อ่านเจอในหนังสือ จิตวิทยา
ช่วงที่ CIA กำลังรวบรวมข้อมูลกลุ่ม ตาลีบัน ด้วยความยากลำบาก จากเหตุปัจจัยหลักๆ 2 อย่างคือ
1. ชุมชนที่ให้ข้อมูลก็จะเกิดความหวาดกลัว ว่าจะโดนล้างแค้นจากกลุ่ม ตาลีบัน
2. ความไม่ชอบที่ CIA เข้ามาวุ่นวายในพิ้นที่ ของตนเอง ก็เป็นอะไรที่เก็บไว้ในใจมาตลอด
จนเจ้าหน้าที่ CIA รายหนึ่ง ระหว่างที่ลงพื้นที่หาข้อมูล ได้คุยกับผู้นำชุมชน และสังเกตุเห็นว่า ผู้นำชุมชมและภรรยาทั้ง 4 ของเขาดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่
จากนั้น พอเจ้าหน้าที่ CIA รายนี้ กลับไปที่ลงพื้นที่ชุมชนอีกครั้ง ได้ยื่นของขวัญเล็กๆ ให้กับผู้นำชุมชน คือ ยาไวอากร้า 4 เม็ด เพื่อใช้กับภรรยาของเขาทั้ง 4 คน หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ CIA ก็เริ่มได้ข้อมูลกลุ่ม ตาลีบัน มากขึ้น
(เรื่องจากในหนังสือ ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร)
เรื่องนี้ เขายกตัวอย่าง ของการโน้มน้าวจูงใจใครสักคน ด้วยหลักการ "เป็นหนี้บุณคุณ" เมื่อเราสร้างให้อะไรบางอย่างกับใคร คนๆ นั้นก็มักจะมีความรู้สึกต้องตอบแทนอะไรบางอย่างให้กับอีกคน
โอเค พอย้อนกลับมาดูตัวเราเอง ที่เราเคยเจอคือ สมัยก่อนมันจะมีสะพานหนึ่งข้ามคลองเป็นสะพานเดินรถทางเดียว (แถวๆ รัชดา 32) ไม่มีสัญญาณไฟอะไร จะมีกลุ่มคนในหมู่บ้านแถวๆ นั้น ออกมาช่วยกันโบกรถที่ผ่านไปมา เพื่อไม่ให้รถมาสวนกันบนสะพาน แล้วไปต่อไม่ได้ แต่ชาวบ้านจะ หยุดรถทางหนึ่ง และให้อีกทางไป สลับกันไปมา ตลอด 24 ชม. ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร แต่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ มันจะเปิดประจกและหยิบเงินให้ 5 บาท 10 บาท เหมือนการตอบแทนบางอย่าง ทั้งๆ ที่ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด แต่หลายๆ คนก็เต็มใจที่จะให้โดยไม่ต้องขอเลย
แล้วในชีวิต เพื่อนๆ ละครับ เคยเจอสถานการณ์ที่รู้สึกเป็น "เป็นหนี้บุญคุณ" อย่างไรบ้างครับ
ไวอากร้า ทำให้ CIA ได้รับข้อมูลกลุ่ม ตาลีบัน !!
ช่วงที่ CIA กำลังรวบรวมข้อมูลกลุ่ม ตาลีบัน ด้วยความยากลำบาก จากเหตุปัจจัยหลักๆ 2 อย่างคือ
1. ชุมชนที่ให้ข้อมูลก็จะเกิดความหวาดกลัว ว่าจะโดนล้างแค้นจากกลุ่ม ตาลีบัน
2. ความไม่ชอบที่ CIA เข้ามาวุ่นวายในพิ้นที่ ของตนเอง ก็เป็นอะไรที่เก็บไว้ในใจมาตลอด
จนเจ้าหน้าที่ CIA รายหนึ่ง ระหว่างที่ลงพื้นที่หาข้อมูล ได้คุยกับผู้นำชุมชน และสังเกตุเห็นว่า ผู้นำชุมชมและภรรยาทั้ง 4 ของเขาดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่
จากนั้น พอเจ้าหน้าที่ CIA รายนี้ กลับไปที่ลงพื้นที่ชุมชนอีกครั้ง ได้ยื่นของขวัญเล็กๆ ให้กับผู้นำชุมชน คือ ยาไวอากร้า 4 เม็ด เพื่อใช้กับภรรยาของเขาทั้ง 4 คน หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ CIA ก็เริ่มได้ข้อมูลกลุ่ม ตาลีบัน มากขึ้น
(เรื่องจากในหนังสือ ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร)
เรื่องนี้ เขายกตัวอย่าง ของการโน้มน้าวจูงใจใครสักคน ด้วยหลักการ "เป็นหนี้บุณคุณ" เมื่อเราสร้างให้อะไรบางอย่างกับใคร คนๆ นั้นก็มักจะมีความรู้สึกต้องตอบแทนอะไรบางอย่างให้กับอีกคน
โอเค พอย้อนกลับมาดูตัวเราเอง ที่เราเคยเจอคือ สมัยก่อนมันจะมีสะพานหนึ่งข้ามคลองเป็นสะพานเดินรถทางเดียว (แถวๆ รัชดา 32) ไม่มีสัญญาณไฟอะไร จะมีกลุ่มคนในหมู่บ้านแถวๆ นั้น ออกมาช่วยกันโบกรถที่ผ่านไปมา เพื่อไม่ให้รถมาสวนกันบนสะพาน แล้วไปต่อไม่ได้ แต่ชาวบ้านจะ หยุดรถทางหนึ่ง และให้อีกทางไป สลับกันไปมา ตลอด 24 ชม. ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร แต่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ มันจะเปิดประจกและหยิบเงินให้ 5 บาท 10 บาท เหมือนการตอบแทนบางอย่าง ทั้งๆ ที่ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด แต่หลายๆ คนก็เต็มใจที่จะให้โดยไม่ต้องขอเลย
แล้วในชีวิต เพื่อนๆ ละครับ เคยเจอสถานการณ์ที่รู้สึกเป็น "เป็นหนี้บุญคุณ" อย่างไรบ้างครับ