด จากน้องแทน (กะจะเอาไปเสิร์จในgoogle) — แต่น้องบอกว่าไม่มีคีย์เวิร์ืด มีแต่ link — ไอเราก็เอาละ มันแปลกๆ — เราถาม ทำไมไม่ทำเป็นแอพฯ น้องบอกว่า แอพฯ มันจะมีข้อจำกัด ทำบนเว็บจะได้ทั้ง IOS และ Android (ก็เข้าใจได้…มั้ง) และน้องมีวิธีพูดให้เราเชื่อว่ามันปลอดภัย
เราเลยย้ายมาทำบน iPad อย่างน้อยถ้าโดยแฮก iPad ก็ไม่มีแอพธนาคาร — ด้วยความที่เราย้ายมาทำบน iPad เราเลยได้อ่าน url ซึ่ง url มันไม่ใช่ชื่อของเว็บofficial!! (ไม่ขอบอกนะว่าเว็บเขียนไง) เราก็ถามว่าurlนี้ถูกแล้วเหรอ พี่ขอเข้าผ่านweb official ได้ไหมจ๊ะ — น้องบอกว่า url นี้แหละ ประมาณรว่ามันเป็นเว็บ official อีกserverหนึ่ง — เอาละ หลาายเอ๊ะแล้วนะ แต่เพื่อนๆ คนมันหลง ผสมกับอยากลองด้วย ก็ลองเข้าเว็บสิ — ควาวมพินาทกำลังเริ่มต้นขึ้น!!
ระหว่างนี้ น้องมิจก็สอนการลงทะเบียน และการใช้งาานเว็บ พร้อมกับการหยอดคำพูดหวานๆ
โดยเว็บปลอมนี้มันให้เราลงทะเบียน และต้องแนบรูป บัตร ปชช ซึ่งในวันแรกเราแนบรูปไม่ผ่าน เราก็บอกน้องว่าไว้พรุ่งนี้ค่อยทำ ตอนแรกน้องไม่ยอม แต่ก็เราแนบรูปบัตร ปชช ไม่ผ่านไง และเราก็ขี้เกียจแล้ว ก็พูดจนน้องยอมแหละ — เมื่อถึงอีกวัน น้องก็มาตามให้ลงทะเบียนต่อ (น้องคงร้อนรนแล้วหละ) โดยครั้งนี้เราเอาบัตรไปถ่ายเอกสารเป็นกระดาษ เซ็นกกำกับและบอกว่าใช้สำหรับสมัครเว็บ…เท่านั้น (ก็ยังไม่ไว้ใจเว็บนี้แหละ แต่นั่นแหละ คนมันหลง ผสมความอยากรู้) — แนบครั้งนี้ ผ่าน! ก็ใส่เบอร์โทร อีเมล ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ และรหัสผู้แนะนำ ซึ่งก็คือรหัสของน้องมิจนี้แหละ
เมื่อลงทะเบียนเสร็จ ก็เริ่มเลือกของที่จะขาย ต้องเลือก 20 รายการ — น้องมิจแนะนำให้ขาย พวกโทรศัพท์มือถือ แต่เราไม่ชอบ เลยไปเลือกของอย่างอื่น (ดีนะ ไม่เลือกมือถือ ทำไมน่ะเหรอ เดี๋ยวรอดูต่อไป หึๆ)
จากนั้น เราต้องเติมเงินเข้าไปในwallet account เรา เพื่อเป็นเงินทุน โดยน้องมิจให้เราเอาเงินไปซื้อ USTD ผ่านแอพฯ OKX (ใช้แอพฯน่าเชื่อถือซะด้วย!) และเอา USTD ไปเปลี่ยนเป็น TRC20 โอนเข้า wallet ในเว็บปลอม (log in เป็นaccount เรา)
จากนั้นไม่นาน ก็มีคนมาซื้อของเรา ครั้งแรกก็รับออรเดอร์ และส่งต่อorder+จ่ายเงินให้maker และเมื่อลูกค้าได้ของ เราก็จะได้เงินกลับมากำไรประมาณ 7เปอร์ืเซ็น (ใช้เวลา 3-4 วัน ในการาทำให้ order complete)
แต่ต่อมา ลูกค้าเริ่มซื้อของเยอะขึ้น และซื้อครั้งละ 10 ชิ้น-200ชิ้น ต่อให้เราขาายของราคาถูก แต่ถ้าorderทีละหลาายชิ้น มันก็ใช้เงินเยอะ ซึ่งเราเองก็เกิด panic ละ เพราะ order มันเยอะมาก เงินที่เราเติมไว้ไม่พอ เราจึงคุยกับ admin ของเว็บ เพื่อขอเปลี่ยนประเภทสินค้าที่ขาย แต่ admin บอกว่าเราต้องเคลียร์ orderที่ค้างก่อน!!! เราก็เติมเงินเข้าสิคะ ราวๆ 50,000 บาท คิดว่าคงพอแหละ (และเราก็ไปว่าน้องมิจว่า "ทำไมไม่บอกพี่ว่าลูกค้าจะซื้อเยอะขนาดนี้ พี่ไม่มีเงินหรอนะ” แต่น้องมิจก็ขอโทษและอธิบายว่าเป็นการขายส่ง แบบ resales นู่นนี่นั่น และปิดท้ายว่า “พี่ต้องเติมเงิน 300,000 บาท แล้วเดี๋ยวธุรกิจมันจะ flow เอง” จะบ้าเหรอ! เราไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอกนะ เราเลยต่อรองว่า ค่อยๆ เติมละกัน เพราะเราไม่มีเงิน) เมื่อเครียร์ออเดอร์ได้ เรารีบเปลี่ยนสินค้าให้เป็นของถูกๆ แม้ว่าเราจะไม่ได้ชอบสินค้านั้น ซึ่งเราต้องเลือกสินค้าที่จะขายให้ครบ 20 รายการด้วย!! (เอากับมันซี) นี่แหละดีนะที่เราไม่เลือกพวกมือถือ บ้าบอ!
จากนั้น Order ก็มีเข้ามาไม่หยุด ไอน้องมิจก็ไซโค ให้เติมเงินเข้าไป เราตัดสินใจถอนเงินเก็บมา 100,000 แล้ว เติมเข้าไปในwallet เพราะคิดว่าเงินทุนเยอะขนาดนี้ น่าจะพอได้แล้วนะ
ปรากฏว่า ไม่พอ! order ที่completed แล้วก็ถอนเงินออกมาไม่ได้ เพราะ ยังมีorder ค้างอยู่ เราเกิด panic มาก จนต้องสารภาพ และปรึกษาพี่สาวว่าจะเอาไงดี เติมเงินเข้าไปอีกดีไหม — เราต้องขอบคุณพี่สาวมากๆๆๆๆๆๆๆ ที่ทำให้เรามีสติมากขึ้น และบอกว่าไม่ต้องเติมแล้ว และให้ไปต่อรองกับ admin
เราต่อรองกับadmin ว่า
- ขอขถอนเงินจาก orderที่completeมา จะได้เป็นทุน —ไม่ได้
- ขอให้admin จัดการเงินจาก order ที่complete แล้วไปรับorderแทน — ไม่ได้
- โอนorderไม่ไปให้ผุ้ขายเจ้าอื่น — ไม่ได้
- ปิดร้านไปเลย — ไม่ได้จนหว่าจะเคลียร์order ทั้งหมด
Admin ช่วยอะไรไม่ได้เลย นอกจาจะ แนะนำให้เคลียร์ order อย่างเดียว (บ้าจริงเชียว)
เมื่อเราไม่เคลียร์order ใน2วัน ร้านของเราก็จะถูกแบน และน้องมิจก็มากดดัน (และเริ่มหยาบคาย) ว่า ร้านของน้องก็ถูกบนไปด้วย ให้ไปจัดการร้านซะ (น้องบอกให้ไปยืมเงินเพื่อนหรือใครก็ได้ —- แหนะ! ดูมัน!!!!!) และที่น่ากลัวมากกกกกก คือน้องเสนอให้ยืมเงินจำนวนครึ่งหนึ่งของยอด order ที่ค้าง แต่เเราไม่เอาเพราะ เราไม่อยากยืมเงินใคร (จริงๆ เราก็เริ่มได้กลิ่นตุๆแล้วล่ะ)
ตอนนี้เราเกิดความเครียด และ panic ขั้นสุด เพราะเป็นกังวลทั้งorder ที่ยังค้าง และร้านของน้องมิจที่ถูกแบนเพราะเรา…
ในที่สุดเราเครียดมาก จนไปโพสหาวิธีการใน พันธ์ทิพย์ …. เท่านั้นแหละ!!!! ทุกความเห็นเป็นเสียงเดียวกัน — ถูกหลอกแล้วคร้านบบบบบบ
และเราก็เริ่มไปเสิร์จ และทำให้รู้จัก การหลอกให้ “กดรรับภาระกิจ” รูปแบบมันเหมือนกันเลย!!!
มันเจ็บปวดนะ แต่เป็นการปล็ดล็อค เราสบายใจขึ้น เพราะสิ่งที่เกิดคือเราถูกหลอก เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน (นอกจากตัวเอง)
จากนั้น เราก็วางเฉย ไม่เติมเงิน คุยกับน้องมิจน้อยลง แต่น้องยังคอยกดดัน พูดดีบ้าง (ยังเสนอให้ยืมเงิน โดยอ้างว่า “เพราะผมเชื่อใจพี่”) หยาาบคายบ้าง (น้องบอกว่า เธอคือหนึ่งในคนที่ฉันเกลียด)
ในที่สุดยอด เรารู้สึก ปสด กับน้อองมากกกกก เลยถาม Aadmin ว่าถ้าฉันไม่เคลียร์order มันจะยังไง — admin ตอบว่า ระบบจะนำเงินที่เป็นรายได้ของเรา (เงินจาก order ที่ complete แล้ว) ไปบริจาค เราก็บอกว่า OK งั้นฉันขอให้คุณเอาเงินไปบริจาคที่…. (เราบอกชื่อมูลนิธิ 2-3 แห่งในไทยไป) และขอใบเสร็จหรือหลักฐบานด้วยนะ ทางAadim ตอบกลับมาว่า … “OK” (แต่ก็แอบสงสัยว่า admin จะทำไงกับorderที่ค้างนะ แต่ขี้เกียวจถามละ เพราะเราก็กวนประสาทเขาไปเยอะอยู่) และเราก็ไปบอกกับน้องมิจว่าเราให้ระบบเอาเงินไปบริจาคละ น้องมิจตอบกลับมาว่า “เธอน่ะ ตัดสินใจผิดแล้ว เจอกันในศาล!” (เสียดายน้องพิมพ์ภาษาอังกฤษ ไม่งั้น เราคงบอกว่าศาลไหน ศาลพระภูมิ? หรือศาลไคฟงดี?)
ตอนแรกก็แอบกังวลนะว่า เราจะถูกฟ้องไหมนะ แต่มาคิดๆ ฟ้องก็ฟ้องดิ เราเป็นผู้เสียหาายนะเฟ่ย!!
จากนั้น เราได้report ต่อ official ของเว็บนั้น ทั้งofficial Thailand และ Singapore เพื่อให้เราทราบว่าเว็บเขาถูกแอบอ้างนะ เขาจะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ (เราส่ง link ให้เขาด้วย) ซึ่ง admin official สิงคโปร์ น่ารักมาก เขาแจ้งว่า เขาเสียใจ เขาไม่สามารถดึงเงินคืนมาได้ (แหงอยู่แล้ว อันนี้เราเข้าใจ) แต่เขาจะประสาานงาานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเขาแนะนำให้เรา ไปreport ในอีกเว็บ โดดยเขาส่งlink สำหรับการreport website ปลอมมาให้ และเราก็ทำการreport ไปละ (แต่คิดว่า น่าจะไล่ปิดไม่หวาดไม่ไหวหรอก เพราะมีหลาายlink —น้องมิจเคยส่งมาให้ตอนนี้เข้าlinkแรกไม่ได้ แถมเราเอาlink ไปเช็ค IP address ละ มันถูกสร้างมาจากหลายที่แฮะ ทั้งฮอ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมถึงไทยด้วย!)
ต่อมาเราไปแจ้งความออนไลน์ แต่ไม่ได้ไปรายงานที่ สน (เราไม่มีรถ เดินทางไม่สะดวก) คำร้องเลยถูกยกเลิก แต่คิดว่า อย่างน้อยก็มีข้อมูลค้างในฐานข้อมูลบ้างล่ะ
เราไปแจ้งทำบัตร ปชช ใหม่ โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าบัตรเก่าได้ส่งไปให้มิจฉาชีพ และเอาไปอัพเดทกับธนาคาร โดยให้เหตุผลเดียวกัน
ตอนนี้เราคงทำได้เท่านี้ เราไม่ได้หวังจะได้เงินคืน แต่หวังว่าน้องมิจจะได้รับกรรมอะไรซักอย่าง
จากเหตุการณ์นี้ ส่งผลกระทบต่อ cash flow ของเรา และทำให้เกิด trigger เมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ และการโทษความโง่ของตัวเอง แต่เราเชื่อว่าเวลาจะช่วยให้เราดีขึ้นได้ ;)
*******ข้อระวัง คือ น้องมิจจะไซโคคุณอย่างหนัก ถ้าคุณไม่มีเงิน น้องจะให้คุณไปยืมเงินใครก็้ได้ และที่น่ากลัวสุด คือ น้องมิจจะให้คุณยืมเงิน อย่ารับข้อเสนอโดดยเด็ดขาด!!!!!!!! เพราะมันจะทำให้คุณรเป็นหนี้จริงๆ โดยที่คุณจะไม่ใช้เงินนั้นด้วยซ้ำ******
ท้ายนี้ ข้อคิดที่ได้ คือ อย่างเอาตัวเองไปเสี่ยงงงงงง
และเพื่อนๆที่เคยถูกหลอก หรือกำลังอยู่ในสถานการณ์นี้ เราเข้าใจพวกคุณ เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก พวกเราไม่ได้ทำผิด พวกเราคือผู้เสียหาย!!!! ขอให้พวกเราก้าวข้ามเหตุการณ์แย่ๆ เหล่านี้ไปได้