คุณเป็นไหมครับ ที่ถ้าหากเคยกินอาหารเมนูใดจากร้านหรือฝีมือใครที่อร่อยสุดๆ ไปแล้ว… จะรู้สึกไม่อยากกินเมนูนั้นของร้านอื่นหรือของคนทำคนอื่นอีก
หรือ แบบที่ "เยอะ" น้อยลงมาหน่อย ก็คือ กินเมนูนั้นที่อื่นก็ได้ แบบว่าอยากลองดู แล้วพบว่าสู้ที่คุณเคยติดใจมากๆ นั้นไม่ได้สักที่ แต่ก็ไม่เป็นไรนึกซะว่ากินแก้ขัดไปก่อน
ยกตัวอย่างแบบชัดๆ ละกัน
ส่วนตัวผมเป็นตามที่ว่ามา แต่เป็นเฉพาะกับอาหารบางอย่างที่เคยไปกินที่มันอร่อยจริงๆ จนจำรสชาติและความประทับใจนั้นได้
เช่น เทมปุระ เคยกินที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ตอนนั้นมีคนญี่ปุ่นพาไปกิน (ร้านในกทม. นี่แหละ)
วันนั้นคนที่พาไป บอกพนักงานเลยขอนั่งเคาน์เตอร์ ซึ่งมีที่ว่างเหลืออยู่พอดี นอกนั้นเต็มไปด้วยคนญี่ปุ่นคนอื่นที่มานั่งเคาน์เตอร์อยู่แล้ว
และคนพาไป (เป็นคนเลี้ยงมื้อนั้นด้วยแหละ) ก็สั่งเทมปุระ และเมนูอื่นด้วย
พบว่า พ่อครัวทำสดๆ ให้ดูตรงนั้นเลย ที่นั่งตรงเคาน์เตอร์จะเห็นการทำอาหารส่วนที่เป้นการทอดเทมปุระ และการหั่นซาชิมิกับการปั้นซูชิ
วันนั้นผมได้ลองกินหมดทั้งสามอย่าง แต่ประทับใจเทมปุระที่สุด มันลงตัวไปหมดทั้งความสด หวานของเนื้อกุ้ง ความกรอบของแป้งที่ไม่ได้ชุบหนาเลย ความอร่อยกลมกล่อมของน้ำจิ้ม ที่มีหัวไชเท้าฝอยผสมอยู่ด้วย
แล้วพอวันหลัง ไปกินเทมปุระที่ร้านอื่น ก็พบว่าไม่อร่อยเลย
แอบเซ็งอยู่เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น ผมก็กินเทมปุระได้อร่อยทุกร้านที่เคยไปนะ
และอีกประเด็นคือ ผมมีโอกาสได้ไปกินร้านนั้นอีกหลายครั้ง ก็พบว่ายังชอบเทมปุระของเขาอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แปลว่า มันไม่ใช่แค่ความประทับใจครั้งแรกที่ทำให้คิดว่ามันอร่อย แต่เป็นเพราะอร่อยจริงๆ
ประมาณนี้อะครับ
(ส่วนซาชิมิกับซูชิที่กินที่ร้านนั้นในมื้อเดียวกันนั่น ไม่ได้ถึงกับทำให้เกิดอาการแบบเทมปุระนี่แฮะ แต่ก็พอกินรู้เรื่องอยู่นะว่าเนื้อปลาดีมากๆ แตกต่างจากซาชิมิที่ผมกินในบุฟเฟต์บ่อยๆ)
คุณเป็นไหมครับ ที่ถ้าหากเคยกินอาหารเมนูใดจากร้านหรือฝีมือใครที่อร่อยสุดๆ ไปแล้ว…
หรือ แบบที่ "เยอะ" น้อยลงมาหน่อย ก็คือ กินเมนูนั้นที่อื่นก็ได้ แบบว่าอยากลองดู แล้วพบว่าสู้ที่คุณเคยติดใจมากๆ นั้นไม่ได้สักที่ แต่ก็ไม่เป็นไรนึกซะว่ากินแก้ขัดไปก่อน
ยกตัวอย่างแบบชัดๆ ละกัน
ส่วนตัวผมเป็นตามที่ว่ามา แต่เป็นเฉพาะกับอาหารบางอย่างที่เคยไปกินที่มันอร่อยจริงๆ จนจำรสชาติและความประทับใจนั้นได้
เช่น เทมปุระ เคยกินที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ตอนนั้นมีคนญี่ปุ่นพาไปกิน (ร้านในกทม. นี่แหละ)
วันนั้นคนที่พาไป บอกพนักงานเลยขอนั่งเคาน์เตอร์ ซึ่งมีที่ว่างเหลืออยู่พอดี นอกนั้นเต็มไปด้วยคนญี่ปุ่นคนอื่นที่มานั่งเคาน์เตอร์อยู่แล้ว
และคนพาไป (เป็นคนเลี้ยงมื้อนั้นด้วยแหละ) ก็สั่งเทมปุระ และเมนูอื่นด้วย
พบว่า พ่อครัวทำสดๆ ให้ดูตรงนั้นเลย ที่นั่งตรงเคาน์เตอร์จะเห็นการทำอาหารส่วนที่เป้นการทอดเทมปุระ และการหั่นซาชิมิกับการปั้นซูชิ
วันนั้นผมได้ลองกินหมดทั้งสามอย่าง แต่ประทับใจเทมปุระที่สุด มันลงตัวไปหมดทั้งความสด หวานของเนื้อกุ้ง ความกรอบของแป้งที่ไม่ได้ชุบหนาเลย ความอร่อยกลมกล่อมของน้ำจิ้ม ที่มีหัวไชเท้าฝอยผสมอยู่ด้วย
แล้วพอวันหลัง ไปกินเทมปุระที่ร้านอื่น ก็พบว่าไม่อร่อยเลย
แอบเซ็งอยู่เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น ผมก็กินเทมปุระได้อร่อยทุกร้านที่เคยไปนะ
และอีกประเด็นคือ ผมมีโอกาสได้ไปกินร้านนั้นอีกหลายครั้ง ก็พบว่ายังชอบเทมปุระของเขาอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แปลว่า มันไม่ใช่แค่ความประทับใจครั้งแรกที่ทำให้คิดว่ามันอร่อย แต่เป็นเพราะอร่อยจริงๆ
ประมาณนี้อะครับ
(ส่วนซาชิมิกับซูชิที่กินที่ร้านนั้นในมื้อเดียวกันนั่น ไม่ได้ถึงกับทำให้เกิดอาการแบบเทมปุระนี่แฮะ แต่ก็พอกินรู้เรื่องอยู่นะว่าเนื้อปลาดีมากๆ แตกต่างจากซาชิมิที่ผมกินในบุฟเฟต์บ่อยๆ)