เราขอขยายเพิ่มโดยใช้บทจากนิยายมาอธิบายให้ทุกคนได้อ่าน
1. ทำไมแม่แก้วแม่ปรางถึงสนิทกับพุดตาน
ฉากนี้หลายคนสงสัยว่าไปรู้จักการตอนไหนถึงชวนพุดตานไปตลาดแบบนั้น บางคนสงสัย ทำไมรู้ว่าพุดตานเป็นพี่
หลังจากที่พ่อริดบอกเรื่องพุดตานกับพ่อแม่ วันถัดมาคุณหญิงการะเกดก็ให้ผินกับแย้มไปเรียกพุดตานมาพบที่เรือน เมื่อพุดตานมาถึงเรือนเจอกับพระยาวิสูตรสาครเธอเห็นภาพบางอย่างซ้อนกันกับพระยาวิสูตรสาคร
(ฉากที่พุดตานเห็นชายผ้าเหลืองของพระเรืองฤทธิ์) จากนั้นริดพาพุดตานไปแนะนำกับคุณย่า คุณย่าเสนอให้มาอยู่ด้วยกันเพราะยังไงก็เป็นญาติกัน ริดรีบสนับสนุนแต่พุดตานปฏิเสธ แม้ริดจะไม่พอใจคำตอบ แต่เขาก็เดินตามหลังพุดตานไม่ห่าง จนย่าคิดว่าริดน่าจะชอบพุดตาน เพราะริดไม่ใช่คนจะมาเดินตามผู้หญิงแบบนี้
(ที่พุดตานตอบแม่กลิ่นว่าเขาชวนไปอยู่เรือนแต่ไม่ไป)
ซึ่งเป็นจังหวะที่แม่แก้วกับแม่ปราง ออกมาจากวังกลับบ้านมาพอดี เห็นแม่นั่งอยู่กับพุดตานก็เหล่ตามองพี่ชาย คุณหญิงการะเกดจึงแนะนำให้รู้จักกัน แต่แม่แก้วบอกว่าเคยเจอพุดตานแล้วที่ตลาด คุณหญิงการะเกดบอกแม่แก้วให้เรียกพุดตานว่าพี่
แม่แก้วแม่ปรางจึงเรียก พี่พุดตาน แต่พุดตานเกิดปีเดียวกันกับริด เป็นน้องริดแค่ไม่กี่เดือน คุณหญิงการะเกดจะให้พุดตานเรียก ริดว่า คุณพี่
ริดได้ยินแบบนั้นยิ้มนัยหน้าดีใจจะได้เป็นคุณพี่ แต่พุดตานไม่ชินก็เรียกคุณหมื่นเหมือนเดิม ริดเหย้าพุดตานว่า
ไม่น่าเชื่อว่าอายุน้อยกว่าเขาไม่ถึงปี พุดตานได้ทีก็บอกว่า
ตัวเองหน้าเด็ก ริดเหย้าไม่หยุดบอกว่า
ไม่น่าจะเด็กแค่หน้า เพราะอย่างอื่นก็ดูไม่โต พุดตานถามเคืองๆว่า
พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงท่านหมื่น ริดตอบแบบยิ้มแรงๆว่า
เขาหมายถึงตัว ตัวยังเล็ก เขายิ้มไม่เห็นฟันแต่แววตาพราวระยับ จนคุณหญิงการะเกดต้องห้ามทัพ เพราะลูกชายต่อล้อต่อเถียงผิดวิสัย
ซึ่งแม่และน้องสาวเห็นอาการของริดก็รู้ทันทีว่าริดชอบพุดตาน น้องสาวทั้ง 2 ขอตัวไปไหว้พ่อกับย่าและไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปตลาดและชวนพุดตานไปตลาดด้วยกัน (
เป็นที่มาว่าตอน Ep.16 พุดตานเรียกริดว่าคุณพี่ ริดถึงยิ้มแบบดีใจ)
เมื่อสบโอกาสคุณหญิงการะเกดก็ถามเรื่องครอบครัวกับพุดตาน โดยมีริด ผิน แย้ม นั่งอยู่ด้วย เมื่อรู้ความเป็นไปของครอบครัว คุณหญิงการะเกดก็สุขและทุกข์ในคราวเดียวกัน พุดตานแทบไม่เชื่อว่าเป็นญาติกับคุณหญิงการะเกด ริดเถียงว่า
เป็นญาติชาติที่แล้วแต่ชาตินี้ไม่ได้เป็นญาติกัน พุดตานไม่ยอมบอกว่า
ต้องมีเชื้อสายกันอยู่บ้างแหละหน้าถึงเหมือนกันแบบนี้ คุณหญิงการะเกดต้องห้ามทัพบอกว่า
ถ้านับญาติกันข้ามภาพคงนับกันไม่จบไม่สิ้น หยุดนับเถอะลูก คุณหญิงการะเกดเล่าเรื่องที่จับสมุดข่อยแล้วสลบไป โชคดีที่ได้สามีและปู่ของริดสวดเรียกวิญญาณกลับมาได้ ทำให้พุดตานเข้าใจว่าทำไมริดถึงเอาสมุดข่อยเล่มนั้นไปอยู่เมืองพิษณุโลก เพราะเขาเป็นห่วงแม่นั่นเอง
ริดถือโอกาสอธิบายว่าเขาก็ไม่อยากให้พุดตานพลัดที่นาคาที่อยู่แบบนี้ แต่เพราะมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมาย จึงอยากป้องกันไว้ก่อน พุดตานก็เข้าใจเหตุผลของริด
(จบประเด็นสมุดข่อย อันที่จริง ริดมีอีกเหตุผลแต่บอกไม่ได้)
หลังจากนั้นคุณหญิงการะเกด ผิน แย้มก็ไปเตรียมอาหาร ปล่อยริดกับพุดตานอยู่ด้วยกันตามลำพัง นั่งเจียนหมาก รอน้องๆ ริดเจียนหมากสวย พุดตานเอ่ยปากชมและบ่นว่าตัวเองทำไม่สวยเหมือนริด ริดบอกว่า ให้ฝึกไปเถอะ เดี๋ยวก็งาม การเว้นวรรคคำว่า งาม ก็ทำให้รู้ว่างามในที่นี่ไม่ได้หมายถึงหมากที่เจียน แต่หมายถึงคนเจียนหมากต่างหาก นี่คือการจีบตรงๆครั้งแรกของริด
เมื่อแม่แก้วแม่ปรางเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ทั้งหมดจึงไปตลาดด้วยกัน
2. ท่องตลาดจนมีเรื่อง คำพูดของแม่ปรางที่พูดว่า "ไอ้ไข่เสียตายโคม" แปลว่าอะไร และคำเกี้ยวสาวของริด ที่ทำให้พุดตานถึงกับทรุดลงนั่ง
คำพูดของแม่ปรางที่ว่า "ไอ้ไข่เสียตายโคม" เป็นคำด่าที่ร้ายแรงมากของคนยุคนั้น ใครได้ยินก็ต้องอึ้งเพราะคนพูดลูกพระยานาหมื่นที่พูดคำนี้ออกมา ที่จริงฉากนี้มีความตลกแฝงอยู่ 3 สาว ที่สู้กับนักเลงด้วยวิชาที่ถูกสอนมา แต่ปากกลับร้องตะโกนว่า
ช่วยด้วยๆ คนที่จะเข้ามาช่วยก็ชะงักพากันงง เพราะที่เห็นตรงหน้าคือทั้ง 3 คน กำลังจัดหนักนักเลงอยู่ พ่อมิ่งบังเอิญมาเจอ 3 สาวถึงได้หยุด
ริดกลับมาจากทำธุระซึ่งบังเอิญเจอกับพ่ออินพอดี ริดเห็นสภาพนักเลงก็รู้ว่าฝีมือใคร พ่ออินและพ่อมิ่งอาสาไปส่งที่เรือนเพราะพลบค่ำแล้วเกรงว่าจะโดยดักทำร้ายระหว่างทาง ขณะที่จัดแจงคนขึ้นเรือ ซึ่งพุดตานลงไปนั่งในเรือก่อนแล้ว และดูเหมือนริดจะไปนั่งกับพุดตาน พ่ออินเลยแกล้งชวนแม่ปรางไปนั่งด้วยกัน เพราะรู้ว่าริดหวงน้องสาวจึงแกล้ง ซึ่งได้ผล
ริดจะให้แม่ปรางมานั่งกับตัวเอง พ่ออินก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นให้พุดตานมานั่งกับเขา ริดไม่ยอม ลงเรือไปนั่งกับพุดตานหน้าตาเฉย ปล่อยให้แม่ปรางไปกับพ่ออิน
เมื่อนั่งเรือมาด้วยกันแม่ปรางก็ถาม
คุณพี่อินแหย่เสือใยเจ พ่ออินบอก
พี่ริดน่าแกล้ง และถามต่อว่า
พี่ริดชอบพุดตานใช่หรือไม่ แม่ปรางตอบ ไม่รู้ให้ไปถามพี่ริดเอง พ่ออินหัวเราะบอกว่า ถ้าถามเองเขาโดนพี่ริดเพ่นกระบานแน่ ทั้งคู่หัวเราะด้วยกันพ่ออินจึงได้พิจารณาแม่ปรางที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่ตอนนี้โตเป็นสาว ชมว่า กิริยางดงามไม่นานคงได้ออกเรือน แม่ปรางที่ยังเด็กไม่เข้าใจสิ่งที่พ่ออินสื่อ จึงถามพ่ออินว่า คุณพี่อินหมายถึงอะไร คู่นี้ความสัมพันธ์เริ่มขึ้นแล้ว
ส่วนพ่อริดที่นั่งเรือมากับพุดตาน ก็ถามว่ากลัวโดนนินทาไหมที่มานั่งเรือกับเขาสองต่อสองแบบนี้ พุดตานไม่สนใจเพราะเมื่อถึงเวลาเธอก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี ซึ่งคำนี้ทำให้ริดไม่พอใจ
พุดตานรู้ว่าริดเคือง จึงง้อด้วยการเรียกริดว่า คุณพี่ คำนี้คำเดียว ริดก็หายเคือง พุดตานริดถามว่า “
ไอ้ไข่เสียตายโคม” หมายถึงอะไร ริดถามกลับด้วยน้ำเสียงติดดุว่า
ได้ยินคำนี้มาจากไหน เป็นคำหยาบไม่ควรพูด พุดตานกลัวน้องรักคนใหม่โดนทำโทษจึงบอกว่า
ได้ยินคนในตลาดพูด ริดจึงอธิบายว่า เป็นไข่ที่ไม่มีวันฟักออกมาเป็นไก่ ไก่เน่าตายก่อนเกิด เมื่อพุดตานได้ยินก็คิดในใจว่า ถ้ามาด่าเธอด้วยคำนี้คงไม่รู้สึกอะไร เพราะเธอไม่เข้าใจความหมาย
ด้วยความที่พระจันทร์สวย ริดบอกว่า ใกล้ถึงพิธีจองเปรียงเตรียมตัวให้พร้อมเขาจะไปรับที่เรือน พุดตานก็พยักหน้า
พ่อมิ่งพ่ออินที่มาส่งก็อยู่ทานข้าวเย็นที่เรือนพระยาวิสูตรสาครตามคำเชิญ ทานข้าวเสร็จทั้งคู่ก็ขอตัวกลับ ก่อนกลับก็ชวนพุดตานไปด้วย แต่ริดบอกว่า เขาจะไปส่งเองมีธุระจะคุยกับพุดตาน ความหวงของริดทำให้พ่อมิ่งกับพ่ออินพอจะรู้ว่า ริดน่าจะมีใจให้พุดตาน
หลังจากสองคนกลับไป พ่อริดเล่าเหตุการณ์ทะเลาะกับนักเลงกลางตลาด จนทั้ง3คนต้องใช้วิชาต่อสู้ให้พ่อกับแม่ฟัง คุณหญิงการะเกดได้ยินก็นึกถึงตัวเองตอนสาวๆ หันมองสามีพร้อมกับยิ้มแหย่ๆ พระยาวิสูตรสาครมองภรรยาแล้วส่ายหน้า หันมาพูดกับลูกสาวว่า ช่างซุกซนก่อเรื่องนักนะแม่ปราง
แม่ปรางกอดพร้อมอ้อนพ่อว่า เธอผดุงความยุติธรรม คุณพ่อต้องช่วยลูกนะคะ จนพระยาวิสูตรสาครบอกว่า ถ้าสร้างเรื่องใหญ่กว่านี้เห็นทีพ่อจะช่วยไม่ได้ แม่ปรางบอกว่า ต่อให้เรื่องใหญ่กว่านี้ ครอบครัวต้องช่วยเธอแน่ๆเพราะแค่ไก่ตายพี่ชายยังกลัวว่าเธอเสียใจ ถ้ามีเรื่องจริงๆคนในครอบครัวไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตรายแน่ๆ ทุกคนมองแม่ปรางอย่างเอ็นดู แต่พุดตานกลับสะท้านในอกเพราะความอบอุ่นแบบนี้ เธอที่ไม่เคยได้สัมผัสเลยในชีวิตนี้
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ริดจะส่งคนไปเฝ้าเรือนพุดตาน คุณหญิงการะเกดชวนมาอยู่ด้วยกัน แต่พุดตานปฏิเสธ เป็นห่วงเเปลงผัก อีกทั้งเธอไม่ได้เป็นญาติจริงๆของคุณหญิงฯคงดูไม่ดีนักและไม่นานเธอก็ต้องกลับบ้าน ริดพูดเสียงเข้มว่า
คิดแต่จะกลับ จนคุณหญิงการะเกดเปลี่ยนเรื่องและให้ไปส่งพุดตานเพราะดึกแล้ว
เมื่อมาส่งพุดตานถึงเรือน ริดก็ให้อึ่งไปเตรียมที่พักให้พุดตาน ริดเอาเอกสารรับรองการเป็นไพร่ในสังกัดของพ่อตนเองให้พุดตาน เขาว่านล้อมอยู่ครู่หนึ่งจนพุดตานยอมประทับตรา เมื่อเรียบร้อยก่อนกลับริดพูดกับพุดตานว่า
อาบน้ำอาบท่าพักผ่อนนอนหลับ ค่ำมากแล้ว ถนอมตัวด้วย น้ำเสียงทุ้มนุ่มกับสายตาลึกซึ้งสะท้อนแสงวิบวับที่ส่งมาให้ แล้วริดก็เดินกลับออกไปขึ้นเรือ พุดตานถึงกับทรุดลงนั่งพร้อมกับพึมพำเบาๆว่า
ให้ตายเถอะ หนุ่มโบราณ แววตาช่างกร้าวใจเสียจริง
3. พิธีจองเปรียงและทำขนมจีบสาว
บทนี้ถ้าทำให้ละเอียดตามหนังสือ ละครจะสมบูรณ์แบบมากๆ
ริดและน้องๆพ่ายเรือไปรับพุดตานที่เรือนเพื่อไปเที่ยวด้วยกัน มาถึงก็พาเดินดูตลาดในยามค่ำคืน ลอยโคมประทีป รับเสด็จ เสร็จแล้วพาไปซื้อขนม โดยมีริดค่อยให้ความรู้เรื่องพิธีจองเปรียงและที่มาของพลุ ริดยืนชิดกับพุดตาน(แทบสิงพุดตาน) บอกว่าตลาดคนเยอะ จะเซไปโดนเขา มองพุดตานด้วยสายตาระยิบระยับ พุดตานหันมาเจอถึงกลับสะเทิ้นอาย
พุดตานพูดถึงขนม ริดก็พาพุดตานไปซื้อขนม อึ่งบอกแม่นายชอบทานขนม ริดจึงบอกว่า ถ้าพุดตานชอบขนมเขาจะทำให้ขนมให้ทาน ระหว่างที่พ่ายเรือกลับ พุดตานก็ถามว่าทำขนมอะไร ริดไม่บอกให้รู้เองวันพรุ่งนี้ จนพุดตานบอกว่า ถ้าไม่อร่อยคายทิ้งได้ไหม แต่ริดตอบทันทีว่า กลัวว่าจะอร่อยจนกลืนลิ้นตัวเอง พุดตานบอกว่า จริงเหรอ ซึ่งท่าทีของเธอทำให้ริดคันไม้คันมืออยากจะดึงมากอดให้ร้องไม่ออก ถ้าไม่ติดประเพณี เป็นที่มาว่า ทำไมริดถึงไปทำขนมสี่ถ้วยให้พุดตานทาน
4. เรื่องสร้อย
พุดตานรักสร้อยเส้นนี้มาก เพราะนี่เป็นตัวแทนของพ่อแม่ พุดตานรู้ว่า 2 คนนี้รักเธอแน่ๆ.ทำให้อบอุ่นใจที่มีสร้อยติดตัว ก่อนเอาสร้อยไปจำนำกับยายกุย พุดตานมีท่าทีกังวลเหมือนคนขาดที่พึ่งทางใจแต่ก็ต้องยอมเพราะจำเป็นต้องนำเงินมาใช้จ่ายและลงทุน
เมื่อตั้งใจมาไถ่สร้อยคืน แต่สร้อยหายจึงทำให้พุดตานโกรธมาก องค์การะเกดก็เลยลง เพราะสร้อยคือสิ่งเดียวที่ทำให้พุดตานไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แม้ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ แต่มีความผูกพันผ่านเรื่องเล่าที่ป้าบอกว่า พ่อแม่ตามใจจนทำให้พุดตานเป็นเด็กนิสัยแบบนี้
พุดตานจัดหนักแม่กลิ่น แต่เมื่อได้สติก็พยายามตัดใจด้วยการใช้ธรรมมะเข้าข่ม แต่ก็ข่มไม่ค่อยได้ เธอใส่สร้อยเส้นนี้ติดตัวมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบจนอายุ 20 ปี เมื่อสร้อยหายไปก็เหมือนกับความรักของพ่อแม่หายไปด้วย ซึ่งของรักที่หายไป คนนำกลับมาคืนให้ คือ หมื่นมหาฤทธิ์ นี่คือความประทับใจแรกของพุดตานที่มีต่อริด
ตอนเอาสร้อยมาคืน ริดถามว่าทำไมสร้อยเส้นนี้รูปร่างแปลกตาจังพุดตานบอกว่ายุคของเธอเรียกรูปร่างนี้ว่า หัวใจ แม้จะริดจะงงแต่กลับเข้าใจและให้คำนิยามคำว่า หัวใจ ได้อย่างลึกซึ้ง บอกว่า สร้อยเส้นนี้เป็นแหล่งรวมความรักที่พ่อแม่มีให้พุดตาน
5. พุดตานชอบทำอาหารและรักก้อนเงิน
ที่พุดตานชอบทำอาหารเพราะไม่ชอบให้ตัวเองต้องอด เหมือนจิตใต้สำนึกบอกว่า พุดตานเคยอดอยากมาก่อน เมื่อชอบกินก็เรียนรู้การทำอาหาร ฝีมือการทำอาหารของพุดตานก็ดีระดับหนึ่ง คือ เป็นแม่ครัวประจำวงเหล้า
ส่วนเรื่องเงิน ทำไมถึงรักเงิน จนกล้าทวงเงินกับขุนหลวง เพราะพุดตานอยากได้เงินไปไถ่สร้อยคืนเร็วๆ อีกทั้ง ตั้งแต่มาอยู่อึ่งกับเพิ่มดูแลเธอดีมาก เรียกว่า ทั้งสองคนดูแลเธอดีที่สุดในทุกๆด้านเท่าที่พวกเขาจะทำได้ ตั้งแต่เกิดมาพุดตานไม่เคยเจอคนที่ดีกับเธอแบบนี้ และเป็นการทำดีไม่ได้หวังผลตอบแทนด้วย
ทำให้พุดตานตั้งใจจะไถ่ตัวเพิ่มกับอึ่งก่อนกลับบ้าน (ริดเป็นคนแรกที่รู้เรื่องนี้ ทำให้มองพุดตานดีขึ้น) พุดตานได้บอกอึ่งกับเพิ่มให้รู้ แต่ทั้งคู่ไม่อยากถูกไถ่ตัวอยากให้พุดตานอยู่ด้วยมากกว่า จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นพุดตาน ทำโน่น ทำนี่ขายเยอะไปหมด เพราะเธออยากช่วยอึ่งกับเพิ่มให้หลุดพ้นจากการเป็นไพร่ของยายกุย อยากให้ทั้งสองคนอยู่อย่างอิสระ
จบแล้วค่ะ ขยายเพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของพระนางมากขึ้น
ลองซื้อฉบับเต็มได้นะ
https://s.lazada.co.th/s.lsPA8
ขยาย 5 ฉากที่คนงงในพรหมลิขิต
1. ทำไมแม่แก้วแม่ปรางถึงสนิทกับพุดตาน
ฉากนี้หลายคนสงสัยว่าไปรู้จักการตอนไหนถึงชวนพุดตานไปตลาดแบบนั้น บางคนสงสัย ทำไมรู้ว่าพุดตานเป็นพี่
หลังจากที่พ่อริดบอกเรื่องพุดตานกับพ่อแม่ วันถัดมาคุณหญิงการะเกดก็ให้ผินกับแย้มไปเรียกพุดตานมาพบที่เรือน เมื่อพุดตานมาถึงเรือนเจอกับพระยาวิสูตรสาครเธอเห็นภาพบางอย่างซ้อนกันกับพระยาวิสูตรสาคร (ฉากที่พุดตานเห็นชายผ้าเหลืองของพระเรืองฤทธิ์) จากนั้นริดพาพุดตานไปแนะนำกับคุณย่า คุณย่าเสนอให้มาอยู่ด้วยกันเพราะยังไงก็เป็นญาติกัน ริดรีบสนับสนุนแต่พุดตานปฏิเสธ แม้ริดจะไม่พอใจคำตอบ แต่เขาก็เดินตามหลังพุดตานไม่ห่าง จนย่าคิดว่าริดน่าจะชอบพุดตาน เพราะริดไม่ใช่คนจะมาเดินตามผู้หญิงแบบนี้ (ที่พุดตานตอบแม่กลิ่นว่าเขาชวนไปอยู่เรือนแต่ไม่ไป)
ซึ่งเป็นจังหวะที่แม่แก้วกับแม่ปราง ออกมาจากวังกลับบ้านมาพอดี เห็นแม่นั่งอยู่กับพุดตานก็เหล่ตามองพี่ชาย คุณหญิงการะเกดจึงแนะนำให้รู้จักกัน แต่แม่แก้วบอกว่าเคยเจอพุดตานแล้วที่ตลาด คุณหญิงการะเกดบอกแม่แก้วให้เรียกพุดตานว่าพี่ แม่แก้วแม่ปรางจึงเรียก พี่พุดตาน แต่พุดตานเกิดปีเดียวกันกับริด เป็นน้องริดแค่ไม่กี่เดือน คุณหญิงการะเกดจะให้พุดตานเรียก ริดว่า คุณพี่
ริดได้ยินแบบนั้นยิ้มนัยหน้าดีใจจะได้เป็นคุณพี่ แต่พุดตานไม่ชินก็เรียกคุณหมื่นเหมือนเดิม ริดเหย้าพุดตานว่า ไม่น่าเชื่อว่าอายุน้อยกว่าเขาไม่ถึงปี พุดตานได้ทีก็บอกว่าตัวเองหน้าเด็ก ริดเหย้าไม่หยุดบอกว่า ไม่น่าจะเด็กแค่หน้า เพราะอย่างอื่นก็ดูไม่โต พุดตานถามเคืองๆว่า พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงท่านหมื่น ริดตอบแบบยิ้มแรงๆว่า เขาหมายถึงตัว ตัวยังเล็ก เขายิ้มไม่เห็นฟันแต่แววตาพราวระยับ จนคุณหญิงการะเกดต้องห้ามทัพ เพราะลูกชายต่อล้อต่อเถียงผิดวิสัย
ซึ่งแม่และน้องสาวเห็นอาการของริดก็รู้ทันทีว่าริดชอบพุดตาน น้องสาวทั้ง 2 ขอตัวไปไหว้พ่อกับย่าและไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปตลาดและชวนพุดตานไปตลาดด้วยกัน (เป็นที่มาว่าตอน Ep.16 พุดตานเรียกริดว่าคุณพี่ ริดถึงยิ้มแบบดีใจ)
เมื่อสบโอกาสคุณหญิงการะเกดก็ถามเรื่องครอบครัวกับพุดตาน โดยมีริด ผิน แย้ม นั่งอยู่ด้วย เมื่อรู้ความเป็นไปของครอบครัว คุณหญิงการะเกดก็สุขและทุกข์ในคราวเดียวกัน พุดตานแทบไม่เชื่อว่าเป็นญาติกับคุณหญิงการะเกด ริดเถียงว่า เป็นญาติชาติที่แล้วแต่ชาตินี้ไม่ได้เป็นญาติกัน พุดตานไม่ยอมบอกว่า ต้องมีเชื้อสายกันอยู่บ้างแหละหน้าถึงเหมือนกันแบบนี้ คุณหญิงการะเกดต้องห้ามทัพบอกว่า ถ้านับญาติกันข้ามภาพคงนับกันไม่จบไม่สิ้น หยุดนับเถอะลูก คุณหญิงการะเกดเล่าเรื่องที่จับสมุดข่อยแล้วสลบไป โชคดีที่ได้สามีและปู่ของริดสวดเรียกวิญญาณกลับมาได้ ทำให้พุดตานเข้าใจว่าทำไมริดถึงเอาสมุดข่อยเล่มนั้นไปอยู่เมืองพิษณุโลก เพราะเขาเป็นห่วงแม่นั่นเอง
ริดถือโอกาสอธิบายว่าเขาก็ไม่อยากให้พุดตานพลัดที่นาคาที่อยู่แบบนี้ แต่เพราะมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมาย จึงอยากป้องกันไว้ก่อน พุดตานก็เข้าใจเหตุผลของริด (จบประเด็นสมุดข่อย อันที่จริง ริดมีอีกเหตุผลแต่บอกไม่ได้)
หลังจากนั้นคุณหญิงการะเกด ผิน แย้มก็ไปเตรียมอาหาร ปล่อยริดกับพุดตานอยู่ด้วยกันตามลำพัง นั่งเจียนหมาก รอน้องๆ ริดเจียนหมากสวย พุดตานเอ่ยปากชมและบ่นว่าตัวเองทำไม่สวยเหมือนริด ริดบอกว่า ให้ฝึกไปเถอะ เดี๋ยวก็งาม การเว้นวรรคคำว่า งาม ก็ทำให้รู้ว่างามในที่นี่ไม่ได้หมายถึงหมากที่เจียน แต่หมายถึงคนเจียนหมากต่างหาก นี่คือการจีบตรงๆครั้งแรกของริด
เมื่อแม่แก้วแม่ปรางเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ทั้งหมดจึงไปตลาดด้วยกัน
2. ท่องตลาดจนมีเรื่อง คำพูดของแม่ปรางที่พูดว่า "ไอ้ไข่เสียตายโคม" แปลว่าอะไร และคำเกี้ยวสาวของริด ที่ทำให้พุดตานถึงกับทรุดลงนั่ง
คำพูดของแม่ปรางที่ว่า "ไอ้ไข่เสียตายโคม" เป็นคำด่าที่ร้ายแรงมากของคนยุคนั้น ใครได้ยินก็ต้องอึ้งเพราะคนพูดลูกพระยานาหมื่นที่พูดคำนี้ออกมา ที่จริงฉากนี้มีความตลกแฝงอยู่ 3 สาว ที่สู้กับนักเลงด้วยวิชาที่ถูกสอนมา แต่ปากกลับร้องตะโกนว่าช่วยด้วยๆ คนที่จะเข้ามาช่วยก็ชะงักพากันงง เพราะที่เห็นตรงหน้าคือทั้ง 3 คน กำลังจัดหนักนักเลงอยู่ พ่อมิ่งบังเอิญมาเจอ 3 สาวถึงได้หยุด
ริดกลับมาจากทำธุระซึ่งบังเอิญเจอกับพ่ออินพอดี ริดเห็นสภาพนักเลงก็รู้ว่าฝีมือใคร พ่ออินและพ่อมิ่งอาสาไปส่งที่เรือนเพราะพลบค่ำแล้วเกรงว่าจะโดยดักทำร้ายระหว่างทาง ขณะที่จัดแจงคนขึ้นเรือ ซึ่งพุดตานลงไปนั่งในเรือก่อนแล้ว และดูเหมือนริดจะไปนั่งกับพุดตาน พ่ออินเลยแกล้งชวนแม่ปรางไปนั่งด้วยกัน เพราะรู้ว่าริดหวงน้องสาวจึงแกล้ง ซึ่งได้ผล
ริดจะให้แม่ปรางมานั่งกับตัวเอง พ่ออินก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นให้พุดตานมานั่งกับเขา ริดไม่ยอม ลงเรือไปนั่งกับพุดตานหน้าตาเฉย ปล่อยให้แม่ปรางไปกับพ่ออิน
เมื่อนั่งเรือมาด้วยกันแม่ปรางก็ถาม คุณพี่อินแหย่เสือใยเจ พ่ออินบอก พี่ริดน่าแกล้ง และถามต่อว่า พี่ริดชอบพุดตานใช่หรือไม่ แม่ปรางตอบ ไม่รู้ให้ไปถามพี่ริดเอง พ่ออินหัวเราะบอกว่า ถ้าถามเองเขาโดนพี่ริดเพ่นกระบานแน่ ทั้งคู่หัวเราะด้วยกันพ่ออินจึงได้พิจารณาแม่ปรางที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่ตอนนี้โตเป็นสาว ชมว่า กิริยางดงามไม่นานคงได้ออกเรือน แม่ปรางที่ยังเด็กไม่เข้าใจสิ่งที่พ่ออินสื่อ จึงถามพ่ออินว่า คุณพี่อินหมายถึงอะไร คู่นี้ความสัมพันธ์เริ่มขึ้นแล้ว
ส่วนพ่อริดที่นั่งเรือมากับพุดตาน ก็ถามว่ากลัวโดนนินทาไหมที่มานั่งเรือกับเขาสองต่อสองแบบนี้ พุดตานไม่สนใจเพราะเมื่อถึงเวลาเธอก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี ซึ่งคำนี้ทำให้ริดไม่พอใจ
พุดตานรู้ว่าริดเคือง จึงง้อด้วยการเรียกริดว่า คุณพี่ คำนี้คำเดียว ริดก็หายเคือง พุดตานริดถามว่า “ไอ้ไข่เสียตายโคม” หมายถึงอะไร ริดถามกลับด้วยน้ำเสียงติดดุว่า ได้ยินคำนี้มาจากไหน เป็นคำหยาบไม่ควรพูด พุดตานกลัวน้องรักคนใหม่โดนทำโทษจึงบอกว่า ได้ยินคนในตลาดพูด ริดจึงอธิบายว่า เป็นไข่ที่ไม่มีวันฟักออกมาเป็นไก่ ไก่เน่าตายก่อนเกิด เมื่อพุดตานได้ยินก็คิดในใจว่า ถ้ามาด่าเธอด้วยคำนี้คงไม่รู้สึกอะไร เพราะเธอไม่เข้าใจความหมาย
ด้วยความที่พระจันทร์สวย ริดบอกว่า ใกล้ถึงพิธีจองเปรียงเตรียมตัวให้พร้อมเขาจะไปรับที่เรือน พุดตานก็พยักหน้า
พ่อมิ่งพ่ออินที่มาส่งก็อยู่ทานข้าวเย็นที่เรือนพระยาวิสูตรสาครตามคำเชิญ ทานข้าวเสร็จทั้งคู่ก็ขอตัวกลับ ก่อนกลับก็ชวนพุดตานไปด้วย แต่ริดบอกว่า เขาจะไปส่งเองมีธุระจะคุยกับพุดตาน ความหวงของริดทำให้พ่อมิ่งกับพ่ออินพอจะรู้ว่า ริดน่าจะมีใจให้พุดตาน
หลังจากสองคนกลับไป พ่อริดเล่าเหตุการณ์ทะเลาะกับนักเลงกลางตลาด จนทั้ง3คนต้องใช้วิชาต่อสู้ให้พ่อกับแม่ฟัง คุณหญิงการะเกดได้ยินก็นึกถึงตัวเองตอนสาวๆ หันมองสามีพร้อมกับยิ้มแหย่ๆ พระยาวิสูตรสาครมองภรรยาแล้วส่ายหน้า หันมาพูดกับลูกสาวว่า ช่างซุกซนก่อเรื่องนักนะแม่ปราง
แม่ปรางกอดพร้อมอ้อนพ่อว่า เธอผดุงความยุติธรรม คุณพ่อต้องช่วยลูกนะคะ จนพระยาวิสูตรสาครบอกว่า ถ้าสร้างเรื่องใหญ่กว่านี้เห็นทีพ่อจะช่วยไม่ได้ แม่ปรางบอกว่า ต่อให้เรื่องใหญ่กว่านี้ ครอบครัวต้องช่วยเธอแน่ๆเพราะแค่ไก่ตายพี่ชายยังกลัวว่าเธอเสียใจ ถ้ามีเรื่องจริงๆคนในครอบครัวไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตรายแน่ๆ ทุกคนมองแม่ปรางอย่างเอ็นดู แต่พุดตานกลับสะท้านในอกเพราะความอบอุ่นแบบนี้ เธอที่ไม่เคยได้สัมผัสเลยในชีวิตนี้
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ริดจะส่งคนไปเฝ้าเรือนพุดตาน คุณหญิงการะเกดชวนมาอยู่ด้วยกัน แต่พุดตานปฏิเสธ เป็นห่วงเเปลงผัก อีกทั้งเธอไม่ได้เป็นญาติจริงๆของคุณหญิงฯคงดูไม่ดีนักและไม่นานเธอก็ต้องกลับบ้าน ริดพูดเสียงเข้มว่า คิดแต่จะกลับ จนคุณหญิงการะเกดเปลี่ยนเรื่องและให้ไปส่งพุดตานเพราะดึกแล้ว
เมื่อมาส่งพุดตานถึงเรือน ริดก็ให้อึ่งไปเตรียมที่พักให้พุดตาน ริดเอาเอกสารรับรองการเป็นไพร่ในสังกัดของพ่อตนเองให้พุดตาน เขาว่านล้อมอยู่ครู่หนึ่งจนพุดตานยอมประทับตรา เมื่อเรียบร้อยก่อนกลับริดพูดกับพุดตานว่า อาบน้ำอาบท่าพักผ่อนนอนหลับ ค่ำมากแล้ว ถนอมตัวด้วย น้ำเสียงทุ้มนุ่มกับสายตาลึกซึ้งสะท้อนแสงวิบวับที่ส่งมาให้ แล้วริดก็เดินกลับออกไปขึ้นเรือ พุดตานถึงกับทรุดลงนั่งพร้อมกับพึมพำเบาๆว่า ให้ตายเถอะ หนุ่มโบราณ แววตาช่างกร้าวใจเสียจริง
3. พิธีจองเปรียงและทำขนมจีบสาว
บทนี้ถ้าทำให้ละเอียดตามหนังสือ ละครจะสมบูรณ์แบบมากๆ
ริดและน้องๆพ่ายเรือไปรับพุดตานที่เรือนเพื่อไปเที่ยวด้วยกัน มาถึงก็พาเดินดูตลาดในยามค่ำคืน ลอยโคมประทีป รับเสด็จ เสร็จแล้วพาไปซื้อขนม โดยมีริดค่อยให้ความรู้เรื่องพิธีจองเปรียงและที่มาของพลุ ริดยืนชิดกับพุดตาน(แทบสิงพุดตาน) บอกว่าตลาดคนเยอะ จะเซไปโดนเขา มองพุดตานด้วยสายตาระยิบระยับ พุดตานหันมาเจอถึงกลับสะเทิ้นอาย
พุดตานพูดถึงขนม ริดก็พาพุดตานไปซื้อขนม อึ่งบอกแม่นายชอบทานขนม ริดจึงบอกว่า ถ้าพุดตานชอบขนมเขาจะทำให้ขนมให้ทาน ระหว่างที่พ่ายเรือกลับ พุดตานก็ถามว่าทำขนมอะไร ริดไม่บอกให้รู้เองวันพรุ่งนี้ จนพุดตานบอกว่า ถ้าไม่อร่อยคายทิ้งได้ไหม แต่ริดตอบทันทีว่า กลัวว่าจะอร่อยจนกลืนลิ้นตัวเอง พุดตานบอกว่า จริงเหรอ ซึ่งท่าทีของเธอทำให้ริดคันไม้คันมืออยากจะดึงมากอดให้ร้องไม่ออก ถ้าไม่ติดประเพณี เป็นที่มาว่า ทำไมริดถึงไปทำขนมสี่ถ้วยให้พุดตานทาน
4. เรื่องสร้อย
พุดตานรักสร้อยเส้นนี้มาก เพราะนี่เป็นตัวแทนของพ่อแม่ พุดตานรู้ว่า 2 คนนี้รักเธอแน่ๆ.ทำให้อบอุ่นใจที่มีสร้อยติดตัว ก่อนเอาสร้อยไปจำนำกับยายกุย พุดตานมีท่าทีกังวลเหมือนคนขาดที่พึ่งทางใจแต่ก็ต้องยอมเพราะจำเป็นต้องนำเงินมาใช้จ่ายและลงทุน
เมื่อตั้งใจมาไถ่สร้อยคืน แต่สร้อยหายจึงทำให้พุดตานโกรธมาก องค์การะเกดก็เลยลง เพราะสร้อยคือสิ่งเดียวที่ทำให้พุดตานไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แม้ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ แต่มีความผูกพันผ่านเรื่องเล่าที่ป้าบอกว่า พ่อแม่ตามใจจนทำให้พุดตานเป็นเด็กนิสัยแบบนี้
พุดตานจัดหนักแม่กลิ่น แต่เมื่อได้สติก็พยายามตัดใจด้วยการใช้ธรรมมะเข้าข่ม แต่ก็ข่มไม่ค่อยได้ เธอใส่สร้อยเส้นนี้ติดตัวมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบจนอายุ 20 ปี เมื่อสร้อยหายไปก็เหมือนกับความรักของพ่อแม่หายไปด้วย ซึ่งของรักที่หายไป คนนำกลับมาคืนให้ คือ หมื่นมหาฤทธิ์ นี่คือความประทับใจแรกของพุดตานที่มีต่อริด
ตอนเอาสร้อยมาคืน ริดถามว่าทำไมสร้อยเส้นนี้รูปร่างแปลกตาจังพุดตานบอกว่ายุคของเธอเรียกรูปร่างนี้ว่า หัวใจ แม้จะริดจะงงแต่กลับเข้าใจและให้คำนิยามคำว่า หัวใจ ได้อย่างลึกซึ้ง บอกว่า สร้อยเส้นนี้เป็นแหล่งรวมความรักที่พ่อแม่มีให้พุดตาน
5. พุดตานชอบทำอาหารและรักก้อนเงิน
ที่พุดตานชอบทำอาหารเพราะไม่ชอบให้ตัวเองต้องอด เหมือนจิตใต้สำนึกบอกว่า พุดตานเคยอดอยากมาก่อน เมื่อชอบกินก็เรียนรู้การทำอาหาร ฝีมือการทำอาหารของพุดตานก็ดีระดับหนึ่ง คือ เป็นแม่ครัวประจำวงเหล้า
ส่วนเรื่องเงิน ทำไมถึงรักเงิน จนกล้าทวงเงินกับขุนหลวง เพราะพุดตานอยากได้เงินไปไถ่สร้อยคืนเร็วๆ อีกทั้ง ตั้งแต่มาอยู่อึ่งกับเพิ่มดูแลเธอดีมาก เรียกว่า ทั้งสองคนดูแลเธอดีที่สุดในทุกๆด้านเท่าที่พวกเขาจะทำได้ ตั้งแต่เกิดมาพุดตานไม่เคยเจอคนที่ดีกับเธอแบบนี้ และเป็นการทำดีไม่ได้หวังผลตอบแทนด้วย
ทำให้พุดตานตั้งใจจะไถ่ตัวเพิ่มกับอึ่งก่อนกลับบ้าน (ริดเป็นคนแรกที่รู้เรื่องนี้ ทำให้มองพุดตานดีขึ้น) พุดตานได้บอกอึ่งกับเพิ่มให้รู้ แต่ทั้งคู่ไม่อยากถูกไถ่ตัวอยากให้พุดตานอยู่ด้วยมากกว่า จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นพุดตาน ทำโน่น ทำนี่ขายเยอะไปหมด เพราะเธออยากช่วยอึ่งกับเพิ่มให้หลุดพ้นจากการเป็นไพร่ของยายกุย อยากให้ทั้งสองคนอยู่อย่างอิสระ
จบแล้วค่ะ ขยายเพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของพระนางมากขึ้น
ลองซื้อฉบับเต็มได้นะ
https://s.lazada.co.th/s.lsPA8