เห็นคนในพันทิปพูดเรื่อง SET Index ว่าจะไป 1200 1100 1000 และ ดูเหมือนหลายๆคน จะรอซื้อกันเยอะอยู่ แต่คิดว่าแบบนี้ตลาดไม่ลงไปในเร็วๆวันนี้หรอก อีก 2-3 ปีน่าจะได้เห็น 1200 และ ลงต่อไปในระดับ 1000 แต่ไม่คิดว่าจะต่ำกว่านี้แล้ว ประเทศไทยไม่น่าจะแย่ขนาดนั้น ส่วน 1500 คงได้เห็นแต่อีกนานหลายปี
คนไทยอยากให้ต่างชาติมาซื้อสินค้าของตัวเอง แต่ตัวเองยังไม่ค่อยอยากซื้อกันเลย ตลาดหุ้นให้อิสระเราทำเงินได้ ขึ้นอยู่กับความสามรถของเรา อยากหาเงินที่ตลาดไหนก็มุ่งมั่นทำให้สำเร็จได้ด้วยตัวเอง ใช้เทคโนโลยีและการเข้าถึงภาษาอังกฤษให้เป็นประโยชน์ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
ส่วน USD-THB น่าจะไต่ระดับขึ้นไปถึงระดับ 37-38 บาทอีกครั้งแต่คงกลับลงมาวนที่ 36 บาท หลายปีก่อนที่เงิน USD ถูกกดไว้ที่ 29-31 บาทอย่างยาวนาน เพราะตลาดด้อยค่าอเมริกา และ ยกย่องไทยแลนด์ แต่ตอนนี้หลายปีผ่านไป อเมริกาแสดงความสามารถให้ตลาดเห็นว่ามีศักยภาพฝ่าวิกฤตต่างๆมาได้ และ เป็นประเทศที่คอยพยุงเศรษฐกิจโลกเอาไว้อยู่ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม ส่วนไทยแลนด์ ก็ยังวนเวียนอยู่ในวังวนเดิมๆ
พูดถึงแค่ USD เพราะเจ้าของกระทู้หาเงินจากตลาดอเมริกา เพราะตั้งแต่แรกก็มองว่าจะหาเงินเยอะๆ ต้องหาจากตลาดใหญ่ สภาพคล่องสูง ตลาดยุโรปยังสู้ไม่ได้ในปัจจุบัน จริงๆแล้วดูจากสภาพของอังกฤษ ค่าเงิน GBP น่าจะลงมาเท่ากับ USD ได้แล้วด้วยซ้ำ
การที่คนเรา "เลือก" จะถือสินทรัพย์อะไรก็ตาม เพราะเรามองที่การเติบโตของมันในอนาคต หุ้นบางตัว PE สูงลิบลิ่วก็ยังมีคนพากันเข้าซื้อ อนาคตจะ "deliver" ได้ไหมก็อีกเรื่อง เพราะคนถือก็พร้อมขายทิ้งมันได้ทุกเมื่อ ถ้าไม่มั่นใจขึ้นมากลางคัน หรือ มีตัวอื่นน่าสนใจกว่า
เครดิต - ที่ปรึกษาส่วนตัว
การคาดเดาตลาด
คนไทยอยากให้ต่างชาติมาซื้อสินค้าของตัวเอง แต่ตัวเองยังไม่ค่อยอยากซื้อกันเลย ตลาดหุ้นให้อิสระเราทำเงินได้ ขึ้นอยู่กับความสามรถของเรา อยากหาเงินที่ตลาดไหนก็มุ่งมั่นทำให้สำเร็จได้ด้วยตัวเอง ใช้เทคโนโลยีและการเข้าถึงภาษาอังกฤษให้เป็นประโยชน์ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
ส่วน USD-THB น่าจะไต่ระดับขึ้นไปถึงระดับ 37-38 บาทอีกครั้งแต่คงกลับลงมาวนที่ 36 บาท หลายปีก่อนที่เงิน USD ถูกกดไว้ที่ 29-31 บาทอย่างยาวนาน เพราะตลาดด้อยค่าอเมริกา และ ยกย่องไทยแลนด์ แต่ตอนนี้หลายปีผ่านไป อเมริกาแสดงความสามารถให้ตลาดเห็นว่ามีศักยภาพฝ่าวิกฤตต่างๆมาได้ และ เป็นประเทศที่คอยพยุงเศรษฐกิจโลกเอาไว้อยู่ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม ส่วนไทยแลนด์ ก็ยังวนเวียนอยู่ในวังวนเดิมๆ
พูดถึงแค่ USD เพราะเจ้าของกระทู้หาเงินจากตลาดอเมริกา เพราะตั้งแต่แรกก็มองว่าจะหาเงินเยอะๆ ต้องหาจากตลาดใหญ่ สภาพคล่องสูง ตลาดยุโรปยังสู้ไม่ได้ในปัจจุบัน จริงๆแล้วดูจากสภาพของอังกฤษ ค่าเงิน GBP น่าจะลงมาเท่ากับ USD ได้แล้วด้วยซ้ำ
การที่คนเรา "เลือก" จะถือสินทรัพย์อะไรก็ตาม เพราะเรามองที่การเติบโตของมันในอนาคต หุ้นบางตัว PE สูงลิบลิ่วก็ยังมีคนพากันเข้าซื้อ อนาคตจะ "deliver" ได้ไหมก็อีกเรื่อง เพราะคนถือก็พร้อมขายทิ้งมันได้ทุกเมื่อ ถ้าไม่มั่นใจขึ้นมากลางคัน หรือ มีตัวอื่นน่าสนใจกว่า
เครดิต - ที่ปรึกษาส่วนตัว