ในช่วงระหว่างเราอยู่ม.ต้น เราได้รู้จักเพื่อนคนนึง ปกติเราไม่ค่อยพูดคำหยาบเลย แต่พอได้พูดกับนางก็ต้องปรับตัวให้เข้ากันค่ะ สมัยม.ต้นตอนพักเที่ยงนางยังกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนๆนางสมัยประถมที่อยู่คนละห้องอยู่ พอได้สนิทกับนางมากขึ้น นางก็ได้มาทานข้าวกับเราทุกวันแทน จนกระทั่งในช่วงเรียนออนไลน์ ม.2 เราเล่นเกมด้วยกันทุกวันเลยและคุยกันในแชทบ่อยจนทำให้สนิทกันมากขึ้นมันทำให้เรารักเพื่อนคนนี้มาก แต่มีครั้งนึงก่อนขึ้น ม.2 นางบอกว่านางจะย้ายโรงเรียนแล้ว เราก็เสียใจมาก แต่นางก็คอยถามอยู่ว่าถ้าย้ายไปจะเล่นกับใคร เราก็ตอบไม่ได้เพราะเรามีแค่นาง พอผลได้สรุปนางไม่ได้ย้ายโรงเรียนเพราะเหมือนไม่ตามเงื่อนไขการรับ แล้วนางได้บอกกับเราว่า ไปยื่นโรงเรียนของอำเภอไว้ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เราใฝ่ฝันอยากจะเข้ามาตลอดแต่ตอนนั้นเราสอบไม่ติดค่ะ แต่เราก็ทั้งดีใจที่นางได้มีโอกาสที่จะได้เข้าแต่ก็รู้สึกแอบตกใจที่ทำไมไม่บอกเรื่องโรงเรียนกันบ้าง เพราะเราไม่รู้เลยว่านางจะเข้าโรงเรียนที่เราใฝ่ฝัน ....
พอเวลาผ่านมาช่วง ม.3 โรงเรียนนั้นที่เราใฝ่ฝันได้มีโอกาสรับนักเรียนย้านโอน เราก็ดีใจมาก เพราะเป็นโรงเรียนที่เราใฝ่ฝันมาตลอด (จริงๆร้องไห้ทุกวันที่ตัวเองเคยสอบเข้าไม่ติด และฝันเห็นเพื่อนที่สอบติดโรงเรียนนั้นทุกวันเลย) เราก็ไก็ไปสอบสัมภาษณ์และเตรียมทุกอย่างมาดีเพื่อความฝันเลย (แต่เราก็ยังไม่ได้บอกนางนะ) เพราะยังไม่มั่นใจจะติดจริงๆไหม แต่ครูที่โรงเรียนนั้นประทับใจเราตอนสมัครมากๆเลย เพราะเราได้แนะนำตัวเองกับครู และได้บอกประสบการณ์ว่าเคยเป็นคนพูดหน้าเสาธงหน้าโรงเรียนทุกวัน (แต่เวลาออกไปพูด...ชั้นรู้สึกปวดท้องทันทีเลย5555เพราะแอบขำเพื่อนด้านหน้าตัวเองตอนไปพูด) และเราก็ได้ร้องเพลงโรงเรียนตัวเองให้ครูฟัง จนถึงวันที่เขาประกาศผลจริงๆ เราเทียบย้ายโอนติดค่ะ! รู้สึกประทับใจที่เรายังไม่ยอมแพ้กับเป้าหมาย!! (แต่ประถมเรายังเกรดแย่มาก พอม.ต้นแล้ว ได้ขยันขึ้นจนเกรดดี)
พอเพื่อนเราได้รู้ก็รู้สึกเสียใจที่เราจะไปค่ะ แต่เราก็หาคำพูดไม่เก่งด้วย นางบอกว่าอยากจะล่ามโซ่เราเอาไว้ เราก็ขำๆค่ะ55 คิดว่านางน่าจะพูดเล่นแหละ
พอม.3 เราได้ย้ายไปโรงเรียนใหม่ตอนแรกๆยังทำตัวไม่ถูก แต่พอจะมีเพื่อนเราที่เคยสอบติดให้การแนะนำอยู่บ้าง ก็ดีมากเลย ม.3 รู้สึกว่าสังคมที่โรงเรียนนั้นน่ารักมากๆเลยทั้งครูทั้งเพื่อนๆ ตอนนี้ก็ยังน่ารักไม่เปลี่ยน เราไม่กล้าคุยกับใครเลยพอย้ายไปใหม่ พูดน้อยและไม่พูดหยาบสักคำ
แต่เราก็รู้สึกว่าไม่ค่อยอยากไปเรียนเท่าไหร่เพราะรู้สึกไม่สนิทกับใครในห้องเลย แต่มีเพื่อนกลุ่มนึงก็ได้มารู้จักกับเรา ทุกคนเฟรนลี่มากๆๆๆ! เรารู้สึกอยากจะขอบคุณพวกเขาเลย
แต่เรายังคุยกับเพื่อนเก่าคนนั้นทุกวันค่ะ ให้นางเป็นนามสมมุติ "แพน" แล้วกัน
เรายังรู้สึกเหงาเพราะอยู่กับเพื่อนใหม่เราเรียบร้อยมาก ทำตัวแปกไม่ถูกแต่อยู่กับแพนจะสบายใจมาก ทุกวันเราจะคุยกับแพน แพนก็ยังอยู่โรงเรียนเก่าอยู่ และแพนก็ได้มีเพื่อนใหม่ในห้องแล้ว เราก็รู้สึกสบายใจมาก
ขอข้ามมาช่วงสอบเข้าม.4 เลยนะคะ
ม.4 เราสอบได้โควต้าห้องญี่ปุ่นจริงๆอยากเข้าวิทย์เพราะเหมือนครอบครัวอยากให้เข้ามากกว่า แต่พอคุยกับครอบครัวเขาก็เข้าใจเราค่ะ ช่วงสอบเข้า เราช่วยทุกอย่างกับแพนเลย บอกแนวข้อสอบที่เราเคยสอบมาแล้ว ว่ามันจะออกจุดไหนบ้าง แล้วก็แนะนำครูที่สอนติวด้วย แต่ก็ส่งให้เพื่อนอีกคนนึงด้วยที่นางจะมาสอบ นางอยู่โรงเรียนเดียวกับแพน นามสมมุตินางชื่อ "กวา" เรารู้จักนางสมัยอยู่รร.เก่าแต่ยังไม่สนิทกันมากเพราะอยู่คนละห้อง เราก็ได้ส่งแนวให้กวา แต่ส่งให้แพนเยอะมากกว่า เราก็ได้ขอพรพระที่โรงเรียนไว้ให้ทั้งสองสอบติด ซึ่งพระที่โรงเรียนนี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆ
พอวันผลได้ประกาศสอบ ทั้งสองสอบติดค่ะ ตอนแรกๆเหมือนแพนจะไม่ได้ แต่ทั้งสองได้เพราะติดสำรอง แล้วเขารับค่ะ เราดีใจแล้วร้องไห้ออกมาที่แพนสอบติด "ทำไมเราถึงให้ใจกับเพื่อนไปหมดขนาดนี้?"
พอเราได้มาเรียนห้องเดียวกันในสายญี่ปุ่น เราก็ตื่นเต้นมาก กวาเป็นคนที่น่ารักเอาใจใส่ คอยถามความรู้สึกเราตลอด แตกต่างกับแพนที่ไม่เคยถามเราเลย เราไม่ได้พูดคำหยาบกับกวาเลย เราเรียกคุณแทน แต่อยู่กับแพนมันต้องพูดหยาบเพราะเดี๋ยวนางไม่ชิน ทีนี้มันทำให้เราเผลอพูดกับกวา สรุปแล้วพูดหยาบกันหมดเลย555 แต่จริงๆเราไม่ค่อยอยากพูดหยาบบ่อยเท่าไหร่
พอเราใช้เวลาอยู่กับกวามากขึ้น กวาเป็นคนที่เอาใจใส่เราจริงๆ เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองตลอด มีช่วงนึงที่มันทำให้เรารู้ว่านางใส่ใจเรามาก เราเคยกินอึ่ง555แล้วปวดหัวลำไส้ปั่นป่วน ตอนนั้นก่อนเราจะปวดหนักเรา ต้องการไปห้องพยาบาล เลยให้กวาพาไป เพราะรู้สึกว่านางคอยใส่ใจเราจริงๆ เราได้เป็นลมต่อหน้านางแล้วตอนนั้นนางตกใจมากทำอะไรไม่ถูกใช้น่องรองหัวเราไว้เพราะกลัวหัวเราจะกระแทกกับพื้น😭 นางรนมากทำไรไม่ถูกตอนนั้นเราก็บอกว่าให้ตามคนมาช่วย นางรีบตามตะโกนให้คนมาช่วยเลย เรารู้สึกรักนางมากเลย พอเราอยู่ห้องพยาบาลแล้วนางก็ไม่ทิ้งเราเลย ไปซื้อโจ๊กมาให้ทานด้วย พอเราเริ่มหายดีนางแน่ใจแล้วก็เลยไปเรียนต่อ! พอพักเที่ยงกวาก็พาแพนมาเยี่ยมเรา^^ )
เราได้เป็นเพื่อนกับกวามาเรื่อยๆ ในกลุ่มเราตอนนี้มี 4 คนค่ะ กวา,แพน,แล้วก็เพื่อนอีก 1 คนนางน่ารักมาก นามสมมุติว่า "ข้าว"แล้วกัน ข้าวนางเป็นผู้ใหญ่มากๆอ่อนโยนคิดบวกด้วย แต่เราไม่ค่อยได้คุยกับนางมากแต่ไปไหนด้วยกันน
จะเล่าถึงเรื่องที่เริ่มเปลี่ยนไปแล้วค่ะ กวาเริ่มสังเกตุว่าแพนไม่อยากให้เราสนิทกับกวามากขึ้นแต่เราก็ไม่ได้มองว่าเป็นแบบนั้น แต่พอได้ถึงจุดเปลี่ยนจริงๆ เราได้รู้สึกสังเกตุแพนบ่อยๆ แพนไม่ได้ใส่ใจเราเหมือนที่เราใส่ใจแพนเลยจริงๆ ตอนนั้นมันเลยทำให้เราได้คุยกับกวา กวาก็บอกว่าให้ทดสอบเพื่อนดูว่า ลองไม่คุยกันกับ แพนจะทำยังไง (ทดสอบเพื่อน) เราก็เลยลองแต่แย่กว่าเดิมคือ แพนทำตัวไม่ถูก แล้วแพนไปบอกกับกวาไง กวาบอกทุกอย่างหมดเลย....คือเรา.....อึ้งนะ....แล้วทีนี้เราต้องเป็นฝ่ายขอโทษแพน......ก่อนที่เราจะทำแบบนี้ เราแอบร้องไห้เพราะแพนหลายรอบแล้วว่าเราทำแบบนี้ไม่ลงหรอกเพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน แต่พอได้คืนดีกับแพน แพนก็ร้องไห้...
พอผ่านไปเรื่อยๆ เราเผลอกดดันแพนว่า แพนมาโรงเรียนนี้เพื่อเต้นโคฟเวอร์แด้นซ์ เราแค่อยากสนับสนุน เพราะแพนเคยบอกเราว่าอยากมาโรงเรียนนี้เพราะอยากเต้น เราก็เผลอไปหาโอกาสให้นาง แต่นางไม่มั่นใจในตัวเองมากเลยไม่ฟังเรา แล้วก็นางไม่ชอบที่เรามาแนะนำเรื่องการเข้าสังคม ซึ่งเราเป็นคนผิดเองเพราะว่า พอคุยกับกวาแล้วกวาก็บอกว่าแพนมีความคิดเป็นของตัวเองแล้วเราจะมาบังคับไม่ได้ เราก็โอเคฟังกวานะ
แต่มีช่วงนี้ที่ทำให้เราเจ็บเลย แพนเอาเราไปเปรียบเทียบกับตัวละครตัวร้ายในนิยายที่นางอ่านว่าเราเหมือนเขา และเราไทป์เดียวกับเขาเลย ....คือเราเสียใจนะที่เพื่อนที่เรารักที่สุดคิดกับเราแบบนี้จริงๆ
ทุกครั้งที่เราพูดให้นางไม่ถูกใจนางจะทำสีหน้าใส่เราแล้วหันไปที่กวา
เราไม่เคยพูดถึงเพื่อนแย่ๆมาก่อนเลย แต่พอได้รู้จักนางแล้วมันได้รู้ถึงนิสัยนางจริงๆ
มีเรื่องนึงที่สำคัญทำให้เราได้ตาสว่างเรื่องแพนในตอนนี้...... (จะเขียนกระทู้ถัดไปนะคะ)
มาเล่าประสบการณ์การมีเพื่อนในตอนนี้ค่ะ
พอเวลาผ่านมาช่วง ม.3 โรงเรียนนั้นที่เราใฝ่ฝันได้มีโอกาสรับนักเรียนย้านโอน เราก็ดีใจมาก เพราะเป็นโรงเรียนที่เราใฝ่ฝันมาตลอด (จริงๆร้องไห้ทุกวันที่ตัวเองเคยสอบเข้าไม่ติด และฝันเห็นเพื่อนที่สอบติดโรงเรียนนั้นทุกวันเลย) เราก็ไก็ไปสอบสัมภาษณ์และเตรียมทุกอย่างมาดีเพื่อความฝันเลย (แต่เราก็ยังไม่ได้บอกนางนะ) เพราะยังไม่มั่นใจจะติดจริงๆไหม แต่ครูที่โรงเรียนนั้นประทับใจเราตอนสมัครมากๆเลย เพราะเราได้แนะนำตัวเองกับครู และได้บอกประสบการณ์ว่าเคยเป็นคนพูดหน้าเสาธงหน้าโรงเรียนทุกวัน (แต่เวลาออกไปพูด...ชั้นรู้สึกปวดท้องทันทีเลย5555เพราะแอบขำเพื่อนด้านหน้าตัวเองตอนไปพูด) และเราก็ได้ร้องเพลงโรงเรียนตัวเองให้ครูฟัง จนถึงวันที่เขาประกาศผลจริงๆ เราเทียบย้ายโอนติดค่ะ! รู้สึกประทับใจที่เรายังไม่ยอมแพ้กับเป้าหมาย!! (แต่ประถมเรายังเกรดแย่มาก พอม.ต้นแล้ว ได้ขยันขึ้นจนเกรดดี)
พอเพื่อนเราได้รู้ก็รู้สึกเสียใจที่เราจะไปค่ะ แต่เราก็หาคำพูดไม่เก่งด้วย นางบอกว่าอยากจะล่ามโซ่เราเอาไว้ เราก็ขำๆค่ะ55 คิดว่านางน่าจะพูดเล่นแหละ
พอม.3 เราได้ย้ายไปโรงเรียนใหม่ตอนแรกๆยังทำตัวไม่ถูก แต่พอจะมีเพื่อนเราที่เคยสอบติดให้การแนะนำอยู่บ้าง ก็ดีมากเลย ม.3 รู้สึกว่าสังคมที่โรงเรียนนั้นน่ารักมากๆเลยทั้งครูทั้งเพื่อนๆ ตอนนี้ก็ยังน่ารักไม่เปลี่ยน เราไม่กล้าคุยกับใครเลยพอย้ายไปใหม่ พูดน้อยและไม่พูดหยาบสักคำ
แต่เราก็รู้สึกว่าไม่ค่อยอยากไปเรียนเท่าไหร่เพราะรู้สึกไม่สนิทกับใครในห้องเลย แต่มีเพื่อนกลุ่มนึงก็ได้มารู้จักกับเรา ทุกคนเฟรนลี่มากๆๆๆ! เรารู้สึกอยากจะขอบคุณพวกเขาเลย
แต่เรายังคุยกับเพื่อนเก่าคนนั้นทุกวันค่ะ ให้นางเป็นนามสมมุติ "แพน" แล้วกัน
เรายังรู้สึกเหงาเพราะอยู่กับเพื่อนใหม่เราเรียบร้อยมาก ทำตัวแปกไม่ถูกแต่อยู่กับแพนจะสบายใจมาก ทุกวันเราจะคุยกับแพน แพนก็ยังอยู่โรงเรียนเก่าอยู่ และแพนก็ได้มีเพื่อนใหม่ในห้องแล้ว เราก็รู้สึกสบายใจมาก
ขอข้ามมาช่วงสอบเข้าม.4 เลยนะคะ
ม.4 เราสอบได้โควต้าห้องญี่ปุ่นจริงๆอยากเข้าวิทย์เพราะเหมือนครอบครัวอยากให้เข้ามากกว่า แต่พอคุยกับครอบครัวเขาก็เข้าใจเราค่ะ ช่วงสอบเข้า เราช่วยทุกอย่างกับแพนเลย บอกแนวข้อสอบที่เราเคยสอบมาแล้ว ว่ามันจะออกจุดไหนบ้าง แล้วก็แนะนำครูที่สอนติวด้วย แต่ก็ส่งให้เพื่อนอีกคนนึงด้วยที่นางจะมาสอบ นางอยู่โรงเรียนเดียวกับแพน นามสมมุตินางชื่อ "กวา" เรารู้จักนางสมัยอยู่รร.เก่าแต่ยังไม่สนิทกันมากเพราะอยู่คนละห้อง เราก็ได้ส่งแนวให้กวา แต่ส่งให้แพนเยอะมากกว่า เราก็ได้ขอพรพระที่โรงเรียนไว้ให้ทั้งสองสอบติด ซึ่งพระที่โรงเรียนนี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆ
พอวันผลได้ประกาศสอบ ทั้งสองสอบติดค่ะ ตอนแรกๆเหมือนแพนจะไม่ได้ แต่ทั้งสองได้เพราะติดสำรอง แล้วเขารับค่ะ เราดีใจแล้วร้องไห้ออกมาที่แพนสอบติด "ทำไมเราถึงให้ใจกับเพื่อนไปหมดขนาดนี้?"
พอเราได้มาเรียนห้องเดียวกันในสายญี่ปุ่น เราก็ตื่นเต้นมาก กวาเป็นคนที่น่ารักเอาใจใส่ คอยถามความรู้สึกเราตลอด แตกต่างกับแพนที่ไม่เคยถามเราเลย เราไม่ได้พูดคำหยาบกับกวาเลย เราเรียกคุณแทน แต่อยู่กับแพนมันต้องพูดหยาบเพราะเดี๋ยวนางไม่ชิน ทีนี้มันทำให้เราเผลอพูดกับกวา สรุปแล้วพูดหยาบกันหมดเลย555 แต่จริงๆเราไม่ค่อยอยากพูดหยาบบ่อยเท่าไหร่
พอเราใช้เวลาอยู่กับกวามากขึ้น กวาเป็นคนที่เอาใจใส่เราจริงๆ เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองตลอด มีช่วงนึงที่มันทำให้เรารู้ว่านางใส่ใจเรามาก เราเคยกินอึ่ง555แล้วปวดหัวลำไส้ปั่นป่วน ตอนนั้นก่อนเราจะปวดหนักเรา ต้องการไปห้องพยาบาล เลยให้กวาพาไป เพราะรู้สึกว่านางคอยใส่ใจเราจริงๆ เราได้เป็นลมต่อหน้านางแล้วตอนนั้นนางตกใจมากทำอะไรไม่ถูกใช้น่องรองหัวเราไว้เพราะกลัวหัวเราจะกระแทกกับพื้น😭 นางรนมากทำไรไม่ถูกตอนนั้นเราก็บอกว่าให้ตามคนมาช่วย นางรีบตามตะโกนให้คนมาช่วยเลย เรารู้สึกรักนางมากเลย พอเราอยู่ห้องพยาบาลแล้วนางก็ไม่ทิ้งเราเลย ไปซื้อโจ๊กมาให้ทานด้วย พอเราเริ่มหายดีนางแน่ใจแล้วก็เลยไปเรียนต่อ! พอพักเที่ยงกวาก็พาแพนมาเยี่ยมเรา^^ )
เราได้เป็นเพื่อนกับกวามาเรื่อยๆ ในกลุ่มเราตอนนี้มี 4 คนค่ะ กวา,แพน,แล้วก็เพื่อนอีก 1 คนนางน่ารักมาก นามสมมุติว่า "ข้าว"แล้วกัน ข้าวนางเป็นผู้ใหญ่มากๆอ่อนโยนคิดบวกด้วย แต่เราไม่ค่อยได้คุยกับนางมากแต่ไปไหนด้วยกันน
จะเล่าถึงเรื่องที่เริ่มเปลี่ยนไปแล้วค่ะ กวาเริ่มสังเกตุว่าแพนไม่อยากให้เราสนิทกับกวามากขึ้นแต่เราก็ไม่ได้มองว่าเป็นแบบนั้น แต่พอได้ถึงจุดเปลี่ยนจริงๆ เราได้รู้สึกสังเกตุแพนบ่อยๆ แพนไม่ได้ใส่ใจเราเหมือนที่เราใส่ใจแพนเลยจริงๆ ตอนนั้นมันเลยทำให้เราได้คุยกับกวา กวาก็บอกว่าให้ทดสอบเพื่อนดูว่า ลองไม่คุยกันกับ แพนจะทำยังไง (ทดสอบเพื่อน) เราก็เลยลองแต่แย่กว่าเดิมคือ แพนทำตัวไม่ถูก แล้วแพนไปบอกกับกวาไง กวาบอกทุกอย่างหมดเลย....คือเรา.....อึ้งนะ....แล้วทีนี้เราต้องเป็นฝ่ายขอโทษแพน......ก่อนที่เราจะทำแบบนี้ เราแอบร้องไห้เพราะแพนหลายรอบแล้วว่าเราทำแบบนี้ไม่ลงหรอกเพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน แต่พอได้คืนดีกับแพน แพนก็ร้องไห้...
พอผ่านไปเรื่อยๆ เราเผลอกดดันแพนว่า แพนมาโรงเรียนนี้เพื่อเต้นโคฟเวอร์แด้นซ์ เราแค่อยากสนับสนุน เพราะแพนเคยบอกเราว่าอยากมาโรงเรียนนี้เพราะอยากเต้น เราก็เผลอไปหาโอกาสให้นาง แต่นางไม่มั่นใจในตัวเองมากเลยไม่ฟังเรา แล้วก็นางไม่ชอบที่เรามาแนะนำเรื่องการเข้าสังคม ซึ่งเราเป็นคนผิดเองเพราะว่า พอคุยกับกวาแล้วกวาก็บอกว่าแพนมีความคิดเป็นของตัวเองแล้วเราจะมาบังคับไม่ได้ เราก็โอเคฟังกวานะ
แต่มีช่วงนี้ที่ทำให้เราเจ็บเลย แพนเอาเราไปเปรียบเทียบกับตัวละครตัวร้ายในนิยายที่นางอ่านว่าเราเหมือนเขา และเราไทป์เดียวกับเขาเลย ....คือเราเสียใจนะที่เพื่อนที่เรารักที่สุดคิดกับเราแบบนี้จริงๆ
ทุกครั้งที่เราพูดให้นางไม่ถูกใจนางจะทำสีหน้าใส่เราแล้วหันไปที่กวา
เราไม่เคยพูดถึงเพื่อนแย่ๆมาก่อนเลย แต่พอได้รู้จักนางแล้วมันได้รู้ถึงนิสัยนางจริงๆ
มีเรื่องนึงที่สำคัญทำให้เราได้ตาสว่างเรื่องแพนในตอนนี้...... (จะเขียนกระทู้ถัดไปนะคะ)